ที่มา บางกอกทูเดย์ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา คงเป็นภาพที่คนไทยทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นในสภาพบ้านเมืองที่กำลังวุ่นวายในขณะนี้ อีกทั้งไม่คาดคิดว่า เหตุระเบิดเอ็ม 79 จะนำมาซึ่งการสูญเสียครั้งใหญ่ มีผู้บาดเจ็บ 80 กว่าราย เสียชีวิต 1 รายเหตุการณ์ครั้งนี้...เกิดขึ้นบนความเห็นที่ขัดแย้งทางการเมือง ระหว่าง 2 กลุ่ม คือกลุ่มคนรักสีลม ที่เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ทำมาหากินในย่านสีลม รวมทั้งการรวมตัวกันเพื่อป้องกันไม่ให้คน เสื้อแดงยกพลบุกสีลม ตามที่แกนนำคนเสื้อแดงเคยประกาศไว้ขณะที่ฝ่ายคนเสื้อแดงที่สร้างป้อมค่ายป้องกันเหตุปะทะ มองว่าการออกมาท้าตีท้าต่อยของคนรักสีลมเป็นการยั่วยุให้เสื้อแดงออกมาใช้กำลังปะทะกัน ก่อนเกิดเหตุคนร้ายยิงเอ็ม 79 ถล่มสีลม เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างคนไทยด้วยกันเอง แต่อยู่คนละสีเท่านั้น แม้เหตุการณ์ครั้งนั้นจะมีการขว้างปา ขวด ก้อนหินเข้าใส่กัน แต่ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ไม่นานถนนสีลมอาจจะนองเลือดแล้วในค่ำคืนวันที่ 22 เม. ย. เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...เมื่อคนร้ายยิงเอ็ม 79 เข้าใส่สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง 3 ลูก ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บด้วย ในเวลาใกล้เคียงกัน...คนร้ายยิงเอ็ม 79 ตกหน้าโรงแรมดุสิตธานี และหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บหลายสิบคนซึ่งเป็นคนทำงานที่กำลังจะเดินทางกลับบ้านได้รับบาดเจ็บ ความโกลาหล เกิดขึ้นทันที! หลายคนช่วยนำตัวผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลายคนรีบวิ่งหนีเพื่อหา ทางกลับบ้านจนไม่เหลือบรรยกาศถนนสีลม ที่เคยเป็นถนนแห่งการจับจ่ายของคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ “สีลม” ในพ.ศ. นี้ไม่ต่างจากสมรภูมิรบ ตำรวจ ทหาร เสริมกำลังเข้าพื้นที่ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่ง แต่สถานการณ์กลับไม่ได้คลี่คลาย เพราะทั้ง 2 ฝ่าย เริ่มอยู่ในอาการโกรธแค้น โดยเฉพาะฝั่งคนสีลม ที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมระดม ขวด หนังสติ๊ก ยิงเข้าใส่กลุ่มคนเสื้อแดงในฝั่งตรงข้าม ทำให้ตำรวจทหารได้เจอลูกหลงบาดเจ็บหลายคน ทันทีที่เหตุ ระเบิดเกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีพร้อมผบ. เหล่าทัพ และผู้เกี่ยวข้องเรียกประชุมศอฉ. ทันที เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ แม้จะมีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไม่สามารถระงับยับยั้งเหตุร้ายที่เกิดขึ้นได้ขณะที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ออกมาชี้แจงผ่านทีวีพูล โดยยืนยันว่า...วิถีกระสุนเอ็ม 79 มาจากฝั่งคนเสื้อแดง พร้อมขอให้ทั้งสองฝ่ายถอยห่าง 400 เมตร เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ แต่การแถลงของนายสุ เทพ กลับสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มคนเสื้อแดง ที่เหมือนเป็นการโยนความผิดให้คนเสื้อแดง ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานมายืนยัน งานนี้นายสุเทพจึง “ผิดคิว” ที่ออกมาโยนความผิดให้คนเสื้อแดง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นแล้วว่า “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ที่รัฐบาลมีไว้ในมือไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ กลายเป็นกฎหมายที่เอาไว้ขู่ม็อบเท่านั้น!
เพื่อไทย

เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