WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, October 17, 2009

คอลัมน์ ปิดไม่ลับ Special

ที่มา มติชน


ฟังเผินๆ เหมือน "2 เสือ" นั่นคือ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กับ "พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย (พท.) หยอดคำหวานใส่กันในฐานะ "เพื่อนเลิฟต่างวัย"

แต่ถ้าถอดรหัสนัยแต่ละประโยคที่ "ป๋าเปรม-บิ๊กจิ๋ว" เปล่งวาจาออกมา จะรู้ว่าเป็นน้ำผึ้งอาบยาพิษ

โดยเฉพาะคำพูดล่าสุดของ "ป๋า" ที่ออกมายอมรับว่าเคยส่งคนไปเตือน "อดีตลูกป๋า" ที่ชื่อ "จิ๋ว" ก่อนเก็บกระเป๋าเข้าไปอยู่ พท. ว่า "ให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่อย่างนั้นมันอาจกลายเป็นการกระทำที่เป็นการทรยศต่อชาติ"

ถือเป็นการเสียบยอดอก "พล.อ.ชวลิต" แบบเต็มๆ

ว่ากันว่าสาเหตุที่ทำให้บุรุษวัย 89 ปี ประกาศตัดสัมพันธ์กับเจ้าทฤษฎี "โซ่ข้อกลาง" กลางอากาศ เป็นเพราะฉุนขาดที่ถูก "ลูกน้องเก่า" แอบแทงข้างหลัง

โดยเฉพาะการปล่อยข่าวผ่านเครือข่าย "เอฟโอซี" (เฟรนด์ ออฟ ชวลิต) ว่า "เจ้าของบ้านสี่เสาเทเวศร์" ไม่ยอมให้ "พ่อใหญ่ลา" เข้าพบเพื่อนำพานพุ่มดอกไม้แพรไปขออโหสิกรรม ก่อนเข้าอุปสมบทที่วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 ด้วยเพราะยังเคืองที่ "บิ๊กจิ๋ว" วกกลับไปช่วยงาน "นายใหญ่" ในยุครัฐบาล "สมชาย วงศ์สวัสดิ์"

ตรงนี้ทำให้ "บุรุษผมขาว" ถูกมองว่าไม่เป็นผู้ใหญ่

ร้อนถึงผู้ถูกวิจารณ์ต้องตั้งโพเดียมแก้ต่างเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าไม่เคยทราบว่า "บิ๊กจิ๋ว" จะไปบวชที่ไหน เมื่อไร โดยมี "นายทหารลูกป๋า" 6 คนคอยยืนให้กำลังใจอยู่เบื้องหลัง

อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า "พ่อใหญ่ลา" ได้ติดต่อขอขมา "ป๋า" จริง โดยประสานงานผ่าน "พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป" หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ



ทว่าเมื่อ "คนในบ้านสี่เสาฯ" แทงเรื่องขึ้นไป กลับได้รับคำตอบลงมาว่า "ไม่ว่าง" โดยมี "พล.อ." อีกคนที่ไปปฏิบัติหน้าที่ "วอลล์เปเปอร์ป๋า" เป็นพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

และ "นายพล" คนเดียวกันนี้ยังเป็นคนที่ "ป๋า" ใช้ให้ไปส่งสารเตือน "บิ๊กจิ๋ว" ก่อนเปิดตัวเข้า พท.อีกด้วย

เมื่อ "คำขออโหสิกรรม" จาก "ลูกป๋า" ไม่เป็นผล "คำแจ้งเตือน" จาก "ป๋า" ถูกเมิน จึงเกิดปรากฏการณ์ "2 เสือเปิดศึก" ในวันนี้!!!



บทแสดงของ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ออกมาหักพวงมาลัย พรรคเพื่อไทย เลี้ยวกลับ 180 องศา เลิกร่วมวงวิป 3 ฝ่าย ในจังหวะที่ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีเปิดตัวสายตรงเข้ามาคุม "พรรคเพื่อไทย" พอดิบพอดี

สร้างราคาต่อให้ "สิงห์เหลิม" ขึ้นมาตีคู่เบียดบารมีของ "พ่อใหญ่" ได้ระดับหนึ่ง

เพราะเบื้องลึกเบื้องหลังการเข้ามาของเพื่อไทยของ "บิ๊กจิ๋ว" นั้น ว่ากันว่าจะมีชื่อ 2 นักการเมืองรุ่นเก๋า ที่อาจจะต้องถูกลบทิ้งไปจากบัญชีเพื่อไทย หรือไม่ก็ต้องไร้บทบาทไปในที่สุด

โดยคนหนึ่งเก๋าขนาดได้สมญาให้ว่า "ไดโน น." ที่มีข่าวว่าจะซบเพื่อไทย แต่เมื่ออดีตขงเบ้งแห่งกองทัพรับเทียบเชิญก่อน เลยออกอาการเบื่อๆ อยากๆ การเมือง และจวนเจียนที่จะวางมือ หลังส่ง "ลูก-หลาน" ให้ขึ้นฝั่งการเมือง ฟากใดฟากหนึ่ง

ซึ่งเท่ากับว่า "ขานี้" ยอมรับชะตากรรมและประกาศยกธงขาว

ส่วนอีกคนก็ "สิงห์เหลิม ณ บ้านริมคลอง" ที่ออกอาการไม่ยอมจำนน ด้วย "แอ๊คชั่น" สู้ยิบตา เพื่อ "คุณค่า" ทางการเมืองในพรรคเพื่อไทย



แต่ปฏิบัติการประกาศพื้นที่อำนาจของ "บิ๊กบ้านริมคลอง" ครั้งนี้ ดันไปกระทบกับ "2 ส.ส.กทม." กับอีก "1 ส.ส.อีสาน" ปริศนาซึ่งถูก "สิงห์เหลิม" ต่อว่า ว่าพูดจาพาดพิงทำให้เสื่อมค่าบ่อยครั้ง จนอาจจะต้องเรียกมา "ฟาดก้น" กันสักทีนั้น

"1 ส.ส.อีสาน" ที่ว่า ปรากฏเป็น "ส.ส." หลายสมัยจาก "เมืองเกินร้อย" ผู้เคยหาญกล้าถลกหนัง "แก๊งออฟโฟร์" ในอดีต ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรักใคร่กับ "สิงห์เหลิม" มาในสมัยที่ได้ดีรั้งเก้าอี้ "มท.1" แต่มาผิดใจกันเพราะการให้สัมภาษณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งให้ "มิตรภาพ" ต้องขุ่นมัว เมื่อไม่นานมานี้

แต่ที่ทีเด็ด คือ "2 ส.ส.หนุ่ม กทม." จากย่านสนามบินเก่า ที่มักจะส่งสัญญาณผ่านสื่อหลายครั้งหลายหนเหมือนกันว่าไม่ชอบหน้า "ประธาน ส.ส.เพื่อไทย"

จนทำให้ "สิงห์เหลิม" แค้นฝังหุ่น เพราะในใจลึกๆ เชื่อว่า เรื่องระดับนี้ ส.ส.เด็กๆ คงคิดเอง-ทำเอง ไม่ได้



ในที่สุด "บิ๊กจ๊อก" พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 ผ่านการใช้ชีวิตแบบ "ประชาชนเต็มขั้น" ไปได้ไม่นาน

ได้ฤกษ์เปิดตัวเข้าสู่ "ถนนสายการเมือง" แบบเต็มตัวด้วยการเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทยที่มี "พ่อใหญ่จิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวเรือกู้วิกฤต

แม้ว่าเดิม พล.อ.จิรเดชจะยัง "ชั่งใจ" อยู่ว่าจะเข้าพรรคการเมืองใดดี หรือจะตั้งพรรคการเมืองใหม่กับ "กลุ่มพ้องเพื่อน" โดยเฉพาะความสนิทชิดเชื้อกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ไม่น้อย

แต่สุดท้าย "บิ๊กจ๊อก" ก็ตัดสินใจเลือกเข้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ถือว่าเป็น "ศัตรูหมายเลขหนึ่ง" ของกองทัพมาตลอด

ด้วยเหตุผลใดที่ทำให้นายทหารระดับสูงที่เคยเป็นถึงรอง ผบ.ทบ. และเคยเป็นส่วนหนึ่งในการ "รัฐประหาร" เมื่อครั้ง 19 กันยายน 2549 ซึ่งสมัยเจ้าตัวเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 ก่อนขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ต่อจาก พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตรองปลัดกลาโหม

ทั้งนี้ คงเป็นด้วยส่วนหนึ่งที่ พล.อ.จิรเดชมีความสนิทใกล้ชิดกับ "พ่อใหญ่จิ๋ว" ที่ถือเป็นพ่อใหญ่ที่คอยดูแลบรรดานายทหารเตรียมรุ่น 9 (ตท.9) มานาน โดยเฉพาะแกนนำ ตท.9 อย่าง "บิ๊กแป๊ะ" พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรอง ผบ.ทบ. ที่ถือเป็นพี่ใหญ่ในพ้องเพื่อน ตท.9

ด้วยความที่ พล.อ.จิรเดชก็เป็น ตท.9 เพื่อนสนิทของ พล.อ.วิชิตเช่นกัน ทำให้การตัดสินใจครั้งนี้ "มันคลิกกัน" ได้ไม่ยากนัก

เมื่อ "เพื่อนแป๊ะ" และ "พ่อใหญ่จิ๋ว" ชักชวนมารวมกันทำพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ไม่แปลกที่ พล.อ.จิรเดชจะตอบรับ เพราะเจ้าตัวคลุกคลีอยู่ในวงการเมืองในภาคเหนือ "ยุคทักษิณ" ไม่น้อยเช่นกัน

เหตุผลหนึ่ง คือ พล.อ.จิรเดชมองอนาคตการเมือง หากเลือก "พรรคแม่ธรณีบีบมวยผม" คงยากที่จะเป็นใหญ่ทางการเมือง

และเจ้าตัวเคยปรารภกับ "คนใกล้ชิด" ว่า "ไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์เขาเป็นอย่างไร ขนาดทหารบีบคอให้ยังไม่ชนะเลือกตั้ง แล้วพอมาบริหารประเทศก็ไม่เห็นจะมีอะไรเข้าตาประชาชน"

คงด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ พล.อ.จิรเดชตัดสินใจขอยืนฝั่งตรงข้ามกองทัพ "ยุคน้องป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มาเดินเส้นทางสายการเมืองอย่างแท้จริง

อัลรูไวลี่

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน




หลังยืดเยื้อมาจนเกือบหมดอายุความ 20 ปี ในที่สุดคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย "นายโมฮัมเหม็ด อัล-รูไวลี่" ก็กลับมาสร้างความสะท้านสะเทือนอีกคำรบ

เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ออกหมายเรียก 4 ตำรวจ และ 1 อดีตตำรวจ นำโดย พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 นายตำรวจคนดัง ที่เข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มแรกสมัยเป็นสารวัตรอยู่นครบาล

งานนี้เป็นผลงานทิ้งทวนของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีดีเอสไอ ที่ตอนนี้กลายเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม

พ.ต.อ.ทวีจับคดีนี้มาตั้งแต่ปี 2547 หลังรับคดีนี้มาตามบัญชา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯในขณะนั้น

ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา คดีแม้จะเดินหน้าไปอย่างช้าๆ แต่ก็เป็นระบบ และประสานข้อมูลกับทางการซาอุฯอย่างต่อเนื่อง

งานผ่านมาเป็นขั้นตอนกระทั่งได้หลักฐานสำคัญนำมาสู่การออกหมายเรียก

คดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ ถือเป็น 1 ใน 3 คดีใหญ่ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ ย่ำแย่มาจนทุกวันนี้

อีก 2 คดีที่เหลือคือฆ่านักการทูต และเพชรซาอุฯ

เงินหลายแสนล้านหรืออาจจะเป็นล้านล้านบาทที่ควรจะได้ทั้งจากแรงงานไทยที่ไปทำงานซาอุฯ นับแสนคนช่วงก่อนหน้านี้ และนักท่องเที่ยวเศรษฐีน้ำมันที่จะเข้ามาเมืองไทยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เหลือเพียงความว่างเปล่า

พล.ต.ท.สมคิด ถูกคดีนายอัล-รูไวลี่ ตามหลอกหลอนมาตลอด ตั้งแต่แรกที่ถูกดำเนินคดีก่อนอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่หลังจากนั้นทุกๆ รัฐบาลจะนำคดีเกี่ยวกับซาอุฯ ขึ้นมาสอบสวนทุกคราไป

เส้นทางอาชีพตำรวจของพล.ต.ท.สมคิดจึงค่อนข้างตีบตัน เพราะผู้มีอำนาจก็ไม่กล้าใช้งานหรือให้ไปรับหน้าที่สำคัญ

จนในช่วงที่เกิดการปฏิวัติปี 2549 พล.ต.ท.สมคิด ถึงเริ่มมีบทบาทมากขึ้นจากการที่พี่ชายเป็นหัวหน้าสำนักงาน คมช.

กระทั่งในยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ส่งไปนั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ

เมื่อถูกออกหมายเรียก พล.ต.ท.สมคิดจึงให้สัมภาษณ์อย่างไม่พอใจ และเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้ง

ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านเองก็ได้ทีไล่ถล่มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะประเด็นการย้ายพ.ต.อ.ทวี ออกจากเก้าอี้อธิบดีดีเอสไอ ที่ทำคดีนี้อย่างต่อเนื่อง อาจจะทำให้คดีนี้และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ ที่กำลังดีขึ้นย่ำแย่ลงไปอีก

นายอภิสิทธิ์ต้องพิสูจน์ว่าจริงใจในการคลี่คลายคดีดังกล่าว ด้วยการสนับสนุนการทำงานของดีเอสไอ และจัดการ"ตอ"ที่อาจจะขัดขวางอย่างจริงจัง

ไม่ต้องมาก

แค่ครึ่งเดียวที่เคยทำให้ "นายสนธิ ลิ้มทองกุล" ก็พอแล้ว!?

จาตุรนต์ ฉายแสง พูดถึง"บิ๊กจิ๋ว"-แก้รธน.

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ สัมภาษณ์พิเศษ




บิ๊กจิ๋ว-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คัมแบ๊ก รังเก่าได้ไม่นาน ก็ถูก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รื้อฟื้นความหลังว่าเคยเตือนให้ไตร่ตรองในวันสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย ระวังจะเป็นการทรยศชาติ

จะถอดใจลาออกเหมือนที่โดนเย้ยหยันว่า "ผู้ใหญ่ลา" หรือไม่?

จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย น่าจะวิเคราะห์ได้ดี ในฐานะผู้คุ้นเคยและร่วมงานการเมืองกับพล.อ.ชวลิตตั้งแต่สมัยพรรคความหวังใหม่

แม้จะสงวนความเห็น ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์กรณีพล.อ.เปรม

แต่เจ้าตัววิเคราะห์ถึงการเข้าพรรคเพื่อไทยของพล.อ.ชวลิต พ่วงท้ายประเด็นร้อนแก้รัฐธรรมนูญไว้อย่างน่าสนใจ

-วิเคราะห์การเข้าพรรคเพื่อไทยของพล.อ.ชวลิตอย่างไร

พล.อ.ชวลิตเคยยุบพรรคความหวังใหม่มารวมกับพรรคไทยรักไทย ก่อนตั้งพรรคพลังประชาชนก็เคยไปทาบทามท่านแต่ไม่ลงตัว

ล่าสุดที่ตัดสินใจเข้ามาอีกเป็นเรื่องน่ายินดี เป็นประโยชน์ต่อพรรคเพื่อไทย หากมีระบบการทำงานร่วมกันจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาบ้านเมือง

พล.อ.ชวลิตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคนเคารพนับถือ มีคนพร้อมจะร่วมงานมากพอสมควร ที่สำคัญมีประสบการณ์แก้ปัญหาเรื่องใหญ่ๆ ของประเทศ

ขณะนี้ปัญหาของประเทศต้องการประสบการณ์ของพล.อ. ชวลิตช่วยแก้ไข เช่น ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ท่านเป็นผู้ได้รับการยอมรับมาก เคยร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ เช่น ออกคำสั่ง 66/23 (แนวทางต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์) ที่เปิดโอกาสให้คนที่มีความเห็นขัดแย้งแตกต่างกลับมาอยู่ร่วมกัน แก้ปัญหาโดยไม่ต้องรบราฆ่าฟันกัน รวมทั้งการทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน

-ข้ออ้างเรื่องสมานฉันท์เป็นแบบใด

ท่านพูดเช่นนี้ เพราะอดีตคนเคยรบกันยังสามารถแก้ปัญหาได้ ไม่ใช่ฆ่ากันให้หมด ควรเปิดโอกาสให้มาร่วมมือกัน เท่ากับส่งสัญญาณว่าท่านมีแนวคิดแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยไม่ใช้การประหัตประหารหรือแพ้ชนะกันไปข้างใดข้างหนึ่ง

เป็นเรื่องดี หากปฏิบัติตามแนวทางของท่านจะทำให้การแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมีช่องทางโดยไม่ต้องแตกหัก

-พล.อ.ชวลิตมีคดีสลายม็อบติดตัวจะสมานฉันท์ได้หรือ

เรื่องคดีก็ต้องว่ากันไป คนที่เกี่ยวข้องกับซีกที่ไม่สนับสนุนระบบปัจจุบันมีโอกาสถูกเล่นงานได้มากเสมอ แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในการเมืองต้องพร้อมจะถูกเล่นงาน เป็นเรื่องธรรมดา

นอกจากพล.อ.ชวลิตยังมีอีกหลายคนที่จะถูกเล่นงานต่อโดยกลไกของระบบนี้ ต้องต่อสู้กันไป ส่วนทางการเมืองก็ต้องทำหน้าที่ด้วย

-หลังจากนี้จะเห็นความเปลี่ยนของทิศทางการทำงานพรรค

ท่านอยากให้พรรคเพื่อไทยทำงานเป็นระบบ ร่วมกันตัดสินใจมากขึ้น ถือเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ เพราะจะมีบุคคลหลายคนเข้ามาในพรรค

ถ้าจัดระบบรองรับให้ดี ตัดสินใจร่วมกันโดยคำนึงถึงความเป็นพรรคการเมืองในระบบรัฐสภา คือทำงานให้เข้าตาประชาชน ปรับปรุงบทบาทในสภาให้มากขึ้น รวมถึงเตรียมการนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

-มาช่วยเตรียมวางยุทธศาสตร์สู้ศึกเลือกตั้ง

ต้องเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว คนที่เข้าพรรคการเมืองตอนนี้ซึ่งไม่ใช่ส.ส. ต้องช่วยกันเตรียมการเลือกตั้งครั้งหน้า มาช่วยกันรวบรวมความเห็น ปรับปรุงการทำงาน หากทำตามคำแนะนำของพล.อ.ชวลิตได้จะเป็นเรื่องดี

ผมอยากเห็นพรรคพัฒนาเป็นระบบมากขึ้น จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ส่วนการจัดระเบียบส.ส.ขึ้นอยู่กับพรรค โดยเฉพาะ ระบบที่ต้องตัดสินใจ ชี้แจงสื่อสารการเมืองในทิศทางเดียวกันอย่างมีพลัง

-พล.อ.ชวลิตมาอยู่ยาวหรือแค่ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ไม่ทราบเหมือนกัน ที่ผ่านมามีโอกาสคุยกับท่านบ้างแต่ยังไม่ได้ซักถามอะไรมาก

ส่วนการทำงานร่วมกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ในฐานะประธานส.ส. ไม่น่ามีปัญหาเพราะเคยร่วมงานพรรคความหวังใหม่มาก่อน ตอนมารวมอยู่กับพรรคไทยรักไทย พล.อ.ชวลิตก็มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

ในแง่ตัวบุคคล ไม่ห่วง แต่อยากให้คนในพรรคเพื่อไทยทำ ตามข้อเสนอของพล.อ.ชวลิตให้มากๆ คื เวลาทำงานต้องสื่อสารประสานงานในพรรคให้ชัดเจนว่าตัดสินใจโดยใคร

ไม่ใช่ต่างคนต่างทำหรือทำกระจัดกระจาย จะกลายเป็นปัญหาเหมือนกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้

-มองการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร

ไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้แน่นอน เสียงส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย ต้องรอให้ผ่านการเลือกตั้งครั้งหน้า จากนั้นดูว่าพรรคเพื่อไทยที่เสนอให้นำรัฐธรรมนูญปี"40 จะได้เสียงข้างมากเพียงพอหรือไม่

การแก้ทั้งฉบับหรือเอารัฐธรรมนูญปี"40 มาเป็นหลัก ต้องได้เสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯซึ่งคงไม่พอ ต้องหาผู้สนับสนุนเพิ่มเติมจากพรรคอื่นและส.ว.

วิธีที่อาจเป็นไปได้กรณีเสียงยังไม่พอ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากพอที่จะเป็นรัฐบาลก็สามารถทำประชามติ ถามประชาชนว่าจะแก้ทั้งฉบับโดยเอาปี"40 หรือ ปี"50 เป็นหลัก ถ้าประชาชนเห็น ด้วยว่าให้เอาปี"40 ก็จะเกิดขึ้นได้ แต่ต้องรณรงค์อย่างกว้างขวางและจริงจัง

ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจับประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญอยู่บ้างแต่ยังไม่ค่อยเน้น การเคลื่อนไหวนอกสภาหรือกลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่ค่อยพูดเรื่องรัฐธรรมนูญ เพิ่งมาพูดเมื่อวันที่ 11 ต.ค.

