Wednesday, December 16, 2009

ผู้นำควรอ่าน

ที่มา ไทยรัฐ

การปล่อยตัว ศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ดูจะเป็นข่าวใหญ่ในรอบสัปดาห์ สื่อมวลชนติดตามทำข่าวกันอย่างใกล้ชิด ภาพข่าวที่ปรากฏก็คือมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาไปร่วมแสดงความยินดีกับครอบครัวคุณศิวรักษ์ด้วย

ที่ปรากฏเป็นข่าวคุณทักษิณ สนใจเบื้องหน้าเบื้องหลังคนที่สั่งการ ให้คุณศิวรักษ์ลักลอบนำข้อมูลตารางบินออกมา และเป็นการคาดเดากันต่อไปว่า ข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปเป็นข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมหน้า และจะฉีกหน้ารัฐบาลชุดนี้มีพฤติกรรมสั่งการให้จารกรรมข้อมูลประเทศอื่น

และเมื่อคุณศิวรักษ์กลับประเทศไทย ไม่พ้นที่สื่อมวลชนต้องถามจิกถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังเรื่องนี้เช่นกัน คงจะปรากฏเป็นข่าวในสื่อไทยหลายวันและเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ โฆษกรัฐบาลหรือแม้แต่ลิ่วล้อพรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ ตอบโต้แก้เกมกันไปตามถนัด

เหมือนไก่ในเข่ง

คุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า บรรยายพิเศษหัวข้อ โรงเรียนกับการส่งเสริมประชาธิปไตยและสังคมสันติสุข ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน เป็นคู่ขัดแย้งมาตั้งแต่ปี 2549 สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับการเมือง เศรษฐกิจและสังคม

อีกทั้งยังลดความน่าเชื่อถือของสถาบันหลัก

และนำไปสู่ วิกฤตินิติรัฐ ที่ใครก็สามารถลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจของกฎหมายได้ และในความแตกแยกที่ร้าวลึก เกิดคำถามขึ้นว่า

ชาติไทยจะดำรงอยู่ได้อีกนานแค่ไหน

สาเหตุความขัดแย้งทางการเมืองบนภูเขาน้ำแข็ง เกิดจากการแบ่งปันทรัพยากรของชาติอย่างไม่เป็นธรรม และ สังคมที่เป็นธรรม มีความสันติสุข ต้องเป็นสังคมที่ยอมรับศักดิ์ศรีและความเป็นคนอย่างเท่าเทียมกัน เปิดให้เข้าถึงทรัพยากรของชาติอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

"จะเห็นว่าผู้นำวิกฤติของสี ที่ออกมาเรียกร้องจะมีความแตกต่างออกไปจากแกนนำ 14 ตุลา ที่เป็นกลุ่มนักศึกษาและประชาชนออกมาเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อเกิดการปราบปราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแน่พระทัยว่า รัฐบาลจะฟังพระองค์ท่าน

เพราะฉะนั้น การเสด็จลงมาดับร้อนผ่อนเย็น จึงทำให้วิกฤติยุติ ในวันนี้สถานการณ์ต่างกัน ภาพคือประชาชนขัดแย้งกับประชาชน คำถามก็คือถ้าทรงมีพระมหากรุณา ลงมาดับร้อนผ่อนเย็นอีก แล้วคนเหล่านั้นไม่ฟังพระราชกระแส อะไรจะเกิดขึ้น

ดังนั้น เราไม่สมควรที่จะไปดึงขอพระมหากรุณาลงมาเหมือนเมื่อก่อน เราต้องแก้กันเอง ป้องกันกันเอง ไม่ให้เกิดความขัดแย้งอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่งสุภาษิตไทยบอกว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ต้องคิดถึงไม้อ่อน คือเด็กและเยาวชน ที่จะเป็นคนสร้างสังคมและชาติในอนาคต"

หมัดเหล็ก