Sunday, November 13, 2011

"ดร.วีรพงษ์ รามางกูร" ถอดชนวนการเมือง

ที่มา มติชน






คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน โดย การ์ตอง มติชน



ถือว่าตึงเครียดพอดูสำหรับสถานการณ์ของรัฐบาลท่ามกลางภาวะมหา อุทกภัย ที่ความเดือดร้อนกระจายไปทุกหย่อมหญ้า ขณะที่ความแตกแยกทางการเมืองก่อเกิดขบวนการจ้องขย้ำ

ความพยายามที่จะชี้ให้เห็นว่าความเสียหายใหญ่หลวงนี้เกิดจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล

เสียงเรียกร้องให้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ลาออกเริ่มได้ยินถี่ขึ้น

บางความเคลื่อนไหวถึงขั้นเสนอให้ประชาชนล่ารายชื่อกดดัน

ขณะที่การกู้น้ำท่วมเลยเกินกว่าที่จะแสดงฝีมือเพื่อแก้ข้อกล่าวหาแล้ว

ขณะนี้เหลือเพียงการกู้ประเทศจากอาการยับเยินจากน้ำท่วม สร้างความหวังให้เห็นว่ากลไกรัฐสามารถประคับประคองให้ฟื้นคืน ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าคืองานหนัก

จำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน

ทว่าในความแตกแยกที่ยังมุ่งโจมตีทำลาย มองไม่เห็นหนทางเลยที่จะสร้างความร่วมมือร่วมใจขึ้นมาได้ โดยลำพัง "รัฐบาลยิ่งลักษณ์"

เมื่อการเมืองกลายเป็นเงื่อนไขใหญ่ที่ทำลายปัจจัยสำคัญของการฟื้นฟู ประเทศ ย่อมชัดเจนว่าหาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ใช้เฉพาะกลไกรัฐจะหาหนทางออกจากวิกฤตไม่ได้

ซึ่งอาจจะเป็นเพราะรัฐบาลตระหนักถึงความเป็นไปเช่นนี้ดี ทางออกจึงมาลงที่การตั้ง "คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตของประเทศ" ขึ้นมา

ผู้ที่จะมาทำหน้าที่หัวขบวนคณะกรรมการชุดนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเป็นผู้มีบารมีมากพอ และที่สำคัญคือต้องเป็นผู้เข้าใจรัฐบาล ขณะที่สามารถประสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย หรืออย่างน้อยมีเครดิตพอที่ฝ่ายตรงกันข้ามจะโจมตีในเรื่องตัวบุคคลได้

"ดร.โกร่ง-วีรพงษ์ รามางกูร" เป็นตัวเลือก

ซึ่งว่าไป คนที่มีภาพที่ทุกฝ่ายต้องให้ความเกรงใจนั้น ใช่จะหาตัวได้ง่าย แม้จะมีอยู่ไม่น้อย แต่ใช่ว่าจะยอมรับการทำหน้าที่ ซึ่งต้องยอมรับว่าหนักหนานี้

เมื่อ "ดร.โกร่ง" รับ คนที่หายใจโล่งอกที่สุดคือ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"

เพราะ "ดร.โกร่ง" คือผู้ที่มีคุณสมบัติเยียวยาประเทศครบถ้วนที่สุด

ภาระเริ่มแรกของ กยอ.คือ การขยายความร่วมมือร่วมใจ ดึงทุกภาคส่วนมาช่วยกันทำให้การฟื้นฟูประเทศเป็น "วาระแห่งชาติ"ให้ได้

จากนั้นคือการจุดประกายความหวังให้เกิดขึ้นว่าจะช่วยกันทำให้ประเทศผ่านวิกฤตให้ได้

เปลี่ยนกระแสจากความหดหู่จากความสูญเสีย มาเป็นความหวังที่จะกู้วิกฤตชาติด้วยกัน

จะเป็นผลดีต่อรัฐบาลที่สุด หากคณะกรรมการชุดนี้จะเดินเครื่องเร็ว

เปิดประเด็นการฟื้นประเทศไทย สร้างอนาคตจากวิกฤตให้เป็นกระแสก่อความตื่นตัวร่วมกันของประชาชน ขึ้นมาแทนกระแสโจมตี ทำลายล้างที่บางฝ่ายพยายามจุดขึ้น

"ดร.โกร่ง" จะเป็นผู้ปลดชนวนระเบิดที่ฝ่ายตรงกันข้ามวางไว้ได้ ขึ้นอยู่กับจุดยืนที่ต้องชัดเจนว่า ไม่เลือกฝ่าย มีความชาญฉลาดในการโน้มน้าวให้คิดถึงความเป็นไปของประเทศเป็นหลัก

งานใหญ่ล่าสุดในชีวิต ดร.โกร่ง ไม่เพียงมีอนาคตของประเทศชาติเป็นเดิมพันเท่านั้น

แต่ยังเป็นท่อต่อลมหายใจให้ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ยังยืนอยู่ได้ด้วย