WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, April 11, 2008


แก้รัฐธรรมนูญ ฉบับ จับทักษิณเป็นตัวประกัน

แก้รัฐธรรมนูญ​ ​ฉบับ​ ​จับทักษิณ​เป็น​ตัวประ​กัน

Submitted on 05 April 2008 - 02:41:43. Category: Uncategorized. Tags:

พิณผกา​ ​งามสม​/​พงษ์พันธุ์​ ​ชุ่มใจ

เมื่อกระ​แสแก้รัฐธรรมนูญ เริ่มต้น​ด้วย​การถูกโจมตีว่า​จะ​เป็น​การเบิกทาง​ให้​กับ​ ​พ​.​ต​.​ท​. ​ทักษิณ​ ​ชินวัตร​ ​กลับ​เข้า​มามีที่​อยู่​ที่ยืน​ใน​เวทีการเมืองไทยอีกครั้ง​ ​มิหนำ​ซ้ำ​ยัง​เป็น​การ

ปูทางไปสู่การฟอกตัวของอดีตนายก​ผู้​ซึ่ง​ตามทัศนะของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย​ ​มองว่า​เป็น​เหตุ​แห่ง​ความ​วิบัติ​ทั้ง​สิ้น​ทั้ง​มวลของประ​เทศชาติ​ ​การแลกเปลี่ยน​ความ​คิดเห็นต่อเรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็กลายมาสู่​เรื่องการเอาทักษิณ​หรือ​ไม่​เอาทักษิณ

แบบกลยุทธ์ขายเบียร์พ่วงเหล้า​ คือ​ถ้า​ไม่​เอาทักษิณก็​ต้อง​ไม่​แก้รัฐธรรมนูญ​ ​ถ้า​ใคร​จะ​แก้รัฐธรรมนูญถือ​เป็น​พวกทักษิณ​ ​ว่า​กัน​ตามจริง​แล้ว​ ไม่​ว่าการเปลี่ยนแปลงอะ​ไร​ใน​โครงการสร้างการเมืองไทยที่​เกิดขึ้นเวลานี้​ ​ก็ถูกจับโยนลงไป​เป็น​ประ​เด็น​ ​เอาทักษิณกลับมา​ ​หรือ​อย่า​เอาทักษิณกลับมา​.....​นับ​เป็น​ประชาธิปไตยแบบไทยๆ​ ​หนึ่งเดียวของโลกจริงๆ

รับไปก่อน​ ​แก้ทีหลัง​

สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญไปที่​ไหนก็บอกชาวบ้าน​ให้​รับร่างรัฐธรรมนูญไปก่อน​ ​แล้ว​ค่อยแก้ทีหลัง​ ​สำ​ทับอีกที​โดย​นายจรัญ​ ​ภักดีธนากุล​ ​ก่อนที่​จะ​มีการลงประชามติ​ ​พ่วง​ด้วย​การบอกอีก​ซ้ำ​ๆ​ ​ว่าหาก​ไม่​มีการแก้รัฐธรรมนูญก็​จะ​ไม่​มี​เลือกตั้ง​ ​ถึง​เวลานี้ดู​เหมือน​ไม่​มี​ใครทบทวน​ความ​จำ​อันแสนสั้น​และ​เลือนรางเสีย​แล้ว

เมื่อประ​เด็นแก้รัฐธรรมนูญถูกจุดขึ้น​โดย​ฝ่ายรัฐบาล​ ​ใน​ห้วงเวลาที่​ ​รายชื่อ​ ​พรรคการเมือง​ 3 ​พรรค​ ​อัน​ได้​แก่​ ​พลังประชาชน​ ​ชาติ​ไทย​ ​และ​มัชฌิมาธิปไตย​ ​อยู่​ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่ามีการกระทำ​ผิดกฎหมายเลือกตั้งอันอาจ​จะ​นำ​ไปสู่การยุบพรรค​หรือ​ไม่​ ​โดย​พลัน​ ​พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาตอบโต้ทันทีว่าการแก้รัฐธรรมนูญ​จะ​เป็น​เหตุ​แห่งวิกฤตการเมือง​ ​ใน​ขณะที่พลังเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่ม​ใหญ่​อย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ออกมากล่าวหา​โดย​ทันทีว่า​ ​พรรคพลังประชาชน​ต้อง​การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อหนีการยุบพรรครวม​ทั้ง​เพื่อฟอกตัวอดีตนายกรัฐมนตรี​ ​ทักษิณ​ ​ทั้ง​ยัง​หวังว่า​จะ​เป็น​การปูทาง​ให้​ทักษิณกลับมาสู่​เวทีการเมืองไทยอีกครั้ง

กระทั่ง​ใน​การเสวนาวิชาการ​โดย​พันธมิตรฯ​ ​เมื่อวันที่​ 28 ​มีนาคม​ ​ที่ผ่านมา​ ​ได้​มีการออกแถลงการณ์คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญอย่าง​เป็น​ทางการพ่วง​ด้วย​คำ​ขู่ว่าพันธมิตรฯ​ ​จะ​เคลื่อนไหวทันทีที่มีการแก้รัฐธรรมนูญ

ดูทีว่า​ ​ฝ่ายพันธมิตรฯ​ ​และ​พรรคฝ่ายค้านมี​ความ​กลัวอย่างสุดขีดว่าการแก้รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลนำ​โดย​พรรคพลังประชาชน​จะ​นำ​ไปสู่​ความ​อยู่​รอดปลอดภัยของ​ 3 ​พรรคการเมือง​ ​แม้ว่าหลายๆ​ ​ฝ่ายมองว่า​ 3 ​พรรคนี้​ ​ดูท่าว่า​จะ​ชะตาขาดไป​แล้ว​ ​เพราะ​แม้​จะ​มีการแก้รัฐธรรมนูญจริง​ ​ก็คง​ไม่​ทันการ​กับ​คดีที่ขณะนี้​ไป​อยู่​ใน​มือศาลรัฐธรรมนูญ​แล้ว

อะ​ไรบ้างที่ถูกเสนอ​ให้​แก้​ ​และ​อะ​ไรบ้างที่​ไม่​ควรแก้​ ​ใน​รัฐธรรมนูญ​ 2550

5 ​อาจารย์คณะนิติศาสตร์​ ​มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​ ​ได้​ออกแถลงการณ์นำ​มา​เป็น​เจ้า​แรกว่า​ด้วย​การแก้รัฐธรรมนูญ​ ​โดย​ประ​เด็นแก้รัฐธรรมนูญ​นั้น​เป็น​สุดท้าย​ใน​แถลงการณ์คัดค้านการยุบพรรคการเมือง​ ​โดย​เหตุผลหลักของคณาจารย์กลุ่มดังกล่าวคือ​ บทบัญญัติว่า​ด้วย​การยุบพรรคการเมืองที่บัญญัติ​อยู่​ใน​รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย​ ​พ​.​ศ​. 2550 ​นั้น​ขัด​กับ​หลักนิติธรรม​ ​โดย​เฉพาะบทลงโทษ​ผู้​กระทำ​ผิดที่ลงโทษแบบเหมารวม​ ​คือทำ​ผิดคนเดียว​ ​ลงโทษ​ทั้ง​พรรค​ ​เป็น​ "การฝืนพัฒนาการทางกฎหมายของโลก​และ​จะ​ทำ​ให้​สถานะทางกฎหมายของประ​เทศตกต่ำ​ลง​ใน​สายตาของนานาอารยะประ​เทศ" ​อันที่จริงอาจารย์​ 5 ​ท่าน​ได้​จำ​แนกมา​โดย​ละ​เอียด​ถึง​ 10 ​ประ​เด็น​ ​เฉพาะกรณีมาตรา​ 237 ​ที่​เกี่ยว​กับ​สิ่งที่​เรา​เรียก​กัน​สั้นๆ​ ​ว่า​ ​บทบัญญัติว่า​ด้วย​การยุบพรรค​ ​อาจารย์​ 5 ​ท่านดักคอ​ (ใครก็​ไม่​รู้) ​เอา​ไว้​ก่อนว่า​เมื่อกฎหมายมี​อยู่​อย่างนี้​และ​มีปัญหาต่อหลักนิติธรรมอย่างรุนแรงตั้งหลายข้อดัง​ได้​กล่าวไป​นั้น​ ​เวลาที่​จะ​พิจารณาคดีพรรคการเมือง​ ​ก็คง​จะ​ตี​ความ​ไปตามตัวบทอย่างซื่อๆ​ ​ไม่​ได้​ ​หากแต่​ต้อง​ยึดเอา​ทั้ง​หลักนิติรัฐ​และ​นิติธรรม​เป็น​ที่ตั้ง​ ​ตบท้ายว่า​ ​เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว​ ​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​ต้อง​แก้​ไข​ ​อย่างน้อยก็มาตรานี้​แหละ

