Friday, March 13, 2009

การเมืองกับดอนเมือง

ที่มา ไทยรัฐ

“รัฐบาลคิงเพาเวอร์”

โดยฉายาที่ผู้เป็นใหญ่บนเวทีม็อบพันธมิตรฯตั้งให้ ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาบอกปัดไม่เคยรู้เรื่องที่ยักษ์ดิวตี้ฟรีจ่ายเงินเลี้ยงดู ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คนละ 100,000 บาท ตามที่โดนสาวไส้แฉ

มันต้องมีคนหนึ่งตอแหล คนหนึ่งพูดจริง

ที่แน่ๆโดยปมคิงเพาเวอร์อีกเหมือนกัน ที่โยงใยต่อจิ๊กซอว์ไปถึงประเด็นการย้ายฐานการบินภายในประเทศของการบินไทยไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พัวพันนัวเนียๆกับการเอื้อประโยชน์ให้ยักษ์ดิวตี้ฟรี นายทุนใหญ่พรรคภูมิใจไทย

ที่สุดก็กลายเป็นเกมวัดใจระหว่างประชาธิปัตย์กับ “ก๊วนเพื่อนเนวิน”

ในลีลายื้อนิ่มๆ นายกฯอภิสิทธิ์ตั้งข้อสังเกตไว้ 3 ข้อ ในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ

1. ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนต่อการบริหารสนามบิน ว่าจะใช้สนามบินเดียวหรือสองสนามบิน เพราะจะต้องมีสมมติฐานและตัวเลขที่ชัดเจน รวมทั้งต้องดูขีดความสามารถในการแข่งขันของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ความเป็นไปได้ในการเป็นศูนย์กลางการบิน (ฮับ) ซึ่งจำเป็นต้องมีสนามบินแห่งเดียวหรือไม่

2. การบินไทยอยู่ในช่วงของการฟื้นฟู ปรับโครงสร้างองค์กร รวมทั้งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนฝ่ายบริหารในเดือนเมษายน จึงควรให้ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาตัดสินใจในเรื่องนี้หรือไม่

3. แม้การตัดสินใจครั้งนี้ทำเพื่อต้องการลดต้นทุนในการดำเนินการ แต่การทำธุรกิจต้องดูแลความรู้สึกของลูกค้าด้วย โดยดูว่าจะฝืนความรู้สึกของลูกค้าที่เป็นคนไทยที่ใช้บริการเที่ยวบินในประเทศที่ท่าอากาศยานดอนเมืองหรือไม่

ดึงจังหวะ เบรกกันในที

แต่นาทีนี้เหยียบคันเร่งมิด ห้อแรดเต็มที่

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ในคาถาของก๊วนเพื่อนเนวินยืนกราน การบินไทยจะต้องย้ายไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มีนาคม ส่วนสายการบินวันทูโกแอร์ไลน์และนกแอร์จะย้ายภายในสิ้นปีนี้

ย้ำหนักแน่น เรื่องการย้ายเที่ยวบินของการบินไทยมาให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นเรื่องแน่นอนแล้ว แต่ที่ต้องทบทวนใหม่คือนโยบายสนามบินเดียว

ตั้งท่าทุบเอาให้ได้

อย่างไรก็ตาม โดยเชิงชกที่เนียนผิดกัน ในขณะที่ “ก๊วนเพื่อนเนวิน” ออกลูกโฉ่งฉ่าง ตั้งท่าทุบเอาให้ได้ มั่นใจเสียงหนุนรัฐบาลเป็นพลังต่อรอง

แต่เจอกับลูกเหนือชั้นของ “อภิสิทธิ์” ใช้ต้นทุนทางสังคม ชกแบบรัดกุม

โดยอาการกั๊ก ขัดใจ “ก๊วนเนวิน” ตรงๆไม่ได้ นายกฯก็โบ้ยให้การบินไทยตัดสินใจเอง ถ้าจะย้ายฐานการบินในประเทศไปสุวรรณภูมิเพื่อลดภาระการขาดทุนก็ไม่มีปัญหา

แต่รัฐบาลยังยื้อนโยบาย “single airport” หรือสนามบินเดียวเอาไว้

และโดยการส่งซิกให้วิศวกรมืออาชีพอย่างนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสด ไล่ต้อนนายโสภณกลางสภา

เปิดเวทีเคลียร์กันจะจะ

ประชาธิปัตย์ชิงจังหวะฉายปมสนามบินเดียว สนามบินคู่ แบะท่าหนุนการใช้งานสนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติ มากกว่าลงทุนอีกหลายหมื่นล้านในการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

และก็เป็นนายกฯอภิสิทธิ์ที่ส่งซิกเลยว่า แม้การบินไทยจะย้ายไปสุวรรณภูมิ แต่ทางสายการบินอื่นๆที่ใช้สนามบินดอนเมืองก็ยังใช้อยู่

และทราบว่ามีความเป็นไปได้ด้วยซ้ำที่จะขยายสนามบินดอนเมือง

ไม่เลิกใช้ แถมยังขยาย

นั่นหมายความว่า ถ้ารัฐบาลตัดสินใจใช้นโยบายสนามบินคู่ เปิดใช้สนามบินดอนเมืองเป็นฐานบินภายในประเทศต่อไป ก็เป็นโอกาสให้นกแอร์และวันทูโกแอร์ไลน์จะโกยกำไร

การบินไทยก็ต้องรับผิดชอบกับผลประโยชน์ที่สูญเสียไปเอง

ฟังๆดู ไม่ว่าจะโดยเหตุโดยผลเอามาเทียบเคียงกัน ต้นทุนคนพูด หรือเป้าหมายแฝงของแต่ละฝ่าย

สุดท้าย น้ำหนักก็อยู่ที่ “อภิสิทธิ์”.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน