ชำแหละโครงการครม.'มาร์ค'ทิ้งทวน

ที่มา ข่าวสด

รายงานพิเศษ

การประชุมครม. นัดสุดท้าย ก่อนยุบสภา ตามที่นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศว่าจะเป็นสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. เป็นการประชุมครม. ถึง 2 รอบ ในวันเดียว คือ ช่วงเช้าประชุมที่รัฐสภา จากนั้นช่วงค่ำประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ มีเรื่องเพื่อพิจารณา 206 วาระ แบ่งเป็นวาระพิจารณา 102 วาระ วาระจร 48 วาระ รายงานเพื่อทราบ 56 วาระ การพิจารณาช่วงเช้า มีการพิจารณาได้เพียง 96 วาระ ซึ่งมีรายละเอียดการอนุมัติงบของกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานต่างๆ ดังนี้



กระทรวงแรงงาน

อนุมัติงบ 200 ล้านบาท ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ขอเพื่อไปบริหารจัดการประชาสัมพันธ์การขยายความคุ้มครองประกันสังคม



กระทรวงการคลัง

เห็นชอบ "โครงการบ้านหลังแรก" ตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยกู้แก่ประชาชนที่มีความต้องการกู้ซื้อบ้านอย่างแท้จริง ยกเว้น อัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 2 ปี ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน/จดจำนอง วงเงินกู้ไม่เกินรายละ 3 ล้านบาท สามารถยืดหยุ่นรูปแบบบ้านเป็นทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยวก็ได้

โดยให้ขยายวงเงินสินเชื่อเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท จากที่เสนอ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องอุดหนุนดอกเบี้ยประมาณ 450-500 ล้านบาท ระยะเวลายื่นขอเข้าร่วมโครงการ 8 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ธ.ค.นี้

เพื่อไม่ให้กระทบการดำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์รายอื่น เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอไม่ให้กู้ในลักษณะรีไฟแนนซ์ เช่น หากมีการกู้กับธนาคารพาณิชย์รายอื่นมาก่อน จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการกับ ธอส. ในลักษณะรีไฟแนนซ์ได้

เห็นชอบชดเชยค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส วงเงิน 5.5 ล้านบาท



กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

อนุมัติเพิ่มรายการดำเนินงานและกรอบวงเงินงบประมาณโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 54 งบกลาง วงเงิน 382.015 ล้านบาท โดยให้กระทรวงท่องเที่ยวฯ กลับไปตรวจสอบเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่วงเงินดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้งบประมาณการก่อสร้างตั้งแต่ครั้งแรก



กระทรวงคมนาคม

อนุมัติงบประมาณในส่วนการดำเนินงานตามแผนงานการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม โดยใช้เงินกู้ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ในวง เงินประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 300 ล้านบาท (30 บาท ต่อเหรียญสหรัฐ)

และการดำเนินงานจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางโดยใช้เงินกู้จากเอดีบีในวงเงิน 13 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 390 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 752.15 ล้านบาท

ส่วนกรณีคมนาคมอนุมัติมาตรการการนำเทคโนโลยีระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (จีพีเอส) มาใช้กับรถสาธารณะ การดำเนินการระยะแรกภายในปีི ขอใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปน.) ของกรมการขนส่งทางบกวงเงิน 10 ล้านบาท

เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงทุนรถจักรและล้อเลื่อน วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาทเศษ ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งอยู่ภายใต้แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท ที่ ครม.เคยอนุมัติไปแล้ว

แบ่งเป็นวงเงินสำหรับจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 115 คัน วงเงิน 4,081.05 ล้านบาท แทนการจัดหาขบวนรถโดยสารรูปแบบชุดสำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 6 ขบวน

สำหรับจัดการถจักรพร้อมอะไหล่ 50 คัน วงเงิน 6,562.50 ล้านบาท และสำหรับซ่อมบูรณะรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตอม 56 คัน วงเงิน 3,360 ล้านบาท โดยให้ รฟท. กู้เงินมาลงทุน และคลังค้ำประกันเงินกู้



กระทรวงมหาดไทย

เห็นชอบงบดำเนินแผนงานด้านผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย และขอสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ (มอเตอร์ไซค์) รวมจำนวน 18.85 ล้านบาท จากที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานครเสนอมา 197,254,000 ล้านบาท ตามโครงการประชาวิวัฒน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การสร้างระบบเศรษฐกิจ ที่เท่าเทียมและเป็นธรรม

