WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, September 5, 2009

‘มาร์ค’ ยันพูดกับ ‘เฉลิม’ ตามหลักวิชาการ

ที่มา ประชาไท

หลังจากที่ได้อภิปรายโต้ตอบกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และมีการพูดเปรียบเทียบว่าเป็นหมา ล่าสุดนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า "ผมไม่ได้มีอารมณ์ ผมพูดตามหลักวิชาการ แต่คนที่มีอารมณ์ก็ต้องไปดูคนที่หน้าแดงนั่นแหละ แต่ผมยืนยันว่าไม่ได้มีอารมณ์"

มติชนออนไลน์ รายงานว่า วานนี้ (4 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลสำรวจของดุสิตโพลระบุเรตติ้งความนิยมในตัวลดลง หลังจากที่ได้อภิปรายโต้ตอบกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และมีการพูดเปรียบเทียบว่าเป็นหมา ว่า "ผมไม่ได้มีอารมณ์ ผมพูดตามหลักวิชาการ แต่คนที่มีอารมณ์ก็ต้องไปดูคนที่หน้าแดงนั่นแหละ แต่ผมยืนยันว่าไม่ได้มีอารมณ์"

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนที่พกระเบิดปิงปอง ว่า ไม่ใช่เป็นระเบิดปิงปอง แต่เป็นประทัดยักษ์ ซึ่งตอนที่อยู่ในพื้นที่ก็ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว มารู้อีกครั้งเมื่อเห็นข่าวแล้ว ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ประกาศรวมตัวกันในวันที่ 19 กันยายนนั้น คิดว่ายังอีกนาน
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการตรวจสอบการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 เมษายน แถลงภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์ที่บริเวณสามเหลี่ยมดิน แดง ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน กรณีผลการตรวจสอบคลิปเสียงของนายกฯ ที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบด้วยเครื่องระบบออร่าซิตี้พบว่า มีการตัดต่อคลิปเสียงและพบจุดตัดต่อถึง 62 จุด แต่ทางคณะกรรมการได้รับการชี้แจงข้อมูลจาก พ.ต.ท.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) กลุ่มงานตรวจสอบทางเคมี ฟิสิกส์ และชีววิทยา กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบพบว่ามีจุดตัดต่อ 3 จุด และยังมีจุดที่ยังไม่แน่ชัดอีก 7 จุด โดยรวมแล้วไม่เกิน 10 จุด
โดยจุดที่มีการตัดต่อบางช่วงนั้นไม่ได้ทำให้สาระสำคัญผิดไป และเมื่อนำคลื่นเสียงของนายกฯ ที่พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 26 เมษายน ตามที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงในสภามาเปรียบเทียบกับคลื่นเสียงของคลิปเสียงดัง กล่าวเห็นได้ชัดว่าคลื่นเสียงมีขนาดไม่เท่ากัน หมายความว่าคลิปเสียงดังกล่าวไม่ได้มีการตัดต่อมาจากรายการเชื่อมั่นประเทศ ไทยฯ ทางคณะกรรมการการตรวจสอบเชื่อว่านายอภิสิทธิ์มีการสั่งการจริงตามคลิปเสียง ดังกล่าว โดยทางคณะกรรมการจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 10 กันยายนนี้เพื่อเชิญนายกฯเข้าชี้แจง
"เอกสารนี้กองพิสูจน์หลักฐานเพิ่งตรวจสอบเสร็จสิ้น ได้จัดพิมพ์เป็นเอกสาร พร้อมเซ็นชื่อกำกับถูกต้อง สรุปว่ามีร่องรอยการตัดต่อไม่เกิน 10 จุด โดยมีตัดต่อชัดเจน 3 จุด และอาจมีตัดต่ออีก 7 จุด สิ่งสำคัญประโยคถ้อยคำยาว และสาระสำคัญ ไม่ถูกตัดหายไป ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ได้ตรวจสอบและทำเอกสารลำดับเหตุการณ์ ระบุว่าในลำดับที่ 2, 10 และ 22 ที่เป็นเนื้อหาสาระที่ถ้อยคำพูดของนายกฯที่พูดต่อเนื่องเกี่ยวกับการสร้าง เงื่อนไขเพื่อให้ประกาศภาวะฉุกเฉินรวมไปถึงกรณีพาดพิงอดีตนายกฯที่มี พฤติกรรมจาบจ้วง หรือกล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นประเด็นที่นายกฯไม่ได้ชี้แจงในสภา เพราะหลักฐานที่กองพิสูจน์หลักฐานให้อนุกรรมการนั้นเพิ่งเสร็จวันนี้และให้ อนุกรรมการดูเป็นที่แรก ดังนั้น เรื่องนี้เป็นประเด็นที่นายกฯจะต้องชี้แจงมากกว่านี้" นายวรวัจน์กล่าว
พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงคดีคลิปเสียง หลังจากจับกุมพนักงานบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 2 คน ว่าขณะนี้นับว่ามีความรุดหน้าไปมาก และมีการพิจารณาออกหมายเรียกบุคคลต่างๆ เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนโดยจะเรียกให้เข้าพบในจำนวนเท่าที่พยาน หลักฐานเกี่ยวโยงไปถึง โดยทางพนักงานสอบสวนจะนัดหมายวัน เวลา และสถานที่อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลที่จะเชิญตัวมาสอบปากคำนั้นเป็นพนักงานบริษัท เอสซี แอสเสทฯทั้งหมดหรือไม่ พล.ต.ต.ปัญญากล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี เมื่อถามถึงการตรวจสอบหลักฐานที่ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในบริษัทดัง กล่าวสามารถสาวไปถึงบุคคลใดได้บ้าง พล.ต.ต.ปัญญาระบุว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ได้
ที่มา: เรียบเรียงจาก มติชนออนไลน์