ที่มา thaifreenews
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดา :
โศกนาถกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้นในเมืองไทย
โศกนาถกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้นในเมืองไทย
เมื่อหลายสิบปีก่อน มีข่าวใหญ่สะท้านโลกข่าวหนึ่งคือ
ข่าวเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศรวันดา
ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ในแอฟริกา
ข่าวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ค่อนข้างสะเทือนขวัญชาวโลก
ที่แม้แต่เพื่อนบ้านกันเองที่มีความคุ้นเคยสนิทสนมกันมานาน
ก็ยังจับอาวุธขึ้นมาฆ่ากันเองกระจายไปทั่วประเทศ
แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นคนไทยส่วนใหญ่อาจลืมเลือนไป
เพราะหลังจากนั้นไม่นาน
ประเทศไทยก็เจอกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ
ประเทศไทยก็เจอกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ
เล่นงานเสียงอมแหงม แล้วเรื่องรวันดาก็จางหายไป
เรื่องรวันดามาสะกิดใจชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อมีภาพยนต์ดังเรื่อง Hotel Rwanda ออกฉาย
ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ได้สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประเทศรวันดา
ที่ผู้จัดการโรงแรมชาวฮูตูได้ช่วยชีวิตชาวตุ๊ดชี่ไว้หลายพันคน
จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนชาติเดียวกันเอง
จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนชาติเดียวกันเอง
Rwanda คือชื่อของประเทศหนึ่งที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา
ล้อมรอบไปด้วยประเทศ ยูกันดา บุรุนดี คองโก และแทนซาเนีย ปัจจุบันประเทศ Rwanda มีเมืองหลวงชื่อว่า กรุง Kigali
เดิมทีดินแดนนี้เคยเรียกว่า Ruada-Urundi
เคยรวมอยู่กับ Burundi
แล้วตกเป็นอาณานิคมของเยอรมัน พศ. 2433
เคยรวมอยู่กับ Burundi
แล้วตกเป็นอาณานิคมของเยอรมัน พศ. 2433
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเยอรมันแพ้สงคราม
ทำให้รวันดา ตกอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การสหประชาชาติ
โดยมีเบลเยี่ยมเป็นผู้ดูแลแทนองค์การสหประชาชาติ
โดยในขณะนั้นรวันดามีการปกครองแบบมบูรณาญาสิทธิราชย์
ประชาชนของรวันดา ประกอบด้วยคนสองเผ่าคือ
เผ่าตุ๊ดชี่ (Tutsi) ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยของประเทศ
มีประมาณร้อยละ 15 แต่เป็นกลุ่มที่
มีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี
มีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี
มีการศึกษาดีและส่วนใหญ่เป็นพวกนักรบ
อีกเผ่าหนึ่งซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศคือ
เผ่าฮูตู (Hutu) ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานะยากจน
มีอาชีพทางด้านกสิกรรมเป็นส่วนใหญ่
เมื่อปี พศ.2502 ได้เกิดสงครามระหว่างประชากรทั้งสองเผ่าขึ้น
ซึ่งผลของสงครามทำให้ชนเผ่าตุ๊ดชี่ หมดอำนาจลง
และ 2 ปีต่อมา เบลเยี่ยมได้จัดให้มีการลงประชามติ
เกี่ยวกับเอกราชของรวันดา
และ 2 ปีต่อมา เบลเยี่ยมได้จัดให้มีการลงประชามติ
เกี่ยวกับเอกราชของรวันดา
และผลของประชามติ คือ ชาวรวันดา
ต้องการที่จะปกครองตนเอง
เบลเยี่ยมจึงให้เอกราชแก่รวันดา
ในวันที่ 1กรกฎาคม 2505 (1962)
รวันดาจึงได้กลายเป็นสาธารณรัฐ
มีการร่างรัฐธรรมนูญและจัดให้มีการเลือกตั้ง
ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคของชาวเผ่า ฮูตู (Hutu)
ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งและได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล
มีนาย Gregoire Kayibanda
เป็นประธานาธิบดีคนแรกของรวันดา
เป็นประธานาธิบดีคนแรกของรวันดา
แต่อย่างไรก็ตาม ในปี พศ.2506 – 2507
ก็ได้เกิดสงครามระหว่างชนทั้งสองเผ่าอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งผลของสงครามทำให้เผ่าตุ๊ดชี่ถูกฆ่าตายไปหลายพันคน
และอีกหลายหมื่นคนต้องหนีไปอยู่ยูกันดาและบุรุนดี
ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2516
พลเอกJuvenal Habyarimana
ทำรัฐประหาร ขับไล่ประธานาธิบดี Kayibanda
ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรก
ออกจากตำแหน่ง
ซึ่งการรัฐประหารในครั้งนั้นทำ
ซึ่งการรัฐประหารในครั้งนั้นทำ
ให้พรรคของชนเผ่าฮูตูหมดอำนาจลง
โดยพรรคของเผ่าตุ๊ดชี่ ซึ่งควบคุมโดยกองทัพ
เข้ามามีอำนาจแทนประธานาธิบดี
พลเอก Juvenal Habyarimana
เข้ามามีอำนาจแทนประธานาธิบดี
พลเอก Juvenal Habyarimana
มีนโยบายขจัดลัทธิเผ่านิยม
เพื่อสร้างความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นให้แก่ประเทศ
ตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2521
เพื่อสร้างความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นให้แก่ประเทศ
ตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2521
ทำให้พรรค MRND ซึ่งควบคุมโดยกองทัพ
เป็นพรรคการเมืองที่ถูกกฎหมายเพียงพรรคเดียว
นโยบายสำคัญของพรรค MRND คือ
ขจัดความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์
และสร้างเอกภาพให้แก่ชาติ
โดยอำนาจตุลาการใช้ผ่านทางศาลและ
คณะรัฐมนตรี (Council of State)
2 เดือนของการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ
ภายหลังการอสัญกรรมของประธานาธิบดี
พลเอก Juvenal Habyarimana
พลเอก Juvenal Habyarimana
ซึ่งเป็นชนเผ่าฮูตู โดยมี่สาเหตุมาจากเครื่องบินตก
ในวันที่ 6 เมษายน 2537 ซึ่งได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญ
และการเริ่มต้นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
โดยพวกฮูตูได้โฆษณาชวนเชื่อว่า
โดยพวกฮูตูได้โฆษณาชวนเชื่อว่า
ประธานาธิบดีของชนเผ่าฮูตูตายนั้น
เกิดจากฝีมือของชนเผ่าตุ๊ดชี่
เกิดจากฝีมือของชนเผ่าตุ๊ดชี่
และในวันที่ 8 เมษายน 2537
Dr.Theodore Sindikubwabo ชนเผ่าฮูตู
ก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน
การปลุกระดมและการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ
เพื่อยุยงให้มีการฆ่าชนเผ่าตุ๊ดซี่
ก็เริ่มขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นตนมา
ซึ่งพวกอาสาสมัครที่ ของเผ่าฮูตู
ที่มีการจัดตั้งขึ้นมาอย่างลับๆ ทั่วประเทศ
มีมีดขนาดใหญ่เป็นอาวุธ
ก็ได้รวมกลุ่มกันสังหารหมู่ชาวตุ๊ดชี่
เป็นจำนวนมาก แม้ในขณะนั้น
จะมีทหารขององค์การสหประชาชาติ
ก็ได้รวมกลุ่มกันสังหารหมู่ชาวตุ๊ดชี่
เป็นจำนวนมาก แม้ในขณะนั้น
จะมีทหารขององค์การสหประชาชาติ
ประจำอยู่ในประเทศรวันดาก็ตาม
แต่ทหารเหล่านั้นก็ไม่สามารถป้องกัน
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ขนานใหญ่นี้ได้เลย
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ขนานใหญ่นี้ได้เลย
ผลของการฆ่าที่ดำเนินไปเป็นเวลากว่า 2 เดือน
ทำให้ชาวตุ๊ดชี่สังเวยชีวิตถึง 800,000 คน
รวมทั้งชาวฮูตู มากกว่า50,000 คน
รวมทั้งชาวฮูตู มากกว่า50,000 คน
เรื่องเล่าที่เป็นโศกนาฎกรรมคือ
บางครอบครัวหัวหน้าครอบครัวต้องลงมือสังหารบุตร
และภรรยาของตนเอง เพียงเพื่อให้ลูกๆ
และภรรยาไม่ต้องตายอย่างทรมาณ
เพราะหากปล่อยให้พวกอาสาสมัครฮูตูฆ่าเอง
พวกนั้นจะตัดมือตัดแขน และปล่อยให้ตายเองอย่างทรมาน
หลายครอบครัวจึงขอลงมือสังหารเอง เนื่องจากไม่มีทางรอดแล้ว
เมื่อเราเทียบเหตุการณ์ในครั้งนั้น
กับเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว
โดยฮิตเลอร์ สมัยสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ใน รวันดา
กลับมีจำนวนคนตายมากกว่าถึง 3 เท่า
ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียงสองเดือนเท่านั้น...!!
และเหตุใดทำไม ชนเผ่าฮูตู ถึงได้ ฆ่าชนเผ่าตุ๊ดชี่
ได้อย่างรวดเร็วและมากมายได้ขนาดนั้น
ทั้งที่ช่วงนั้นประเทศ รวันดา
ก็อยู่ภายใต้การดูแลการเลือกตั้งของทหารสหประชาชาติ
(ฝรั่งเศส เป็นผู้นำในการดูแลประเทศรวันดาในขณะนั้น)
ในขณะที่โลกเราขณะนั้นก็มีการสื่อสารที่ไร้พรมแดน...
ในขณะที่อเมริกา มีประธานาธิบดีที่ชื่อ Bill Clinton ......?.....