ที่มา ไทยรัฐ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณีที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศบราซิล มีมติให้เลื่อนการพิจาณาแผนการบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหาร มรดกโลกของกัมพูชา ออกไป ปี 2554 ที่ประเทศบาร์เร นั้น การเลื่อนเวลาออกไป 1 ปี ทำให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตีปี๊บกันใหญ่เหมือนประสบความสำเร็จ ทั้งที่ข้อเท็จจริงก็แค่ซื้อเวลา ไม่ใช่ชนะคดี ตรงกับที่นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตอดีต รมว.ต่างประเทศ ระบุว่าประเทศไทยไม่ได้ชนะสักยก เพราะยกแรกกัมพูชาขึ้นทะเบียนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ยกที่สองเมื่อปีที่แล้วที่เลื่อนเพราะกัมพูชายื่นแผนไม่ทัน
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ประเด็นเรื่องปราสาทเขาพระวิหารแก้ปัญหายากขึ้นเมื่อมีกลุ่มการเมือง และนักการเมืองมาจุดกระแสคลั่งชาติ ใช้ประเด็นเขาพระวิหารทำลายล้างกันทางการเมือง โดยบิดเบือนข้อเท็จจริงและประเด็นข้อกฎหมายอย่างไร้ความละอายใจหวังแต่จะเอาชนะและทำลายคนอื่น โดยอาศัยความเท็จ แต่พอตนเองมาเป็นรัฐบาล มีหน้าที่แก้ปัญหา กลับไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และโยนบาปโทษรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว. ต่างประเทศ ว่าความเสียเปรียบเกิดขึ้นในปี 2551 ที่มีแถลงการร่วมไทยกัมพูชา ทั้งที่ข้อเท็จจริง ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาทำหน้าที่ปกป้องดินแดนและผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้อง ให้นายอภิสิทธิ์ ถือเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ และตั้งคณะกรรมการระดับชาติรวมทุกภาคส่วนมาระดมความคิด และกำหนดยุทธศาสตร์ในการปกป้องผืนแผ่นดินและผลประโยชน์ของชาติร่วมกัน เหมือนคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยที่รัฐบาลเป็นคนตั้ง มีวาระถึง 3 ปี รัฐบาลชุดไหนมาก็ต้องทำตาม วันนี้ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงทุกภาคส่วนต้องหันหน้าเข้ามาร่วมมือกันระดมความคิดโดยไม่แบ่งแยก เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นาย ฮิโรยูริ มูราโมโตะ นักข่าวและช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิต เมื่อเหตุสลายการชุมนุมเมื่อ 10 เม.ย.53 และนายฟาบิโอ โพเลนกี้ ช่างภาพชาวอิตาลีที่เสียชีวิต จากเหตุสลายการชุมนุม 19 พ.ค.53 การตายของบุคคลทั้งสองผ่านมาร่วม 3 เดือนเศษ และ 2 เดือนเศษตามลำดับ คดีไม่มีความคืบหน้า จนทางการของทั้งสองประเทศ ตลอดจนญาติพี่น้องของทั้งสอง เริ่มมาทวงถามผลของคดีและวอนให้รัฐบาลเร่งสะสางคดีที่ล่าช้าผิดปกติ เป็นการประจานรัฐบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ถึงการบังคับใช้กฎหมายที่สองมาตรฐาน ขาดความเชื่อถือต่อญาติของผู้เสียชีวิต ขาดความจริงใจในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาคนผิดมาลงโทษ ซ้ำยังตั้งคณะกรรมการหาข้อเท็จจริง ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน เพื่อมาซื้อเวลาและกลบปัญหาข้อเท็จจริงที่จะหาคนผิดมาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา เหมือนน่าจะมีเจตนาดองคดี ต่างกับคดีก่อการร้ายของแกนนำ นปช. และนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่ทำคดีอย่างฉับไว ส่งฟ้องศาลอย่างรวดเร็ว
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กตช.และประธาน กตร. ประธานคณะกรรมคดีพิเศษโดยตำแหน่ง สั่งการให้ทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพตามป.วิ อาญา มาตรา 150 ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนักข่าวต่างประเทศทั้งสอง รวมถึงประชาชนผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต เพื่อนำคดีสู่การพิจารณาของศาล เพื่อจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติ รวมถึงอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้สูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ไม่เช่นนั้นจะถือว่านายกฯมีเจตนาปกปิดความผิดของตนเอง และพวกพ้อง และขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ. ประทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ทำความดีให้แผ่นดินก่อนจะเกษียณอายุราชการ โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวน ท้องที่เกิดเหตุให้ดำเนินคดีและดำเนินการตามป.วิอาญา มาตรา 150 ที่มีญาติของประชาชนที่เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ควรดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่เช่นนั้นถึงแม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วอาจจะถูกร้องว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และอาจจะถูกดำเนินคดีเสียเอง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณีมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ที่จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2554 ในวันที่ 18-19 ส.ค.นั้น วันนี้รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ และจากที่มติวิปรัฐบาลไม่ให้รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.จำนวน 24 คน โหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณได้ ทำให้เกิดกระบวนการ การตกปลาในบ่อเพื่อน โดยซื้อตัว ส.ส.ฝ่ายค้านที่อยู่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจำนวน 2-3 คน และพรรคการเมืองบางพรรค ให้ตัวเลขสูงถึง 8 หลัก เพื่อที่จะให้โหวตรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ถือเป็นการกระทำที่ไร้ยางอาย ใช้เงินล่อส.ส. เป็นพฤติกรรมที่น่าเกลียด ดังนั้นขอให้ประชาชนติดตามส.ส.ที่ขายตัวว่าเป็นใคร เพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องเลือก ส.ส.ที่ขายอุดมการณ์เช่นนี้เข้าสู่สภาอีกแนะ
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา รักษาการณ์ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง ทั้งที่หมดวาระไปแล้วนั้น เรื่องนี้ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากข้าราชการในสตง.ว่า คุณหญิงจารุวรรณ ได้ทำหนังสือเวียนไปยังภายในหน่วยงานว่าจะมาดำรงตำแหน่งอีก โดยอ้างคณะกฎหมายของวุฒิสภา ที่สามารถดำรงตำแหน่งเป็นรักษาการณ์ได้ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วย สตง.ระบุว่า ผู้ว่าการสตง.อายุต้องไม่เกิน 65 ปี ปรากฎว่า คุณหญิงจารุวรรณ อายุเกินและหมดวาระแล้ว จึงขอเรียกร้องไปยังคุณหญิงจารุวรรณ ว่า ขอให้แสดงสปิริต เสียสละตัวเอง เพราะข้าราชการ รวมถึงหน่วยงานติดต่อประสานงานเขาอึดอัด งานไม่เดิน
เพื่อไทย

เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ
Monday, August 2, 2010
พท.แฉใช้เงิน8หลัก ดูดส.ส.โหวตพรบ.งบ54
พรรคเพื่อไทย แนะรัฐบาลตั้งคณะกรรมการระดับชาติ กำหนดยุทธศาสตร์เขาพระวิหาร แฉ ส.ส.ถูกซื้อตัวด้วยเลข 8 หลัก ให้ร่วมโหวตผ่านงบปี 54 ...