จาก​นั้น​ ปิยบุตร​ ​แสงกนกกุล ​หนึ่ง​ใน​ 5 ​อาจารย์กลุ่มดังกล่าว​ได้​เขียนบท​ความ​ออกมา​แสดง​ความ​เห็น​ส่วน​ตัวว่า​ ​ถ้า​จะ​แก้รัฐธรรมนูญ​ ​ต้อง​มีอย่างน้อย​ 5 ​ประ​เด็น​ได้​แก่​

•1. ระบบการเลือกตั้ง​ ​ส​.​ส.

•2. ที่มาของส​.​ว​.

•3. การรับรอง​ให้​ผู้​ดำ​รงตำ​แหน่ง​ใน​องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งขึ้น​ให้​ดำ​รงตำ​แหน่งต่อไป​ได้​เต็มวาระ​

•4. กระบวนการยุบพรรค​ ​อำ​นาจของ​ ​กกต​.​ใน​การแจกใบเหลือง​-​ใบแดงแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ​ ​และ​

•5. มาตรา​ 309 ​ที่​ ​"​ได้​เสก​ให้​ ๑.) ​คำ​สั่ง​ ​คปค​. ๒.) ​ประกาศ​ ​คปค​. ๓.) ​การปฏิบัติตามคำ​สั่ง​และ​ประกาศ​ ​คปค​. ​ไม่​ว่าก่อน​หรือ​หลังประกาศ​ใช้​รัฐธรรมนูญ​ ๒๕๔๙ ​และ​ ๔.) ​การกระทำ​ที่​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​ ๑-๓ ​ไม่​ว่า​จะ​ใน​อดีต​ ​ปัจจุบัน​ ​หรือ​อนาคต​ ​ไม่​ว่า​โดย​แท้จริง​แล้ว​จะ​ชอบ​ด้วย​กฎหมาย​และ​รัฐธรรมนูญ​หรือ​ไม่​ก็ตาม​ ​กลาย​เป็น​สิ่งที่ชอบ​ด้วย​รัฐธรรมนูญ​ ๒๕๕๐ ​ทุกประการ"

นี่ดู​จะ​เป็น​ข้อเสนอที่ชัดเจนที่สุดที่ถูกเสนอออกมา​ ​ก่อนที่กระ​แสแก้รัฐธรรมนูญ​ได้​เด่นทาง​เข้า​สู่สงครามน้ำ​ลายระหว่างฝ่ายค้าน​ ​รัฐบาล​ ​และ​พันธมิตรฯ

รัฐธรรมนูญ​ 2540 ​ทางกลับคือการเดินทางต่อ

วันที่​ 30 ​มี​.​ค​. วรพล​ ​พรหมิกบุตร ​อาจารย์​จาก​คณะสังคมวิทยา​และ​มานุษยวิทยา​ ​มธ​. ​ซึ่ง​ถูกติดป้าย​เป็น​ฝ่าย​ ​นปก​. ​ไป​แล้ว​ ​และ​คณาจารย์​จาก​มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน​ ​ออกมาประสานเสียง​กัน​โดย​มิ​ได้​นัดหมาย​ ​ให้​นำ​เอารัฐธรรมนูญ​ 2540 ​มา​เป็น​พื้นฐาน​ใน​การแก้รัฐธรรมนูญ

ปฏิ​เสธ​ไม่​ได้​ว่านับ​ถึง​วินาทีนี้​ ​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ ​พ​.​ศ​. 2540 ​ก็​ยัง​ถูกอ้างอิง​ถึง​ว่า​เป็น​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ที่ดีที่สุด​เท่า​ที่ประ​เทศไทยเคยมีมา​ ​และ​เป็น​รัฐธรรมนูญที่ประชาชน​ส่วน​ร่วมมากที่สุดเช่น​กัน

แน่นอนว่ารัฐธรรมนูญ​ 2540 ​ต้อง​มีปัญหา​ ​และ​ปัญหา​นั้น​ถูกพูด​ถึง​ตั้งแต่​เมื่อรัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ดังกล่าวมีอายุครบ​ 7 ​ปี​ด้วย​ซ้ำ​ไป​ ​โดย​นายชุมพล​ ​ศิลปะอาชากล่าวเชิงรับว่า​ ​รัฐธรรมนูญ​ 2540 ​นั้น​เริ่มมีปัญหา​และ​คง​ต้อง​ถูกนำ​มาพิจารณา​กัน​อีกสักครั้งว่า​จะ​ปรับแก้อะ​ไร​ได้​บ้าง​ ​ครั้ง​นั้น​ ​เป็น​ช่วงแรกๆ​ ​ของวิกฤตองค์กรอิสระที่​เริ่มดำ​เนินไป​ไม่​ได้​ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญดังกล่าว​

เช่นเกี่ยว​กัน​กับ​ข้อวิจารณ์จาก​วรเจตน์​ ​ภาคีรัตน์ ​ที่วิพากษ์องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญว่ามี​เส้นแบ่งของอำ​นาจที่​ไม่​ชัดเจน และ​จะ​ก่อ​ให้​เกิดปัญหา​ใน​ภายหลัง​ได้​ นอกเหนือ​จาก​ประ​เด็นองค์กรอิสระ​แล้ว​ ​ใน​กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่​แม้​จะ​ถูกอ้างเสมอว่า​ ​ประชาชนมี​ส่วน​ร่วม​ แต่ขณะ​เดียว​กัน​ก็ปฏิ​เสธ​ไม่​ได้​ว่า​ ​ผู้​ที่มีอิทธิพลชี้นำ​โดย​ทั้ง​ให้​ข้อมูล​ ​รวม​ทั้ง​โน้มน้าว​ความ​คิด​ความ​เชื่อของประชาชนก็หนี​ไม่​พ้นเหล่านักวิชาการอรหันต์​ทั้ง​หลายที่​ได้​ข้ามามีบทบาทอย่างเต็มที่​ใน​การร่างรัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ดังกล่าว

ข้อสังเกต​นั้น​ย่อมนำ​ไปสู่การแก้​ไข​ ​และ​รัฐธรรมนูญ​ 2540 ​ไม่​ถูกโจมตีหนักขนาดที่รัฐธรรมนูญ​ 2550 ​กำ​ลังเผชิญว่า​เป็น​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ที่​เป็น​ ​ปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย​ ​และ​เป็น​รัฐธรรมนูญที่นำ​ไปสู่การรัฐประหารเงียบ​ ​เว้นเสียแต่​จะ​มี​ใครอยาก​จะ​กล่าวหาว่า​ ​รัฐธรรมนูญ​ 2540 ​เป็น​รัฐธรรมนูญที่​เปิดโอกาส​ให้​คนอย่างทักษิณ​ ​เข้า​มาทำ​ลายประชาธิปไตยไทยก็​ช่วย​ยกมาตรา​ไหนสักมาตรามาอ้าง​ด้วย

