ท่านพี่น้องที่เคารพครับ ที่บางแค เป็นที่คุ้นเคยถ้าปราศัยหาเสียงเลือกตั้งที่กรุงเทพฯ ไม่มาที่ บางแค ก็เป็นเรื่องผิดปกติ แต่วันนี้ความผิดปรกติอยู่ที่จำนวนผู้คนที่มานั่งรอกันตั้งแต่เย็น ปกติถ้าผม ปราศัย ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุงยังไม่มา วันนี้มาเข้าเรียงแถวกัน ผมก็จะคุยกับท่านตามสมควร แก่เวลาด้วยเหตุด้วยผลที่จะเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง
ท่านพี่น้องที่เคารพ เวลามารณรงค์ปราศัยหาเสียงเลือกตั้งใครๆ ก็บอกอยากฟังนโยบายอยากฟัง อย่างโน้นอย่างนี้ นั่นแปลว่าเขาอยากให้เราพูดนโยบาย และไม่พูดว่าทำไมถึงจะต้องเลือกตั้ง ที่จะต้องพูดกันเรื่องนี้ เพราะเห็นว่ามันมีการยึดอำนาจบ้านเมืองนี้ ต้องพูดกันชัดเจนว่าบ้านเมืองอยู่มาดีๆ เดินมาดีๆ 4 ปี บวก 1 ปี รัฐบาล ทำความสำเร็จให้บ้านเมือง แต่ปรากฏว่ามีคนยึดอำนาจ
ถ้าเราดูย้อนไปไกลกว่านั้น ปี 2540 บ้านเมืองมีวิกฤตการณ์ทางการเงินใครเป็นคนทำผมไม่อยากแกะสะเก็ด ให้เสียเวลา เพราะว่าเมื่อเกิดวิกฤติการณ์ทางการเมือง พรรคการเมืองซึ่งมีโอกาสได้ตั้งพรรคการเมืองหลายครั้ง หลายหนนั้นได้มีโอกาสบริหารบ้านเมือง 3 ปีติดต่อกัน แต่แก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่ติดพันอยู่ไม่ได้ ปัญหาทางการเงิน ที่เราต้องกู้เขามา 4 แสนล้านจาก IMF
พอเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก็ได้เห็นว่า รัฐบาลที่เข้ามาใหม่มีความสามารถ อยู่ครบ 4 ปี ใน 2 ปีนั้น สามารถใช้หนี้คืน IMF ได้ ไม่ใช่เงินนิดหน่อยนะครับ เขาสามารถดำเนินการกิจการ และนโยบายต่างๆ เหมือนพูดเล่นแต่เขาทำจริง แล้วก็ได้รับความสำเร็จจริงๆ นโยบายเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค นโยบายกองทุนหมู่บ้าน 80,000 หมู่บ้านก็ดี โอทอปก็ดี ทำแล้วได้รับความสำเร็จ
แล้วมีพรรคการเมืองเก่าแก่รู้สึกว่าทักษิณจะอยู่ตลอดไปหรืออย่างไร มีคนซึ่งไม่ชอบเศรษฐีเก่า อิจฉาเศรษฐีใหม่ ถามว่าเศรษฐีใหม่ทำความผิดไหม ผมว่าไม่ผิดนักการเมืองเมืองไทยส่วนใหญ่นั้นเขาว่ายากจน แล้วเข้ามาเล่นการเมืองแล้วก็ร่ำรวย แต่นายกฯทักษิณนั้น ไปทำความร่ำรวยมาก่อนแล้วก็เข้ามาสู่วงการทางการเมือง เขาดำเนินกิจการทางการเมือง จะว่าเขาโชคดีก็ตรงว่าเราล้มลุกคลานมา 65 ปี เมื่อปี 2534 มีการปฏิวัติโดยไม่มีเหตุผล
หลังจากนั้นในที่สุดปี 2540 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยคนที่มาจากการเลือกตั้ง ได้รัฐธรรมนูญที่ดีมาก ดีคือว่าจะทำให้รัฐบาลแข็งแรง ถามว่าคนที่เข้ามาใช้รัฐธรรมนูญนั้น เขาร่างรัฐธรรมนูญมาเองรึเปล่า คุณทักษิณตั้งพรรคเมื่อปี 2542 เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ
