WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, July 17, 2009

พันธมิตรฯ บุกชุมนุมสโมสรตำรวจ ขึ้นป้าย "เราคือผู้ก่อการดี"

ที่มา ประชาไท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (16 ก.ค.) ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดประมาณ 500 คน พากันเดินทางมาปักหลักชุมนุมเพื่อให้กำลังใจแกนนำพันธมิตรฯ และแนวร่วม จำนวน 36 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาก่อการร้ายจากการบุกยึดท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ซึ่งแกนนำที่ถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา มีกำหนดเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ในเวลา 09.30 น. และ 13.00 น.
บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคึกตั้งแต่ช่วงเช้า กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำรถ 6 ล้อ 2 คัน ทำเป็นเวทีปราศรัยหันหน้าเวทีไปทางหน้าตึกสโมสรตำรวจ บนเวทีปราศรัยมีการโจมตีการตั้งข้อหาก่อการร้ายกับแกนนำพันธมิตรฯ ว่าเป็นข้อหาที่รุนแรงเกินจริงจึงต้องมาคัดค้าน และมีการขึ้นป้ายมีข้อความว่า "เราคือผู้ก่อการดี" ไว้ข้างเวที ต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเข้าร่วมมากขึ้นประมาณ 1,000 คน ต่างใช้อุปกรณ์มือตบ และร้องตะโกนว่าตำรวจยัดข้อหาประชาชน บางคนชูป้ายเขียนข้อความว่า "อภิสิทธิ์ ทรยศพันธมิตร" ขณะที่พื้นที่ริมถนนด้านในสโมสรตำรวจมีกลุ่มพันธมิตรฯออกร้านค้าขายเสื้อผ้า และของที่ระลึกจนเต็มทั้งสองฝั่งถนน และพบว่ามีการนำเสื้อยืดสีเขียวพรรคการเมืองใหม่ มาจำหน่ายในราคาตัวละ 200 บาท
ต่อมาเวลา 09.30 น. นายสุวัตร อภัยภักดิ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ 2 ทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เดินทางมาถึง และเข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้พากันขึ้นไปไปยืนตะโกนว่าสู้ๆ บนทางเข้าอาคารบนชั้น 2 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันไว้ให้อยู่ด้านนอกอาคารเท่านั้น
กระทั่ง เวลา 10.00 น. บรรดาแกนนำ อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา รวมทั้งแนวร่วมที่โดนหมายเรียกยกเว้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้เดินทางมาถึงแต่ไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน กลับขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาร้ายแรงทั้งที่ผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ และการชุมนุมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง ทุกคนที่ถูกออกหมายเรียกจึงจะไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน เพราะตอนนี้ก็ทราบแล้วว่าข้อกล่าวหาคืออะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนายความดำเนินการไปตามขั้นตอน การมาในวันนี้ถือว่าเป็นโชคดีที่จะได้มาชุมนุมชี้แจงในสถานที่ของตำรวจ และไม่จำเป็นต้องอยู่นาน แค่เที่ยงก็จะสลายตัวกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของพันธมิตรฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส หัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้ขึ้นเวทีปราศรัยชี้แจงกับผู้ชุมนุม โดยนายสุวัตร กล่าวว่า ตำรวจให้ความเป็นธรรมรับเอกสารทุกอย่างที่พันธมิตรฯ ทำเรื่องชี้แจงเข้าไป พันธมิตรฯ มีแค่มือตบไม่ได้มีอาวุธร้ายแรงจะถือว่าเป็นผู้ก่อการร้ายยึดสนามบินได้อย่างไร และการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญจะไม่มีความผิดฐานเป็นผู้ก่อการร้าย เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. กับพวก 10 คน แจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ซึ่งขณะนี้ พล.ต.จำลอง ได้ฟ้องกับคนกลุ่มคนเสื้อแดงนี้แล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็เริ่มเห็นแล้วว่าการตั้งข้อหาก่อการร้ายมันรุนแรงเกิน ไป วันนี้จึงไม่มีใครเข้ามอบตัว เพียงแต่ให้ทนายเข้าโต้แย้งคำสั่งของตำรวจไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งถึงที่สุดว่าจะเป็นอย่างไร
ด้าน พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวบนเวทีปราศรัยกับผู้ชุมนุม ว่า ต้องขออภัยที่ทำให้ทุกคนต้องเสียเวลามาให้กำลังใจพันธมิตรฯ ที่โดนข้อหาทั้ง 36 คน ที่ตนออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา จากการรวบรวมข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่วันนี้ทนายความของพันธมิตรฯ ได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มามอบให้พนักงานสอบสวนนำไปพิเคราะห์รวมกับสำนวนการสอบสวนต่อไป เพื่อจะสอบให้ได้ความเป็นจริงและเกิดความยุติธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ถ้าตนไม่ได้รับการยอมรับจากทุกคนก็จะไม่อยู่ทำคดีนี้ต่อไป แต่ถ้าได้รับการยอมรับจะอยู่ต่อเพื่อทำให้เกิดความยุติธรรมอย่างที่สุด เพราะยังนึกเสมอว่าประชาชนคือนายของตำรวจ ซึ่งการชี้แจงของ พล.ต.ท.วุฒิ สร้างความพอใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่บางคนเห็นว่าเป็นการเล่นละครจึงตะโกนโห่ด้วยความไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม บรรดาพันธมิตรฯ และแกนนำก็ได้สลายตัวในเวลาต่อมา