ถ้าทั้งสองส่วนทำอย่างจริงจัง มีแนวร่วมกว้างขวาง ทำความเข้าใจกับประชาชนให้มาก อาจเดินไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญโดยเอาฉบับปี"40 เป็นหลักได้สำเร็จ

แต่หากไม่เคลื่อนไหวจริงจังคงเกิดขึ้นได้ยาก บางทีประเทศอาจเจอวิกฤตก่อนทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองขัดแย้ง ประชา ชนเดือดร้อน รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ ทหารอาจฉวยโอกาสยึดอำนาจฉีกรัฐธรรม นูญอีกก็เป็นได้

ฉะนั้นโอกาสแก้ทั้งฉบับได้สำเร็จดูแล้วไม่มากเท่าไหร่

-เค้าลางการแก้ไขรัฐธรรมนูญริบหรี่

ยากมาก ประชาธิปัตย์เองก็ไม่อยากแก้ ให้แกนนำระดับอดีตหัวหน้าพรรคออกมาพูดเป็นระยะๆ ว่าไม่เห็นด้วย ประกอบกับท่าทีของนายกฯ ที่พูดกลับไปกลับมาว่าจะเอา 2 ประเด็น หรือจะทำประชามติก่อนนั้น

ยิ่งชัดเจนเมื่อพรรคเพื่อไทยบอกว่า ไม่ร่วมสังฆกรรมกับวิป 3 ฝ่าย นายกฯ รีบบอกทันทีว่าจะแก้ทำไม เหมือนเข้า ล็อกและตรงกับสิ่งที่นายกฯต้องการเพราะเมื่อฝ่ายค้านประกาศเช่นนั้น นายกฯก็โล่งอกว่าไม่ต้องแก้รัฐ ธรรมนูญ

เป็นข้อพิสูจน์ว่านายกฯไม่ต้องการแก้ ดังนั้นจะไปโทษพรรคเพื่อไทยก็ไม่ถูก

แต่บังเอิญพรรคเพื่อไทยไปพูดจนสับสนว่าการแก้ 6 ประเด็นทำตามพรรคประชาธิปัตย์กับรัฐบาล

ทั้งที่ความจริงเขาไม่ต้องการแก้โดยให้เหตุผลว่าหากทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ฝ่ายค้านไม่ต้องการแก้ เขาจะยกเป็นข้ออ้างว่าที่แก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรคเพื่อไทย

แนวโน้มจึงยากมากขึ้นที่จะแก้ไข ยกเว้นลงประชามติระหว่างปี"40 หรือปี"50 ว่าเห็นด้วยกับกรรมการสมานฉันท์ฯ หรือไม่ ถ้าประชาชนลงมติว่าให้แก้ ฝ่ายรัฐสภาอาจต้องทำตาม แต่ยากมากการทำประชามติก็จะโต้แย้งกันอีกว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

-สมาชิก 111 อยู่เบื้องหลังการกลับมติแก้รัฐธรรมนูญ

ท่าทีของพรรคเพื่อไทยที่เปลี่ยนไป ตอนแรกสนับสนุนแนว ทางคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ร่วมมือกับวิป 3 ฝ่าย ต่อมากลับลำโดยโทษว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เกี่ยวข้องนั้น

ความจริงแล้วแกนนำพรรคเพื่อไทยไปขอแรงและเชิญเขามาช่วยให้คำแนะนำ ดังนั้นต้องไปตกลงกันให้ชัดเจนว่ามติพรรคจะเกิดจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค หรือมติของที่ประชุมส.ส. กันแนˆ

-ข้อแนะนำที่จะเป็นทางออก

พรรคเพื่อไทยต้องสรุปบทเรียนการตัดสินใจ ร่วมมือกับฝ่ายอื่นๆ ในสภาในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน รวมถึงพรรค กลุ่มคนเสื้อแดง หรือฝ่ายต่างๆ ควรเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง ในยกนี้ข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เป็นไปได้มากแล้ว

อาจลำบากที่จะบีบให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว แต่อย่างน้อยสังคมจะได้รับรู้ว่ารัฐบาลคิดอย่างไร เปิดเผยความไม่จริงใจออกมาได้เร็วแค่ไหน สุดท้ายก็จะเห็นความไม่จริงใจนี้ รวมความแล้วการแก้รัฐธรรมนูญจะไม่เกิดขึ้น

รัฐบาลต้องถอยกลับไปนับที่ศูนย์ใหม่ กลายเป็นวังวนเดิมๆ ไม่สิ้นสุด

ต้อนรับไตรรงค์

ที่มา เดลินิวส์

บังเอิญมากเลย มีระเบิดแสวงเครื่องลงหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. จับมือใครดมไม่ได้ แต่รัฐบาลมาร์คถือโอกาสประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงในเขตดุสิต ตั้งแต่ 15 ต.ค.-25 ต.ค.ทันที

ตอน 7 ต.ค.ม็อบเสื้อเหลืองชุมนุม ลานพระบรมรูปฯ สบายมาก พลอยให้เสื้อแดง ที่ชุมนุมต่อหลังจากนั้น 11 ต.ค. ได้เกาะชายผ้าเหลืองด้วย

คงใจไม่ด้านพอ จะใช้ กฎหมาย 2 มาตรฐาน ที่เห็นกันทั้งโลก ต้องจำใจปล่อยผีซักครั้ง

คราวนี้ได้ที จะมีประชุมอาเซียนซัมมิทหัวหิน 23-25 ต.ค. เลยประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงใน กทม.ซะเลย เพราะม็อบเสื้อแดงจะชุมนุม 17 ต.ค. และ 24 ต.ค. อ้างมีเหตุร้ายยึดทำเนียบฯ (แต่คนยึดจริง ลอยนวล)

แล้วบ้านเมืองจะสันติสุขได้ยังไง เมื่อความเป็นธรรม ไม่เกิด

ที่จริง วันนี้ตั้งใจจะเขียนถึงเรื่อง อาจารย์ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่มาแทน กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ซึ่งโยกไปเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแทน นิพนธ์ พร้อมพันธุ์

เป็นดอกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์จากฮาวาย

แต่ที่สำคัญคือ มีวุฒิภาวะ ใจกว้าง มีเมตตา แถมมีอารมณ์ขัน อภิปรายทีไร หัวเราะกันครืน เพราะชอบติเพื่อก่อ เพื่อนสื่อเลยเพียบ

หาใครเกลียดอาจารย์ไตรรงค์ได้ลงคอ ลำบากมาก !!!

แต่ถึงจะมีอารมณ์ขัน ก็ใช้หลักการนะ ไม่ใช่หลักกู ยกตัวอย่างซัก 2 เรื่อง เป็นไง

เรื่องล่าสุด ประธานสภา จะเอาเงิน 160 ล้านไปทำโครงการส่งเสริมประชาธิปไตยให้กำนันผู้ใหญ่บ้านพูดตรง ๆ จะเอาเงินไปหาเสียงกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน นั่นล่ะ

ในฐานะรองประธานกรรมาธิการงบประมาณสภา ก็ไม่ให้ ผิดกฎหมาย ทั่นประธานโกรธมาก เลยไม่ยอมบรรจุวาระงบประมาณเข้าสภา

แถมไปฟ้องนายกฯ ต้องเอางบกลางสำนักนายกฯให้แทน เพื่อยุติศึก

ยังมีอีก สมัยหนึ่งชอบมีจดหมายน้อยจาก อดีตหัวหน้าพรรค (เป็นใครไปถามกันเอง) ส่งมาตอนอภิปราย ให้ด่าคนนั้น ด่าคนนี้ อาจารย์บอก ตรูก็มีความรู้ จบดอกเตอร์ เรื่องอะไรให้มาจูงจมูกง่าย ๆ (วะ)

ยกมา 2 เรื่องพอหอมปากหอมคอ ให้เห็นตัวตนคนชื่อ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี หรือ สามสี ภูเขาทอง ในมุมที่พอรู้จักกันมานานหลายสิบปี

กล้าบอกได้เลยว่า นายกฯมาร์ค โชคดีมาก ที่ได้ ดร.ไตรรงค์ มาเป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ.

ดาวประกายพรึก

เสื้อแดงทยอย ร่วมชุมนุม คุมเข้มทำเนียบ

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_40265

กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนเริ่มทยอยเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ หลังการตั้งเวทีปราศรัยแล้วเสร็จเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ส่วนด้านในทำเนียบรัฐบาล มีกำลังเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังดูแลเข้ม.....

ผู้สื่อข่าวรายงานเช้าวันนี้(17 ต.ค.)ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนเริ่มทยอยเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ หลังการตั้งเวทีปราศรัยแล้วเสร็จเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ของกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ช่วยกันติดตั้งเครื่องขยายเสียงและไฟส่องสว่างเวทีปราศรัย บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก โดยเปิดช่องทางการจราจรบนถนนพิษณุโลก 1 ช่องทาง ให้ยานพาหนะแล่นผ่านได้ ซึ่งล่าสุดพบว่าผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มเดินทางมาปักหลักบริเวณนัดหมาย ก่อนที่การชุมนุมจะเริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น.ของวันนี้

ส่วนด้านในทำเนียบรัฐบาล มีกำลังตำรวจคอยสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวและอารักขาสถานที่อย่างเข้มงวด หลังรั้วลวดนาม พร้อมด้วยรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการเตรียมกำลังตำรวจ ทหาร กว่า 6,600 นาย คอยรักษาความสงบเรียบร้อยของสถานที่สำคัญทั้งทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ และสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้งมีการตั้งจุดตรวจรอบทำเนียบรัฐบาลจำนวน 8 จุด และมีการบันทึกคำปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย

พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า มาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนี้ ภายใต้การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่เขตดุสิต ทางเจ้าหน้าที่จะตรึงกำลังเข้มตามจุดต่าง ๆ และจุดตรวจร่วมทั้ง 8 จุด ซึ่งสถานการณ์โดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย.

แค่เพื่อนไม่ใช่ 'ลูกป๋า'

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_40203

ฟังให้ดีๆแค่ในฐานะเพื่อนนะ ไม่ใช่ "ลูกรักคนหัวปีของป๋า"

โดยสัญญาณที่จับอารมณ์ได้จากประโยคคำพูดของ "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่สื่อสารไปถึง "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหอกพรรคเพื่อไทย

เป็นอะไรที่ตอกย้ำถึงคำเตือนแรงๆ

"บิ๊กจิ๋ว" เข้าพรรคเพื่อไทยต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ ระวังจะเป็นคนทรยศชาติ

"ป๋าเปรม" ส่งสัญญาณคลื่นความถี่สูงเลย


และตามรายงานบรรยากาศเบื้องหลังของนักข่าว คิวนี้ "ป๋าเปรม" ขอกำกับคิวเอง แสดงความประสงค์ชัด "ผมจะไม่ให้สื่อมวลชนตั้งคำถาม แต่ผมจะพูดเรื่องจิ๋วเอง"


สรุปว่า "ตั้งใจมาตั้งแต่บ้านเลย"


แน่นอน ระดับนี้ตั้งท่าส่งสารทางอากาศถึงกัน มันต้องมีนัยอยู่แล้ว


ที่แน่ๆโดยจังหวะที่บังเอิญพอดี "ป๋าเปรม" ออกมาพูดถึง "บิ๊กจิ๋ว" ก่อนหน้า 2 วัน ที่กองทัพเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 17 ตุลาคม ทวงถามความคืบหน้าของการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ถือเป็นคิวประเดิม "บิ๊กจิ๋ว" รับบทแม่ทัพใหญ่พรรคเพื่อไทย แท็กทีมกับทีมงานหัวแถว "จปร.7" ทั้ง พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.รมน. ไม่นับคิวของขุนพลเตรียมทหารรุ่น 10 ที่เพิ่งตบเท้าร่วมทีมกับนายใหญ่


ชักแถวรวมพล "ทหารเฒ่าไม่มีวันตาย"

ตามสถานการณ์ "เบื้องลึก" ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็หวั่นอกหวั่นใจ เช็กความชัวร์กับบรรดาแกนนำตัวจริงเสียงจริงของพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันร่วมโต๊ะอาหารที่บ้านพิษณุโลก อ่านกันตามประสบการณ์จะมีอะไรในกอไผ่มั้ย

ที่แน่ๆมีการต่อสายเช็กกับทีมงานฝ่ายความมั่นคงตลอดเวลา

เอาเป็นว่า ถ้าวันที่ 17 ตุลาคม มีเหตุป่วนเหนือความคาดหมาย


โดยจังหวะที่ "ป๋าเปรม" ออกมาดักหน้าไว้ เครื่องหมายคำถามก็คงจะพุ่งไปที่ตัวละครเอกอย่าง "บิ๊กจิ๋ว" อย่างเลี่ยงไม่ได้

คิวนี้บรมเซียนรุ่นเก๋าเขา "แก้เหลี่ยมสนุ้กเกอร์" กัน


แต่ทั้งหมดทั้งปวง ตามสัญญาณที่จับได้ ไล่กันตั้งแต่นาทีที่ "บิ๊กจิ๋ว" หวนคืนสังเวียนรับบทแม่ทัพเครือข่ายนายใหญ่ ก่อนจะส่งซิกไปหา "ป๋าเปรม" ทำนองน้อยอกน้อยใจ "ป๋าเปรม" ปิดประตูใส่ ไม่รับเข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์