แต่ว่าเมื่อเกิดเหตุ เขาก็ทำอย่างที่นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยพึงทำ คือ เอาอำนาจกลับให้ประชาชน ด้วยการกราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัว ปลุกระดมข่มขู่ด่าทอว่ากล่าวกันรุนแรงตามข้างถนนขอพระราชทานโปรดเกล้าฯ ให้ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ก็ถูกต้องตามกฏหมาย เลือกตั้งใหม่ก็ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ปรากฏว่ามีคนเล่นการเมือง สู้เกมการเมืองไม่ได้รวมหัวกันประท้วงดีกว่า ถ้าพูดภาษาชาวบ้านว่า สู้ไปก็แพ้เปล่าๆ ประท้วงไม่ลงเลือกตั้งดีกว่า การประท้วงไม่ลงเลือกตั้งนั้นได้ ไม่มีปัญหา
แต่ว่าก่อกวนการเลือกตั้งจนกระทั่งทางนั้นล้มกันข้างหนึ่ง หาเหตุกล่าวหาว่าพรรคการเมืองใหญ่ จ้างพรรคการเมืองเล็กให้ลงเลือกตั้ง พรรคการเมืองอีกพรรคกล่าวอย่างนี้ได้เขาก็กล่าวหาว่า คุณก็จ้าง พรรคการเมืองเล็กไม่ให้ลงเลือกตั้ง ของพันธุ์นี้มันต้องมองเจ๊ากันครับ มองง่ายๆ เหมือนกันเลย
แต่ไม่น่าเชื่อมีคนปฏิวัติอ้างเหตุ 4 ข้อ ผมต้องขืนใจเพราะผมเป็นผู้รับ เขาบอกว่านายกฯ ทักษิณ ไม่จงรักภักดีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน บอกว่า ทักษิณนั้นทุจริตฉ้อราษฎ์บังหลวง บอกว่า แทรกแซงองค์กรอิสระ แทรกแซงสื่อสารมวลชน
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้นบ้านเมืองนี้ เมื่อคนทำปฏิวัติเขาก็รู้ว่าต่างชาติก็จ้องมองอยู่เขาบอกขอเวลา 1 ปี ีรัฐธรรมนูญมันดีเกินไปสำหรับรัฐบาล เขาก็ฉีกทิ้งเสียเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่เอาให้ใครมาร่างก็ไม่รู้ ร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประวัติใช้ไม่ได้ แต่ก็ต้องประกาศใช้
ท่านพี่น้องครับวันที่ 24 สิงหาคมประกาศใช้รัฐธรรมนูญก่อนหน้านั้นมีการลงประชามติรัฐธรรมนูญ ท่านพี่น้องจะเห็นนะครับว่าลงประชามตินั้นมันเป็นลักษณะที่ว่า มีปฏิวัติฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ต่างพ้นโทษ ตัวเองมาร่างรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญใช้ไม่ได้แต่ต้องประกาศใช้บังคับบอกราษฏร ต้องมาลงคะแนน
แต่เคราะห์ดี พรรคการเมืองมีการทดสอบ คุณเอาใครมาร่างก็ไม่รู้ รัฐธรรมนูญอย่างนี้ใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ บอกขอให้ประชาชนช่วยลงคะแนน บอกใส่เสื้อเขียว ครั้งนี้จะบอกเขาใส่เสื้อแดง เมื่อถ้าทายกันอย่างนี้ผลออกมานั้นมันเฉียดๆ ไหม ไม่เฉียดๆ นะ เป็นตัวเลขที่ใช้ได้ ้สนับสนุนรัฐธรรมนูญ 58 % ไม่สนับสนุน 41 % แล้วก็มีรัฐธรรมนูญออกมาใช้ รัฐธรรมนูญออกมาใช้แล้วแปลว่า สิทธิและเสรีภาพมันกลับเข้ามา
