Thursday, May 6, 2010

ชัยชนะของสันติวิธี

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม



ใครที่ไม่ใช่คนกระหายเลือด ไม่ใช่คนที่อยากเห็นการเข่นฆ่าประชาชนบนท้องถนน ย่อมรู้สึกดีใจกับท่าทีของนายกฯ อภิสิทธิ์ ในการแถลงแผนปรองดอง เพื่อคลี่คลายวิกฤตการเมือง

โดยเฉพาะการยอมตัดสินใจยุบสภาในอีก 4 เดือน และรักษาการอีก 2 เดือน

อันช่วยยุติปัญหาการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงได้ทันที!

ทั้งนี้ ก่อนการแถลงดังกล่าว ย่อมผ่านกระบวนการเจรจาในทางลับระหว่าง 2 ฝ่ายมาแล้ว จนได้ข้อสรุป

ข้อสรุปที่ว่าจะยุบสภาในวันที่ 15 ก.ย. และเลือกตั้ง 14 พ.ย.

เพียงแต่ในถ้อยแถลงของนายกฯ ยังอุบคำว่ายุบสภา 15 ก.ย. เลยทำให้ม็อบนปช.ต้องเล่นบทกดดันอีกนิดหน่อย ก่อนจะยอมสลายตัวกลับบ้าน

ยุติการชุมนุมอันยืดเยื้อเกือบ 2 เดือน อันสร้างแรงกดดันและผลกระทบวงกว้าง ลงไปได้ในที่สุด

แต่ก่อนจะนำมาสู่โรดแม็ปเพื่อความปรองดองฉบับอภิสิทธิ์ ย่อมก่อเกิดจากการยอมพูดคุยเจรจาระหว่างตัวแทนรัฐบาลกับแกนนำม็อบ

แกนนำทั้งตัวจริงและตัวจริงกว่า

เพราะฉะนั้นทางออกของประเทศชาติในวันนี้ ที่ลงเอยได้อย่างสันติวิธี ไม่มีการนองเลือดซ้ำอีก

ไม่ต้องมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องเจ็บตายอีก

จึงมีที่มาจากการเจรจา การพูดคุยกันอย่างผู้เจริญด้วยปัญญา

นี่จึงเป็นชัยชนะของสันติวิธีและหนทางการเจรจา!

เป็นประเด็นที่ต้องชื่นชมทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายแกนนำม็อบ เมื่อตัดสินใจเลือกใช้สติปัญญาแก้ปัญหา

เบื้องหน้านายกฯ อภิสิทธิ์ตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เต็มไปด้วยแรงกดดันจากหลายฝ่าย

มาจาก 2 ขั้ว ขั้วหนึ่งเปรียบได้เป็นสายเหยี่ยว กระหายเลือด ปรารถนาจะให้รัฐบาลนี้รักษาอำนาจเอาไว้ ถึงขนาดกล้าพูดว่าสูญเสียบ้างก็ต้องยอม

พูดไปเช็ดเลือดที่มุมปากไป!

เพียงเพื่ออำนาจของรัฐบาลและกลุ่มผลประโยชน์การเมืองที่เกาะรัฐบาลนี้อยู่

อีกขั้วหนึ่ง ประดุจสายพิราบ ปรารถนาจะให้ทางออกของปัญหาอยู่บนพื้นฐานการไม่เข่นฆ่ากัน แม้รัฐบาลนี้จะต้องหมดอายุเร็วขึ้น แต่สุดท้ายในวิถีทางประชาธิปไตย วันเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นอยู่ดี

เลือกเร็วขึ้นอีกนิดเพื่อรักษาชีวิตผู้คน เป็นหนทางของนักการเมืองที่ไม่ยึดติดกับอำนาจ

ประเทศชาติผ่านพ้นการนองเลือดไปได้อีกครั้ง

ด้วยพลังแห่งสันติวิธีและวิถีการเจรจา!