ขณะที่บรรดา​เซียนการเมือง​ ​และ​กูรู​ทั้ง​หลายออกมา​แลกหมัด​ ​เอ๊ย​ ​แลกเปลี่ยน​กัน​ฝุ่นตลบ​อยู่​เรื่องแก้​หรือ​ไม่​แก้รัฐธรรมนูญ​ ​และ​ถ้า​แก้​แล้ว​จะ​แก้​แบบไหน​ ​เสียงหนึ่งที่​แหวกกระ​แสเอามากๆ​ ​ดังมา​จาก​ฝั่งนักวิชาการ​และ​นักเคลื่อนไหวที่จับตา​เรื่องการเจรจา​เอฟที​เอของรัฐบาลไทยมาตั้งแต่สมัยของ​ ​รัฐบาลไทยรักไทย​ ​ออกมาดักทางรัฐบาลที่กำ​ลังเสนอแก้รัฐธรรมนูญ​ ​เพราะ​ไม่​ว่ารํฐธรรมนูญ​ 2550 ​จะ​ถูกวิพากษ์​หรือ​วิจารณ์ว่าอย่างไร​ ​แต่​ใน​นั้น​ก็มีมาตราหนึ่งที่​เข้า​ท่า​เข้า​ทาง​ ​ก็คือมาตรา190 ​แต่ก็ขณะนี้กำ​ลังถูกวิปรัฐบาลเสนอ​เข้า​ไปพิจารณา​แก้​ไข​ด้วย

หัวใจหลัก​ใน​การผลักดันมาตรา​ 190 ​คือการอุดช่องว่างช่องโหว่สำ​คัญ​จาก​มาตรา​ 224 ​ใน​รัฐธรรมนูญ​ 2540 ​ที่ตี​ความ​ให้​รัฐบาล​ไม่​ต้อง​เปิดเผยข้อมูลอย่างจริงจัง​และ​ไม่​ต้อง​นำ​เอฟที​เอ​เข้า​สู่การพิจารณาของรัฐสภา​ได้​ ​โดย​การผลักดันทำ​ผ่านสมาชิกสภานิติบัญญัติ​แห่งชาติ​ (สนช​.) ​คนสำ​คัญ​ ​อย่าง​ ​สุริชัย​ ​หวันแก้ว

อย่าลืมนับเสียงประชาชน

ความ​คืบหน้าของเรื่องแก้รัฐธรรมนูญขณะนี้​ ​อยู่​ใน​ชั้นที่วิปรัฐบาลเสนอต่อรัฐสภา​แก้​หรือ​ยกเลิกจำ​นวน​ 5 ​มาตรา​ ​อัน​ได้​แก่​ 1. แก้​ ​ม​. 237 ​ว่า​ด้วย​การยุบพรรค​ 2 ​ยกเลิกมาตรา​ 309 3) แก้​ไขมาตรา​ 266 ​ว่า​ด้วย​การโยกย้ายข้าราชการ​ 4) ให้​ประชาชนเสนอกฎหมาย​ - ​เพิ่มเติม​ให้​ประชาชน​สามารถ​เข้า​ชื่อเสนอกฎหมาย​ได้​ทุกเรื่อง​ ​จาก​เดิม​ให้​เสนอกฎหมาย​ได้​แค่​เฉพาะ​ใน​หมวดว่า​ด้วย​สิทธิ​เสรีภาพ​และ​แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ​ ​และ​ 5 ​เสนอแก้มาตรา​ 190 ​ดัง​ได้​มี​เสียงคัดค้านเกิดขึ้น​แล้ว​ ​ส่วน​การแก้มาตรา​ 237 ​ว่า​ด้วย​การยุบพรรคก็มีการออกมาคัดคาน​โดย​คณาจารย์​ 41 ​คน​จาก​ 9 ​สถาบัน​ ​ไม่​เหมาะสม​เพราะ​เป็น​กรณีที่พรรคการเมือง​และ​นักการเมืองมี​ส่วน​ได้​เสียเอง

ใน​ฝุ่นควันของการอภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญ​ ​และ​การเดินหน้า​ไปของฝ่ายพรรครัฐบาล​ ​ศิ​โรตม์​ ​คล้ามไพบูลย์​ ​นักเรียนรัฐศาสตร์​จาก​มหาวิทยาลัยฮาวายอิ​ ​ตั้งข้อสังเกต​กับ​ประชา​ไท​ด้วย​เสียงนุ่มๆ​ ​สไตล์​เขา​ ​เป็น​หนักแบบส่งหมัดตรงไป​ยัง​ปลายคางนักการเมือง​และ​กูรู​ทั้ง​หลายว่า​ ​ไม่​ว่ารัฐธรรมนุญ​ 2550 จะ​มีข้อผิดพลาดเลวร้ายอย่างไร​

แต่ขณะนี้สิ่งที่​เรา​ได้​ยิน​กัน​ก็​เพียงแต่​ได้​ยินการวิ​เคราะห์วิจารณ์อย่าง​ผู้​เชี่ยวชาญ​ ​หรือ​ชี้นำ​เท่า​นั้น​ ​แต่สิ่งหนึ่งที่​ต้อง​ไม่​ลืมก็คือว่า​ ​รัฐธรรมนูญ​ 2550 ได้​ผ่านประชามติ​จาก​ประชาชน​ถึง​ 14 ล้านเสียง​ ​แม้​จะ​มีข้อกล่าวหาว่ามีการปล่อยข่าวลวง​ ​หรือ​จะ​อธิบายแบบที่คนต้านทักษิณถนัดก็คือ​ ​เสียง​ไม่​เอาก็มีตั้ง​ 10 ล้านเสียง​ ​ชนะ​กัน​ไม่​ขาด​ ​แต่​เราก็​ไม่​สามารถ​เพิกเฉยต่อ​ 14 ล้านเสียง​ได้​ ​หาก​จะ​แก้รัฐธรรมนูญ​จะ​ทำ​อย่างไร​จึง​จะ​ไม่​เป็น​การเพิกเฉยต่อ​ 14 ล้านเสียง​........นี่​เป็น​เงื่อนไขประการหนึ่งที่ฝ่ายเรียกร้องการแก้รัฐธรรมนูญ​ซึ่ง​อ้างอิงตัวเอง​อยู่​บนฐานของประชาธิปไตย​ต้อง​ฝ่า​ไป​ด้วย​ ​เพราะ​อย่างน้อยฐานที่ชอบธรรม​ ​และ​การเคารพเสียงของประชาชน​ ​เคย​ช่วย​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​หนึ่ง​อยู่​ได้​ตั้ง​ 10 ปี​ (หุหุ) ​ถ้า​ไม่​มีรัฐประหาร

(ขอขอบคุณพิณผกา​ ​งามสม​/​พงษ์พันธุ์​ ​ชุ่มใจ​ ​บท​ความ​ที่​แลกเปลี่ยน​ความ​คิดเห็นสื่อสองทิศทาง​...​เพื่อทางออกประ​เทศไทย​ ​ขอบคุณอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่ง)


คืนรัง


Hi-thaksin

ใครกันแน่ ตอแหลประชาชน

แม้ว่าวาทกรรมที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย​ ​ประดิดประดอยออกมา​จะ​ไร้น้ำ​หนักลงทุกวัน​ ​เพราะ​คน​ส่วน​ใหญ่​เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย​ใน​เนื้อหาสาระที่ขาดข้อเท็จจริง​ ​มี​แต่การสร้างถ้อยคำ​เพื่อ​ให้​ร้ายรัฐบาลก็ตาม