นักการเมืองอย่างผม ซึ่งถูกเหยียบปากกันตลอดทั้งปี ก็ต้องลุกออกมาก่อนที่จะถึงเวลาจะเลือกตั้ง ต้องมีรัฐธรรมนูญ นายกทักษิณต้องลี้ภัยการเมืองไปอยู่ประเทศอังกฤษ วันหนึ่งหารือบอกคุณสมัครช่วยหน่อย ข่าวมาว่าจะเลือกตั้ง และเขาจะให้พรรคการเมืองเก่าแก่ได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล จะเอานักการเมืองที่ฆ่าไปแล้ว 111 นั้นยังเหลืออีก 270 เขาจะสับเป็นท่อนๆ ให้เป็นไม้ประดับ ปฏิวัติมาพูดกันอย่างนี้ ท่านนายกบอกว่า คุณสมัคร เราเลือกพรรคชื่อ พรรคพลังประชาชน ไว้ พรรคนี้ปลอดภัยไม่มีใครมายุ่ง เขาบอกว่าคุณสมัครช่วยถือธง ให้หน่อย แล้วก็ 270 คนที่กระจัดกระจายนั้นให้กลับมารวมกัน ผมบอกว่าได้
มีเหตุผลว่าหนึ่งผมนั้นเป็นนักการเมืองและได้รับการเลือกตั้งให้เป็นวุฒิสมาชิกวันที่ 19 เมษายน 2549 อยู่ได้ 5 เดือนยึดอำนาจไป ผมต้องเป็น 6 ปี แล้วเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พรรคการเมืองใหญ่จ้างพรรคการเมืองเล็กลงยุบ พรรคการเมืองใหญ่จ้างพรรคการเมืองเล็กลงไม่ให้ยุบ มีการใช้วิธีการเลือกปฏิบัติ ดูแล้วเหมือนจะชอกช้ำ แล้วบอกว่า นายกฯ ทักษิณ นั้นไม่จงรักภักดีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ผมบอกท่านว่า นายกฯ รับตราทุติยะสดุดีพระจอมเกล้าพร้อมกับผม ขณะเป็นผู้ว่า กทม. ปี 2545 เกียรติยศเท่ากันเกือบจะสูงสุดในบ้านเมืองแล้ว
แล้วก็มีทหารอีกมือหนึ่งมาบอกว่า ไม่จงรักภักดี มีพรรคการเมืองหนึ่งที่ตลอดชีวิตเคยต่อสู้ กับเผด็จการเคยชี้หน้าว่าทหารมีแต่ขี้แต่ไส้ พอเขายึดอำนาจบ้านเมืองเสร็จก็ไปกอดขี้กอดไส้ ผมต้องนำเรื่องอย่างนี้มาปูพื้นเล่าให้ฟัง ช่วยกันบอกเมื่อวันที่ได้รัฐธรรมนูญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ลงพระปริมาภิไธยวันที่ 24 สิงหาคม ผมก็ได้รับเลือกให้เป็น หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ผมก็เริ่มหักล้างตั้งแต่วันนั้น
ลองคิดดู คนไทยคนหนึ่งไม่เคยได้รับอะไรจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังไม่กล้า นี่ได้รับพระราชทานตราเต็ม หน้าอก ได้รับเกรียติยศสูงส่งแล้ว มีหรือคนอย่างนี้จะมาชี้หน้าบอกว่าไม่จงรักภักดี หาว่าจะตั้งราชวงศ์ชินวัตร จะเป็นประธานาธิบดี ใส่ความสกปรกกันอย่างนี้ ผมบอกไม่ได้ ทุจริตฉ้อราษฏร์บังหลวง เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ ปีหนึ่งไข้หวัดใหญ่ตายไป 12,000 สามปีตาย36,000 ไม่มีปัญหา แต่ว่าไข้หวัดนกสามปีตายไป 17 คน แต่ถ้าไข้หวัดนกมันจะเป็นจะตาย เศรษฐกิจเสียหายการค้าการขายไก่เสียหาย ไปทั่วโลก
