Wednesday, May 5, 2010

ที่สุดก็ยุบสภา

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน



คนส่วนใหญ่ของประเทศ รู้สึกโล่งอกโล่งใจอย่างยิ่ง เมื่อนายกฯอภิสิทธิ์แถลงท่าที ยอมยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย.

นั่นก็หมายความว่า จะยุบสภาในอีกราว 4 เดือน เป็นรัฐบาลรักษาการอีก 2 เดือน

หลังสิ้นคำแถลงของนายกฯ เสมือนน้ำเย็นที่ราดรดดับกองเพลิงให้สงบลง

เลิกสาดน้ำมันใส่เหมือนที่ผ่านมา

ท่าทีนี้ เป็นการคลี่คลายวิกฤตม็อบนปช. ที่เริ่มชุมนุมมาตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและยืนจำนวนได้เกินหมื่น

ไม่ว่าจะมาโดยทักษิณชักใยหรือไม่ก็ตาม

แต่การที่คนนับหมื่นนับแสน มาชุมนุมให้ยุบสภา เพื่อนับหนึ่งกันใหม่ ให้ประชาชนตัดสินกันใหม่ ต้องตระหนัก!

รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยต้องรับฟัง

แม้รัฐบาลนี้จะรับฟังช้าไปหน่อย

แถมมีกองเชียร์ที่เกลียดชังทักษิณ จนไม่เห็นคนเสื้อแดงเป็นคนด้วยกัน ผลักดันจนเหตุการณ์ยืดเยื้ออย่างไม่จำเป็น สูญเสียอย่างไม่ควร!?

ทำให้การชุมนุมม็อบแดงกับรัฐบาล เพิ่มดีกรีความขัดแย้ง เกิดการปะทะอย่างรุนแรงถึง 3 ครั้ง

มีคนตายไป 27 ชีวิต บาดเจ็บอีกเกือบพัน

จนมาถึงจุดที่กลไกทหารและตำรวจ ที่มีจิตใจมนุษยธรรมเหนือกว่าบางฝ่ายเสียอีก ไม่ยอมเป็นเครื่องมือประหัตประหารเพื่อนมนุษย์

ไม่ว่าคนเหล่านี้จะคิดต่าง คิดผิด หรือคิดอย่างไร แต่ก็เป็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ที่ไม่ควรเอาอาวุธเข้าตัดสิน

เมื่อรัฐบาล ไม่ได้รับการตอบสนองจากกลไกรัฐในการสลายม็อบ

เมื่อรัฐบาลเองต้องตระหนักว่า ความผิดพลาดจากการสั่งสลายม็อบเมื่อ 10 เม.ย.นั้น น่าจะเป็นคดีความที่ย้อนกลับมาหาผู้นำรัฐบาลเอง

ที่สำคัญ ยังมีคดียุบพรรค เป็นเสมือนหลักประหารรออยู่เบื้องหน้า!

แรงกดดันทั้งหลายทั้งปวงนี้ จึงนำมาสู่การยอมเจรจาลับๆ กับแกนนำม็อบ มาตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา จนมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง

ยุบสภาเป็นทางออกที่รัฐบาลยอมเลือก

ทั้งที่เป็นทางออกในวิถีทางประชาธิปไตย ไม่ควรดื้อดึงเลย

ทั้งหมดนี้ต้องชื่นชม คนที่มีส่วนช่วยกดดันรัฐบาลให้ยอมเลือกหนทางที่ถูกต้อง

โดยเฉพาะทหารและตำรวจ ที่ไม่กระหายเลือด!