แต่ก็ดู​จะ​ไม่​เป็น​ธรรม​กับ​บ้านนี้​เมืองนี้สัก​เท่า​ไร​ ​ที่ปล่อย​ให้​คนแค่​ 4-5 คน​ ​ออกมากล่าวหา​ ​ชักจูง​ด้วย​ความ​พยายาม​ให้​ประชาชนหลงเชื่อว่าบ้านเมืองเกิด​ความ​วุ่นวาย​ ​หลงเชื่อว่ารัฐบาลกำ​ลังทำ​ใน​สิ่งที่​ไม่​ควรกระทำ

ทั้ง​ที่หากแกะรอยแถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ​ ​ที่​เคยออกมา​ทั้ง​ 5 ฉบับ​แล้ว​ ​จะ​เห็น​ได้​ชัดว่ามี​ความ​เท็จ​อยู่​เป็น​กระบุง​ ​แถมบางเรื่องก็​เป็น​เพียงการคาดเดาอย่างคนมองโลก​ใน​แง่ร้าย

ทั้ง​ที่บางเรื่องราว​ยัง​ไม่​เกิดขึ้น​ ​และ​หลายเรื่องราว​ไม่​มี​โอกาสเกิดขึ้นจริงดังที่พยายามกล่าวหา​ด้วย​ซ้ำ​ไป

ยิ่งมา​ถึง​แถลงการณ์​ฉบับ​ที่ 6 "ต่อต้านรัฐประหารเงียบ" ยิ่งแทบ​ไม่​มี​เค้า​ความ​จริงแม้​แต่บรรทัดเดียว

ว่า​กัน​ตั้งแต่ชื่อเรื่องก็ผิดเสีย​แล้ว​ ​เพราะ​สิ่งที่รัฐบาล​โดย​เฉพาะพรรคพลังประชาชน​ ​ออกปากเรียกร้องคือการ​ได้​คืนมา​ซึ่ง​ระบอบประชาธิปไตย​ ​และ​ไม่​เอา​เผด็จการ

แต่​ใคร​กัน​แน่ที่​เชื้อเชิญ​ให้​เกิดการยึดอำ​นาจ​ ​และ​ออกท่านิยมชมชอบการ "รัฐประหาร" ความ​จริง​แล้ว​ผม​ไม่​อยาก​จะ​หยิบเรื่องราวนี้มา​เขียน​ถึง​เสีย​ด้วย​ซ้ำ​ไป​ ​เพราะ​อาจ​จะ​เป็น​การ​ใช้​พื้นที่อย่าง​ไม่​คุ้มค่า

แต่ก็​ไปสะดุดเอา​เนื้อหา​ใน​แถลงการณ์ที่ว่า​ ​การมีมติ​แก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ทั้ง​ฉบับ​ของรัฐบาล​เป็น​เล่ห์​เพทุบายหลอกประชาชน

ใน​ขณะที่ก่อนหน้าที่ขณะที่หลายฝ่ายมีการพูด​ถึง​การแก้​ไข​ ​มาตรา​ 237 และ​ ​มาตรา​ 309 ก็กล่าวหาว่ารัฐบาล​จะ​ทำ​เพื่อตัวเอง​และ​พวกพ้อง

เลย​ไม่​รู้ว่า​จะ​ต้อง​แก้​ไขรัฐธรรมนูญ​กัน​แบบไหนพันธมิตรฯ​ ​ถึง​จะ​เห็น​ด้วย​ ​หรือ​หาก​เป็น​ผลงาน​ ​เป็น​แนวคิดของรัฐบาลพรรคพลังประชาชน​ ​ให้​ตั้งธง​ไว้​ก่อนว่าผิด​ทั้ง​หมดอย่าง​นั้น​หรือ​เปล่า

แล้ว​ข้อ​ความ​ต่อไปนี้​เป็น​เรื่องจริง​หรือ​เรื่องเท็จมากน้อยแค่​ไหน​กัน​แน่​...

"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย​ ​ไม่​เคยปฏิ​เสธที่​จะ​ให้​มีการปรับปรุงแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ ​ตราบ​ใด​ที่การแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​นั้น​ตั้ง​อยู่​บนพื้นฐานผลประ​โยชน์​ส่วน​รวมของปวงชนชาวไทย​ ​ไม่​ขัดต่อหลักนิติธรรม​และ​ความ​เสมอภาค​ใน​การ​ใช้​กฎหมาย​ ​ไม่​มุ่งประสงค์ลบล้าง​ความ​ผิดของตัวเอง​และ​พวกพ้อง​ให้​มีอภิสิทธิ์​อยู่​เหนือกฎหมาย​ ​ไม่​ขัดต่อหลักธรรมาภิบาล​..."

ซึ่ง​คง​จะ​ต้อง​ตั้งคำ​ถามย้อนกลับไปว่า​ ​แล้ว​สิ่งที่รัฐบาลกำ​ลังดำ​เนินการ​อยู่​มันผิดเงื่อนไขดังที่ว่าตรงไหน มีอะ​ไรที่ชี้ว่าการแก้​ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ไม่​ได้​อยู่​บนพื้นฐานผลประ​โยชน์​ส่วน​รวม​ ​มีอะ​ไรบ้างที่ส่อว่า​จะ​ขัดต่อหลักนิติธรรม

ทั้ง​ที่กระบวนการ​ใน​การแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ยัง​ไม่​เกิด​ ​รูปแบบ​ ​แนวทาง​ใน​การแก้​ไข​ยัง​ไม่​ได้​ถูกกำ​หนด​ ​แต่กลุ่มพันธมิตรฯ​ ​ก็ออกมาหา​เหตุกล่าวหา​เสียก่อนล่วงหน้า

รวม​ทั้ง​ประ​เด็นที่ระบุว่า​ "ต้อง​ไม่​มุ่งลบล้าง​ความ​ผิดของตัวเอง​และ​พวกพ้อง" ก็​ไม่​รู้​เหมือน​กัน​ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ​ ​ตี​ความ​ ​มาตรา​ 309 ตามรัฐธรรมนูญ​ 2550 ว่าอย่างไร

หรือ​คิดแค่ว่า​ "อะ​ไรที่​เป็น​ประ​โยชน์กู​ ​พวกกู​ ​ถูก​ทั้ง​หมด"

ยิ่ง​ได้​ฟังต่อมา​ถึง​จุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯ​ ​ยิ่งอ่อนอกอ่อนใจไป​กัน​ใหญ่​ ​เพราะ​ไม่​คิดว่าพันธมิตรฯ​ ​จะ​ดูถูกประชาชน​ด้วย​การเอา​ความ​เท็จมาบอกเล่า​ถึง​ขนาดนี้

กลุ่มพันธมิตรฯ​ ​อ้างเสียงประชามติ​ 14 ล้านเสียงที่รับร่างรัฐธรรมนูญ​ ​ยืนยัน​ความ​เป็น​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ที่ดีที่สุด​ ​โดย​ไม่​พูด​ถึง​อีก​ 10 ล้านเสียงที่​ไม่​เห็น​ด้วย

ไม่​พูด​ถึง​แผน​ "ประชาธิปไตยสีขาว" ไม่​พูด​ถึง​ทหารที่ลงไปเดิน​ใน​ภาคเหนือ​ ​ภาคอีสาน​ ​และ​ไป​ให้​ข้อมูลผิดๆ​ ​กับ​ประชาชน​ ​จนเกิดการไข้วเขว

ยัง​ไม่​รวม​ถึง​การสร้าง​ความ​หวั่นไหว​ ​ด้วย​การบอกว่าหากผลออกมาประชาชน​ไม่​รับร่าง​ ​รธน​.50 จะ​มีการหยิบรัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ใด​ฉบับ​หนึ่งมา​ใช้​ ​ซึ่ง​ไม่​ได้​การันตีว่า​จะ​เป็น​ ​รธน​.40 หรือ​ไม่