มากล่าวหาว่า แทรกแซงองค์กรอิสระ ไอ้ที่ยึดอำนาจเขามา ตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาเอง จะลากคอเขาเข้าตาราง พรรคนี้จะต้องยุบ ก็ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง อย่างนี้ เมื่อเวลาที่บอกว่าจะแทรกแซง นายกฯ ทักษิณแทรกแซงถี่ เขาทะเลาะกับใคร ทะเลาะกับไอ้แก๊งข้างถนน ไอ้คนหนึ่งที่ถือปากกา แล้วก็เอาปากกาสั้นชี้ใส่คนหนึ่ง กับไอ้คนหัวล้านนั่นคนหนึ่ง สามคนเท่านั้นที่ทะเลาะกับนายกฯ ทักษิณ บอกแทรกแซงสื่อ แต่ว่าเลือกปฏิวัติมานั้นเอารองเท้าทับบูธเหยียบกล้องโทรทัศน์ 8 ช่องโงหัวไม่ขึ้น กลัวเกรงเขาหมด
มีรัฐธรรมนูญ แปลว่า สิทธิเสรีภาพอยู่กับปวงชนชาวไทยแล้ว แต่บรรดาสื่อสารมวลชนก็ยังตื่นเกรงกันอยู่
ผมก็สงสารสื่อมวลชนผู้ที่มาทำข่าว เขามาทำข่าวผมก็เที่ยวว่ากล่าวเขา ผมก็ชี้ๆ บอกคุณสมัคร จะขอลองหน่อยพวกผมมาทำหน้าที่แล้วก็รายงานเขาไป คนที่เขาจะตัดจะตอนข่าวนั้นมันอยู่ในสถานี อยู่ในโรงพิมพ์ อยู่ในวิทยุ ที่ต้องพูดอันนี้ผมจะลองถามท่านพรรคพวกที่มาฟังปราศัยเจอผู้สื่อข่าวถ่ายอะไรเข้าก็ล้อเล่น ผู้สื่อข่าว บอกคุณสมัครช่วยผมหน่อย ผมมาทำข่าวตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรหรอกครับ
แต่ทว่าบอกไป โอ้ย! มาทำอย่างนั้นอย่างนี้ เอาไปแล้วไม่ออกข่าวก็บอกว่าสถานีเป็นคนจัดการ ผมเพียงขอร้องท่านไว้นะครับ พวกเขามีไมตรีดีครับ เข้าไปสถานีที่ยังกลัวพวกทับบูธกันอยู่
วันนี้ ผมจะเรียนพี่น้องที่เคารพว่า การเมืองนั้นมันเดินมาถึงจุดที่ผมต้องเรียกร้องท่านว่าท่านพี่น้อง ต้องพิจารณาแล้วครับว่า บ้านเมืองของเรานั้นมองเห็นกันชัดเจนว่า เล่นกันไม่ชอบมาพากล แล้วผมเองนั้น ก็เฉียดไปเฉียดมา เมื่อมีอะไรกระทบกระทั่งกับพรรคพลังประชาชน ผมก็ต้องร้องทุกข์ เมื่อร้องทุกข์แล้ว มีกรรมการพิจาณาเรื่องให้ ผมก็ขอบคุณ ผมยุติเท่านั้น ผมพอใจแล้วว่าไม่มายุบพรรคผม แล้วจะดำเนินการต่อไปก็ว่ากันไป ใครจะไปชี้แจงยังไงก็สุดแล้วแต่
แต่ผมก็ต้องเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนเข้าใจไว้ว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึงนั้น ถ้าท่านทั้งหลายไม่ช่วยกัน กรุณาแล้ว สิ่งที่เราเห็นว่า คนหยิบมือหนึ่งที่จัดการยึดอำนาจโดยไม่มีเหตุผลนั้น ถ้าหากว่าเขาทำได้สบายๆ พรรคการเมืองจะกอดแข้งกอดขากันไว้ แล้วยังตามรังแกตามรังควาญพรรคการเมืองเลือกตั้งกันโดยสุจริตนั้น
ผมว่าท่านพี่น้องทั้งหลายเท่านั้นครับ ที่จะเป็นคนวินิจฉัย ท่านเป็นคนตัดสินใจว่า ท่านจะเลือกพรรคการเมือง ไหนเป็นคนเข้ามาดูแลบ้านเมือง ผมอยากให้ท่านทบทวนย้อนหลังไปดูว่ามันเป็นความจริงหรือเป็นความเท็จ ที่คณะปฏิวัติยึดอำนาจบอกว่าถ้าวันที่ 19 กันยายนเขาไม่ยึดอำนาจ บ้านเมืองจะนองเลือด
