Friday, October 28, 2011

กรุงแตก!?

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด



ตอนนี้คนกรุงเทพฯ คงต้องยอมรับว่าสถานการณ์น้ำท่วมถึงขั้นวิกฤตแล้ว

ต้องรับสภาพว่าน้ำท่วมกรุงเทพฯ แน่นอน

จากคำแถลงของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค.

"ขณะนี้มวลน้ำจากทางเหนือไหลสู่ภาคกลาง มวลน้ำก้อนใหญ่ไหลลงผ่านกทม.สู่ทะเล พลังของน้ำครั้งนี้มีแนวโน้มมาก เกินกว่าประตูน้ำจะรับได้"

นายกฯ ยิ่งลักษณ์ยังระบุว่า มีโอกาสสูงจะทะลักเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอกของกทม.

เท่าที่ฟังดูจะเห็นว่าเส้นทางการระบายน้ำทุ่งก้อนมหึมามีด้วยกัน 3 ทาง

ทางแรกคือฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และฝั่งธนบุรี เพราะมีน้ำเหนือผ่านทางนนทบุรีเข้าท่วมเขตบางพลัดแล้ว

การระบายน้ำต้องใช้คลองมหาสวัสดิ์ ส่งมวลน้ำลงแม่น้ำท่าจีนเพื่อลงสู่อ่าวไทยโดยเร็ว

แต่อาจเกิดน้ำท่วมฝั่งธนบุรีและปริมณฑล ในพื้นที่ลุ่มสูงประมาณ 50 ซ.ม.

ทางที่สองก็คือตอนเหนือของกทม. เพราะมีแรงกดดันจากมวลน้ำทุ่งจากรังสิต ทำให้ต้องเปิดคลองต่างๆ ในกทม.ระบายลงสู่อ่าวไทย

ส่งผลให้พื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางซื่อ บางเขน ได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นและท่วมขัง

แต่จะควบคุมไม่ให้สูงเกิน 50 ซ.ม.

ทางระบายที่สามคือฝั่งตะวันออกของกทม.คือ มีนบุรี หนองจอก และลาดพร้าว

โดยมีคลองระพีพัฒน์ คลองหกวาสายล่าง และคลองแสนแสบ ระบายน้ำไปตามแนวคลองที่ขุดไว้ส่งมวลน้ำก้อนใหญ่ออกทะเลฝั่งตะวันออก

แต่อาจเกิดน้ำท่วมขังระดับ 1-1.5 เมตร

เท่าที่ติดตามสถานการณ์ในกทม. ก็คงต้องทำใจว่ายังไงน้ำก็ต้องท่วม

อยู่ที่ว่าจะท่วมสูงเท่าไหร่ ท่วมพื้นที่ไหนบ้าง และท่วมนานแค่ไหน

ปัจจัยหลักๆ ก็อยู่ที่พื้นที่สูงต่ำในแต่ละเขตไม่เท่ากัน

กับปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงสุดช่วงปลายเดือนนี้

แต่ต้องยอมรับว่าศักยภาพในการระบายน้ำของกทม.ถือว่าดีที่สุดทั้งเครื่องไม้เครื่องมือและบุคลากร

หากเกิดน้ำท่วมขังในกทม.จริงๆ ก็น่าเชื่อว่าการระบายน้ำจะทำได้รวดเร็ว

ก็ได้แต่ปลอบใจคนกรุงเทพฯ ด้วยกัน

คงไม่ท่วมหนักและไม่ท่วมนานเท่านั้น