
ทั้งนี้ ตามที่นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (พปช.) ที่ออกมาระบุ นายชาญวิทย์ จริยานุกูล เป็นผู้อยู่เบื้องหลังจัดทำเอกสารโจมตีพล.อ.เปรม ติณลสูลานนท์ ประธานองค์มนตรี วันนี้ (3 พ.ค.) นายชาญวิทย์ ได้เปิดแถลงข่าวตอบโต้ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดยหนังสือก้อนกรวดในรองพระบาท ตนทราบจากข่าวที่หนังสือพิมพ์นำมาลง ซึ่งตนก็ได้พยายามตรวจสอบก็พบว่า เพียงมีการนำมาติดไว้ที่บอร์ดทุกวันเสาร์ที่มีการชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จัดทำ ส่วนการแจกใบปลิวที่ท่าน้ำจังหวัดนนท์บุรี ยอมรับว่าเป็นผู้ดำเนินการจริง และเรื่องดังกล่าวทำให้ตนถูกจับกุม ซึ่งคดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
ส่วนซีดีเพลงที่ นายเทพไท อ้างว่า เป็นการโจมตีพล.อ.เปรมนั้น ตนยืนยันว่าไม่เคยได้ฟังมาก่อน เมื่อมาทราบว่ามีซีดีเพลงในลักษณะดังกล่าว ตนก็พยายามที่จะตรวจสอบ ซึ่งพบว่า ได้มีการแปลงเพลงหมีแพนด้า มาเป็นตุ๊ดผู้ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง กับเพลงรักไทย ซึ่งเป็นเพลงเชียร์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยสองเพลงนี้ได้เคยมีการเปิดทุกวันเสาร์ในการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง เช่นกัน
นายชาญวิทย์ กล่าวว่า สำหรับสมุดปกม่วงเป็นคำแถลงการณ์ของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการที่เรียกร้องให้พล.อ.เปรมลาออกจากตำแหน่งองค์มนตรี และประธานองค์มนตรี ซึ่งยอมรับว่าได้นำสมุดปกม่วงดังกล่าวไปเผยแพร่จำนวนหนึ่ง ด้วยเหตุผลต้องการให้ประชา ชนแสดงเจตจำนงเกี่ยวกับการทำรัฐประหาร และฉีกรัฐธรรมนูญล้มล้างระบอบประชาธิปไตย
“ใบปลิวที่จังหวัดนนท์ฯ ผมเป็นคนทำ และนำไปแจก ส่วนสมุกปกม่วงผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ผมได้นำสมุดดังกล่าวไปแจกตามสถานที่ต่างๆ ตามแต่ละโอกาส รวมทั้งผมกับกลุ่มแนวน่วประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.)ได้นำสมุดปกม่วงดังกล่าวนี้ ไปยื่นให้คมช.ด้วย” นายชาญวิทย์กล่าว และว่า
เอกสารทั้งหลายที่ตนเห็นและปรากฏในที่ชุมนุมต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มีทั้งหมด 5 เล่ม คือ
1.พล.อ.เปรมก้อนกรวดในรองพระบาท ซึ่งเผยแพร่ในเว็ปไซด์กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และกระทำตนเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม ในฐานะองค์มนตรี และประธานองค์มนตรี และเป็นผู้สนับสนุนการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49
2. ตีเสมอจ้าวเป็นสมุดภาพที่ตีแผ่พฤติกรรมพล.อ.เปรม ซึ่งมีเนื้อหาส่วนหนึ่งที่พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวตำหนิผ่านคอลัมน์ซอยสวนพูล ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน ประจำวันที่ 7 มี.ค. 30
3. เปรมไม่ใช่ฟ้า ป๋าก็แค่คน ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. พาชาติลงคลอง ซึ่งเป็นข้อเขียนของนายอาคม ซิดนีย์ หลานของพล.อ.สันต์ จิตประติมา อดีตผู้นำรัฐประหารในอดีตที่ผ่านมา
4.สมุดปกม่วง
5. เปิดหน้ากากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ความจริงวิกฤติการเมือง เขียนโดยนายวิจัย ใจภักดี ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับระบอบอำมาตยาประชาธิปไตย ครอบง่ำประชาธิปไตย โดยพล.อ.เปรม เป็นตัวแทนของระบอบอำมาตยธิปไตยที่ต้นเหตุแห่งวิกฤติการเมืองในปัจจุบัน
นายชาญวิทย์ กล่าวต่อว่า เมื่อได้อ่านเนื้อหาเอกสารทั้งหมดนี้แล้ว ตนเห็นว่าการที่ประเทศเดือดร้อนเช่นนี้ เกิดจากการทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง และการไม่อยู่ในธรรมของผู้ครองอำนาจทั้งหลาย ตนจึงได้นำเอกสารต่างๆ เหล่านี้ออกเผยแพร่ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่าอะไรคือของแท้ และทำลวง ซึ่งตนยอมรับว่า เอกสารที่เผยแพร่ดังกล่าวมีจำนวนไม่มากนัก
แต่สิ่งที่ตนเจ็บปวด คือการกระทำของนายชวน หลีกภัย และนายเทพไท ที่ออกมาปกป้องพล.อ.เปรม และมาโยงใยว่า ตนมีความเกี่ยวข้องกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต กก.บห.พรรคไทยรักไทย ซึ่งจริงๆ แล้วตนก็รู้จัก แต่ไม่เคยร่วมงานทางการเมืองกัน เพราะตนจะทำงานคนเดียวเป็นส่วนมาก ซึ่งนายจารตุรนต์ไม่เคยเข้ามาขอร้องให้ช่วยเหลืออะไร เรื่องที่ทำทั้งหมดไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นการทำการเมืองเพื่อภารกิจของประเทศปกป้องประชาธิปไตย และไม่มีใครลั่งการอยู่เบื้องหลัง
นายชาญวิทย์ กล่าวด้วยว่า อยากถามนายเทพไท มีวัตถุประสงค์เช่นนี้ ถึงกล่าวหาเช่นนี้ ซึ่งเป็นวิธีการเดิมๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ต้องการทำลายระบอบประชาธิปไตย แต่นำเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นข้ออ้าง ดังนั้น การเอาตนเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ เพื่อยั้บยั้งการแก้รัฐธรรมนูญ ที่เป็นพฤติกรรมที่ต่ำทรามที่สุด ที่พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้กระทำล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ส่วนจะมีการดำเนินการฟ้องนายเทพไทหรือไม่ ยังไม่ขอตอบวันนี้
อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านี้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะ แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับกล่าวหาว่าเป็นการโจมตี อยากถามการวิจารณ์โดยเอกสารต่อบุคคลสาธารณะสามารถทำได้หรือไม่ในระบอบประชาธิปไตย การกระทำเช่นนี้เรียกว่า เป็นการโจมตีและหมิ่นสถาบันหรือ ขอให้ประชาชนพิจารณาหลักการประชาธิปไตยให้กระจ่าง
มีรายงานระบุด้วยว่า ระหว่างที่นายชาญวิทย์แถลงข่าวที่อนุสรณ์สถานนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเข้ามาสังเกตการณ์ด้วย ขณะที่มีกลุ่มประชาชนเข้าร่วมฟังประมาณกว่า 50 ค นอกจากนี้นายชาญวิทย์ ยังพิมพ์ประวัติส่วนตัวประกอบเอกสารแถลงข่าว โดยระบุภูมิลำเนา จังหวัดพัทลุง จบการศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีเพื่อนร่วมรุ่นที่อยู่ในวงการต่างๆ ที่มีชื่อเสียง อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต กก.บห. พรรคไทยรักไทย นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