ที่สำ​คัญมีการหลอกลวง​จาก​รัฐบาลขณะ​นั้น​ที่พูดเอาง่ายๆ​ ​ว่า​ "รับไปก่อน​แล้ว​ค่อยมา​แก้​ไขทีหลัง" ซึ่ง​ก็ทำ​ให้​ได้​คะ​แนนสนับสนุนไปอีกมหาศาล

เพราะ​ประชาชนอยาก​จะ​ให้​มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น​ ​เพื่อ​ให้​การปกครองระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไป​ ​และ​เมื่อมีการเลือกตั้งประชาชนก็​เลือกพรรคพลังประชาชน​ ​ที่ชูนโยบาย​ใน​การแก้​ไข​ ​รธน​.50 มาอย่างถล่มทลาย

เท่า​นี้ก็​เป็น​การสะท้อนชัด​แล้ว​ว่า​ความ​ต้อง​การที่​แท้จริงของประชาชน​เป็น​อย่างไร​กัน​แน่

ขณะที่ประการสุดท้ายพันธมิตรฯ​ ​อ้างว่าประชาชน​ทั้ง​ประ​เทศเหลืออด​กับ​รัฐบาล​ ​ที่​ไม่​ให้​ความ​สนใจ​กับ​การแก้​ไขปัญหาบ้านเมือง​ ​ก็ยิ่ง​เป็น​เรื่องตลก

เพราะ​รัฐบาลชุดนี้มีการลดราคาสินค้าอุปโภค​-​บริ​โภค​ ​ที่จำ​เป็น​ตั้งแต่วันแรกๆ​ ​ที่​เข้า​มาทำ​งาน​ ​ยาว​เป็น​บัญชีหางว่าว

แถมล่าสุดก็​ยัง​แก้​ไขปัญหาราคาปุ๋ย​ให้​เกษตรกร​ ​ออกมา​แก้ปัญหาราคาข้าว​ ​และ​ยัง​มี​เรื่องของโครงการ​ SML ที่อีก​ไม่​กี่วันเงิน​จะ​ลงไป​ถึง​ชาวบ้านงวดแรกหมื่นล้านบาท

ลำ​พังแค่ทำ​งาน​ได้​ไม่​กี่วันก็น่า​จะ​มีผลงานมากกว่ารัฐบาล​ 1 ปี​ 5 เดือน​ ​ที่มา​จาก​เผด็จการ​ด้วย​ซ้ำ​ไป

เห็นชัดเช่นนี้​แล้ว​เชื่อว่าประชาชน​จะ​เข้า​ใจ​และ​ตัดสิน​ได้​ว่า​...

ใคร​กัน​แน่ที่​ "ตอแหล" หลอกลวงประชาชน​...!!


Hi-thaksin

​'วรเจตน์​' ​หนุนแก้รัฐธรรมนูญ​ทั้ง​ฉบับ

รศ​.​ดร​.​วรเจตน์​ ​ภาคีรัตน์​ ​หัวหน้าภาควิชากฎหมายมหาชน​ ​คณะนิติศาสตร์​ ​มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​ ​ให้​สัมภาษณ์​ ​นายจอม​ ​เพชรประดับ​ ​ใน​รายการ "ถามจริง​ ​ตอบตรง" ทางสถานี​โทรทัศน์​เอ็นบีที​ ​เกี่ยวประ​เด็นการแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ ​เมื่อ 7 เม​.​ย​. ​ที่ผ่านมา​ ​โดย​อาจารย์วรเจตน์​เสนอแก้​ไข​ ​รัฐธรรมนูญ 2550 ทั้ง​ฉบับ​ ​และ​ทำ​ให้​กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ​ ​ประชาชน​ได้​มี​ส่วน​ร่วม​ ​ชี้หากแก้รัฐธรรมนูญ​ด้วย​สมมติฐานเอา' หรือไม่​เอา' ทักษิณ​ ​ก็​ได้​แค่กฎหมายที่มีกลไกพิกลพิการ​ ​สังคม​ไม่​ไปไหน

ทั้ง​นี้​ ​ดร​.​วรเจตน์​ ​ภาคีรัตน์​ ​เป็น 1 ใน 5 อาจารย์คณะนิติศาสตร์​ ​หาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​ ​ที่ประกาศสนับสนุนการแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ ​โดย​ที่ผ่านมา​ได้​แสดง​ความ​คิดเห็นคัดค้านบทบาทของตุลาการภิวัฒน์​ ​ใน​ช่วงวิกฤตการเมืองปี 2549 ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​คำ​วินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญที่​ให้​การเลือกตั้งวันที่ 2 เม​.​ย.2549 เป็น​โมฆะ​ ​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การลงโทษ​ ​กกต​.​ชุด​ ​พล​.​ต​.​อ​. ​วาสนา​ ​เพิ่มลาภ และ​ถือ​เป็น​หัวหอกสำ​คัญของกลุ่มที่​ไม่​รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ใน​ช่วงการลงประชามติ

หนุนแก้​ ​รธน​. ​ทั้ง​ฉบับ​เพราะ​เป็น​ปัญหา​เชิงโครงสร้าง

นายวรเจตน์กล่าวว่า​ ​เรื่องการแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ต้อง​ย้อนกลับไปตั้งแต่​ ​การดี​เบตร่างรัฐธรรมนูญก่อนการลงประชามติ​ใน​วันที่​ 19 ส​.​ค​. ​ฝ่ายคัดค้านมองว่ามีปัญหา​เชิงโครงสร้าง​และ​หลักการหลายเรื่อง​ ​ใช้​ไปนาน​จะ​มีปัญหาต่อบ้านเมือง​ใน​ระยะยาว

ประ​เด็น​ใน​ขณะนี้มี​ ​ประการที่หนึ่ง​ ​จะ​แก้​หรือ​ไม่​แก้รัฐธรรมนูญ​ ​ประการที่สอง​ ​หาก​จะ​มีการแก้​จะ​แก้บางมาตรา​หรือ​แก้​ทั้ง​ฉบับ​ ​แต่ขณะนี้ก็มี​เสียงคัดค้านว่ารัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​เพิ่งประกาศ​ใช้​มา​ ​เพราะ​ฉะ​นั้น​อย่า​แก้​ ​ให้​ใช้​บังคับไปก่อน​ ​เพราะ​ฉะ​นั้น​การคัดค้านการแก้​ไขรัฐธรรมนูญคง​จะ​มีต่อไป​ ​แต่ผมคิดว่า​เสียงเรียกร้อง​ให้​แก้​ไขรัฐธรรมนูญคง​จะ​ดังกว่า​ ​ปัญหาคง​อยู่​ที่​จะ​แก้บางมาตรา​หรือ​แก้​ทั้ง​ฉบับ

ซึ่ง​ผมเห็นว่าควร​จะ​แก้​ทั้ง​ฉบับ​ ​เพราะ​รัฐธรรมนูญนี้มีปัญหา​ใน​เชิงโครงสร้าง​ ​ซึ่ง​การแก้​ไขเฉพาะบางมาตรา​จะ​ไม่​ช่วย​แก้ปัญหาที่​เกิดขึ้น​ ​และ​ปัญหาบางอย่างอาจ​จะ​ไปปะทุขึ้นเมื่อมีการ​ใช้​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​ไปเรื่อยๆ​ ​อีกประ​เด็นคือหากการแก้​เฉพาะบางมาตรา​ ​อาจ​จะ​มอง​ได้​ว่า​เป็น​การแก้​เพื่อเอื้อประ​โยชน์​ให้​กับ​พรรค​ใด​พรรคหนึ่ง​ ​การแก้​ทั้ง​ฉบับ​จะ​เป็น​การนำ​ประ​เทศออก​จาก​วิกฤติรัฐธรรมนูญ

