Monday, June 7, 2010

เดือดร้อนแน่นอน

ที่มา ไทยรัฐ

เก้าอี้ผลัดกันนั่ง สมบัติผลัดกันชม การปรับ ครม.ครั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเอง

ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการปรับ ครม.ครั้งนี้เลย

วันนี้ ขอพักเรื่องการเมืองไว้ก่อน เพื่อให้ความสนใจกับวิกฤติภัยแล้งที่กำลัง คุกคามประเทศไทย

เป็นวิกฤติภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี

วันนี้...60 จังหวัดต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินร้ายแรง คิดเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งรวมทั้งสิ้น 464 อำเภอ

พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 ล้านคน

พื้นที่เพาะปลูกเสียหายแล้วกว่า 4 แสนไร่ เกษตรกร 3 ล้านครอบครัวหมดเนื้อหมดตัวไปตามๆกัน

น่าเสียดาย 3 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มัววุ่นวายแก้วิกฤติการเมือง

การที่รัฐบาลขยับตัวช้าเกินไป ทำให้ วิกฤติภัยแล้งไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่ต้นมือ

กว่ารัฐบาลจะตั้งหลักได้ก็สายเกินเพล

"แม่ลูกจันทร์" เขียนกระชุ่น "นายกฯอภิสิทธิ์" หลายครั้งให้ยกระดับวิกฤติภัยแล้งเป็นวาระแห่งชาติ กระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวประหยัดการใช้น้ำกันอย่างจริงจัง

วันนี้ เขื่อนขนาดเล็กและขนาดกลางต้องหยุดปล่อยน้ำเพื่อการบริโภค และเกษตรกรรม

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเป็นเรื่องจริง

แม้แต่เขื่อนขนาดยักษ์ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็อยู่ในขั้นวิกฤติร้ายแรง

ปริมาณน้ำต้นทุนที่เตรียมไว้ใช้ปีนี้หมดเกลี้ยงไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม

ปริมาณน้ำสำรองที่เตรียมไว้สำหรับปีต่อไปก็ใกล้จะหมด ต้องงดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตรชั่วคราว

ไม่น่าเชื่อว่าวิกฤติภัยแล้งขนาดนี้จะเกิดขึ้นในเมืองไทย

ล่าสุด เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ปล่อยน้ำจากเขื่อนเพียงวันละ 20 ล้าน ลบ.เมตร เพื่อการบริโภคอย่างเดียว

แต่ข่าวร้ายคือ มีน้ำเหลือปล่อยได้ อีกไม่เกิน 2 เดือน

ถ้า 2 เดือนนี้ไม่มีฝนตกเหนือเขื่อน เราจะต้องเดือดร้อนกันอย่างมโหฬาร

"แม่ลูกจันทร์" ย้ำเตือนอีกครั้งว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะร่วมกันประหยัดน้ำทุกหยด และใช้น้ำเท่าที่จำเป็น

เมืองไทยเคยมีน้ำกินน้ำใช้เหลือเฟือ คนไทยจึงใช้น้ำกันตามสบาย ใช้ล้างใช้ผลาญกันไม่บันยะบันยัง

ความจริงช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (เมษา—พฤษภา) ก็มีฝนตกพอสมควร

แต่โชคร้าย ปีนี้เกิดวิปริตฝนตกผิดที่ผิดทาง ฝนลูกใหญ่ๆไม่ตกเหนือเขื่อนอย่างที่เคย

เมื่อไม่มีน้ำไหลเพิ่มในเขื่อน ปริมาณน้ำก็ยิ่งขาดแคลน

ข้อสำคัญ ปีนี้โอกาสจะเกิดพายุฝนขนาดใหญ่มีน้อยกว่าทุกปี แถมภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงยาว

ถ้าฝนทิ้งช่วง จะเกิดวิกฤติภัยแล้งหนักที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชั่วอายุคน

ผลร้ายที่จะซ้ำเติมตามมาอีกมาก มายเช่น...

1, การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อนต่างๆต้องหยุดชั่วคราว

2, น้ำที่จะใช้สำหรับการบริโภคจะขาด แคลน

3, น้ำจืดที่ใช้ผลิตน้ำประปาสำหรับ กทม. และปริมณฑลจะไม่เพียงพอ

4, น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนเพื่อไล่น้ำเค็มจะไม่มี

5, การทำนาปีทั่วประเทศจะต้องเลื่อนออกไป

6, ข้าวที่จะกินเองและส่งออกปีหน้าจะเหลือแค่ 50 เปอร์เซ็นต์

7, อากาศเมืองไทยจะร้อนขึ้น และร้อนยาว

ชีวิตพวกเราคนไทยจะไม่สุขสบายอีกแล้วโยม.

แม่ลูกจันทร์