
ว่ากันตามจริง เรื่องนี้ต้องผ่านขั้นตอนของสำนักงานอัยการสูงสุด และต้องผ่านขั้นตอนของ ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกินเวลาอีกยาวนาน อย่างน้อยๆ ก็ว่ากันเป็น ครึ่งปี เพราะต้องมีการ สืบพยานในชั้นศาล กันวุ่นวายพอสมควร
การ ยุบพรรค ตามที่หลายคนคิดเห็นว่ามันจะ ง่ายดาย อะไรขนาดนั้นเชียวหรือ ทั้งที่ประชาชนเพิ่งจะให้ ฉันทานุมัติ ในการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา และมีการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อจะทำงานบริหารชาติบ้านเมืองกันไปในไม่ช้านานนี้
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนเพื่อให้ พรรคการเมืองอ่อนแอ ให้ ภาคการเมืองอ่อนแอ ตามที่มีคนติฉินนินทากันอย่างมากมาย ทั้งจากนักการเมือง ทั้งจากนักวิชาการ ทั้งจากประชาชน ที่ร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ วันนี้กำลังจะเป็นจริงขึ้นมาเสียแล้ว
มีผู้รู้บอกว่า ตามหลักการการยุบพรรคการเมืองในต่างประเทศที่เป็นอารยชนนั้น เขาจะไม่ทำกันแบบพร่ำเพรื่อ ง่ายๆ เหมือนในประเทศไทย
การยุบพรรคจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ พรรคการเมืองนั้นทรยศอุดมการณ์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เช่น เปลี่ยนแปลงนโยบายพรรคหันไปสู่การเป็นเผด็จการอย่างชัดแจ้ง แบบนี้เขาถึงจะมีการเรียกร้องให้ศาลท่านมาพิจารณายุบพรรคการเมืองนั้นๆ ได้
เช่น บางพรรคการเมืองให้การสนับสนุนเผด็จการรัฐประหารอย่างออกหน้าออกตา โดยมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายพรรคอย่างชัดแจ้ง แบบนี้ก็อาจจะพิจารณาว่าเข้าข่ายในการยุบพรรค
แต่สำหรับประเทศไทย ดูเหมือนว่า อะไรนิดก็ยุบพรรค อะไรหน่อยก็ยุบพรรค
หลายฝ่ายต่างเริ่มสร้างกระแสเห็นดีเห็นงามกันจนจะทำให้การยุบพรรคกลายเป็น แฟชั่น
ที่สำคัญ แฟชั่นนี้ กำลังถูกทำให้ กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อประหัตประหารกันเองของคนในชาติไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
การเมือง มันควรจะ ยืดหยุ่น ขยับเขยื้อน ของมันไปได้ ไม่อย่างนั้น บ้านเมือง จะอยู่ในสภาพ เดดล็อก หรือ การล็อกตายทางการเมือง
การเมือง เลยกลายเป็น เรื่องที่น่าเบื่อหน่าย ของคนในชาติไปได้
หลายคนขณะนี้กำลังพูดถึงหลัก นิติศาสตร์
หลายคนขณะนี้กำลังพูดถึงหลัก รัฐศาสตร์
ในการจะพิจารณาตัดสินคดี ยุบพรรคการเมือง 2 พรรค ที่กำลังเป็น ข่าวครึกโครม อยู่ในเวลานี้
ไม่ว่าจะใช้หลักการอะไรก็แล้วแต่ในการพิจารณาคดี ยุบ 2 พรรคการเมือง ย่อมหนีไม่พ้น ความวุ่นวาย ที่กำลังจะตามมา
ทั้งที่ประเทศชาติประสบ วิกฤติเศรษฐกิจ อย่างแสนสาหัส
ทั้งที่ประเทศชาติประสบ วิกฤติการเมือง อย่างแสนสาหัส
ทั้งที่ประเทศชาติประสบ วิกฤติทางสังคม อย่างแสนสาหัส
การจะตัดสินพิจารณาอะไร ควรมองให้ถ่องแท้ถึงผลประโยชน์ชาติ และผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
บ้านเมืองจะต้องเดินหน้าต่อไป ดังนั้นควรหรือไม่ควร คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ควรจะยึดหลักการ นิติศาสตร์ หรือ รัฐศาสตร์ หรือหลักอะไรเป็นสำคัญ ก็ควรจะพิจารณาให้ถี่ถ้วนเหมาะสม
เวลาของเรามีไม่มากในการแก้ไขเยียวยาปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นทุกคน ทุกฝ่าย ควรพึงสังวรณ์ ลดอคติที่มีต่อกัน พิจารณาแก้ปัญหาโดยใช้ หลักสร้างสรรค์ บ้างจะดีไหม
ถามว่า ยุบพรรคไปแล้วบ้านเมืองจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง ในโจทย์ใหญ่ๆ 3 เรื่อง อย่างที่กล่าวไว้นี้
อย่าให้ประเทศชาติบ้านเมืองวุ่นวายไปมากกว่านี้เลย แค่นี้ประชาชนก็ปวดเศียรเวียนเกล้ากันมามากพอแล้วล่ะ
ทำอะไรให้พอเหมาะ พอสมควรแก่เหตุกันบ้างเถิด ท่านผู้ใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ คนไทยด้วยกันทั้งนั้น
บทบรรณาธิการ