ผมยืนยันว่า พวกปฏิวัติพูดความเท็จ พวกท่านทั้งหลายลองนึกดูวันที่ 19 กันยายนปีกลาย มีพวกระดมอยู่หยิบมือหนึ่งตรงหน้าพระบรมรูป ถ้าไม่ปฏิวัติรุ่งขึ้นมันก็ปลุกระดมกันต่อไป บ้านเมืองก็เป็นอย่างที่ว่า นายกฯ ปล่อยให้เขาด่าเขาว่ามีประชาธิปไตยเต็มตัวไม่ทักไม่ท้วงไม่แตะไม่ต้องไม่จับไม่กุม ก็หาว่าเป็นเผด็จการ ไปๆมาๆ ผมจะบอกพี่น้องที่เคารพว่า ทำไมเขาทำปฏิวัติทุกวันนี้พูดกันได้แล้วครับ ก็เขายืนยันว่า นายกฯ ทักษิณไม่จงรักภักดีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทุจริตคดโกง แทรกแซงองค์กรอิสระแทรกแซงสื่อจึงต้องปฏิวัติ
แล้วตอนนี้ประชาธิปไตยกลับคืนมารัฐธรรมนูญมีมาแล้ว สามารถจัดตั้งวงปราศรัยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งแล้ว
เล่าย้อนเบื้องหลังให้ฟังได้ว่า คนที่ทำปฏิวัตินั้นไม่มีเหตุผล มันมีเหตุจากพรรคการเมืองเก่าแก่เห็นว่าเขา ทำงานสำเร็จ อดรนทนไม่ได้คิดว่า ทักษิณจะอยู่ตลอดไป อยู่ที่เหตุว่าทักษิณเองต้องมีข้อบกพร่อง เช่น นักวิชาการเขาวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ นายกฯ คนอื่นเขาก็ปล่อยให้วิพากษ์วิจารณ์ พอไอ้เสื้อกั๊กวิจารณ์มาท่านนายกฯ ก็สวนกลับพอดี
เมื่อถึงเวลาที่ องค์กรเอ็นจีโอ ใช้งบประมาณรัฐบาลไป 4,600 ล้าน นายกฯ ทักษิณบอกให้เงินไปมัน ก็นั่งด่า รัฐบาล เพราะฉะนั้น จะเลือกให้เฉพาะเอ็นจีโอดีๆ พวกด่ารัฐบาลก็ไม่ให้ ก็เป็นสิทธิ์ของรัฐบาลเขา บรรดาสื่อมวลชน ทั้งหลายบอกว่าวันเกิดนายกฯ ต้องจัดงานเลี้ยงที่ไหนโรงแรมไหนต้องไป นายกฯ ทักษิณก็ไม่ไป
แต่ไปโรงพิมพ์ไหนรู้ไหมครับ ไปโรงพิมพ์ผู้จัดการ ผู้จัดการแต่ก่อนนี้นี่ 4 ปีแรกยกย่องนายกฯ ทักษิณ ยังกับเทวดา ไปๆ มาๆ พอ นายกฯ ทักษิณได้รับเลือกตั้งใหม่เที่ยวนี้ได้มาพรรคเดียว 377 คนปรากฏว่าขอนั่น ก็ไม่ให้ขอนู่นก็ไม่ให้ แล้วเริ่มต้นด่า มันหมายความว่ายังไง
ท่านพี่น้องครับ มันเกิดจากความอิจฉา เกิดจากการเห็นเขาทำดี ไม่ได้เห็นเขาทำได้ไม่ดี มันเกิดจาก นายทหารหยิบมือเดียวที่ไม่มีความคิด ได้รับการยุยงส่งเสริม แล้วก็ทำการปฏิวัติยึดอำนาจไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำไปนั้น มันทำลายเกียรติยศบ้านเมืองเสียหายขนาดไหน
และเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนปีกลายนี้ มีงานมหามงคล พระเจ้าอยู่หัวของเราครองราชย์ครบ 60 ปี มีพระมหากษัตริย์ 25 ประเทศเสด็จมาเยือนบ้านเมืองของเรา แต่ 2 เดือนผ่านไป ก็ทำปฏิวัติให้ต่างชาติ มองบ้านเมืองเราไม่ดี อย่างนี้ไม่ถูกต้อง
จาก http://www.hi-thaksin.org/home.php