เหล็กใน
สมิงสามผลัด
จะสร้างความปั่นป่วนให้พรรคประชาธิปัตย์มากขนาดนี้
นายอัมสเตอร์ดัมเพิ่งเดินทางมาถึงประเทศไทยได้ ไม่ถึงสัปดาห์
พลพรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์โจมตีทุกวัน
นายเทพไท เสนพงศ์ โวยวายตำรวจปล่อยให้นายอัมสเตอร์ดัมเข้าไทย ทั้งที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นสถาบัน และถูกแจ้งข้อหาดูหมิ่นศาล
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ตำหนิรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ปล่อยให้นายอัมสเตอร์ดัมเข้าประเทศ
ให้ เหตุผลว่าในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ใช้คำสั่ง ศอฉ.ได้แจ้ง ตม.ว่านายอัมสเตอร์ดัม เป็นบุคคลที่เป็น"ภัยต่อความมั่นคง"
พูดง่ายๆ ก็คือนายอภิสิทธิ์ออกคำสั่งให้นายโรเบิร์ตเป็นบุคคลต้องห้าม!?
ในกรณีการหมิ่นสถาบัน-ดูหมิ่นศาลนั้น รัฐบาลชี้แจงทันทีว่าทั้งกองปราบปรามและดีเอสไอพิจารณาแล้วไม่พบว่าเข้าข่ายความผิด!
ส่วนคำสั่งศอฉ.ที่ระบุนายอัมสเตอร์ดัม เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง
ก็มีการยกเลิกคำสั่งนี้ตั้งแต่เดือนก.ย.2554
คราวนี้ลองย้อนมาดูว่าช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายอัมสเตอร์ดัมทำอะไรบ้างที่เป็น"ภัยต่อความมั่นคง"
เริ่มจากไปเยี่ยมนักโทษเสื้อแดงที่ยังถูกจองจำอยู่ในคุก
วันถัดมาก็ไปพบคอป.สอบถามเรื่องแนวทาง ปรองดองสมานฉันท์ การเยียวยาผู้เสียชีวิตจากการสลายม็อบแดง 91 ศพ บาดเจ็บอีก 2 พันคน
จากนั้นก็ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้งที่คอกวัวและวัดปทุมวนาราม
นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมเดินสายไปพบญาติ 91 ศพในหลายจังหวัด
ก็ไม่เห็นว่ามีส่วนไหนเลยที่เป็น "ภัยต่อความมั่นคง"
ที่สำคัญการที่นายอัมสเตอร์ดัมมาไทย เพราะต้องการรวบรวมข้อมูล
นำไปใช้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการยื่นศาลอาญาระหว่างประเทศ ฟ้องร้องผู้สั่งการสลายม็อบแดง 91 ศพ
จึงถือว่าเป็นการทวงความยุติธรรมให้ 91 ศพ
เป็นคุโณปการให้กับญาติพี่น้องผู้สูญเสีย
ฉะนั้น หากการเดินทางมาเมืองไทยของนายอัมสเตอร์ดัมจะเป็นภัย
ก็คงเป็นภัยต่อผู้ออกคำสั่งฆ่า 91 ศพเท่านั้น!?