สำ​หรับระยะ​เวลา​ใน​การแก้​ไข​นั้น​เป็น​เรื่องที่ถกเถียง​กัน​ได้​ ​แต่​จะ​เห็น​ได้​ว่าตั้งแต่​เริ่ม​ใช้​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​ ​ความ​จริงตั้งแต่การเลือกตั้งเลย​ ​เรา​เห็น​ความ​แปลกประหลาด​และ​ความ​ผิดปกติของระบบเลือกตั้ง​ ​ประชาชนหลายคนคงข้องใจว่าทำ​ไมเวลามีการเลือกตั้ง​ ​จังหวัดของ​เขา​ไปรวม​กับ​จังหวัด​อื่น​ ​การเลือกตั้ง​ ​ส​.​ว​. ​ทำ​ไมจังหวัด​ใหญ่​ ​จังหวัด​เล็ก​ถึง​มี​ ​ส​.​ว​. ​ได้​คนเดียวเหมือน​กัน​ ​นี่คง​เป็น​ปัญหาที่มีมา​อยู่​แล้ว​ ​ตามมา​ด้วย​ปัญหาการยุบพรรค​ ​ซึ่ง​มีการกระทบประ​เทศเรา​ด้วย​ ​หากรอช้าต่อไป​ ​ยิ่งช้า​ไป​เท่า​ไหร่​ ​ความ​เสียหายก็​จะ​ยิ่งเกิดขึ้น

เวลาที่​เราพูด​ถึง​ปัญหาของรัฐธรรมนูญ​ ​แน่นอนมัน​ไม่​ได้​เกี่ยวข้อง​กับ​ประชาชน​เป็น​รูปธรรม​โดย​ตรง​เพราะ​เป็น​กฎหมายสูงสุดของประ​เทศ​ ​แต่​จะ​มีปัญหา​ใน​ระยะยาว​ ​คือปัญหาพวกนี้​เรา​จะ​มอง​ไม่​เห็น​ ​เรา​จะ​เห็นก็ต่อเมื่อมัน​เป็น​กลาย​เป็น​ปัญหา​ความ​มั่นคงทางการเมือง​ ​และ​จะ​ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ​ ​กระทบต่อปากท้องไป​ใน​ที่สุด​ ​เมื่อ​ถึง​ตรงนี้นายจอมถามว่า​จึง​ต้อง​แก้ตอนนี้​ ​นายวรเจตน์กล่าวว่า​ "ถูก​ต้อง​ครับ"

หากแก้​ทั้ง​ฉบับ​ ​ต้อง​แก้​ กระบวนการ' แก้

นายวรเจตน์กล่าวต่อว่า​ ​การแก้รัฐธรรมนูญ​ถ้า​แก้​ทั้ง​ฉบับ​ ​ต้อง​แก้ที่กระบวนการแก้​ไขรัฐธรรมนูญก่อน​ ​ซึ่ง​กระบวนการแก้​ไขรัฐธรรมนูญถูกระบุ​ไว้​ใน​ ​ม.291 ซึ่ง​ระบุว่าการแก้​ไขรัฐธรรมนูญทำ​อย่างไรบ้าง​ ​และ​เป็น​เรื่องของสมาชิกรัฐสภา​ ​แต่​ความ​มุ่งหมาย​นั้น​คง​เป็น​เพียงการแก้บางมาตรา​ ​แต่​ถ้า​จะ​แก้​ทั้ง​ฉบับ​เรา​ต้อง​ย้อนกลับไปเหมือน​กับ​ที่​เรามีประสบการณ์ก่อนปี​ 2540 นั่นคือ​ต้อง​มีการตั้งองค์กรขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ​ใหม่​ทั้ง​ฉบับ​ ​แล้ว​ก็​เอาทุกภาค​ส่วน​เข้า​มายกร่างรัฐธรรมนูญ​ ​นำ​ไปสู่การประกาศ​ใช้​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ใหม่

นายจอมถามว่า​ ​คิดอย่างไรที่นายอภิสิทธิ์​ ​เวชาชีวะ​ ​ผู้​นำ​ฝ่ายค้าน​ ​เสนอว่า​ให้​เอาญัตติ​ใน​สภา​เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญมา​เสนอขอแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​ ​ผม​ไม่​แน่​ใจว่าพรรคประชาธิปัตย์​ต้อง​การแก้บาง​ส่วน​หรือ​ทั้ง​ฉบับ​ ​แต่​เห็นว่า​ถ้า​แก้รัฐธรรมนูญบาง​ส่วน​ใน​พรรคประชาธิปัตย์คง​ไม่​เห็น​ด้วย​ ​แต่​ถ้า​แก้​ทั้ง​ฉบับ​น่า​จะ​เห็น​ด้วย​ ​ผมจำ​ได้​ว่าตอนที่ดี​เบตเรื่องนี้​กัน​ที่​เชียง​ใหม่​ ​สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางท่านก็บอกว่ารัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้ก็มีปัญหา​อยู่​ ​แต่อยาก​ให้​มันผ่านประชามติ​ไปก่อน​แล้ว​ค่อยไปแก้

ความ​เข้า​ใจของผมคือ​ถ้า​มีการแก้รัฐธรรมนูญ​ทั้ง​ฉบับ​ ​มีการจัดตั้งองค์กรที่ยกร่าง​กัน​ขึ้นมา​ใหม่​ ​แล้ว​ก็มี​ส่วน​ร่วม​จาก​หลายฝ่าย​ ​น่า​จะ​ไม่​มี​ใครคัดค้าน​ ​โดย​นายวรเจตน์คาดว่าหากแก้รัฐธรรมนูญ​ทั้ง​ฉบับ​อย่างต่ำ​คง​ใช้​เวลา​ 6 เดือน​ ​ถึง​ 1 ปี

นายจอมถามว่าหาก​ใช้​เวลา​แก้รัฐธรรมนูญนาน​จะ​มีปัญหา​เสถียรภาพของรัฐบาล​หรือ​ไม่​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​ "เสถียรภาพของรัฐบาลเกี่ยว​กับ​รัฐธรรมนูญ​ส่วน​หนึ่ง​ ​แต่อย่างที่บอก​ถ้า​รัฐธรรมนูญมีปัญหา​แล้ว​ใช้​วิธี​แก้​แบบ​ ปะชุน' ​บางมาตรามันก็​ไม่​แก้ปัญหาอะ​ไร​ ​เพราะ​ฉะ​นั้น​ถ้า​ทุกคนมาร่วม​กัน​ทำ​ขึ้นมา​ใหม่​ ​แล้ว​ก็​ให้​มีกระบวนการที่มี​ความ​ชอบธรรมกว่ารัฐธรรมนูญปี​ 2550 คิดว่า​ใน​ที่สุดน่า​จะ​ดีกว่า"

แก้​ ​ม.237 ทำ​ตามหลักการ​ ​เพื่อ​ให้​คนผิดรับผิด​ไม่​เกี่ยว​กับ​คน​ไม่​ทำ​ผิด

ต่อคำ​ถามว่า​ ​หากรัฐบาลคิด​จะ​แก้​เพียง​ ​ม.237 มาตรา​เดียว​ ​อาจถูกมอง​ได้​ว่า​แก้​เพื่อ​ให้​พรรคการเมืองของตัวเองพ้นผิด​หรือ​ไม่​ ​ดร​.​วรเจตน์กล่าวว่า​ ​หากแก้​เพียงมาตรานี้มาตรา​เดียวก็คงมอง​ได้​ว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหา​กับ​บทบัญญัติ​ใน​ ​ม.237 เป็น​การแก้​เพื่อ​ให้​ตัวเองพ้นผิดไป​ ​แล้ว​ตอนนี้หลาย​ส่วน​ใน​สังคมก็พูดแบบนี้​ ​นักวิชาการจำ​นวนหนึ่งก็อธิบายแบบนี้​ ​แต่ผมอยาก​ให้​เราดูปัญหา​ใน​ระดับหลักการมากกว่าดูว่าบทบัญญัติมาตรานี้​เขียน​ไว้​ว่าอย่างไร

