Friday, December 4, 2009

ยังไงก็วุ่น

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน




ปรับก็วุ่น ไม่ปรับก็วุ่น

สรุปว่ายังไงก็วุ่นแน่ๆ สำหรับสถานการณ์ของนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในช่วงเวลานี้

ด้วยเหตุที่ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายกลุ่มก๊วนในพรรคเริ่มรวมตัวกันกดดันเรียกร้องให้มีการปรับครม.ครั้งใหญ่

หลังจากบริหารประเทศกะโผลกกะเผลกมาจนครบ 1 ปีเต็มในเดือนธ.ค.

ถ้าไม่นับรวมพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นฝ่ายค้าน เห็นจะมีแต่ส.ส.ประชาธิปัตย์เท่านั้นที่ออกมาเรียกร้องเรื่องนี้

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นดูเหมือนจะเฉยๆ

หรือหากจะมีบางพรรคที่แสดงความเห็นบ้างแต่ก็จะออกมาในเชิงไม่เห็นด้วยมากกว่า

อย่างพรรคภูมิใจไทยที่ได้ดูแลกระทรวงใหญ่เกรดเออย่างกระทรวงคมนาคม พาณิชย์ และมหาดไทยมาตั้งแต่ต้น

คงไม่อยากให้มีอะไรมากระทบกระเทือนจนเกิดการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้

และยังอาจเลยไปถึงความไม่ต้องการให้เกิดการยุบสภาเลือกตั้งใหม่เสียด้วยซ้ำ

ถึงแม้แกนนำพรรคจะบอกว่าพร้อมลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งใหม่ทุกเมื่อ

แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จสูงสุดถึงขั้นได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเองแล้ว

โอกาสจะได้กลับมาคุมกระทรวงใหญ่ๆ พร้อมกันทีเดียวหลายกระทรวงแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้

ต่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้กลับเข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง ก็ไม่น่าจะให้ความสำคัญกับพรรคภูมิใจไทยมากเท่ากับการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่ผ่านมาอีกแล้ว

เพราะเมื่อถึงเวลานั้นเงื่อนไขอะไรต่างๆ คงเปลี่ยนไป

เช่นเดียวกับพรรคชาติไทยพัฒนาที่กำลังไปได้ดีกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

เหมือนกับพรรคเพื่อแผ่นดินที่กำลังไปได้ดีกับกระทรวงไอซีที

จะมีก็แต่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่แฮปปี้กับโชควาสนาของพรรคร่วม เพราะมองว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบทั้งที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล

จึงไม่แปลกที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาเรียกร้องให้ปรับครม. จะพุ่งเป้าไปที่กระทรวงบิ๊กๆ อย่าง คมนาคม มหาดไทย และพาณิชย์ ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย

แต่ที่ซับซ้อนกว่านั้นคือการที่โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาเปิดโปงกระบวนการปล่อยข่าวของคนไม่ใกล้ไม่ไกลในรัฐบาลแต่ต่างพรรค

เพื่อหวังจะฮุบกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไปดูแลเอง

เมื่อเป็นกันแบบนี้แล้วจะไม่ให้บอกว่าปรับก็วุ่น ไม่ปรับก็วุ่น ได้อย่างไร