
"ไม่มีเหตุผลอะไรที่ลูกสาวซึ่งเป็นผู้พิพากษา จะไปทำงานเป็นเสมียนหน้าห้องของใคร โดยเฉพาะ พล.อ.สนธิ อยู่ในตำแหน่งนี้อีกไม่นาน ลองถามคนดูได้ว่า จะเป็นผู้พิพากษาหรือจะเป็นเสมียนหน้าห้อง ก็ต้องมีคนเลือกว่า ต้องเป็นผู้พิพากษา" นางสดศรีกล่าวและว่า ตนได้สอบถามบุตรสาวในเรื่องนี้แล้ว ก็ได้รับคำตอบว่าหากมีหนังสือมาก็จะไม่ไป และไม่รู้เรื่อง ทางศาลเองก็ไม่รับรู้ หากทำหนังสือขอไป ศาลก็จะไม่ให้ตัวแน่นอน เพราะจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือ ฝ่ายบริหารเลย แต่หากให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง คงจะไม่ขัดข้อง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่รับรู้เรื่องหนังสือขอตัวดังกล่าว ต้องถามพล.อ.สนธิเหมือนกันว่าขอไปทำอะไร โดยเฉพาะ บุตรสาวของตนยังไม่ได้แต่งงาน การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลที่เป็นตำแหน่งใหญ่โต และพยายามโยงแม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ใช่เรื่องดี ตนเคยบอกกับลูกสาวแล้วว่า อย่าเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น
นางสดศรี กล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา การทำงานของ กกต. ร่วมกับคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) ที่มี พล.อ.สนธิ เป็นประธาน ตนก็ไม่เคยขอให้มาช่วยงาน กกต. เนื่องจากต้องระมัดระวังไม่ให้มองภาพลักษณ์ ของ กกต. ว่า ไปร่วมกันสกัดกั้นพรรคการเมืองใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการฟ้องร้องเว็บไซต์ ไฮ-ทักษิณ หรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า ขอให้ผู้ดำเนินการเว็บไซต์นี้เปิดเผยตัวออกมา อย่าแอบ ใช้นามปากกา ตนชอบความจริงมาพูดกัน ว่าเพราะอะไรจึงด่าทอตนอยู่เรื่อยๆ การทำอย่างนี้ หากเป็นผู้ชาย ก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย หากเป็นผู้หญิง ก็ไม่ใช่ผู้หญิงดี แอบกัดคนลับหลัง เพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง ผู้ดูแลเว็บไซต์นี้ คือ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ควรพิจารณาด้วยว่า เหตุใดเว็บไซต์นี้ กระทำการเช่นนี้ได้ตลอดเวลา โดยไม่มีการถูกสั่งปิด