ผมเห็นว่า​ ​ม.237 คง​เป็น​มาตราหนึ่งที่ควรแก้​ไขแน่นอน​ ​เพราะ​หลักการมัน​ไม่​ถูก​ต้อง​ ​หมาย​ความ​ว่าหากตี​ความ​ตัวบทของมาตรานี้ตามถ้อยคำ​ก็คือ​ ​สมมติผม​เป็น​กรรมการบริหารพรรค​อยู่​พรรคหนึ่ง​ ​คุณจอมก็​เป็น​ด้วย​อยู่​ใน​พรรคเดียว​กัน​ ​แล้ว​ผมไปมีปัญหา​เรื่องการเลือกตั้ง​ ​อาจไปกระทำ​การ​โดย​ไม่​ชอบ​ ​ไม่​ถูก​ต้อง​มา​ ​แล้ว​ก็ถูกเพิกถอนสิทธิ​เลือกตั้ง​ ​ผลก็คือว่า​ถ้า​ตี​ความ​ตามถ้อยคำ​ใน​ ​ม.237 มัน​จะ​นำ​ไปสู่การยุบพรรคการเมือง​ ​เมื่อยุบพรรค​แล้ว​คุณจอมก็​จะ​ถูกตัดสิทธิ​เลือกตั้ง​ด้วย​ ​ทั้ง​ที่คุณจอม​ไม่​ได้​ทำ​อะ​ไรผิด

นายจอม​ ​ถามต่อว่า​ ​แต่คนที่​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การแก้​ไขมาตรานี้​ ​ได้​เทียบเคียง​กับ​กฎหมายแพ่ง​และ​พาณิชย์ระดับการบริหารองค์กร​ ​ถ้า​ผู้​ใต้​บังคับบัญชาทำ​ผิด​ ​ย่อมมา​จาก​การสั่งการ​หรือ​นโยบายของ​ผู้​บริหาร​ ​หมาย​ความ​ว่า​ผู้​บริหาร​ต้อง​รับผิดชอบ

นายวรเจตน์ตอบว่า​ ​ผม​ยัง​ไม่​พบกฎหมาย​หรือ​ข้อกฎหมายแบบนี้​เลย​ ​ที่อ้าง​กัน​อยู่​นี้มีสองเรื่องคือ​ ​กรณีที่ลูกจ้างไปกระทำ​ละ​เมิดบุคคลภายนอก​ ​แล้ว​ให้​นายจ้างรับผิดแทนลูกจ้างไปก่อน​ ​กฎหมายนี้มี​เพื่อคุ้มครองคนที่​ได้​รับ​ความ​เสียหาย​จาก​ลูกจ้าง​ ​คือลูกจ้างไปขับรถชนคน​อื่น​ใน​ทางการที่จ้าง​ ​ผู้​ได้​รับ​ความ​เสียหาย​เขา​อาจมาฟ้องนายจ้าง​ได้​ ​พอนายจ้าง​ได้​จ่ายค่าสินไหมทดแทน​ให้​ผู้​เสียหาย​แล้ว​ ​ก็อาจไปไล่​เบี้ย​กับ​ลูกจ้าง​ได้

แต่​ไม่​มีข้อกฎหมายที่บอกว่า​ถ้า​ลูกจ้างไปกระทำ​ความ​ผิด​ ​ลูกจ้างติดคุก​ ​นายจ้าง​ต้อง​ติดคุก​ด้วย​ ​หรือ​ไปตัดสิทธิการประกอบอาชีพของนายจ้าง​ ​มัน​ไม่​มีข้อกฎหมายแบบนี้​ ​แม้​แต่​เรื่องกฎหมายฮั้ว​หรือ​เรื่อง​อื่น​ ​กฎหมายก็ยอม​ให้​คน​ซึ่ง​เกี่ยวพันพิสูจน์ว่า​ไม่​มี​ส่วน​ผิด​ ​แต่ตามรัฐธรรมนูญ​โดย​ถ้อยคำ​ ​ถ้า​คุณจอมไปทำ​การบริหารพรรคการเมือง​ ​คุณจอม​ไม่​มีสิทธิพิสูจน์​ ​จริงๆ​ ​ที่มีปัญหา​อยู่​ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง​ ​คือกรณีพรรคชาติ​ไทย​ ​ก็ชัดเจนว่า​ใน​ทางข้อเท็จจริงกรรรมการบริหารพรรคคน​อื่น​ไม่​ได้​รับรู้​ด้วย​ ​นี่​จึง​เป็น​ความ​อึดอัดใจ​ใน​ข้อกฎหมายที่ว่ายุบพรรค​แล้ว​ตัดสิทธิ์คน​อื่น​ที่​เขา​ไม่​ได้​ผิด

นายจอมถามว่า​ ​ทำ​ไมกรรมการบริหารพรรค​จึง​ไม่​สามารถ​พิสูจน์ตัวเอง​ได้​ว่า​ไม่​เกี่ยวข้อง​กับ​ลูกพรรค​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​ ​กฎหมายตามถ้อยคำ​เขียนว่า​ ​ให้​ถือว่า​เป็น​การกระทำ​ของพรรค​ ​เมื่อยุบพรรค​แล้ว​ให้​ตัดสิทธิการเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเลย​ ​ถ้า​ตี​ความ​ตามถ้อยคำ

ซึ่ง​ผม​ได้​ออกแถลงการณ์​ไปว่าการตี​ความ​รัฐธรรมนูญมาตรานี้​ ​ตี​ความ​ไปตามถ้อยคำ​ไม่​ได้​ ​ถ้อยคำ​เขียนลักษณะนี้จริง​ ​ถ้า​จะ​เขียน​ให้​มีผล​ใน​ทางกฎหมายแบบนี้​ ​ต้อง​ไปยกเลิกหลักการหลายหลักการ​ใน​รัฐธรรมนูญ​ ​เช่น​ ​ต้อง​เลิกหลักนิติรัฐ​หรือ​นิติธรรม​ ​เลิกหลักประ​กัน​สิทธิ​เสรีภาพ​ ​เลิกหลักประชาธิปไตย​ ​เรา​จะ​ประกาศ​ไม่​ได้​ว่า​เป็น​รัฐชนิดนี้นะฮะ​ ​เรา​ต้อง​ประกาศว่า​เรา​เป็น​รัฐเผด็จการ​และ​อื่นๆ​ ​ก่อน​ ​ถึง​จะ​ใช้​กฎหมายมาตรานี้​ได้​ตามถ้อยคำ​ ​เพราะ​ฉะ​นั้น​ผม​จึง​มี​ความ​เห็นว่า​ ​เรื่องนี้หาทางออก​ได้​โดย​การตี​ความ​เพื่อ​ให้​เกิด​ความ​เป็น​ธรรม​ ​แต่ตอนนี้มันกลาย​เป็น​ปัญหาทางการเมืองไป​แล้ว​ ​แล้ว​ไม่​มี​ใครคิดหาทางออกทางกฎหมายแบบนี้

