
สำหรับกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีคนส่งเอกสารว่ามีคนจ้องปฎิวัติและล้มรัฐบาลนั้น นายนพดล กล่าวว่า ไม่มีเรื่องปฎิวัติ เพราะรู้แล้วว่าการเปลี่ยนการปกครองที่ไม่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญจะเกิดผลเสียหายอย่างไร และคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเกิดการปฎิวัติ โดยการพูดเรื่องปฎิวัติมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจ เพราะนักธุรกิจไม่ต้องการให้ประเทศเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย ดังนั้นจึงขอให้สื่อพยายามอย่านำเสนอข่าวดังกล่าว ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น
ขณะที่ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเปิดเวทีเสวนาของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย อีกทั้งต้องมีการติดตามสถานการณ์และวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ส่วนจะมีการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มผู้มีแนวคิดต่างกันหรือไม่นั้น ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเข้าไปดูแล และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ ต้องระวังมือที่สาม และสี่ ที่อาจเข้ามาก่อกวนรวมถึงสร้างสถานการณ์ด้วย
จาก hi-thaksin