Tuesday, May 11, 2010

ภาวะไร้ "ผู้ใหญ่" จากกรณี เสาะกรรมการ สอบ 10 เมษายน

ที่มา ข่าวสด

กรณี "ขอคืนพื้นที่" สะพานผ่านฟ้าลีลาศ บนถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 กำลังจะกลายเป็น "เผือกร้อน" ทางการเมือง

ไม่ต้องถามว่าจะเอา "ความผิด" กับใคร

1 เป็นความผิดของผู้ออกคำสั่งให้ทหารดำเนินการ "ขอคืนพื้นที่" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเลยเวลา 18.00 น.ไปแล้ว

1 เป็นความผิดของ "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" ซึ่งปรากฏขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน

เพราะแม้ว่าส่วนแรกจะแจ่มชัดว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

กระนั้น ส่วนหลังซึ่งถูกเรียกว่า "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" จะอยู่ในความรับผิดชอบของใคร

ยิ่งกว่านั้น จะเอาใครมาประกอบส่วนขึ้นเป็น "คณะกรรมการ"



ถึงแม้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเคยแถลงมอบหมายให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) รับไปดำเนินการ

แต่ก็เริ่มมีเสียงท้วงติงทั้งจาก "ภายใน" และจาก "ภายนอก"

ภายในเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วยกันว่าไม่สมควรเพราะเท่ากับรัฐบาลผลักภาระทางการเมืองมาให้กับกสม.

ภายนอกเป็นการตั้งข้อสังเกตถึงความชอบธรรมของกรรมการกสม.บางท่าน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการ

เพราะว่า 2 คนนี้เคย "เหลืองอ๋อย" มาตั้งแต่ก่อรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

นางอมรา พงศาพิชญ์ เคยเคลื่อนไหวขับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ ก็แทบไม่แตกต่างกัน

หากรับเป็นกรรมการตรวจสอบก็ยากจะก่อให้เกิดความเชื่อถือต่อสังคมได้



ต้องยอมรับว่า นอกเหนือไปจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แล้วการเสาะหาบุคคลอื่นก็แทบไม่ต่างไปจากการเสาะหา

"หนวดเต่า เขากระต่าย"

เมื่อก่อนสังคมเคยสนิทใจกับชื่อของ น.พ.ประเวศ วะสี ชื่อของ นายเสน่ห์ จามริก ชื่อของ นายระพี สาคริก

เรียกโดยองค์รวมเชิงยกย่องว่าเป็น "ราษฎรอาวุโส"

แต่พลันที่ผ่านสถานการณ์การรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มา สังคมก็เริ่มไม่แน่ใจในตัวของ "ราษฎรอาวุโส" เสียแล้ว

หากแต่งตั้งท่านใดท่านหนึ่งก็คงได้ยินเสียงครางฮือจากสังคมอย่างไม่ต้องสงสัย

ขนาดบุคคลที่เคยได้รับยกย่องให้เป็น "ราษฎรอาวุโส" ยังถูกทอดมองด้วยความไม่แน่ใจแล้วจะเหลืออะไรให้ยกมือไหว้ได้เล่า

อันเท่ากับสะท้อนว่า สังคมไทยกำลังแล้งไร้ "ผู้ใหญ่" ที่ผู้คนให้การยอมรับเหลืออยู่



ก่อนหน้านี้เราเคยมีบุคคลอย่าง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อันถือว่าเป็น "เสาหลัก" ของสังคม

แต่น่าเสียดายที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ "ล่วง" ไปอยู่ในอีกภพชาติหนึ่งเสียแล้ว จะมีก็แต่ชื่อเสียงและเกียรติภูมิในฐานะปราชญ์และอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งเท่านั้น

ถามว่าแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเอาใครมาเป็นกรรมการสอบสวนพฤติกรรมของตน