แม้แต่ตอนลาบวชยังไม่ได้เข้าขออโหสิกรรม

ทำให้ "โซ่ข้อกลาง" ขึ้นสนิม จำเป็นต้องเลือกข้างมาอยู่กับฝ่าย "ทักษิณ" เพื่อหาช่องทางเจรจาไปสู่เป้าหมายสมานฉันท์กันใหม่


และก็เป็น "ป๋าเปรม" ที่ตั้งใจออกมาส่งสัญญาณแรงๆกลับ เคยเตือน "บิ๊กจิ๋ว" แล้วก่อนที่จะตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทยให้คิดดีๆ ระวังจะเป็นคนทรยศชาติ

แต่แค่พูดในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ลูกรัก

บ่งบอกระยะห่าง ความสัมพันธ์ "ป๋าเปรม-บิ๊กจิ๋ว" ไม่เหมือนครั้งอดีตอีกต่อไป

สถานการณ์กลับมา "เขม็งเกลียว"

โดยยุทธศาสตร์หนีไม่พ้น ลุ้นระทึกเกมกดดัน "วัดใจ"

ต้องมีรายการ "ปล่อยของ" ประลองกำลัง หยั่งเชิงกันแน่

และล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ บอกแฟนๆตอนนี้บินไปตากอากาศอยู่แถวๆประเทศปาปัวนิวกินี

ในจังหวะกองทัพเสื้อแดงรวมพล "ทักษิณ" ออกจากฐานที่มั่นเมืองดูไบ

ยิ่งเร้าอารมณ์กันไปใหญ่

และโดยปรากฏการณ์ที่ส่อเค้าจะเลยเถิด กับ "ข่าวลืออัปมงคล" ที่จงใจปล่อยออกมาจากสำนักข่าวต่างประเทศ เข้ามาป่วนเมืองไทย

กระตุกขวัญพวกหูเบา

โดยผลที่แรงตามคาด ทุบตลาดหุ้นรูดไป 50 กว่าจุด ภายใน 2 วัน

มาร์เก็ตแคปหายไป 4 แสนกว่าล้านบาท

การเมืองไร้อนาคต เศรษฐกิจแทบจะปิดฉากเลย.


ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ประตูลงกลอน

ที่มา ไทยรัฐ

ถ้าไม่มีวาระจำเป็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีละรัฐบุรุษจะไม่ออกมาพูดเปิดใจเรื่องส่วนตัว
แต่ครั้งนี้มี "วาระจร" ที่ "ป๋าเปรม" จำเป็นต้องชี้แจงเรื่องสำคัญ

เพราะถ้าไม่รีบออกมาชี้แจง สังคมอาจจะตีความไปใหญ่โต

"วาระจร" คือประเด็นร้อนๆที่ "พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ" ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย พูดพาดพิงถึง "ป๋่าเปรม" โดยตรง

เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ 2 คน ที่เคยรู้ใจกันมายาวนาน แต่ช่วงหลังๆจูนเคลื่อนความถี่ไม่ตรงกัน จึงต้องใช้การสื่อสารผ่านสื่อมวลชน

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ "ป๋าเปรม-บิ๊กจิ๋ว" ที่เคยสนิทแนบแน่นต้องเปลี่ยนแปลง

คือการที่ "บิ๊กจิ๋ว" เลี้ยวยูเทิร์นไปรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ตามคำขอร้องของ "อดีตนายกฯทักษิณ" หัวหน้า พรรคตัวจริง

ก็เท่ากับบิ๊กจิ๋วเปลี่ยนบทบาทจากโซ่ข้อกลางไปเป็นฝ่ายทักษิณเต็มตัว

"บิ๊กจิ๋ว" ชี้แจงว่า การตัดสินใจเข้าไปถือหางเสือพรรคเพื่อไทย ก็เพื่อผลักดันแนวทางสมานฉันท์แก้ปัญหาแตกแยกในสังคมไทย

"บิ๊กจิ๋ว" บอกว่า ได้ขอเข้าพบ "ป๋าเปรม" เพื่อขอกราบเรียนชี้แจงเหตุผลที่รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย

แต่ก็ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพบเหมือนเดิม

ตอนที่ "บิ๊กจิ๋ว" จะลาบวช ก็ได้ติดต่อขอไปกราบอโหสิกรรม "ป๋าเปรม" ตามประเพณี

ก็ถูก "ป๋าเปรม" ปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย

"บิ๊กจิ๋ว" ยืนยันว่า ถึงแม้สถานการณ์ เปลี่ยนไป แต่ยังรักเคารพ "พล.อ.เปรม" ไม่ เปลี่ยนแปลง

คำพูดของ "บิ๊กจิ๋ว" จึงทำให้ "ป๋าเปรม" ต้องออกมาเปิดใจ

"ป๋าเปรม" ยอมรับเป็นเพื่อนรักกับ "บิ๊กจิ๋ว" มาหลายสิบปี ได้เคยร่วมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองมาแล้วมากมาย

ถึงวันนี้ ความเป็นเพื่อนก็ยังมีเหมือนเดิม

เมื่อเห็นว่า "เพื่อน" จะทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ในฐานะเพื่อนก็ต้องเตือนด้วยความหวังดี

ป๋าเปรม ยอมรับว่าตอนที่มีข่าวว่า "บิ๊กจิ๋ว" จะรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย "ป๋า" ได้ฝากคนใกล้ชิดไปเตือน "จิ๋ว" ให้คิดรอบคอบไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินใจ

ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นคนทรยศชาติบ้านเมือง??

การที่ "ป๋าเปรม" เตือนแรงขนาดนี้ ก็หวังให้ "บิ๊กจิ๋ว" ถอนตัว

แต่เสียงเตือนแรงๆจาก "ป๋าเปรม" ก็ไม่ทำให้ "บิ๊กจิ๋ว" เปลี่ยนใจ

อย่างไรก็ดี ป๋าเปรม ยังพร้อมเปิดประตูบ้านสี่เสาให้ บิ๊กจิ๋ว ในฐานะเพื่อนเก่า เข้าพบเช่นเดิม

เพียงแต่ "ป๋า" เห็นว่าสถานการณ์ช่วงนี้ยังไม่เหมาะที่ "เรา" จะพบกัน

และถ้าจะพบก็มีเงื่อนไขว่าป๋าจะไม่พูดเรื่องการเมือง

ถ้าจะเจรจาเรื่องการเมือง ประตูบ้านสี่เสาปิดล็อกกุญแจ!!

แปลไทยเป็นไทยก็คือ "ป๋าเปรม" กับ "บิ๊กจิ๋ว" จบกันอย่างสิ้นเชิง

ความจริงมันจบไปแล้วตั้งแต่ "บิ๊กจิ๋ว" รับตำแหน่งรองนายกฯในรัฐบาลสมชาย

เข้าตำรา สายน้ำไม่ไหลกลับ ความสัมพันธ์ไม่หวนคืน

"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่า "ป๋าเปรม" กับ "บิ๊กจิ๋ว" คือลูกพี่ลูกน้องที่เติมเต็มส่วนขาดของกันและกัน

ผลสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของนโยบาย 66/23 คือสิ่งยืนยันที่เห็นชัดเจน

"บิ๊กจิ๋ว" ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ตั้งแต่อายุ 53 ปี เพราะ "ป๋าเปรม" ผลักดัน

"ป๋าเปรม" ได้นั่งเก้าอี้นายกฯยาวถึง 8 ปี ก็เพราะ "บิ๊กจิ๋ว" เป็นผู้ค้ำบัลลังก์

"ป๋าเปรม" เป็นนายกฯ 8 ปี ไม่เคยถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะ "บิ๊กจิ๋ว" เดินเกมใต้ดินเคลียร์ให้ "ป๋า" ได้ทุกที

เรื่องนี้ต้องให้ "ปู่ชัย ชิดชอบ" ช่วยยืนยัน.


แม่ลูกจันทร์

หน่วยข่าวหวั่น ม็อบ17ต.ค. ป่วนถกอาเซียน

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_40230

หวั่นรัฐบาลปิดกั้นม็อบ นปช.17ต.ค.ชนวนขัดขวางประชุมอาเซียน หากรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ อาจมีสมาชิกหลายประเทศยกเลิกการเดินทางเข้ามาร่วมประชุมอาเซียน....

จากการประชุมร่วมกันประเมินสถานการณ์รักษาความปลอดภัยการประชุมอาเซียน ครั้งที่ 15 ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบศิรีขันธ์ ที่ศูนย์ร่วมหน่วยข่าวเฉพาะกิจการประชุมอาเซียน อ.หัวหิน จ.ประจวบศิรีขันธ์ โดยมีหน่วยข่าวทหารเป็นเจ้าภาพ และตัวแทนของเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านข่าวกรองทุกหน่วยเข้าร่วมประชุม ได้แก่ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ หน่วยข่าวทหารทุกเหล่า หน่วยข่าวกระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ ตำรวจสันติบาล และตำรวจภูธรภาค 7 เจ้าของพื้นที่

โดยจากการประเมินสถานการณ์ทุกฝ่ายมั่นใจไม่มีเรื่องการก่อการร้าย และการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนในพื้นที่ โดยสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายเป็นห่วงคือการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ที่มีการเคลื่อนไหวขัดขวางกิจกรรมของฝ่ายรัฐบาล และการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ กทม. ซึ่งเท่ากับเป็นการขัดขวางการเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นของกลุ่มเสื้อแดง ยั่วยุจนจนทำให้ต้องเคลื่อนการชุมนุมเข้ามาขัดขวางการประชุมอาเซียน โดยเจ้าหน้าที่ข่าวทุกหน่วยชี้ว่าสถานการณ์ชุมนุมวันที่ 17 ต.ค.2552 ของกลุ่มนปช.เป็นเครื่องชี้วัดว่ากลุ่มนปช.เข้ามาขัดขวางการประชุมอาเซียนหรื่อไม่ เนื่องจากนโยบายปิดกั้นการชุมนุมของรัฐบาล เพราะผู้นำและรมว.ประเทศสมาชิกอาเซียนเฝ้าติดตามข่าวเรื่องนี้ หากรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้อาจมีสมาชิกหลายประเทศยกเลิกการเดินทางเข้า มาร่วมประชุมอาเซียน.

