WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, October 21, 2011

ศปภ.รับช่วย ปชช.ไม่ทั่วถึง แต่เร่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือเพิ่มแล้ว ผสาน3เหล่าทัพ เร่งช่วยเหลือ ชาวนนทบุรี

ที่มา มติชน

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 ตุลาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) สนามบินดอนเมือง โดย นายวิม รุ่งวัฒนาจินดา โฆษกศปภ. เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ พื้นที่ประสบภัยแพร่เข้าถึงกรุงเทพมหานครแล้ว ศปภ. ได้ดำเนินการต่อเนื่องตลอด 2 สัปดาห์ แต่ต้องยอมรับว่า การช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นจากประชาชน แต่ขณะนี้ทางกองทัพไทย ได้มีการตั้งศูนย์เพิ่มเติม ซึ่งทาง ศปภ. อำนวยความสะดวกให้กองทัพไทย อำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือ 5 จังหวัด นครสวรรค์ อยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ซึ่งจังหวัดนนทบุรี โดยอำเภอที่ประสบปัญหามากที่สุดคือ อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางบัวททอง และอำเภอไทรน้อย โดย กองทัพไทยจะให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน


พล.ท.จิร เดช สิทธิประณีต ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝาสยกิจการพลเรือน ในฐานะหัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกส่วนหน้า แถลงข่าวว่า ตามที่ศปภ.มอบหมายให้กองทัพบก ช่วยเหลือประชาชน 5 จังหวัด เช่น ปทุมธานี นครสวรรค์ อยุธยา ลพบุรี นนทบุรี เป็นจังหวัดหนึ่ง ที่ทางกองทัพได้รับมอบหมายให้เข้าไปบูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือ บางบัวทอง ซึ่งได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือก่อนที่จะเกิดน้ำท่วม ทางกองทัพช่วยเหลือมาตลอด แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมานั้น สถานการณ์ในพื้นที่นนทบุรี ประสบปัญหาในระดับ วิกฤติ และ ประชาชนเดือดร้อนมาก ดังนั้นกองทัพบกจึงร่วมกับเหล่าทัพ เพื่อช่วยประชนให้เร็วที่สุด


ดังนั้นกองทัพไทย ขอความร่วมมมือ ดังนี้ 1. ขอให้ประชาชนที่ติดค้างอยู่ในบ้าน เตรียมความพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งทางกองทัพจะส่งเรือเรือ เข้าไปรับ 2. ศูนย์ป้องกันภัยทางอากสศ ได้เตรียมนำเรือออกเป็นสาย เพื่อออกไปรับประชาชน ในพื้นที่ตามเส้นทางที่ได้มีการแบ่งไว้ แต่ขณะนี้มีปัญหาคือเรือจะเข้าไปรับ ยังมีไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงได้ระดมเรือจากกองทัพเรือ ในคืนนี้คาดว่ารวมทั้งหมดจะได้ 40-50 ลำ โดยจะมีการลงเข้าไปในเขตพื้นที่ บางบัวทองก่อน หากประชาชน ได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้ง 1131 02241-1709 1111 กด 5 ทั้งนี้กองทัพจะขอความร่วมมือจากประชาชนที่มีเรือ และมีขีดความสามารถ เข้ามาอาสาช่วยมารับประชาชชนที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่


พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาการ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้กองกำลังตำรวจตะเวนชายแดน และตำรวจน้ำที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ อยุธยา เดินทางมาสมทบ เข้าช่วยเหลือประชาชน และได้รับมอบหมายให้ป้องกันเหตุการณ์โจรกรรมในพื้นที่ประสบอุทกภัย และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ และขณะนี้ได้มีการกำลังระดม กำลังตำรวจ เข้าลาดตระเวน มาช่วยด้านความปลอดภัยในทรัพย์สิน ด้านการจราจร และ อาชญากรรม ทั้งนี้จะมีการประสานกับร่วมกับอาสาสมัครต่างๆ เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หากมีข้อมูลเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่เบอร์ ศูนย์ช่วยเหลือเตือนภัยทางอากาศ และ ศูนย์วิทยุเตือนภัยแห่งชาติ 02-534-1911 02-504-3569

พล.อ.ท.ธงชัย แฉล้มเขตร รองผอ.ศูนย์บรรเทาสาธารภัยกองทัพอากาศ กล่าวว่า ตามที่นายกฯได้ มีคำสั่งให้มีการจัดตั้งศูนย์ค้นหาและช่วยชีวิตโดยมีวัตถุประสงค์ในการค้นหา ช่วยชีวิตผู้ที่ติดค้าง โดยทางกองทัพอากาศเป็นผู้รับผิดชอบและทำหน้า อำนวยความสสะดวกในการตรวจหาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยซึ่งเดิมครอบคลุม พื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งหลังจากได้รับการแจ้งเหตุผ่าน สายด่วน 1111 กด 5 ก็ได้มีการประสานกับทาง ศปภ. ในการจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ โดยขณะนี้ได้มีการจัดลงกำลังช่วยผู้ประสบภัย อ.ไทรน้อย จ.อยุธยา และ อ.เมืองจ.นนทบุรี โดยผู้แทนจากกองทัพบกได้มีการประสานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ แต่เนื่องจากระดับน้ำสูง รถของกองทัพไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงต้องใช้เรือของกองทัพเรือเข้าช่วย


ขณะที่ พลเรือโทบงสุช สิงห์ณรงค์ หัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารภัย กองทัพเรือส่วนหน้า กล่าวว่าในการส่งเรือเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมีหลายพื้นที่ เช่น จังหวังพระนครศรีอยุธยา และ ศาลาญาจังหวัดนครปฐม ซึ่งปัจจุบันมีกำลังเจ้าหน้าที่และเรืออยู่ 13 ลำ ที่ต้องขนย้ายประชาชนออกมา ขณะเมื่อค่ำวานนี้ทาง ศปภ.ได้รับเรือจากทางประเทศจีนที่ส่งมาช่วยเหลือ อีกกว่า 20 ลำ จึงทำให้กองทัพเรือ มีเรือที่จะนำไปช่วยผู้ประสบอุทกภัย 40-50 ลำ ที่จะเข้าเหลืออพพยประชาชนไปที่ปลอดภัย


ขณะเดียว กันกองทัพเรือ ได้ตั้งฐานปฏิบัติการลอยน้ำที่วัดเฉลิมพระเกียรติ และ วัดไทรม้า ซึ่งจะมีเรือประจำการพร้อมให้ความช่วยเหลือ 3-4 ลำ อย่างไรก็ดีในการช่วยเหลือเพื่ออพยพประชาชนในพื้นที่นนท์บุรี ขณะนี้ทราบว่าทางการไฟฟ้าได้ ทำการตัดไฟแล้ว ซึ่งจะทำให้การเข้า ช่วยเหลือ มีความยากลำบาก จึงขอให้ประชาชน เมื่อได้ยินเสียงเรือเจ้าหน้าที่ให้มีการ ส่งสัญญาณ เช่น ส่องไฟฉายทำสัญญาณกระพริบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้ตรงจุด