Friday, June 5, 2009

แตะเบรกรถเมล์

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน



โล่งใจไปอย่างน้อยก็ชั่วคราว หลังครม.แตะเบรกโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน พร้อมโยนเผือกร้อนไปให้สภาพัฒน์ ทบทวนและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างการเช่าและการซื้อ

ครม.ให้เวลา 1 เดือนพิจารณาก่อนกลับมารายงานผลให้ทราบ

ไม่ต่างจากเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

แต่ก็เป็นการดีที่อย่างน้อยนำไปทบทวนอีกรอบ ยืดเวลาความวุ่นวายออกไประยะหนึ่ง

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ยังเสียงแข็งว่าการเช่านั้นเหมาะสมกว่าการซื้อ

ไม่เถียง คงไม่มีใครเถียงประเด็นนี้

เพราะที่ผ่านมาขสมก. ประสบผลขาดทุนอย่างย่อยยับ ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาการบริหารงาน และอีกส่วนคือการรั่วไหล!!

ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน อะไหล่ซ่อมแซม ฯลฯ

การเช่าอย่างน้อยก็สามารถป้องกันปัญหาตรงนี้ได้ระดับหนึ่ง

แต่ที่สังคมประสานเสียงรับไม่ได้อย่างพร้อมเพรียงกัน

คือราคาค่าเช่าที่แพงมหาศาลต่างหาก

ที่ไม่น่าเชื่อก็คือโครงการนี้แต่เดิมเข้าใจว่านักการเมืองอยากผลักดันเพื่อผลบางอย่าง กระทั่งเมื่อมติครม.ออกมา ปรากฏว่าฝ่ายขสมก.เองก็แสดงอาการเช่นกัน!?

เห็นได้จากอาการฟึดฟัดของนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ ขสมก.

นายปิยะพันธ์ แสดงท่าทางเหมือนเป็น"คอหอย-ลูกกระเดือก"กับนายโสภณ

ให้สัมภาษณ์ที่ไหน พูดไปพูดมาก็จะให้เช่ารถในราคาแพงมหาโหดเหมือนทั่นเสนาบดีนั่นเอง

แต่เมื่อถูกไล่ถามจี้หนักๆ ถึงราคาที่มากเกินไปหรือไม่ ก็อ้างว่าเป็นราคากลางที่ตั้งเอาไว้

อาจจะต่ำกว่านี้ก็ได้!?

โดยหลักการนั้นใช่ แต่ข้อเท็จจริงก็คือที่ผ่านมาไม่มีโครงการไหนของภาครัฐประมูลต่ำกว่าราคากลาง

ยิ่งมีตัวอย่างจากรถร่วมขสมก.แบบปรับอากาศ ซึ่งใช้รถสเป๊กใกล้เคียงกับที่ขสมก.ต้องการเช่า สามารถเช่าในราคาวันละ 2,500 บาทเท่านั้น โดยรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว

แถมเป็นการเช่าในปริมาณน้อยไม่ได้มากมายเหมือนที่ขสมก.ต้องการเสียด้วย

ถ้าเอกชนสามารถเช่ารถในราคาวันละ 2,500 บาท

ขสมก. ที่ต้องการเช่ารถถึง 4,000 คัน ต้องได้ในราคาต่ำกว่านี้แน่ๆ

ถึงจะอ้างว่าเป็นแค่ราคากลาง แต่ในข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้นหรือไม่ทุกฝ่ายรู้อยู่แก่ใจดี!?

ถ้าเป็นราคากลางจริงๆ อย่างที่อ้าง คงต้องถามคนที่คิดราคานี้ออกมาว่าเอกชนเช่ารถแค่ 2,500 บาท/วัน

แต่ทำไมถึงตั้งราคากลางเช่ารถสเป๊กใกล้เคียงกันถึง 4 พันกว่าบาท/วัน แบบนี้

โง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่!?