Monday, May 10, 2010

กับดักประเทศไทย

ที่มา ไทยรัฐ

สภาพประเทศไทยเวลานี้เหนือก็ไม่ไป ใต้ก็ไม่ไป สงครามการเมือง เต็มไปด้วยอันตรายทุกรูปแบบ ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ในเมื่อนายกฯไม่ลาออก ยุบสภาก็ไม่ลงตัว ในวิถีของประชาธิปไตยจะทำอย่างไรกันต่อไป จะถูลู่ถูกังไปจนครบวาระรัฐบาลก็ต้องใช้เวลาเป็นปี

หรือจะต้องปฏิวัติรัฐประหารกันอีกกระทอก

ก็ต้องย้อนไปดูที่ต้นเหตุ วิกฤติการเมือง ที่ก่อตัวขึ้นมาจากเรื่องส่วนตัวของคนไม่กี่คน ถึงขนาดต้องใช้อำนาจนอกระบบเข้ามาช่วงชิงอำนาจทางการเมือง ถลำเข้าไปในวงจรอุบาทว์โดยอัตโนมัติ

ที่เรียกว่า ลับ ลวง พราง ถูกต้องที่สุด ทั้งลับ ทั้งลวง ทั้งพราง จนติดกับดักพันกันไปหมดการนำวิธีการของเผด็จการซ่อนรูป มาใช้อยู่เหนืออำนาจของรัฐธรรมนูญ

ทำให้เกิดสองมาตรฐานขึ้นมา

จากนั้นบ้านเมืองก็เต็มไปด้วย ความหวาดระแวงและแตกแยก จากคนกลุ่มหนึ่ง เป็นคนกลุ่มใหญ่ เป็นประชาชนส่วนใหญ่ซึมเข้าไปในระบบราชการ ภาคเอกชน จนถึงกองทัพ

แตกแยกกันทั้งประเทศ

และเพราะการบิดเบือนกฎหมาย บิดเบือนข้อเท็จจริง จึงไม่มีกฎเกณฑ์กติกาที่จะมาบังคับใช้เพื่อแก้ข้อพิพาทต่างๆที่
เกิดขึ้น ดังนั้น เมื่อบ้านเมืองไม่มีกติกา ไม่มีกรรมการ ความวุ่นวายย่อมตามมา

ความเป็นธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด

นี่ขนาดทอดสะพานหาทางลงกันสุดฤทธิ์ ยังอุตส่าห์มีคนร้ายเอาเอ็ม 79 มาก่อเหตุใกล้จุดชุมนุมจนได้ ยิงใส่ตำรวจ ยิงใส่ชาวสีลม ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นพวกเสื้อแดง

ลูกไม้ตื้นๆ

เสร็จแล้วก็ออกมาพูดเสียงเดียวกันว่า มีคนไม่อยากให้เกิดการปรองดอง นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ประกาศจะยุบสภาไปหยกๆ เริ่มจะเสียงแข็งขึ้นมาอีกกระทอก

ขีดเส้นตายถ้าไม่สลายการชุมนุม 15 พ.ค. เงื่อนไขยุบสภาพับเก็บทันที ได้ใจคนเสื้อหลากสี ได้ใจกองเชียร์ที่ยังไม่อยากให้ยุบสภา เพราะเกรงว่าจะเสียอำนาจ

ทำไปทำมาโรดแม็ปปรองดองก็เป็นแค่ปาหี่การเมืองไปตามระเบียบ

บางครั้งการเมืองไทยก็ยิ่งกว่านิยายน้ำเน่า มีครบทุกรส ขาดอยู่อย่างเดียวคือ สาระ ไม่มีเหตุมีผล นึกจะเสนออะไรขึ้นมาดูเก๋ดูเท่ดูดีก็เสนอไปส่งเดช

ไม่มีหลักเกณฑ์และความแน่นอน

เป็นนักการเมืองประเทศไทยวันนี้ พกปาก เอาไว้อย่างเดียวปลอดภัยที่สุด จะเนรมิตอะไรก็ได้ ไม่ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและข้อเท็จจริง วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอย่างก็ไม่เป็นไรแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ

สร้างภาพเอาตัวรอดเป็นยอดดี.

หมัดเหล็ก