Tuesday, June 15, 2010

รัฐบาล "อภิสิทธิ์" รัฐบาล "เทพประทาน" ในอ้อมกอดอำมหิต

ที่มา ข่าวสด

ขณะที่นักข่าวตั้งฉายาให้กับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าเป็นรัฐบาล "เทพประทาน"

นิธิ เอียวศรีวงศ์ ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ เสนอบทสรุปใหม่อันเกี่ยวกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผ่านทาง มติชน ได้อย่างชวนให้ขบคิดว่า

เป็นรัฐบาล "เทพประทาน" ใน "อ้อมกอดอำมหิต"

"อ้อมกอดอำมหิตที่เป็นปัจจัยสำคัญในการตั้งรัฐบาลนี้กระชับขึ้นอย่างดิ้นไม่หลุด อ้อมกอดนี้เป็นอ้อมกอดอำมหิตเพราะรัดใครแล้วทำให้หมดเรี่ยวแรงขัดขืน จึงไม่มีวันหลุดจากอ้อมกอดได้จนกว่าอ้อมกอดอำมหิตจะคลายเองเมื่อถึงเวลา"

ประเด็น 1 ที่เสนอให้ขบคิดอย่างฉับพลันทันใดก็คือ อย่างไรคือความหมายของสิ่งที่ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เรียกว่า "อ้อมกอดอำมหิต"

และอีกประเด็น 1 ที่สำคัญและ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยากรู้เป็นอย่างยิ่งก็คือ เมื่อใดที่ "อ้อมกอดอำมหิต" จะคลายวงรัด

เพราะแม้เป็นรัฐบาล "เทพประทาน" แต่เมื่ออยู่ใน "อ้อมกอดอำมหิต" ย่อมไม่น่ารื่นรมย์

น่าสนใจก็ตรงที่รูปธรรมแห่งการตกอยู่ในภาวะ "อ้อมกอดอำมหิต" ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นได้จาก 3 ปรากฏการณ์สำคัญ

ปรากฏการณ์ 1 คือ ปรากฏการณ์แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550

ปรากฏการณ์ 1 คือ ปรากฏการณ์แห่งรากฐานและอำนาจอันเป็นเครื่องสนองรับต่อความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อเดือนธันวาคม 2551

ปรากฏการณ์ 1 คือ ปรากฏการณ์แห่งการปรับครม.ในเดือนมิถุนายน 2553

"ปัญหาที่น่าสนใจอยู่ที่ว่า ชนชั้นนำตกอยู่ในอ้อมกอดอำมหิตด้วยหรือไม่" เป็นคำถามที่ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เสนอขึ้นแล้วก็ตอบ

"ดูเหมือนฝ่ายชนชั้นนำเป็นผู้กอดเสียเองเมื่อตอนแรกตั้งรัฐบาล แต่ระวัง อ้อมกอดอำมหิตอาจอ้าแขนออกโอบรัดชนชั้นนำกลับคืนได้ และการต่อต้านชนชั้นนำใหญ่ที่ผ่านมาก็ดูจะส่อให้เห็นว่าชนชั้นนำบางกลุ่มอาจกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดอำมหิตไปเสียแล้ว"

การจัดตั้งรัฐบาลใน "ค่ายทหาร" จึงมีผลสะเทือนลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง

ต้องยอมรับว่าการดำรงอยู่ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แตกต่างไปจากการดำรงอยู่ของรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

ไม่เพียงแต่แตกต่างเพราะ พ.ศ.2502 กับ พ.ศ.2551 เท่านั้น

แม้ว่ารากฐานอันแท้จริงของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมาจากการอุ้มสมโดยกระบวนการจัดการของกองทัพ

กองทัพอันมี "มือที่มองไม่เห็น" จาก "ชนชั้นนำ" ดำเนินการอยู่

อันเท่ากับเป็นการบ่งชี้ว่า แม้รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมีรากฐานจากกระบวนการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 แต่ก็พลอยบิดเบี้ยวไปเพราะกระบวนการแทรกแซงเข้ามาโดยชนชั้นนำ ผ่านพลานุภาพแห่งกองทัพ

นั่นเท่ากับว่า ชนชั้นนำที่มีอำนาจเหนือรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และตัวรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ล้วนอยู่ในอ้อมกอดอำมหิตเช่นเดียวกัน

ยิ่งอ้อมกอดอำมหิตโอบรัดรุนแรงเพียงใด เลือดยิ่งหลั่ง และต้องมีการสูญเสียชีวิต

อํานาจอันมีรากฐานมาจากการหลั่งเลือดและคร่ากุมเอาชีวิตของประชาชนเป็นเครื่องสังเวยเช่นนี้

เป็นอำนาจอันอำมหิต หากเป็นอ้อมกอดก็ย่อมเป็นอ้อมกอดอันอำมหิต โหดร้ายและเลือดเย็นอย่างยิ่ง

ไม่น่าเชื่อว่าอ้อมกอดอำมหิตจะเติบใหญ่ในเนื้อดินของสังคมไทยอันเป็นพุทธได้อย่างไร