Wednesday, September 8, 2010

แกว่งเท้า

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

คาดเชือก คาถาพัน




อย่างที่ผู้นิยมการชมนิยายบอกเอาไว้แต่ไหนแต่ไรว่า

หนังชีวิตต้องดูกันยาวๆ

แล้วหนังชีวิตเรื่องเก่า 20 ปียังไม่จบอย่าง "นิยายรักซาอุฯ" ก็หวนคืนจอเป็นรอบที่เท่าไหร่จำไม่ได้

รู้แต่ว่ามาหนไหน ดังระเบิดหนนั้น

ไม่ว่าฉายช่วงรัฐบาลไหน รัฐบาลนั้นก็ออกอาการจับไข้

ยิ่งมาฉายในช่วงรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งขึ้นชื่อว่านิยมหนังสยองขวัญต่างประเทศ

ไม่ว่าจะเป็น "ยุทธการล่าหนูรอบโลก" "แกะขาวในหมู่แกะดำสุวรรณภูมิ" "ม่านไม้ไผ่ไม่ซี้ด้วย" หรือ "ระหว่างกรงเล็บหมี-อินทรี"

ยิ่งหนักข้อเข้าไปใหญ่

ทั้งที่ดูจากหนังรอบก่อนๆ ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่า เวลาที่หนังเรื่องนี้ฉาย จะเกิดภาวะถล่มทลายทางรายได้ (ของชาวบ้าน) ทุกครั้งไป

ไม่นับหน้าตาที่แหกเป็นริ้วปลาช่อนอีกต่างหาก

ก็ยังดันทุรังไปกระตุ้นให้เขาสร้างหนังภาคใหม่กลับมาฉายอีกจนได้

ท่ามกลางความงงงวยของผู้ชมคนอื่นๆ ทั่วไป ที่แทบไม่เชื่อสายตาว่า จะมีคนเอาประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ของพวกเป็นใหญ่

แล้วโยนประโยชน์ของส่วนรวมไปกระทืบทิ้งได้หน้าตาเฉย

ไม่น่าเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว

ทำเองกับมือแล้วยังมี หน้าบอกว่า หนังออกฉายเมื่อไหร่จะส่งจดหมายไปชี้แจงทำความเข้าใจ

ทำเป็นเรื่องเล่นไปได้

นี่ถ้าเขาปิดวิกเมืองไทย ตัดใจว่าต่อไปนี้เลิกกันที จะไม่มีหนังมาฉาย ไม่มีเยื่อใยต่อกันอีกแล้ว

ใครจะรับผิดชอบความ เสียหายที่เกิดขึ้น

ธรรมดาเวลาพูดถึงคนแกว่งเท้าหาเสี้ยน ก็มักจะเป็นเรื่องของเท้าใครเท้ามัน

ใครคัน ก็เจ็บเท้าไปเอง

แต่นี่ผ่าเอาเท้าชาวบ้านไปแกว่ง เสี้ยนตำก็ตำเท้าชาวบ้าน กลัดหนองก็ระบมชาวบ้านอีก

คิดออกมาได้ยังไง

ไม่อาย ไม่รู้สึก ไม่สำนึกกันบ้างหรือ

หรือไม่เชื่อว่ากรรมมีจริง?