Wednesday, January 30, 2008

'แถลงนโยบาย' บททดสอบของแท้

ปฏิบัติหน้าที่ “ครั้งแรก” ในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เป็น “กลาง” สมกับที่ลั่นวาจาไว้ สำหรับ “ลูกบ้อจาย” จากเชียงราย นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร

ถ้าดีเราต้องชมกัน ส่วนจะรักษาความเป็น “กลาง” ไปได้นานขนาดไหน ต้องตามดู

การโหวต “นายกรัฐมนตรีคนที่ 25” ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 28 ม.ค. น่าจะเป็นสัญญาณยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า “ฝ่ายค้าน มืออาชีพพรรคเดียว” อย่างพรรคประชาธิปัตย์นั้นทำหน้าที่ได้ “สมราคา”

เราไม่ห่วงเลยว่าฝ่ายบริหารจะไปใช้อำนาจมากมายขนาดไหน เพราะเรามีฝ่าย “ตรวจสอบ” ที่เข้มแข็งคอยเป็นหูเป็นตา จะมี “ติติง” อยู่อย่างก็ตรงที่ อดฟังวิสัยทัศน์ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 เท่านั้น

เพราะ “เสียงส่วนใหญ่” ของสภาผู้แทนราษฎร ไม่สนับสนุนให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ แต่เหตุผลที่ว่า ได้แสดงวิสัยทัศน์มาในช่วงของการหาเสียงจนประชาชนเลือกเข้ามาด้วยเสียงข้างมากนั้นน่าจะพอแล้ว “ก็ใช่”

แต่หากจำได้จะพบว่า ตลอดเวลาของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ปฏิเสธมาโดยตลอดที่จะแสดงวิสัยทัศน์กับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

สังคมไทยจึงอดเห็นการ “ดีเบต” ของผู้ที่เสนอตัวเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และวันนี้ก็อดดู “มวยคนละรุ่น” อีกครั้ง

แต่หลังจากวันนี้โอกาสที่ “ประชา ชน” จะได้เห็นสาระและแนวทางการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำพร้อมพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค ต้องรอฟังจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

ยังไม่กำหนดเป็นที่ชัดเจนว่าเมื่อไร แต่แว่ว ๆ พรรคพลังประชาชนในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล “เตรียมการ” เรื่องนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว รอเพียงความชัดเจนเรื่องคณะรัฐมนตรี จากนั้นก็จะมาหารือกันเพื่อกำหนดเป็นนโยบายรัฐบาลและแถลงต่อรัฐสภา

ซึ่งในการประชุมรัฐสภา ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่ “ครั้งแรก” ในฐานะประธานรัฐสภา ของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทน ราษฎร ซึ่งต้องทำหน้าที่ประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง จะทำหน้าที่ “ได้ดี- เข้าตา” ขนาดไหน

การแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้นตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่า จะไม่มีการ “ลงมติ” แต่ให้มีการ “อภิปราย” ได้เท่านั้น

เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เชื่อเหลือเกินว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร คงสั่งให้มีการ “ถ่ายทอดสดการประชุมรัฐสภา”

สังคมจะได้ฟังเสียทีว่า “ใครตัวจริงเสียงจริง” และ “ใครเป็นนอมินีของใคร”.