
เป็น “เอกสารจริง” แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็ได้เซ็นหนังสือฉบับใหม่ส่งไปที่ศาลฎีกาอีก “ขอยกเลิก” ฉบับขอยืมตัว เป็นการขอยกเลิกก่อนที่จะมีผลในขณที่ “สราวุธ เบญจกุล” รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อตอนบ่ายวันที่ 11 ม.ค.ว่า“เมื่อปี 2550 ได้มีหนังสือขอยืมตัว น.ส.กอนณา ไปช่วยงานจริง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2550 เป็นต้นไป แต่ยังไม่ทันที่จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการตุลาการ (กต.) ว่า จะอนุญาตหรือไม่ปรากฏว่า ได้มีหนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับการยืมตัวดังกล่าว และวันที่ 8 พ.ย.2550 มีหนังสือมาอีกครั้งเพื่อขอถอนเรื่องดังกล่าวคืน
โดยที่ยังไม่ได้นำเข้าพิจารณา และไม่ได้ให้เหตุผลอะไรในการขอยืมตัวและการถอนเรื่อง ที่ผ่านมาเคยมีการยืมตัวผู้พิพากษาไปช่วยงานราชการฝ่ายบริหารโดยสมัยที่นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ อดีตประธานศาลฎีกา มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็เคยมีการขอตัวผู้พิพากษามาช่วยงาน แต่คณะกรรมการตุลาการไม่อนุญาต เพราะผู้พิพากษามีหน้าที่พิจารณาคดี และเห็นว่าหากไปช่วยงานฝ่ายบริหารเกรงว่าจะขาดอิสระในการพิจารณาคดี”เรื่องทั้งหมดหมายความว่า ไม่ใช่เอกสารเท็จดังที่ “สดศรี สัตยธรรม” สงสัย และฮึ่มๆจะเล่นงานผู้มีนามปากกาว่า “ประดาบ”
เช้าตรู่ 11 ม.ค.51 “สดศรี สัตยธรรม” ให้สัมภาษณ์อีกรอบในรายการ “สยามเช้านี้” ทางช่อง 3 ความโดยสรุปว่า“พี่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะไม่ได้มีการทาบทามอะไร ลูกสาวก็ยังทำงานอยู่ที่ศาลจังหวัดพระโขนงกทม. และศาลคงไม่มีทางที่จะให้ไปช่วยงาน เพราะระบบงานของศาลจะไม่ให้ยุ่งกับงานการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่จะเขียนบทความต้องขออนุญาต จึงคิดว่าสิ่งนี้ เป็นการดิสเครดิตพี่ในฐานะ กกต. ไม่มีเหตุผลอะไรที่ลูกสาวซึ่งเป็นผู้พิพากษาจะไปทำงานเป็นเสมียนหน้าห้องของใคร โดยเฉพาะ พล.อ.สนธิอยู่ในตำแหน่งนี้อีกไม่นาน ลองถามคนดูได้ว่า จะเป็นผู้พิพากษาหรือจะเป็นเสมียนหน้าห้อง ก็ต้องมีคนเลือกว่า ต้องเป็นผู้พิพากษาพี่ได้สอบถามลูกสาวในเรื่องนี้แล้วได้รับคำตอบว่า หากมีหนังสือมาก็จะไม่ไป และไม่รู้เรื่องด้วย ทางศาลเองก็ไม่รับรู้หากทำหนังสือขอไปศาลก็จะไม่ให้ตัวแน่นอน เพราะจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือฝ่ายบริหารเลย แต่ถ้าให้ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง คงจะไม่ขัดข้อง พี่ยืนยันว่าไม่รับรู้เรื่องหนังสือขอตัว อยากถาม พล.อ.สนธิ เหมือนกันว่าขอไปทำอะไรโดยเฉพาะลูกสาวของพี่ยังไม่ได้แต่งงาน
การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลที่เป็นตำแหน่งใหญ่โต และพยายามโยงแม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ใช่เรื่องดี พี่เคยบอกกับลูกสาวแล้วว่า อย่าเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น”“ในช่วงที่ผ่านมา การทำงานของ กกต. ร่วมกับ ครส.ที่มี พล.อ.สนธิ เป็นประธาน พี่ก็ไม่เคยขอให้มาช่วยงานกกต. เนื่องจากต้องระมัดระวังไม่ให้มองภาพลักษณ์ของ กกต. ว่า ไปร่วมกันสกัดกั้นพรรคการเมืองใด”“ขอให้ผู้ดำเนินการเว็บไซต์นี้เปิดเผยตัวออกมา อย่าแอบใช้นามปากกา พี่ชอบความจริงมาพูดกัน ว่าเพราะอะไรจึงด่าพี่อยู่เรื่อยๆ การทำอย่างนี้หากเป็นผู้ชายก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย หากเป็นผู้หญิง ก็ไม่ใช่ผู้หญิงดี แอบกัดคนลับหลังเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง ผู้ดูแลเว็บไซต์นี้ คือกระทรวงไอซีที ควรพิจารณาด้วยว่า เหตุใดเว็บไซต์นี้ กระทำการเช่นนี้ได้ตลอดเวลา โดยไม่มีการถูกสั่งปิด”จากคำพูดทั้งหมด “เจ๊สด” ท่าทีเดิมขณะที่ “นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ” ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บอกนักข่าวว่าขณะนี้กระทรวงยังไม่ได้รับเรื่องการร้องเรียน
ซึ่งต้องรอการประสานจากทางตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่มีโทษทางอาญา และโทษการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550และ “ยังแสบตามปกติ” ก็คือผู้ใช้นามปากกาว่า“ประดาบ” เช้า 11 ม.ค. เขาได้เขียนบทความเรื่องนี้ลงเว็บไฮ-ทักษิณอีกครั้ง สรุปว่าขอให้ “สดศรี สัตยธรรม”ใจเย็นๆ แล้วสติจะมาปัญญาจะเกิด โดยแก้ตัวว่า ทั้งหมดที่เขียนไปไม่ได้ทำลาย สดศรีกับลูกสาว“ประดาบ” โยนทุกสิ่งทุกอย่างเข้าใส่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน โดยให้เหตุผลว่า เพราะข้อความในหนังสือระบุว่าขอยืมตัว “กอนณา สัตยธรรม” มาช่วยงานที่หน้าห้องของ พล.อ.สนธิ “ประดาบ” ระบุด้วยว่า พล.อ.สนธิ ไม่ได้สั่งให้ขอยืมตัวลูกสาวสดศรีมาช่วยงานหน้าห้อง แต่มี “เจ้าหน้าที่ทีมงานหน้าห้อง” ของพล.อ.สนธิ เป็นคนไปประสานขอให้ “ลอยเลื่อนบุนนาค” ทำหนังสือที่ว่าไปถึงประธานศาลฎีกา และทำหนังสือไปขอยกเลิกดังนี้ เรา “บางกอกทูเดย์” จึงมีความเห็นว่า เมื่อความจริงเดินหน้ามาถึงตรงนี้แล้ว คนที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดก็คือพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นพล.อ.สนธิ หายไปไหนพล.อ.สนธิ จะหนีไปไหนพล.อ.สนธิ จะหนีทำไมนักข่าวของเรา และนักข่าวของสื่อทุกสำนัก ที่ประจำอยู่ทำเนียบรัฐบาล เฝ้ารอการเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลของ พล.อ.สนธิ ด้วยใจจดจ่อตลอดวันศุกร์ที่ 11 ม.ค.51เพื่อจะถามว่าขอยืมตัวลูกสาวสดศรีมาเพื่ออะไรคิดอะไรอยู่รึแต่ พล.อ.สนธิ ไม่มา