ครั้งหนึ่งผมก็เหมือนคุณๆ นี่แหละ เข้าร้านเน็ตเล่นวินนิ่ง ดื่ม
เบียร์ นอน แต่ผมสมัครไปเป็นทหารและมีคำสั่งลงใต้ ความคิด
ผมเลยเปลี่ยนไปตลอดกาล อยากให้ทุกท่านที่อ่านรับรู้ถึงส่วน
หนึ่งที่ผมไปมาแล้ว
เริ่มแรกจะถูกส่งไปที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ก่อน
ครับ ไม่ว่ามาจากไหน เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ผมเป็น 1 ใน
จำนวนนั้นที่ถูกส่งไปเมื่อถึงค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
เขาจะพาคนที่ลงจากรถบัสทั้งหมดไปรวมที่ศาลาแดง แล้ว
เขาจะแบ่งเป็นอีก 3 กลุ่มทันที กลุ่มที่ 1 อยู่ จ.ปัตตานี ที่
ค่ายอิงคยุทธบริหาร กลุ่ม 2 อยู่ จ.ยะลา ที่ค่ายสิรินธร กลุ่ม
3 อยู่ จ.นราธิวาส ที่ค่ายพันพัฒนาที่ 4 (ค่ายปล้นปืนที่เป็น
ข่าว) ซึ่งผมก็ถูกส่งไปอยู่ค่ายพันพัฒนาที่ 4 ต.มะรือโบออก
อ.เจาะไอร้อง นี่เอง
วันแรกผมทั้งกล้าทั้งกังวลปนกันไปหมด อย่างที่ผมบอก ชาย
วัยรุ่นคนหนึ่งจากเคยเล่นวินนิ่ง ค่ำมาก็เมา ด่าแม่เพื่อนขำๆ วันนี้
มาอยู่ในที่ที่พร้อมจะอยู่หรือตาย
ในส่วนของค่ายพันพัฒนาที่ 4 ที่นี่เขาจะทำให้พลเรือน
ซึ่งสมัครเข้าเป็นทหารยิงปืนให้ได้ภายใน 13 วัน โดยฝึก
HK33 และ M16 A-1
วันที่ปล้นปืน คนในหมู่บ้านก็มาร่วมปล้น ท่านรู้หรือไม่ วัน
ปล้นปืนพวกนั้นได้ไปกว่า 300 กระบอก M16 A-1 โจรที่มันมา
ปล้นมีประมาณ 300 คน ทั้งเด็กวัยรุ่นยันคนแก่
1 ม.ค.47 ทหารใหม่แยกย้ายกลับบ้าน ทว่า 3 วันต่อมาก็เกิด
เหตุการณ์ปล้นปืน สงสัยไหมครับ?
เพราะชาวบ้านที่มาฝึกทหารใหม่ทั้งหมดเป็นแขก มาฝึกใช้ปืน
ให้เป็น เสร็จแล้วก็กลับบ้าน
จากนั้น ก็หวนมาปล้นค่ายพันพัฒนาที่ 4 กลับมาปล้นชาติ
ตัวเอง
มันจับทหารบนกองร้อย เอาลวดราวตากผ้าที่หลังกองร้อยมัด
มือเท้าไว้แล้วรวมกันหน้าคลัง รุ่นพี่เล่าว่ามีทหารคนนึงเป็นไทย
พุทธถูกมัดข้างๆ แล้วพระที่แขวนไว้ออกมานอกเสื้อ 1 ในโจรที่
คลุมหน้าเดินเข้ามาเอาพระนั่นจุกเข้าไปในเสื้อใหม่พร้อมกับพูด
ว่า “ถ้าหัวหน้ากูถามบอกว่าเป็นอิสลาม”
เพราะโจรที่เดินบอก ก็คือเพื่อนตอนเกณฑ์ทหารนั่นเอง
“มึงก้มหน้าไว้พอ อย่าเอาพระออกมา เดี๋ยวกูจะช่วยมึง
ไม่ได้” เขาพูดไทยไม่ชัดเท่าไหร่
แล้วเขาก็เดินไปคุยกับหัวหน้ามันเป็นภาษายาวีแนวๆ ว่า อย่า
สนใจพวกนี้ เสียเวลาเปล่าๆ อย่างน้อยๆ มันทำเพื่อช่วยรุ่นพี่ผม
หากหัวหน้ามันเห็นก็จะโดนสปาร์ตาปาดเข้าที่คอ (โดนมัดอยู่)
จะสู้ได้ไง (วะ) พวกนั้นมันอยู่บนกองร้อยหมดแล้ว กองร้อยนึง
มันอยู่กันประมาณ 40 คน จ่า 7 คน ที่มีอาวุธพร้อมสู้ ลงไปก็
ถูกยิงพรุน
ท่านรู้ไหมว่า...ตอนนั้น อ.เจาะไอร้อง สัญญาณโทรศัพท์มือถือ
ไม่มี มันเอาอาวุธปืนสงครามยิงสายไฟดับทั้งค่าย
วีรบุรุษวันนั้น เป็นพลทหารที่เฝ้าหน้ากองรักษาการณ์ โดน
ยิงจนขาลากแต่ยังถ่อสังขารไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ทั้งวิ่ง
ทั้งคลาน ทั้งแอบฝูงโจรโทรไปที่แม่ทัพภาค 4 ตอนที่
โทรศัพท์ไปถึงที่บ้านแม่ทัพภาค 4 คุณนายภรรยาท่านรับแล้ว
ท่านก็รีบวิ่งไปปลุกท่านแม่ทัพที่ชั้น 2 ของบ้าน
ท่านรีบสั่งการกลางดึกจัดชุดไปช่วย แต่ชุดที่มาจากค่าย
จ.ปัตตานี กว่าจะมาถึงก็ตี 5 ครับมันปล้นตอนตี 2 มันเชือดคอ
เอาปืนไปหมดแล้ว หน่วยเขาก็มาเร็วที่สุดแล้ว ชุดที่มาช่วยมี
ทหาร 1 รถบัส รถฮัมวี่ 1 คัน
จริงๆ หน่วยอาจมาถึงใน 1 ชม. ครับ แต่เข้าไปไม่ได้เพราะมี
การขวางถนน โรยตะปูเรือใบ และเผายาง มันก็เฝ้ารออยู่แล้ว
ครับ ประมาณ 100 กว่าคนวงนอกเป็นชุดตัดกำลัง ถ้าไม่สว่าง
เข้าไปก็ตาย
สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกว่าหากญาติหรือคนที่คุณรัก ถูกส่ง
ไปอยู่หน่วยเฉพาะกิจหรือหน่วยฐานปฏิบัติการ 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ ตอนที่เขาอยู่บ้าน คุณเคยบอกว่ารักเขาคนนั้น
ไหม...บอกและรักเขาให้เต็มหัวใจทุกวินาที ดีกว่าที่ว่า...มีโทร
ศัพท์มาที่บ้านพร้อมกับเสียงชายแปลกหน้า ถามว่า “บ้าน
ของพลทหาร...ใช่ไหมครับ กระผม...เป็นผู้บังคับบัญชา เรา
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่...”
ตอนที่เขาอยู่บ้านก็จงรักและแสดงออกมาให้เต็มหัวใจ
เพราะถ้ามีสายนี้โทรมา ต่อให้คุณร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด
เขาก็จะกลับบ้านพร้อมธงชาติคลุมกาย
อ่านแล้วก็พิจารณากันเองละกัน
● เพลิงพิโรธ ●
ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด - ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด