Monday, May 17, 2010

เลือด และชีวิต เลือดไทย ชีวิตไทย กับ สำนึกไทย

ที่มา ข่าวสด

คล้ายกับว่า ในท่ามกลางความขัดแย้ง แตกแยก จะมีแต่คน 2 กลุ่ม 2 ฝ่ายปะทะกัน อย่างที่เห็นในขณะนี้คือ ฝ่ายของรัฐบาล กับ ฝ่ายของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน

แต่ความจริง ยังมีอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก คือฝ่ายเป็นกลาง

แม้ว่าในท่ามกลางการสัประยุทธ์ทางความคิด ทางการเมือง จะไปไปสู่การแยกและเลือกข้างระหว่าง 2 ฝ่าย

เพราะแต่ละฝ่ายก็พยายามดึงและหาพวกให้มายืนอยู่ฝ่ายเดียวกับตน

ฝ่ายรัฐบาลก็กล่าวหาฝ่ายของนปช.แดงทั้งแผ่นดินว่า เป็นพวกผู้ก่อการร้าย เป็นพวกที่ต้องการล้มเจ้า ล้มสถาบัน เป็นพวกที่ต่อสู้เพื่อคนคนเดียว

เป็นการอ้างเพื่อจะจัดการไม่ว่าโดยการจับกุมและการส่งกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม

ขณะเดียวกัน ฝ่ายของนปช.แดงทั้งแผ่นดินก็กล่าวหาว่า รัฐบาลเป็นเผด็จการได้อำนาจมาโดยไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรมและบริหารประเทศอย่าง 2 มาตรฐาน เลือกปฏิบัติ

เป้าหมายของทั้ง 2 ฝ่ายก็เพื่อดึงพวกที่ยังไม่เลือกข้าง เป็นกลางให้มาเป็นพวก



ต้องยอมรับว่าเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของการต่อสู้ขับเคี่ยวกันทางความคิด ทางการเมือง นั่นก็คือยิ่งสัประยุทธ์ต่อตียิ่งสุดโต่ง ยิ่งมากด้วยความคับแคบ

สุดโต่งที่จะเห็นว่าฝ่ายของตนถูกต้อง

คับแคบเพราะมักจะเกิดความโน้มเอียงและประเมินว่า ผู้ที่ไม่ร้องเพลงเดียวกับตนเป็นฝ่ายตรงข้าม เข้าลักษณะคำพูดของอดีตประธานา ธิบดีจอร์ช ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐที่ว่า

"หากมิใช่พวกเรา ก็เป็นฝ่ายก่อการร้าย"

ยิ่งเมื่อพัฒนาการจากการต่อสู้ทางความคิด ทางการเมือง เป็นการปะทะด้วยกำลังและความรุนแรง ลักษณะสุดโต่งและความคับแคบยิ่งเห็นได้ชัด

เพราะหากประเมินว่ามิใช่พวกเดียวกันกับตนก็พร้อมลั่นกระสุน เข้าใส่

พลันที่มีการสาดกระสุนเข้าใส่กันและมีผู้เสียชีวิต กระบวนการตรงนี้แหละจะทำให้ฝ่ายเป็นกลางจำเป็นต้องเลือก

ห้วงเวลานี้เองที่จะทำให้ดุลกำลังในการต่อสู้เกิดการแปรเปลี่ยน



สถานการณ์มิคสัญญีอันเนื่องจากคนไทยสาดกระสุนเข้าใส่กันไม่ว่าจะเป็นที่แยกศาลาแดง แยกวิทยุ บ่อนไก่ เรื่อยไปจนถึงแยกราชปรารภและสามเหลี่ยมดินแดง

กำลังเป็นหินลองทองคมแหลมทวงถามสำนึกแห่งความรู้สึกของคนไทยอย่างลึกซึ้ง

เพราะว่าคนที่นอนจมกองเลือดอยู่บนถนนราชปรารภ อยู่หน้าตึกอื้อจือเหลียง หรือที่บ่อนไก่ แยกถนนวิทยุ มิได้เป็นไทต่างด้าวท้าวต่างแดงมาจากไหน

หากแต่เป็นคนไทย

จากการปะทะกันเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม เรื่อยมาจนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม เป็นเวลา 4 วันแล้ว บาดเจ็บกว่า 190 คนแล้ว ล้มตายเกือบ 30 คนแล้ว

คำถามที่เสนอขึ้นมาก็คือ อีกกี่ศพความสงบและสันติภาพจึงจะบังเกิดขึ้น

คำถามนี้ไม่เพียงแต่จะดังมาจากด้านของญาติมิตรและครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ หากแต่ดังกึกก้องในสำนึกของคนที่เป็น กลางและมิได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดถี่ยิบขึ้นเป็นลำดับ

เป็นคำถามที่เขียนด้วยเลือด เป็นคำถามที่เขียนด้วยชีวิต



เป้าหมายของรัฐบาล เป้าหมาย คือ การกระชับวงล้อมเพื่อขอคืนพื้นที่จากนปช.แดงทั้งแผ่นดิน

แต่คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ จะใช้เวลายาวนานแค่ไหน และจะต้องให้เลือดและชีวิตของคนไทยสังเวยปฏิบัติการนี้อีกมากน้อยเพียงใด จึงจะถือว่าเป็นความสำเร็จ เป็นชัยชนะ

ยิ่งคำถามดังก้องมากเพียงใด บทบาทของ "คนกลาง" จะยิ่งทรงความหมาย