แบ่งเป็น หาบเร่-แผงลอย 11.7 ล้านบาท จากที่ขอมา 70,554,000 บาท และมอเตอร์ไซค์วิน 7.15 ล้านบาท จากที่ขอมา 126,700,000 บาท ซึ่งใช้งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 เนื่องจากกรุงเทพมหานคร ไม่ได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้ แต่สำนักงบประมาณเห็นว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องเร่งดำเนินการ

อนุมัติการดำเนินโครงการพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ตามแผนปฏิรูปประเทศไทย 2 โครงการ วงเงิน 415.2 ล้าบาท ได้แก่ โครงการส่งเสริมการ ตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ และโครงการพ่อแม่มือใหม่เลี้ยงลูกถูกวิธี ด้านสุขภาพอนามัยและพัฒนาการของเด็ก

อนุมัติของบประมาณฟื้นฟูและซ่อมแซมที่ทำการเทศบาลนครอุดรธานี ในส่วนของอาคารอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นที่เสียหายจากการชุมนุมที่ผ่านมา วงเงิน 212 ล้านบาท

อนุมัติงบ 180 ล้านบาท จากงบกลางปี 54 ตามที่ศูนย์อำนวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอ เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับหมู่บ้านจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่ 12 อำเภอของ จ.สงขลา

อนุมัติเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษให้เจ้าหน้าที่ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเดิมได้ค่าตอบแทนคนละ 2,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 5,000 บาทต่อเดือน มีผล 3 พ.ค.

อนุมัติงบ 530 ล้านบาท เพื่อดำเนินการบริหารจัดการภายในจังหวัดบึงกาฬ เป็นงบจัดซื้อครุภัณฑ์ 14 รายการและงบประมาณก่อสร้าง 5 รายการ

อนุมัติให้เช่ารถยนต์เพื่อใช้ในงานราชการ โดยก่อหนี้ผูกพันปีงบ ประมาณ 54-57 ของกรมการพัฒนาชุมชน (พ.ช.) จำนวน 235 คัน วงเงินประมาณ 152,298,000 บาทเศษ เป็นรถบรรทุกดีเซลขนาด 1 ตันขับเคลื่อน 2 ล้อแบบดับเบิ้ลแคบ จำนวน 216 คัน, รถบรรทุกดีเซลขนาด 1 ตันขับเคลื่อน 4 ล้อแบบดับเบิ้ลแคบจำนวน 14 คัน และรถประจำตำแหน่งอธิบดี 1 คัน มูลค่า 1,411,200 บาท รถประจำตำแหน่งรองอธิบดี จำนวน 3 คัน เป็นเงิน 3,132,000 บาท, รถยนต์ตรวจการณ์ จำนวน 1 คัน เป็นเงิน 1,440,000 บาท

อนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ 9 วงเงิน 31,170 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ 1 วงเงิน 7,060 ล้านบาท ส่วนที่ 2 วงเงิน 4,540 ล้านบาท ส่วนที่ 3 วงเงิน 15,085 ล้านบาท และส่วนที่ 4 วงเงิน 4,485 ล้านบาท

โดยให้ใช้จากเงินกู้ในประเทศ 23,374 ล้านบาท และเงินรายได้ของ กฟภ. 7,796 ล้านบาท และเห็นชอบการกู้เงินในประเทศของโครงการ ดังกล่าวต่อไปตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ



กระทรวงศึกษาธิการ

เห็นชอบอนุมัติงบประมาณขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2555-2561) 2 ส่วน คืองบประมาณตามนโยบายเร่งด่วน 10 โครงการ จำนวน 15,839.956 ล้านบาท

และเห็นชอบในหลักการแผนงบประมาณขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง อีกจำนวน 371,598.379 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประการว่าการปฏิรูปการศึกษาในรอบที่สองจะเดินหน้าตามที่ได้วางระบบและแผนงานต่อไป

จัดสรรงบประมาณเพิ่มเพื่อปรับอัตราค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานมหาวิทยาลัย ทั้งมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐและมหาวิทยาลัยในสังกัดของรัฐที่เป็นส่วนราชการในอัตราร้อยละ 5 เป็นเงินรวม 397.21 ล้านบาท มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 ก.ย. 54

อนุมัติงบประมาณที่จะจัดสรรเพิ่มสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัยที่จ้างโดยเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย สำหรับใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2554 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึง 30 ก.ย.54 เป็นระยะเวลา 6 เดือน เป็นเงินจำนวน 174.91 ล้านบาท



สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อนุมัติงบกลางปี 54 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นโครงการกรุงเทพเมืองปลอดภัยห่างไกลอาชญากรรม จำนวน 10 โครงการ เป็นเงิน 123 ล้านบาท จากเดิมที่เสนอ 235 ล้านบาท



กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

อนุมัติงบ 1,641 ล้านบาท ใช้แก้ปัญหาเรื่องเกษตรกรที่ยากจนและไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกษตรกรผู้ยากจนและไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง



กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

อนุมัติเงินกว่า 258 ล้านบาท ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ดำเนินงานผลักดันภารกิจที่เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของประเทศ เพื่อการพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ประจำปีงบประมาณ 2555

ทั้งนี้การดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อให้สอดรับกับพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์



กระทรวงสาธารณสุข

อนุมัติหลักการ โครงการทศวรรษการผลิตและพัฒนากำลังคนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล พ.ศ.2555-2564 เป็นเงินประมาณ 1.79 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงบใช้จ่ายในระยะยาว 10 ปี



สำนักนายกรัฐมนตรี

อนุมัติในหลักการตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ขออนุมัติสนับสนุนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จำนวน 293,610,318 ล้านบาท

เพื่อเป็นค่าตอบแทนพิเศษเพิ่มเติมให้กำลังพล กอ.รมน. ที่ปฏิบัติการในสนามตามแผนหรือคำสั่งยุทธการตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตราย ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2553 ถึง วันที่ 30 ก.ย.2554 โดยให้ใช้งบประมาณในหน่วยงานที่อยู่ในกอ.รมน.



กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

อนุมัติงบก่อสร้างโครงการพิพิธภัณฑ์พระราม 9 และดำเนินการ วงเงิน 1,800 ล้านบาท



งบในส่วนอื่น

ครม. ให้บำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย ในส่วนของปฏิบัติประชาวิวัฒน์ รวม 40 ราย เพื่อเป็นกำลังใจในการทุ่มเทและเสียสละเข้าร่วมระดมความคิด และร่วมผลักดันให้ปฏิบัติการสำเร็จลุล่วง

กรณีข้าราชการให้ได้รับเลื่อนเงินเดือน 4% หรือเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งปีแรก 1 ขั้น

กรณีของหน่วยงานอื่นให้พิจารณาเลื่อนเงินเดือนตามความเหมาะสม

งบช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม

เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม กรณีมีกรมธรรม์ประกันภัยยังไม่ได้รับสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ด้วยการปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการขอสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) โดยใช้วงเงิน 2,000 ล้านบาทเดิมของโครงการราชประสงค์ฯ

เงื่อนไขขอสินเชื่อ สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.54 วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 50 ล้านบาท โดยกู้เพื่อใช้ปรับปรุง ซ่อมแซม ก่อสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้างสถานประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ หรือความเสียหายที่เกี่ยวเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้

งบช่วยผู้ประสบภัย

เห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติปี 53-54 (เพิ่มเติม) ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มในปี 53 และ54

1. ขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 53 โดย ธ.ก.ส. ลดอัตราดอกเบี้ย MRR-3 ครอบคลุมถึงเกษตรกรที่ประสบภัยจากพายุ ดีเปรสชั่น บริเวณภาคใต้ตอนล่างที่ประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและประมงให้ได้รับสินเชื่อเพียงพอ ส่วน ธอท. ขยายวงเงินสินเชื่อโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัย ปี 53 โดยเพิ่มอีก 887.56 ล้านบาท

2. ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี54 จะเสนอหลักเกณฑ์ในการชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยโครงการสินเชื่อ SME POWER เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยและวาตภัยในปี 54 ให้แก่ ธพว. ส่วนธ.ก.ส. และ ธพว. เสนอมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางที่ได้รับ ผลกระทบฯ ซึ่งมีวงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 10 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ปี 54 วงเงิน 2,000 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส

ทั้งนี้ การอนุมัติงบประมาณเบื้องต้นในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การจัดประชุม เงินตอบแทน การชดเชยต่างๆ รวมวงเงินประมาณ 60,720 ล้านบาท

โดยโครงการที่เสนองบประมาณจำนวนมาก ที่เข้าสู่การพิจารณาช่วงค่ำที่กระทรวงการคลังเสนอ คือโครงการสินเชื่อปุ๋ยราคาถูก วงเงิน 5-6 หมื่นล้านบาท