Friday, November 13, 2009

ผลงานพันธมิตร

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน




หุ้นรัฐบาลประชาธิปัตย์กระเด้งพรวดพราดขึ้นทันตาภายหลังใช้มาตรการ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" กับรัฐบาลกัมพูชาของนายกฯ ฮุนเซน

ที่ดันทะเล่อทะล่าประกาศตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษารัฐบาลและที่ปรึกษาส่วนตัว

คะแนนนิยมของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่เดิมเคยเบียดบี้ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะกับพ.ต.ท.ทักษิณ

เลยพุ่งแรงแซงห่างฝ่ายหลังไปหลายช่วงตัว

รวมถึงกรณีบทสัมภาษณ์ "ไทมส์ออนไลน์"

กว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะรู้ว่าตัวเองเดินหมากผิดพลาดจนต้องมาตายเพราะปาก

ก็สายเกินไปเสียแล้ว

รัฐบาลประชาธิปัตย์ฉวยโอกาสฟันกำไรจากความผิดพลาดของทักษิณครั้งนี้ไปเต็มๆ

อย่างไรก็ตามถึงแม้ที่ผ่านมา 10 เดือนเศษ

พรรคประชาธิปัตย์โดยนายอภิสิทธิ์ จะรื้อทำลาย "หุ้นส่วน" การเมืองไปเป็นจำนวนมาก

แต่ที่ยังเหนียวหนึบไม่ไปไหนจนถึงปัจจุบัน

คือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

โดยเฉพาะกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่

ที่เพิ่งตั้งโต๊ะแถลงข่าวจัดการชุมนุมใหญ่วันที่ 15 พ.ย.นี้

กลุ่มพันธมิตรฯ นั้นมักนำคำว่า "จงรักภักดี" มาเคลื่อนไหวเป็นประโยชน์กับตัวเองเสมอมา

และใช้คำเดียวกันนั้นในการทำลายศัตรูคือพ.ต.ท. ทักษิณ

กับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านอย่างนายกฯ ฮุนเซน

ก็เคยถูกกลุ่มพันธมิตรฯ ลากขึ้นไปกระทืบด้วยคำพูดบนเวทีจนยับเยินมาแล้วสมัยประเด็นปราสาทพระวิหารกำลังฮอตๆ

ครั้งนี้ก็เช่นกันในจังหวะที่ "ทักษิณ-ฮุนเซน" เผลอกระโดดเอาหัวโขกกันเองในสนาม

จนลูกบอลปลิ้นมาเข้าทางรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ง้างเท้ารออยู่แล้ว

ทำให้โกยคะแนนความดีความชอบไปคนเดียว

แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคการเมืองใหม่

เลยต้องออกมาจุดพลุนัดชุมนุมใหญ่เพื่อแสดงความมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของผลงาน

กระทืบซ้ำ "ทักษิณ-ฮุนเซน"

โดยแกล้งลืมเหตุการณ์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ใครยกพวกนับพันคนบุกไปทวงพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารจากประเทศกัมพูชา ที่บ้านภูมิซรอล จ.ศรีสะเกษ

กระทั่งเกิดเหตุปะทะกับชาวบ้านคนไทยด้วยกันเองถึงขั้นเลือดตกยางออก

นั่นแหละคือผลงานม็อบพันธมิตรฯ ในประเด็นเกี่ยวกับกัมพูชาที่แท้จริง