แผนการประชาธิปไตยอาเซียน ต่อการเลือกตั้งที่บริสุทธิยุติธรรมของ 10 ประเทศสมาชิก

ที่มา ประชาไท

เพื่อไม่ให้ประเด็นสำคัญของอาเซียนในเรื่องสิทธิทางการเมืองต้องถูกละเลย และเพื่อให้ประชาชนใน 10 ประเทศสมาชิกได้รับรู้การทำงานเชิงรุกของนักสังเกตการณ์นานาชาติว่ามองการปฏิรูปทางการเมืองของประเทศในอาเซียน ต่อการเลือกผู้แทนเข้าสู่สภาโดยรวมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไว้อย่างไร

เมื่อเดือนเมษายน 2552 ทางคณะผู้แทนผู้สังเกตการณ์นานาชาติของอันเฟรลได้ยื่นหนังสือโดยตรงให้กับ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา เพื่อเรียกร้องให้อาเซียนคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งสู่การเมืองที่มีมาตรฐาน ให้ทุกประเทศจัดตั้งองค์กรอิสระด้านการเลือกตั้ง เพื่อจัดการเลือกตั้งที่โปร่งใสบริสุทธิยุติธรรม และเป็นการตรวจสอบถ่วงดุลย์ในทางการเมืองอย่างจริงจัง
อันเฟรลได้แยกระดับสถานะของประเทศอาเซียนในมิติทางการเมือง ซึ่งพอจะจำแนกประเทศออกเป็น 4 กลุ่มคือ
1. ประเทศที่มีกระบวนการประชาธิปไตยที่ก้าวหน้า เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย
2. ประเทศที่ถูกครอบงำและผูกขาดโดยพรรคการเมืองพรรคเดียว เข่น สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และกัมพูชา
3. ประเทศสังคมนิยม เช่น เวียดนาม และลาว
4. รัฐทหาร เช่น พม่า/ เมียนมาร์
เป็นที่น่าห่วงว่าในบรรดาประเทศมากกว่ากึ่งหนึ่งยังมีปัญหาในเรื่องลัทธิการปกครอง โครงสร้างทางการเมืองและระบบการเลือกผู้นำเข้าสู่อำนาจที่ยังมีระดับความต่างกันมาก ที่ร้ายไปกว่านั้นเรายังสัมผัสได้ว่าทุกประเทศมีปัญหาด้านการเลือกตั้ง ที่ไร้มาตรฐานจนน่าตกใจ อีกทั้งคุณภาพของผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำ ไม่ให้ความสำคัญของสิทธิทางการเมือง มีประชาชนน้อยมากที่สามารถโยงใยสิทธิทางการเมืองเข้าสู่สิทธิมนุษยชน ส่วนใหญ่จะแยกภาพสองภาพออกจากกัน
ประเทศซึ่งถูกจัดประเภทที่ 2,3,4 ข้างต้นยังตกอยู่ในสภาพที่ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน มีเสรีภาพมากน้อยตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังขาดการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากรัฐและ กกต.ของประเทศ ยังมีกฏหมายจำกัดฝ่ายค้านหลายรูปแบบ จำกัดสื่อ ไม่สามารถสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งที่ปลอดจากการข่มขู่คุกคาม ไม่มีกลไกทางกฎหมาย ข้อบัญญัติ การบังคับใช้กฎหมาย และระบบความปลอดภัยใน การบริหารจัดการการเลือกตั้ง ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน กัมพูชา เวียดนาม ลาว และพม่า ยังไม่เข้าใจว่าการวางตัวให้เป็นกลางทางการเมืองนั้นเป็นอย่างไร จะเห็นว่าพรรคการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาลจะเป็นพรรคของกลุ่มอำนาจเดิมๆ และกุมอำนาจตลอดไปอย่างเช่นที่เกิดในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดประเทศไทย เป็นต้น
นอกจากนั้นนักการการเมืองของทั้ง 10 ประเทศ มักฉวยโอกาสอาศัยความรู้น้อย ของประชาชนที่ส่วนใหญ่ยังยากจน ไร้การศึกษา ไม่ได้ติดตามเบื้องหน้าเบื้องหลังของนักการเมือง คอยบิดเบือนความจริง และคอยยัดเยียดวัฒนธรรมการคอรัปชั่นด้วยการให้เงินซื้อเสียงอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เรื่องนี้คนในประเทศสิงคโปร์และบรูไนอาจจะเถียงว่าสังคมของตนไม่สนใจการซื้อเสียง เพราะไม่ใช่สังคมยากจน แต่คงไม่มีใครโต้แย้งว่ารัฐบาลประเทศนี้ได้ใช้กลไกอื่นที่ได้เปรียบอยู่แล้วในการชิงชัยชนะทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องใช้เงินแจกโดยตรง
ในเรื่องขององค์กรอิสระ เราคงทราบกันดีว่า ประเทศไทย อินโดนีเชีย และฟิลิปปินส์ดูจะเป็นประเทศที่มี กกต. ทีมีมาตรฐานมากขึ้น และมีอำนาจมากกว่าประเทศอื่นๆ แต่ที่ผ่านมา กรรมการ กกต.ไทยและอินโดนีเชียก็ถูกศาลตัดสินลงโทษเสียเองหลายคน ซึ่งสิบปีที่ผ่านมาได้สะท้อนให้เห็นว่า ตัวบุคคลที่จะเข้ามาทำงานอย่างโปร่งใส จริงจัง และเป็นกลางเป็นเรื่องที่อาเซียนเราเองต้องเรียนรู้อีกมาก
มีผู้สังเกตการณบางคนเคยพูดไว้ว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบโครงสร้างทางประชาธิปไตยกับการเลือกตั้ง (โดยไม่พูดถึงความรุนแรงในประเทศ) โดยภาพรวม เราคงไม่ต้องไปเทียบกับกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป แต่ลองเรียนรู้โครงสร้างทางประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของ 8 ประเทศสมาชิกของเอเชียใต้หรือ SAARC ดูก่อนจะดีกว่า”
อันเฟรล ได้เสนอ “แผนการเดินทางของอาเซียน” หรือ ASEAN Road Map ไปแล้ว ดังนี้คือ
· รัฐบาลของสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ ควรให้สัตยาบันต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง อย่างไม่มีเงื่อนไข รวมถึงการพัฒนากลไกระดับชาติ ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
· ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้มีความยืดหยุ่น เปิดกว้างขึ้น และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม และลาว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรัฐบาล โดยการใช้สิทธิออกเสียงโดยตรง หรือ เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือเป็นผู้ปฏิบัติงานในพรรคการเมือง ได้โดยไม่มีข้อจำกัด
· ให้ทุกประเทศได้จัดตั้งองค์กร หน่วยงานที่เป็นอิสระในการบริหารจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเสรี เป็นธรรม และด้วยความโปร่งใส
· กองทัพ หน่วยงานภายใต้สถาบันทางการทหาร จะต้องจัดวางบทบาทให้ออกห่างจาก การครอบงำการเลือกตั้ง และเปิดโอกาสให้กฎระเบียบพลเรือนได้วิวัฒนาการอย่างเป็นอิสระ ระบบการเลือกตั้งจะต้องไม่อนุญาตให้มีผู้แทนของหน่วยงานทหารใด ๆ มีที่นั่งอยู่ในรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นสภาสูงหรือสภาล่าง ผู้แทนทั้งหมดในประเทศอาเซียนจะต้องได้มา โดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ที่เป็นประชาธิปไตย และเป็นธรรมเท่านั้น นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องสรุปทบทวนบทบัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญ กฏหมาย ระเบียบปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
· มีการจัดทำสำมะโนประชากร และลงทะเบียน ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนอย่างถูกต้อง เป็นระยะ ๆ
· เคารพในเอกสิทธิ์ส่วนบุคคล ความลับในการลงคะแนนเสียง ความเสมอภาคของผู้มีสิทธิออกเสียง
· เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ และ องค์กรฝ่ายบริหารของรัฐ จะต้องวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด และไม่ฝักใฝ่ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในระหว่างการเลือกตั้ง
· จะต้องจัดให้มีการศึกษาในเรื่องการมีส่วนร่วมในการปกครองระบอบประชาธิปไตยสำหรับผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
· การมีส่วนร่วมของสตรีในทางการเมือง ควรดำเนินไปในทุกระดับชั้น และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และอาจจัดให้มีระบบสัดส่วนของสตรี ชนกลุ่มน้อย กลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อประกันการมีส่วนร่วม ของบุคคลผู้ด้อยอำนาจและโอกาสดังกล่าวข้างต้น
· สิทธิในการใช้สิทธิออกเสียงของประชาชนทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร ผู้ต้องโทษ ผู้นำศาสนา และพระภิกษุสงฆ์
· โอกาสที่เท่าเทียมกันในการทำการรณรงค์หาเสียง ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่ส่ง ผู้แทนลงสมัครรับเลือกตั้ง
ขจัดปัญหา
· เงื่อนไข หรือกฎหมายในบางประเทศยังคงปิดกั้นการใช้สิทธิออกเสียงของประชาชน อาทิ เช่น พระราชบัญญัติความมั่นคงในราชอาณาจักร พระราชกำหนดบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก เป็นต้น
· เงื่อนไข ข้อจำกัด บางประการที่อาจบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือการใช้อำนาจของกองทัพ อย่างผิดกฎหมาย รวมถึงคำสั่ง หรือประกาศของคณะรัฐประหาร
· การเลือกปฏิบัติต่อสตรี ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ในกระบวนการทั้งหมดของการเลือกตั้ง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายนี้ได้มีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเท่าเทียมกับกลุ่มอื่น ๆ
· การละเว้น ยกเลิก การนิรโทษกรรม การกระทำความผิดต่อการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งจะต้องดำเนินการภายใต้บรรยากาศที่ปลอดจากสภาวะ ความรุนแรง และความหวาดกลัว การซื้อขายเสียง และระบอบธนาธิปไตย (ใช้เงินทุ่มซื้อคะแนนเสียง) ไม่ควรยอมให้ผู้ใช้สิทธิออกเสียงที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดมาลงคะแนนเลือกตั้ง และห้ามใช้สิทธิแทนญาติตนเอง
บังคับใช้กฎหมาย
กฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ให้หลักประกันในการดำเนินกิจกรรม ที่มีความปลอดภัย และ ส่งเสริม ประชาธิปไตย
ส่งเสริม
· เสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมโดยสงบและสันติ เสรีภาพในการเคลื่อนไหว จัดกิจกรรมทางสังคมการเมือง
· ความสามารถของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มรูปแบบ และมีความสมดุลย์
· เสรีภาพของสื่อสารมวลชน และผู้สื่อข่าว
· เสรีภาพในการพิจารณาตัดสินใจ
· ให้มีผู้ใช้สิทธิออกมาลงคะแนนมากๆ ในทุกพื้นที่ของการเลือกตั้ง
สร้างความเข้มแข็ง
· ให้กับภาคประชาสังคม ได้มีส่วนร่วมในประชาธิปไตย การติดตาม ตรวจสอบ และการถ่วงดุลย์
สนับสนุน
· ให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนครั้งแรก และผู้มีสิทธิที่เป็นสตรีเพศ ได้ใช่วิจารณญานในการตัดสินใจ ลงคะแนนให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมือง ด้วยตนเอง
ป้องกัน
· มิให้เด็กมีบทบาทโดยตรงในสถานการณ์ความขัดแย้ง หรือรณรงค์ทางการเมือง หรือการเดินขบวนที่เสี่ยงต่ออันตราย
จัดตั้ง
· กลไกสนับสนุนผู้ใช้สิทธิออกเสียงที่อยู่ในต่างแดน หรือการใช้สิทธิลงคะแนนทางไปรษณีย์
· กลไกในการร้องเรียนกรณีกระทำผิดต่อการเลือกตั้ง และการรับเรื่องราวร้องทุกข์สนองตอบผู้ร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ
อนุญาตให้
· มีผู้สังเกตการณ์ในระดับท้องถิ่น ในการติดตาม ตรวจสอบ และสอดส่องดูแลกระบวนการเลือกตั้ง อย่างเป็นระบบ
· เปิดโอกาสให้มีผู้สังเกตุการณ์การเลือกตั้งจากนานาชาติ ได้เข้ามาร่วมติดตาม ตรวจสอบ และสอดส่องดูแลการเลือกตั้ง อย่างเปิดเผย โปร่งใส และไม่มีการปิดกั้นใด ๆ
ข้อเสนอแนะดังกล่าวมาทั้งหมด มีความมุ่งหวังที่จะทำให้ประชาธิปไตยในการเลือกตั้ง ได้เป็นหัวใจสำคัญในการ สร้างความเข้มแข็งให้กับกระบวนการ ประชาธิปไตยในภูมิภาคอาเซียน ข้อเสนอแนะดังกล่าวนี้ อาจนำมาสู่การ จัดตั้งกลไกในเชิงโครงสร้าง เพื่อการส่งเสริมให้เกิดการเลือกตั้งที่เสรี และเป็นธรรม อันจะเป็นปัจจัยที่สำคัญ ยิ่งต่อประชาธิปไตย ในภูมิภาคอาเซียน

กลุ่มประชาชนร่อนแถลงการณ์ อย่าใช้ความรุนแรงกับม็อบเสื้อแดง สะกิดเอ็นจีโอ นักวิชาการ อย่า 2 มาตรฐาน

ที่มา ประชาไท

องค์กรนักศึกษานำโดย สนนท. นักวิชาการ นักกิจกรรมสังคม นักสหภาพแรงงาน องค์กรภาคประชาชน ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม นปช.เสื้อแดง ในการจัดชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 17ตุลาคมนี้ จี้รัฐบาล สื่อ เอ็นจีโอ-องค์กรสิทธิ-นักวิชาการ อย่า 2 มาตรฐานกับม็อบ

ทั้งนี้กลุ่มประชาชนที่ร่วมกันออกแถลงการณ์ ยังได้เผยว่า ได้ทำสำเนาเชิญชวนการลงนามไปยังบุคคล กลุ่ม และองค์กรที่เคยสนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนด้วยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามว่าจะมีการร่วมลงนามในครั้งนี้ด้วยหรือไม่

สำหรับรายละเอียดของแถลงการณ์มีดังต่อไปนี้
แถลงการณ์
ขอเรียกร้องไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม
ตามที่แนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดการชุมนุมขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อควบคุมการชุมนุม และมีแนวโน้มที่อาจเกิดความรุนแรงได้นั้น พวกเรา ซึ่งมีรายนามดังแนบท้ายแถลงการณ์นี้ ขอเรียกร้องมายังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
1.รัฐบาล กองทัพ ตำรวจ และชนชั้นนำ ไม่ควรเลือกปฏิบัติเป็น 2 มาตรฐาน โดยสมควรต้องยกเลิกการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และให้ประชาชนทุกฝ่ายสามารถจัดการการชุมนุมได้โดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ เว้นแต่จะเกิดเหตุความไม่สงบขึ้น จึงสมควรจะประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ทั้งนี้ต้องไม่ให้กองกำลังทหาร ซึ่งไม่ได้ฝึกฝนมาควบคุมฝูงชนเข้าทำหน้าที่ควบคุมฝูงชน และสมควรต้องเร่งผลักดันกฎหมายการชุมนุมสาธารณะออกมาบังคับใช้เพื่อควบคุมการชุมนุมเป็นไปตามมาตรฐานสากลโดยเร็ว
2.ผู้รับผิดชอบการจัดการชุมนุม โดยเฉพาะแกนนำ นปช. ต้องควบคุมจัดการการชุมนุมให้เป็นไปโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ยั่วยุให้ก่อความรุนแรง หรือยึดสถานที่ราชการแบบที่กลุ่มพันธมิตรเคยปฏิบัติ แม้การกระทำเช่นนั้น จะยังไม่ถูกดำเนินคดีถึงขั้นจำคุกตามกฎหมายก็ตาม หากเกิดความรุนแรงใดๆ จากการที่ไม่สามารถควบคุมการชุมนุมได้ หรือนำไปสู่ความรุนแรง ย่อมเป็นความรับผิดชอบของแกนนำ หรือผู้จัดการชุมนุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนผู้ชุมนุมพึงใช้สิทธิตามกฎหมาย หลีกเลี่ยงการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงใดๆ
3.สื่อมวลชน ต้องนำเสนอข่าวการชุมนุมด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติใดๆ หรือชี้นำให้เกิดความรุนแรง หลีกเลี่ยงการยั่วยุใดๆ เหมือนที่เคยปฏิบัติมาในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อตอนสงกรานต์ที่ผ่านมา
4.นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ และองค์การพัฒนาภาคเอกชน ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และองค์กรสิทธิมนุษยชน ภาคเอกชน และนักวิชาการ สมควรต้องออกมาแสดงบทบาทเหมือนกับที่เคยออกมาสนับสนุนให้พันธมิตรจัดการชุมนุม ‘โดยสันติวิธี’ ทุกครั้ง ทุกโอกาส และสมควรต้องออกมาเรียกร้องไม่ให้รัฐใช้ความรุนแรงแบบเดียวกับที่เคยปฏิบัติมา หากเพิกเฉยย่อมแปลความเป็นอย่างอื่นมิได้ นอกจากเป็นการยอมรับว่า ปฏิบัติเป็น 2 มาตรฐาน ให้ท้ายพันมิตร แต่เพิกเฉยหรือซ้ำเติมต่อ นปช. เหมือนครั้งเหตุการณ์เมื่อวันสงกรานต์ ที่เคยออกแถลงการณ์สนับสนุนให้รัฐบาลปราบปราม นปช.มาแล้ว ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่น่าอับอาย
5.นักกิจกรรมสังคมที่ต้องการสันติ เช่น กลุ่มริบบิ้นขาว สถาบันพระปกเกล้าฯ กลุ่มรณรงค์หยุดทำร้ายประเทศไทย ที่เคยออกมารณรงค์ให้ "ทุกฝ่าย" ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน ขณะนี้ได้เวลาที่ต้องออกมาแสดงบทบาทแล้ว หากเพิกเฉยก็อาจเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐาน
6.ประชาชน พึงทราบและตระหนักว่า การจัดการชุมนุมทางการเมืองโดยสงบ ปราศจากอาวุธ เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และความขัดแย้งทางการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย และจะทำให้ประชาธิปไตยพัฒนาก้าวหน้า พึงเข้าใจว่า คนที่มาร่วมการชุมนุมทางการเมืองนั้น ส่วนมากเป็นคนที่กระตือรือร้นต่อการพัฒนาชาติบ้านเมือง เป็นคนที่มีครอบครัว มีเลือดเนื้อ มีจิตใจเช่นเดียวกับคนไทยทั่วไป ไม่ได้เป็น ‘อื่น’ ประชาชนจึงสมควรจะสนับสนุนกิจกรรมการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
ด้วยความเชื่อมั่น
17 ตุลาคม 2552
องค์กรและบุคคลที่ร่วมลงนาม
อนุธีร์ เดชเทวพร เลขาธิการ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
พงษ์สุวรรณ สิทธิเสนา สถาบันเพื่อการพัฒนาเยาวชนประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ยุทธนา ดาศรี เลขาธิการนิสิตนักศึกษาภาคอีสาน มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
นฤมล มีสมบัติ กรรมการบริหาร สนนท. ( ม.รามคำแหง )
อัมรีย์ เด กรรมการบริหาร สนนท. (ม.กรุงเทพธนบุรี)
ฉัตรสุดา หาญบาง กรรมการบริหาร สนนท.( มรฏ.สวนดุสิต)
ยุทธนา ภักดีหาญ กลุ่มยอป่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น
วิศรุต บุญยา เครือข่ายนักศีกษาพิทักษ์ประชาชน รามคำแหง
วิภา ดาวมณี กรรมการเครือข่ายเดือนตุลา
ไพโรจน์ จันทรนิมิ ประธานชมรมนักข่าวเพื่อเสรีภาพไทย
พิษณุ ไชยมงคล ผู้อำนวยการ สำนักเรียนรู้การกระจายอำนาจและปกครองตนเอง
วัฒนะ วรรณ องค์กรเลี้ยวซ้าย
เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกกลุ่มประกายไฟ
สุชาติ เศรษฐมาลินี สถาบันศาสนา วัฒนธรรมและสันติภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ
สมศักดิ์ ภักดิเดช กรรมการชมรมนักข่าวเพื่อเสรีภาพไทย
สิทธิ์ จันทาเทศ สหภาพแรงงานกรุงเทพผลิตเหล็ก
บุญผิน สุนทราลักษ์ สหภาพแรงงานกรุงเทพผลิตเหล็ก
นายสัณหณัฐ นกเล็ก องค์กรเสรีปัญญาชน
พรมมา ภูมิพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์
หนังแห่งประเทศไทย (ส.พ.ท.)
สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ หนังแห่งประเทศไทย (ส.พ.ท.)
สหภาพแรงงานไทยอคริลิคไฟเบอร์
สหภาพแรงานสหกิจวิศาล
พฤกษ์ เถาถวิล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สลิสา ยุกตะนันทน์ นักศึกษาปริญญาโท University of Warwick
ภัควดี วีระภาสพงษ์
ชำนาญ จันทร์เรือง
ใจ อึ๊งภากรณ์
จิรวัฒน์ เทียนเงิน
เขมนิจ เสนาจักร
ครรชิต พัฒนโภคะ องค์กรเลี้ยวซ้าย
ภัทรพล เสนาจักร
บุหงา เสนาจักร
ปรินดา วานิชสันต์
จักรภพ เพ็ญแข
นุชรินทร์ ต่วนเวช
สุณี ครองพิพัฒน์สุข
อาทร ทศพหล
น.ส.วัลภา ทันตานนท์
สุรีย์ มิ่งวรรณลักษณ์
วิทยา อาภรณ์
ประสาท ศรีเกิด
พิชิต พิทักษ์
เก่งกิจ กิติเรียงลาภ
วิโรจน์ ดุลยโสภณ
เจษฎา โชติกิจภิวาทย์
อาณัติ สุทธิเสมอ
ศรายุทธ ตั้งประเสริฐ
Tanaporn Tornros
รุ่งโรจน์ วรรณศูทร
ยรรยง ลูกชาวดิน กลุ่มชาวดิน ออนเน็ต
คณิตศาสตร์ สารบุญมา
อรรคพล สาตุ้ม

ในตอนท้ายแถลงการณ์ ยังได้เชิญชวนร่วมกันเผยแพร่แถลงการณ์ไปยังมิตรสหาย และร่วมกันลงนาม โดยระบุที่อยู่ส่งกลับที่ อีเมล์ redseed1@gmail.com ภายในเวลา 08.00 น.วันเสาร์ที่ 17 ต.ค.นี้

แม่นไหมไม่ทราบ ประจำวันที่ 17-23 ตุลาคม 2552

ที่มา ประชาไท

โดย การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์

อมาวสี วันที่ 18 ตุลาคมนะคะ


วันนี้ทำอะไรดีน้า



แกล้งพี่โด้เล่นน่าจะดี


นี่ คิดแล้วทำเลยดีกว่า


อ้าว
! มามี้มา น้องอองเปล่าเกเรนะ


นี่ไง แค่มอง
(ประเมิน) ศักยภาพพี่โด้


เรารักกันออก


เนอะ พี่โด้เนอะ


(
เซ็งอีกแล้ว – พี่โด้คิด)


แต่บ่ายๆ แบบนี้มันน่าเบื่อนะ
(ลีอองก็เอียงหน้ามาคิด)


คิด…


หนูว่าเราเล่นกันใหม่ดีกว่านะ
!

ราศีเมษ Aries (13 เมย.-13 พค.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
Two of Swords อุปสรรคอันเนื่องมาจากการสื่อสาร การพยายามแก้ข้อกล่าวหา การปกป้องตัวเอง ความพยายามของคู่ต่อสู้หรือคู่แข่งขันที่จะสร้างความปั่นป่วนในการเจรจา
ความรัก ความสัมพันธ์
Page of Wands ความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้น การพบกันด้วยงาน หรือเรียนรู้กันและกันอย่างใช้สมอง หากเป็นบุคคลแสดงถึงคนอายุน้อย แต่มีลักษณะแคล่วคล่องว่องไว ว่าง่ายใช้คล่อง น่ารักไปอีกแบบ
สถานการณ์การเงิน
Queen of Swords อาจต้องจัดการกับปัญหาใหญ่ที่มีเข้ามาเหมือนทดสอบความเข้มแข็ง ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดกว่าเดิม ลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ หนักทั้งสองฝ่าย
ธุรกิจ การงาน
Ace of Wands ข่าวดีด้านการงาน การเริ่มต้นใหม่ โครงการใหม่ โอกาสดีๆ ที่มีข่าวสารมาถึง หากคุณกำลังเริ่มธุรกิจของตัวเอง ถือว่ามีนิมิตหมายที่ดี
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Ten of Wands ทำภาระที่เกินตัว ความรับผิดชอบที่แบกมากเกินไป ปัญหาจากกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกัน ตลอดจนญาติมิตรคนใกล้ตัวด้วย

คำแนะนำพิเศษ The Fool ก้าวออกไปข้างหน้า เผชิญโลกที่ท้าทายด้วยความกล้าหาญเข้าไว้ แต่ก็อย่าลืมมองโลกในแง่บวก เปิดใจให้กว้าง อ้อ แต่ก็อย่าชะล่าใจเกินไป

ราศีพฤษภ Taurus (14 พค.-13 มิย.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
Eight of Swords อาจมีปัญหาที่บีบล้อมเข้ามาเรื่อยๆ คุณตกในสถานการณ์อึดอัด สิ่งที่ผิดพลาด หรือแม้แต่ความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ถูกกดดัน ถูกจำกัดบทบาท ตกกระไดพลอยโจน
ความรัก ความสัมพันธ์
Five of Swords ดูเหมือนจะมีปัญหากันได้ง่ายอีกแล้วในช่วงนี้ หากก่อนหน้านี้เคยสงบศึกมาแล้วระยะหนึ่ง แถมต่อจากนี้ปัญหายังทรงๆ ทรุดๆ ไปอีกพักใหญ่เชียวล่ะ
สถานการณ์การเงิน
Eight of Pentacles รายได้ที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากการงานที่คุณมีความถนัดอยู่แล้ว ให้ผลดีพิเศษสำหรับคนที่ทำงานแฮนด์เมด ธุรกิจขนาดเล็กในครอบครัว
ธุรกิจ การงาน
Strength คุณมีความสามารถเพียงพอที่จะตบสิ่งต่างๆ ให้กลับเข้าลู่เข้าทาง แต่ก็ระวังความกดดันที่อาจมีต่อผู้อื่นมากเกินไป อีกอย่างคือกดดันตัวเองด้วยอีกต่างหาก
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Five of Wands ปัญหาในหมู่เพื่อนร่วมงาน ข้อพิพาทที่ยากประสาน ความปั่นป่วนในทีมงาน

คำแนะนำพิเศษ
Six of Swords เรื่องเลวร้ายต่างๆ ในชีวิต (หากมี) จะต้องอาศัยกาลเวลาเข้าช่วย หลายอย่างไม่สามารถเร่งรัดได้เมื่อไม่ถึงเวลา ในขณะเดียวกันก็ให้เผื่อใจกับสิ่งที่ยังยืดเยื้อยาวนาน จะเป็นเรื่องอะไรนั้นลองสังเกตชีวิตตัวเองดู

ราศีเมถุน Gemini (14 มิย.-14 กค.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
Six of Pentacles การรับเงิน รับความช่วยเหลือ หรือได้ช่วยเหลือผู้อื่นบนพื้นฐานความเมตตา หากใครต้องการความช่วยเหลือ เป็นเวลาที่มองหาผู้เข้ามาปัดเป่าปัญหาของคุณได้ การขอเครดิต การกู้ยืมต่างๆ ราบรื่นดี
ความรัก ความสัมพันธ์
The Sun ช่วงเวลาของความสุข ความเบิกบาน ความรู้สึกดีๆ ที่ไม่คาดหวังมากถึงอนาคต เหมือนดอกทานตะวันที่ชูช่อรอแสงแดดไปวันต่อวัน ถึงจะมีอายุสั้นแต่ก็ถือว่าได้สุขเต็มที่แล้วสถานการณ์การเงิน Two of Cups การใช้จ่ายในเรื่องที่มีความสุข อาจเป็นชีวิตส่วนตัว ความรักความสัมพันธ์ ซื้อของขวัญของฝาก หรือใช้เงินเพื่อตอบสนองความรู้สึกตัวเอง
ธุรกิจ การงาน
The World อาจมีงานที่จบลงในช่วงนี้ แต่ก็จะมีการเริ่มต้นใหม่ในทันที หรือต่อเนื่องออกไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม บางคนได้พบงานที่สอดคล้องกับตัวเองอย่างแท้จริง มีการปรับเปลี่ยนบรรยากาศ มีคุณภาพชีวิตที่ดี
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Ten of Pentacles การเงินในครอบครัว ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับบุตรหลานบริวาร อสังหาริมทรัพย์

คำแนะนำพิเศษ The Emperor หากคุณเป็นผู้มีอำนาจ มีสิทธิที่จะให้โทษให้คุณผู้อื่น ขอให้รักษาความเที่ยงธรรมไว้ให้ดี อย่าเหลิงแก่อำนาจ แต่ถ้าคุณเป็นผู้ที่กำลังทำงานกับบุคคลในตำแหน่งสูง คนอำนาจต่างๆ แม้จะได้รับการสนับสนุนอย่างดี ให้ระวังเกมใต้ดินด้วย


ราศีกรกฎ Cancer (15 กค.-16 สค.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
Five of Pentacles ระวังปัญหาทางการเงิน เรื่องจุกๆ จิกๆ น่ารำคาญใจ หรือเป็นรายจ่ายที่ทยอยมาทีละนิด แต่ก็บั่นทอนใจให้เสียอารมณ์ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ไม่ควรมีจะดีกว่า
ความรัก ความสัมพันธ์
Page of Pentacles อาจมีข่าวคราวความรักเข้ามา หรือคนที่น่าสนใจผ่านมาวูบๆ แต่สิ่งสำคัญคือจิตใจที่หนักแน่น การเรียนรู้กันแต่พื้นฐาน การพินิจคุณค่าของความรักหรือคนรักที่เข้ามาอย่างไตร่ตรอง
สถานการณ์การเงิน
Three of Swords อาจมีเรื่องน่าขุ่นมัวเกิดขึ้น หรือความหงุดหงิดรำคาญใจ ปัญหาค่าใช้จ่ายที่ไม่พึงประสงค์ การเบิกจ่ายล่าช้า ค่าตอบแทนที่ไม่พอใ
ธุรกิจ การงาน
Six of Cups เป็นคำแนะนำให้คุณระลึกถึงสิ่งเก่าๆ เช่นประสบการณ์เก่า งานเก่าที่เคยทำ เพื่อนที่เคยร่วมงานกันมา ให้ใช้ประโยชน์จากแง่คิดเหล่านั้น แต่ในบางคนหมายถึงการได้กลับไปทำในสิ่งเก่าๆ จริงๆ
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Seven of Wands ปัญหาที่ดาหน้าเข้ามาอยู่เรื่อยๆ เหมือนแก้ไขเท่าไหร่ก็ไม่หมด รู้สึกต้องใช้ความอดทนจนเหงื่อจะหมดตัวอยู่แล้ว


คำแนะนำพิเศษ
Seven of Swords คุณอาจต้องใช้วิธีพลิกแพลงเพื่อรับมือกับสถานการณ์บางอย่าง ใช้เล่ห์กระเท่เพื่อปกป้องตัวเองสักระยะหนึ่ง แต่ก็ให้ระวังการถูกโจรกรรม หรือมีคนใช้เล่ห์เหลี่ยมกับคุณด้วย

ราศีสิงห์ Leo (17 สค.-16 กย.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
The Lovers คุณอาจต้องเลือก ต้องตัดสินใจ หรืออยู่ระหว่างเส้นทางสำคัญอีกครั้ง สิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้น่าจะเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตหลัก ความสัมพันธ์หลัก หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อตัวคุณเองอย่างมาก
ความรัก ความสัมพันธ์
Nine of Pentacles หากเป็นบุคคลหมายถึงผู้ที่มีฐานะ หรือความสัมพันธ์ที่มีเรื่องของผลประโยชน์ทรัพย์สินเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจเป็นคุณเองที่เห็นประโยชน์อีกฝ่าย หรืออีกฝ่ายดูแลอุ้มชูคุณอยู่ หรือเกื้อหนุนกันและกันอยู่ในที
สถานการณ์การเงิน
Seven of Cups ระวังการใช้จ่ายเกินรายรับ หรือมีของที่ต้องการเยอะเหลือเกิน ยากจะยับยั้งชั่งใจ อีกการเล็งผลเลิศถึงรายได้ที่ไม่อยู่บนพื้นฐานจริงๆ ยังมาเป็นเงา จับต้องไม่ได้
ธุรกิจ การงาน
The Devil คุณอาจมีงานที่เป็นพันธะระยะยาว ทำงานซ้อนกัน ทำงานที่เป็นความลับ หรือสัมพันธ์กับกิเลสมนุษย์ เป็นช่วงที่ไม่ค่อยส่งผลดีต่อจิตใจมากนัก
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
The Hanged Man ปัญหาที่หมกเม็ดอยู่ มองไม่เห็นง่ายๆ การจำต้องรับเงื่อนไขอย่างไม่มีทางเลี่ยง

คำแนะนำพิเศษ The Chariot มีวินัยเข้าไว้ เดินทางให้ตรงเป้าหมาย ตรงประเด็น อย่าเถลไถลออกนอกลู่นอกทาง

ราศีกันย์ Virgo (17 กย.-16 ตค.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
Three of Pentacles โชคลาภพิเศษที่มีเข้ามา โอกาสหรือรายได้เล็กๆ น้อยๆ แต่ก็สร้างความเบิกบานใจ หรืออาจมีเพื่อนฝูงนำข่าวดีมาให้
ความรัก ความสัมพันธ์
Four of Pentacles ความรู้สึกไม่มั่นคงอาจแฝงอยู่ภายในลึกๆ หรือสถานการณ์สองฝ่ายดูนิ่งเสียจนน่าเบื่อนิดๆ แต่ก็ไม่กล้าหาญพอที่จะตัดใจ หรือทำอะไรให้ดีกว่าเดิม ในบางคนรู้สึกหวงกันสุดๆ ในช่วงนี้
สถานการณ์การเงิน
The Hermit คุณอาจได้ใช้เงินกับการศึกษาเล่าเรียน การทำงานวิจัย การค้นหาแนวทางที่ดีที่สุดต่อชีวิตตัวเอง การใช้จ่ายในแต่ละครั้งผ่านการคิดอย่างจริงจัง และยังหมายถึงคนที่เก็บเงินๆๆ มุ่งเก็บให้มากเข้าไว้ ไม่จำเป็นไม่อยากใช้เงินจริงๆ
ธุรกิจ การงาน
Four of Swords อาจมีปัญหาในด้านการงาน หรือมีเรื่องที่ต้องชะลอ ต้องพักชั่วคราว และยังหมายถึงคำแนะนำว่าคุณเหน็ดเหนื่อยมากไปแล้วหรือเปล่า น่าจะหาเวลาพักบ้าง
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Ace of Cups สิ่งที่เริ่มต้นด้วยดี แต่อนาคตยังบอกไม่ได้ ความขาดแคลนที่ไม่อาจเติมเต็ม

คำแนะนำพิเศษ Knight of Pentacles กระแสการเงินของคุณจะค่อยๆ กระเตื้องขึ้นทีละนิด จากนี้ไปความมั่นคงจะมีมากขึ้น แต่ก็ยังต้องการการเก็บออม การเสาะหา หรือมองช่องทางใหม่ๆ ในระหว่างนี้

ราศีตุลย์ Libra (17 ตค.-15 พย.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
Five of Cups ความผิดหวัง สิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะพบความสุข หรือความสมหวังในเรื่องใด ก็คล้ายมีสิ่งที่เข้ามาบั่นทอนจนได้ จึงเป็นที่มาของคำแนะนำให้พยายามมองแง่บวกไว้
ความรัก ความสัมพันธ์
The Moon อาจเป็นช่วงความสัมพันธ์คลุมเครือ หรือมีปัญหาทางจิตใจ มีความกังวล ไม่มั่นคง ไม่แน่ชัดว่าจะเอาอย่างไร บางคู่เหมือนหลงไปในโลกแห่งฝัน มองหากันไม่เจอในโลกความจริง
สถานการณ์การเงิน
Seven of Pentacles คุณน่าจะมีเงินเก็บเงินออมแล้วระดับหนึ่ง หรือมีทรัพย์สินที่มีมูลค่ารองรังอยู่ แต่ยังต้องอดทน ต้องทำงานหนัก ยังต้องสู้ต่อไปถ้ามีเป้าหมายไกลกว่านี้
ธุรกิจ การงาน
The Star มีเรื่องดีๆ เข้ามา มีความหวังกับอนาคต ได้รับข่าวดี ได้ความช่วยเหลือเรื่องงาน มีคนเมตตา หากเคยมีปัญหาใดๆ จะได้รับการปัดเป่าไป
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
King of Pentacles การถือเงินก้อนใหญ่แล้วตัดสินใจผิดพลาด การบริหารที่ล้มเหลว


คำแนะนำพิเศษ
Queen of Wands ใช้การจัดการให้มาก ไม่ว่าในเรื่องใด ใช้ศักยภาพของคุณให้เต็มที่ หากต้องเป็นผู้นำทีม ทำให้ทีมของคุณเก่งได้เหมือนที่คุณเป็นอยู่ หากเป็นผู้ตาม เรียนรู้จากคนข้างหน้าให้มาก


ราศีพิจิก Scorpio (16 พย.-15 ธค.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
The Empress คล้ายกับเมื่อสัปดาห์ก่อนโน่น การวางแผนชีวิต วางแผนครอบครัว การสร้างความผาสุกในครัวเรือน หากคุณทำอาชีพเกี่ยวกับการเกษตร จะเป็นไพ่ให้ผลดีอย่างมากในช่วงนี้
ความรัก ความสัมพันธ์
The Hierophant การพบรักกับคนสูงวัย การแก้ปัญหาในชีวิตคู่อย่างสงบและสันติ การเรียนรู้กันและกันอย่างลึกซึ้ง เรื่องรักที่พ้นไปจากความปรารถนาทางกาย หรือหากมีก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
สถานการณ์การเงิน
Ace of Swords ยังต้องฝ่าฟันแก้ปัญหาไปข้างหน้า ต้องสู้ให้ทะลุกำแพงที่ขวางคุณอยู่ สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นในเร็ววันนี้
ธุรกิจ การงาน
Nine of Cups คุณอาจทำงานด้วยความรู้สึกส่วนตัวอย่างมาก หรือมีบางสิ่งซ่อนไว้ในใจด้วย อาจเป็นเป้าหมายลับๆ ความสัมพันธ์พิเศษกับเพื่อนร่วมงาน ในบางคนรับจ๊อบรับฝิ่น มีงานที่ไม่อยากบอกกับใครคำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น Knight of Cups ความอ่อนไหวที่มากไปจนกลายเป็นความระส่ำระสาย จิตใจอยู่ไม่สุข

คำแนะนำพิเศษ The Magician คุณอาจพบจุดหักเหครั้งสำคัญบนเส้นทางชีวิต หรือเคยเกิดมาแล้วก็ได้ เช่น อยู่ๆ ก็ไปทำในสิ่งไม่เคยคิดมาก่อน ไม่ได้เรียนหรือตั้งใจมา แต่ทว่ากลับส่งผลดีอย่างมาก ในช่วงนี้ให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้มาก ฟังเสียงกระซิบที่น่าอัศจรรย์ดู

ราศีธนู Sagittarius (16 ธค.-13 มค.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
Death จะมีบางอย่างถึงแก่วาระของมัน อาจเป็นเรื่องงาน ความสัมพันธ์ การสูญเสียต่างๆ แต่เมื่อมีดับก็ต้องมีเกิด หากคุณผ่านช่วงมืดมิดนี้ไป จะได้พบแสงสว่างในไม่ช้า
ความรัก ความสัมพันธ์
Page of Swords ระวังเรื่องของคำพูดคำจา บุคคลที่สามที่เข้ามาเกี่ยวพัน หรือความคิดกังวล ความแปรปรวน การยากจะหยั่งรู้ใจกัน หากคุณกับคนรักอยู่ไกลกันให้มั่นคงไว้
สถานการณ์การเงิน
The High Priestess หากคุณทำงานเกี่ยวพันกับศิลปะ เป็นนักเขียน ศิลปิน ฯลฯ เป็นไพ่ที่ส่งผลดี ทำรายได้งามๆ มาให้ แต่ถ้าเป็นสถานการณ์ทั่วไปหมายถึงการได้รับการสนับสนุนอย่างไม่เปิดเผย ประโยชน์จากเสน่หา
ธุรกิจ การงาน
Two of Wands จะมีหุ้นส่วนที่เข้ากันได้ดีอย่างมากเข้ามาช่วยเหลือการงาน หรือเป็นการแนะนำให้คุณมองหาผู้ช่วย ผู้ที่จะมาช่วยคิดช่วยทำ จะส่งผลดีกับคุณมากกว่าวันแมนโชว์
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Four of Wands รากฐานที่ไม่แข็งแรงเพียงพอ สิ่งที่คิดว่าก่อตั้งมาอย่างมั่นคงที่สุดแล้วกลับตาลปัตร

คำแนะนำพิเศษ Queen of Pentacles อย่าละเลยการจัดการด้านการเงิน การบริหารทรัพย์สินอย่างมืออาชีพ อีกอย่างคือการพึ่งพิงกันในแง่ผลประโยชน์ ข้อนี้ขึ้นอยู่ว่าคุณเป็นฝ่ายให้หรือรับ

ราศีมังกร Capricorn (14 มค.-12 กพ.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
Knight of Wands ความกระตือรือร้น การเดินทาง ข่าวที่เกี่ยวกับกับเดินทาง งานที่กระตุ้นให้คุณมองไปข้างหน้า อยากรุก อยากเร่งรัดสิ่งต่างๆ ให้เร็วกว่าเดิม
ความรัก ความสัมพันธ์
Wheel of Fortune โดยทั่วไปถือว่าเป็นไพ่ของโอกาส การฟื้นคืนดีกัน การที่สิ่งต่างๆ แปรผันไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันอาจเป็นช่วงสั้นๆ อย่าประมาท หากสามวันดีสี่วันไข้ก็อย่าแปลกใจ
สถานการณ์การเงิน
Eight of Wands จะมีงานที่ขยายออกไป หรือกิจการค้ารุ่งเรืองมากขึ้น รายได้ก็เพิ่มมากเป็นเงาตามตัว อย่างไรก็ดี ค่าตอบแทนจากไพ่ใบนี้ขึ้นอยู่กับความขยันและฝีมือเป็นสำคัญ เหมาะพิเศษสำหรับผู้ที่เป็นลูกจ้าง แรงงาน หรือเจ้าของกิจการที่ผลิตสินค้าต่างๆ
ธุรกิจ การงาน
Queen of Cups คุณอาจทำงานในที่ๆ ดูอบอุ่น มีบรรยากาศครอบครัว แต่ลึกลงไปกลับพบว่าแต่ละคนมีโลกส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น และไม่มีใครเข้าใจใคร
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Ten of Cups เรื่องเกี่ยวกับครอบครัว ความรัก ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่รัก


คำแนะนำพิเศษ
The Tower คุณอาจต้องยอมรื้อเพื่อสร้าง หรือรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันต่างๆ มีเหตุให้ตกใจ มีสิ่งที่ไม่คิดมาก่อน แต่ไม่ได้หมายถึงเรื่องร้ายๆ เสมอไป

ราศีกุมภ์ Aquarius (13 กพ.-13 มีค.)


เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้
King of Swords การต่อสู้กับปัญหา ความเข้มแข็ง ความอดทน การเผชิญหน้ากับคู่ปรับที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าถามถึงสุขภาพเป็นไพ่ของคนที่แข็งแรงดี
ความรัก ความสัมพันธ์
King of Wands การมองความสัมพันธ์ในแง่ที่มีมากกว่าความโรแมนติค ใช้สมอง ใช้การจัดการ ระหว่างคู่รักอาจมีการสนับสนุนกันในเรื่องงาน หรือรักกันพอเหมาะแต่นับถือกันมาก
สถานการณ์การเงิน
Nine of Swords ปัญหามักเกิดจากจิตใจ ความวิตกกังวลจากอารมณ์แปรปรวน ช่วงอ่อนไหว ช่วงจิตตก หรือมีญาตินำเรื่องน่ากลุ้มเข้ามาให้ แต่สถานการณ์จริงๆ มักไม่ค่อยมีอะไรมาก
ธุรกิจ การงาน
Ace of Pentacles จะมีรายได้ใหม่ๆ ซึ่งอาจมาจากงานใหม่ หรือได้เงินก้อนใหม่มาลงทุน การเริ่มต้นกิจการต่างๆ จะเป็นไปด้วยดี
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Two of Pentacles การจัดสรรเวลาที่ไม่ดีพอ การต้องหมุนเงินอย่างหนัก มีเรื่องที่ต้องใช้วิธรแก้ปัญหาแบบมั่วๆ

คำแนะนำพิเศษ Temperance คุณอาจจำเป็นต้องปรับตัว ประนีประนอม เรียนรู้วิธียืนบนพื้นที่ไม่มั่นคง การวางตัวเองในจุดที่เหมาะสม ปรับตัวไปกับสภาพแวดล้อมให้ดีที่สุด

ราศีมีน Pisces (14 มี ค.-12 เมย.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Justice อาจมีการเซ็นสัญญา การลงนามในเอกสารสำคัญ หรือเกี่ยวพันกับรับ เจ้าหน้าที่รัฐ หากคุณต้องทำหรือตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ขอให้มองหาผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ
ความรัก ความสัมพันธ์
Four of Cups มีเรื่องที่คุณยังคิดไม่ตกอยู่บ้างหรือเปล่า หรือสิ่งที่รับเข้ามาไม่ใช่สิ่งพอใจเต็ม 100 % มีเงื่อนไขระหว่างคุณกับคนรัก? หรือกำลังมองหาใครที่คิดว่าน่าจะดีกว่านี้?
สถานการณ์การเงิน
Page of Pentacles การใช้จ่ายกับบุคคลอายุน้อยกว่า บุตรหลานบริวาร หรือแสดงถึงรายได้เล็กๆ ที่มีเข้ามาก็ได้ด้วยค่ะ
ธุรกิจ การงาน
Knight of Swords ยังมีปัญหาบางอย่างที่แก้ไขไม่ได้ในเวลานี้ อาจเกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้ามาระยะหนึ่ง ต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากที่จะจัดการ การเดินทางใดๆ ไม่ค่อยราบรื่นนัก
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Ten of Swords ปัญหาจากกลุ่มคนที่ทำงานด้วยกัน หรือผลกระทบ ที่มีเข้ามาเป็นโดมิโน่

คำแนะนำพิเศษ Nine of Wands ยังไม่มีจังหวะที่ดีกว่านี้ โดยเฉพาะใครที่กำลังต้องการความโอกาส มองหาช่องทางโยกย้าย ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง รอไปอีกพักนึงค่ะ ในบางคนเตือนว่าอย่าหวงงานเอาไว้ทำคนเดียวมากเกินไป