สำหรับแกนนำพันธมิตรฯที่ถูกออกหมายเรียกครั้งนี้ ในส่วนคดีบุกรุกสนามบินสุวรรณ มีทั้งหมด 25 คน ประกอบด้วย 1.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 2.นายสนธิ ลิ้มทองกุล 3.นายสุริยะใส กตะศิลา 4.นายสำราญ รอดเพชร 5.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 6.นายอมร อมรรัตนานนท์ 7.นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 8.นายศิริชัย ไม้งาม 9.นางมาลีรัตน์ แก้วก่า 10.นายเทิดภูมิ ใจดี11.นายพิภพ ธงไชย 12.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ 13.น.ส.อัญชลี ไพรีรัก 14.นายพิชิต ไชยมงคล 15.นายประพันธ์ คูณมี 16.นายบรรจง นะแส 17.นายกษิตย์ ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ 18.นายศรัณยู วงษ์กระจ่าง 19.นายวีระ สมความคิด 20.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 21.น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ 22.ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ 23.นายชนะ ผาสุกสกุล 24.พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ และ 25.นายสุรวิชช์ วีรวรรณ

ส่วนผู้ที่ถูกออกหมายเรียกในคดีบุกรุกสนามบินดอนเมืองทั้งหมด27 คนคือ 1.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 2.นายสนธิ ลิ้มทองกุล 3.นายพิภพ ธงไชย 4.นายสุริยะใส กตะศิลา 5.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 6.นางมาลีรัตน์ แก้วก่า 7.นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 8.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 9.นายอมร อมรัตนานนท์ 10.นายสำราญ รอดเพชร 11.นายศิริชัย ไม้งาม 12.นายเทิดภูมิ ใจดี 13.นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ 14.นายสาวิทย์ แก้วหวาน15.นายพิชิต ไชยมงคล 16.นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด 17.น.ส.อัญชลี ไพรีรัก 18.นายประพันธ์ คูณมี 19.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ 20.นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ 21.นายสมบูรณ์ สุวรรณฝ่าย 22.น.ส.จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ 23.นายเติมศักดิ์ จารุปราณ 24.นายบัณฑิต ปิ่นมงคลกุล 25.น.ส.วรรษมณ ช่างปรีชา 26.นายยุทธิยงค์ ลิ้มเลิศวาที และ 27.นายสุมิตร นวลมณี

นอกจากนี้เมื่อเวลา 17.00 น. มีรายงานว่า พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด หนึ่งในผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ ดังกล่าว พร้อมคุณหญิงสุพัตรา มาศสดิษฐ์ ภริยา ได้ขับรถยนต์โตโยต้า คามรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน รง-678 กทม. เพื่อเดินทางไปดูการก่อสร้างบ้านที่บริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง บ้านหัวหิน ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยพล.อ.ปฐมพงษ์ เป็นคนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว

และเมื่อมาถึงบริเวณทางตัดรถไฟหน้าวัดบ้านหม้อ หมู่ที่ 6 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ได้ชนกับรถไฟขบวนที่ 37 กรุงเทพ-สุไหงโกลก ซึ่งวิ่งมาจากกรุงเทพฯ ด้วยความเร็ว โดย พล.อ.ปฐมพษ์ ถอยรถกลับแต่ไม่พ้นจึงถูกรถไฟขบวนดังกล่าวชนด้านหน้ารถอย่างจังจนทำให้หม้อน้ำรถและกันชนด้าน หน้ารถพังยับเยิน ส่วนคุณหญิงและสามีนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด