โดย bozo
"ยิ่งลักษณ์" แจงภาพรวมการทำงานตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา
ขอบคุณ "ดร.สุเมธ" และ "ดร.วีรพงษ์" เข้าร่วมงานแก้ปัญหาอุทกภัยใหญ่
พร้อมมั่นใจภาพรวมดีขึ้น หลายพื้นที่เข้าสู่โหมดฟื้นฟู ...
วันที่ 12 พ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รายงาน
ภาพรวมการทำงานของรัฐบาลตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผ่านรายการ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์ พบประชาชน"
โดยแบ่งการรายงานออกเป็นหลายส่วน
เริ่มจากการเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จ.นครพนม เมื่อวานนี้
นอกจากนั้นก็ได้กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ที่มีการพิจารณาเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555
ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณบรรดา ส.ส. ที่ผ่านร่างงบประมาณครั้งนี้ให้
และยืนยันจะใช้เงินอย่างประหยัด คุ้มค่า โปร่งใส ไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าววว่า
สภาพน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัดเริ่มดีขึ้น เข้าสู่ช่วงของการฟื้นฟู
ซึ่งจะพยายามให้สาธารณูปโภคทั้งหลายกลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด
รวมถึงสถานพยาบาลและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย
นอกจากนั้น ในเรื่องของการวางแนวป้องกันด้วยบิ๊กแบ็ก
นายกรัฐมนตรียืนยันว่าได้ผลดี สามารถชะลอน้ำที่เข้าสู่กรุงเทพมหานครได้
ทำให้เจ้าหน้าที่มีเวลาพอที่จะเข้าบริหารจัดการน้ำที่ท่วมขังอยู่
และขอยืนยันว่า การวางบิ๊กแบ็กไม่ใช่การกักน้ำ แต่เป็นการชะลอน้ำเท่านั้น
ซึ่งได้กำชับให้กรมชลประทานเร่งผันน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ
และอื่นๆ ออกให้เร็วที่สุดแล้ว
ซึ่งก็ได้มีการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำให้ทางกรุงเทพมหานครไปแล้วอีกกว่า 70 เครื่อง
ขณะที่ทางด้านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกนั้น พบว่ามีทางน้ำที่ชำรุดเสียหายอยู่ 14 จุด
และได้สั่งการให้เร่งซ่อมแซมแล้ว เชื่อว่าหากซ่อมเสร็จจะช่วยลดระดับการท่วมขังลงได้อีก
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมเทศบาลนครนนทบุรี
ที่มีการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมได้เป็นอย่างดี
จนทำให้ปรากฏว่า ในพื้นที่ จ.นนทบุรี บางจุดนั้น ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังเลย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการอนุมัติเงินงบกลางในการนำมาใช้เพื่อชดเชย
และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ รัฐบาลกำหนดให้พื้นที่ 30 เขต 6 แสนครัวเรือน
มีสิทธิได้รับเงินชดเชย 5,000 บาท แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณาด้วยเช่นกัน
ซึ่งมีรายละเอียดกำกับไว้แล้ว ถือเป็นการเยียวยาเบื้องต้นที่รัฐบาลได้จัดสรรให้
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
ได้มีโอกาสพบผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำจากต่างประเทศหลายประเทศ
ซึ่งได้รับความรู้อย่างมากในการบริหารจัดการน้ำ
ขณะที่ภายในประเทศเองนั้น หลังบางพื้นที่เริ่มมีน้ำลด
รัฐบาลได้กำหนดมาตรการ 3R ในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูประเทศ
โดยเริ่มจาก
1. คือขั้นการเรสคิว หรือกู้ภัย ซึ่งขั้นตอนนี้ ศปภ. จะเป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ
ขั้นที่ 2.คือ รีสโตร์ หรือซ่อมแซม ได้กำหนดระยะเวลาสำหรับขั้นตอนนี้ไว้ที่ 1 ปี
โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ความเป็นอยู่ประชาชน
หรือแม้กระทั่งคุณภาพชีวิตประชาชนจะต้องฟื้นคืนกลับมา
และขั้นที่ 3.คือ รีดิ้วส์ หมายถึงการทำความเข้าใจในธรรมชาติ
พร้อมทั้งเฝ้าระวังในความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติต่างๆ
ซึ่งส่วนนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้ตั้งกรรมการ 2 ชุด แบ่งหน้าที่กัน
ชุดแรกคือคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.)
ที่มี ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธาน
และชุดที่ 2.คือ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.)
โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
และได้รับความอนุเคราะห์จาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
ให้เกียรติเป็นที่ปรึกษา
ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่ทั้ง 2 คน ที่ให้ความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาประเทศในครั้งนี้
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวรายงานถึงยอดเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยว่า
รัฐบาลได้รับเงินบริจาคมาแล้วทั้งสิ้น 918 ล้านบาท ใช้จ่ายไปตามมติคณะกรรมการ
คงเหลือ 315 ล้านบาท ซึ่งยืนยันว่า เงินทุกบาทได้ใช้จ่ายไปอย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้ว
ขณะที่สัปดาห์หน้านี้ นายกรัฐมนตรีมีภารกิจให้การต้อนรับ
นายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
และนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่จะเดินทางมาเยือน พร้อมทั้งร่วมหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือประเทศไทย
ในปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน.
http://www.thairath.co.th/content/pol/216072