เพราะ​ฉะ​นั้น​การแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​ ​มันก็ถูก​ต้อง​ตามหลักการที่มันควร​จะ​เป็น​ ​และ​ผม​ไม่​เห็นว่า​จะ​ทำ​ให้​เกิดคนที่มี​ส่วน​ได้​เสีย​ ​จนแก้​ไม่​ได้​แต่อย่าง​ใด​อย่างที่มีการกล่าวอ้าง​ ​เพราะ​การแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ไม่​ได้​ทำ​ให้​คนผิด​ได้​พ้นผิดไป​ ​กรรมการบริหารพรรคที่กระทำ​ผิดก็​ยัง​ต้อง​รับผิดต่อไป​ ​แต่คน​อื่น​ที่​ไม่​เกี่ยวข้อง​ด้วย​เขา​ไม่​ควรรับผิด​ ​ผม​ยัง​ไม่​เห็นว่าการแก้​ไขตรงนี้มันบกพร่องตรงไหน​ ​เหมือนที่พูด​กัน​ว่า​แก้​ให้​พ้นผิด​ ​เพราะ​เขา​ไม่​ได้​ผิด​อยู่​แล้ว​ ​กฎหมาย​ไม่​ได้​ไปแก้ว่าคน​ซึ่ง​ไปซื้อเสียง​แล้ว​ถูกตัดสินว่าผิดห้าม​ไม่​ให้​เขา​รับผิด​ ​เขา​ก็​ต้อง​รับผิด​อยู่​ ​แต่คน​อื่น​ที่​ไม่​ได้​เกี่ยวข้อง​ด้วย​ไม่​ควร​ต้อง​รับผิด

ต่อข้อถามของนายจอม​ ​ที่ว่ามีนักกฎหมายออกมาระบุว่า​ถ้า​แก้​หรือ​ยกเลิกรัฐธรรมนูญ​ ​ม​. 237 เท่า​กับ​ทำ​ลายระบบกฎหมายของชาติ​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​ ​ถ้า​การรัฐธรรมนูญ​แล้ว​มีผลแบบ​นั้น​จริง​ ​ผมคง​เป็น​คนแรกๆ​ ​คงออกมาคัดค้านเคลื่อนไหว​ ​ถ้า​คุณจอมติดตามดู​อยู่​ ​จะ​เห็นผมวิจารณ์รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้มาตั้งแต่มาตรา​ 309 ซึ่ง​หนักหนาสาหัสกว่ามาตรานี้มาก​ ​อย่างที่บอกการแก้มาตรานี้​ไม่​ได้​แก้​เพื่อล้าง​ความ​ผิดของคนกระทำ​ผิด​ ​ตัวสมาชิกพรรคการเมือง​หรือ​ผู้​ลงสมัครรับเลือกตั้ง​ยัง​คง​ต้อง​รับผิด​อยู่​ ​ไม่​ได้​แก้ว่า​ถ้า​เขา​ทำ​ผิด​แล้ว​ไม่​ต้อง​รับผิด​ ​แต่​เขา​ทำ​ให้​ถ้อยคำ​ที่มี​ความ​คลุมเครือ​ไม่​ชัดเจนที่​จะ​ไปเอาผิดกรรมการบริหารพรรคคน​อื่น​ที่​ไม่​ได้​ทำ​ผิดก็​ไม่​ต้อง​รับผิด​ ​ซึ่ง​สอดคล้อง​กับ​ หลัก​ทั่ว​ไป'

ปัญหาที่พูด​กัน​อยู่​ตอนนี้คือ​ ​แล้ว​คนเหล่านี้มี​ส่วน​ได้​เสียไหม​ ​ถ้า​ตี​ความ​เรื่อง​ ส่วน​ได้​เสีย' แบบที่​เข้า​ใจ​กัน​อยู่​ ​การแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​จะ​ทำ​ไม่​ได้​เลย​ ​มีบางคนบอกว่า​ให้​แก้​ไขเสียก่อนที่การกระทำ​จะ​เกิดขึ้น​ ​ก็​ยัง​ไม่​ทันมีสภา​เลยก็มีการเพิกถอนสิทธิ​เลือกตั้ง​แล้ว​ ​มัน​จะ​แก้​ไข​ได้​อย่างไร​ ​ถ้า​ตี​ความ​กัน​แบบนี้​ ​ผมเรียนว่า​แม้​แต่​ ​ส​.​ส​.​จะ​แก้กฎหมายเรื่องพรรคการเมือง​ ​เรื่องนักการเมืองก็ทำ​ไม่​ได้​ ​แม้​แต่​จะ​แก้กฎหมายภาษีก็​ไม่​ได้​ ​เพราะ​ตัวเอง​เป็น​ผู้​เสียภาษา​ ​ดัง​นั้น​ผม​จึง​มอง​ไม่​ออกว่ามัน​จึง​ไม่​เข้า​หลักเกณฑ์​เรื่อง​ส่วน​ได้​เสียอย่างไร

ม.309 ไม่​มีที่​ไหน​ใน​โลกเขียนแบบนี้

ส่วน​กรณี​ ​ม.309 ที่มีการมองว่า​ ​หากแก้กฎหมายข้อนี้​ ​จะ​เป็น​การนิรโทษกรรม​ ​ให้​กับ​กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย​หรือ​ไม่​นั้น​ ​ดร​.​วรเจตน์​ ​กล่าวว่า​ ​ต้อง​ทำ​ความ​เข้า​ใจก่อนว่า​ ​ม.309 เขียน​ไว้​ว่าอย่างไร​ ​ตอนที่มีการดี​เบตรัฐธรรมนูญ​กัน​ ​ฝ่ายร่างรัฐธรรมนูญก็พูดชัด​ใน​วันที่ดี​เบตว่า​ ​ม.309 รับรองการกระทำ​ที่ชอบ​ด้วย​กฎหมาย​ให้​มันชอบ​ ​ผม​ยัง​ถามว่า​ถ้า​การกระทำ​นั้น​ชอบ​ด้วย​กฎหมาย​อยู่​แล้ว​จะ​ไปเขียนรับรองทำ​ไม​ ​ไม่​มี​ความ​จำ​เป็น​ต้อง​เขียน​ ​ไม่​มี​ใครพูด​ถึง​เรื่อง​ 111 คน​ ​ไม่​มี​ใครพูด​ถึง​เรื่อง​ ​คตส​.

ที่นี้ปัญหาคือ​ ​ม.309 ใน​ทางถ้อยคำ​ไม่​ได้​มี​ความ​หมาย​เท่า​นี้​ ​ม.309 ถ้า​อ่านดู​แล้ว​มี​ความ​หมายรับรองการกระทำ​ที่​ไม่​ชอบ​ด้วย​กฎหมาย​ ​ไม่​ว่า​จะ​เกิดขึ้นก่อน​หรือ​เกิดขึ้นหลังการประกาศ​ใช้​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​ให้​ถือว่าชอบ​ด้วย​รัฐธรรมนูญ​และ​ชอบ​ด้วย​กฎหมาย​ ​กฎหมายแบบนี้​ไม่​ถูก​ต้อง​ ​เพราะ​เป็น​การรับรองการกระทำ​ซึ่ง​อาจ​จะ​เกิดขึ้น​ใน​วันพรุ่งนี้​ซึ่ง​อาจ​ไม่​ชอบ​ด้วย​กฎหมายแต่บอก​ให้​มันชอบ​ด้วย​กฎหมาย​ ​ซึ่ง​ไม่​มีที่​ไหน​ใน​โลกที่​เขียนกฎหมายแบบนี้​ ​มี​แต่รัฐธรรมนูญของเราที่​เขียนแบบนี้​ ​ซึ่ง​มันผิดหลัก​

ประ​เด็นก็คือ​ ​ตอนนี้มีคนกลัวว่าหากมีการแก้​ไข​ ​จะ​ไปกระทบ​ 111 คน​ ​และ​ ​คตส​. ​ผมเรียนว่า​ไม่​กระทบ​ ​เพราะ​ว่า​ 111 คน​ ​ถูกเพิกถอน​โดย​คำ​วินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ​ซึ่ง​ยัง​มีผล​ใน​ทางกฎหมาย​อยู่​ ​จะ​ทำ​ลายผลตรงนี้​ได้​ต้อง​มีการตรากฎหมายขึ้นเพื่อทำ​ลายผลของกฎหมาย​ ​อย่างที่​เรียก​กัน​ว่าการนิรโทษกรรม

เลิก​ ​ม.309 ไม่​กระทบ​ ​คตส​. ​แต่​เพื่อ​ให้​ ​คตส​. ​ถูกตรวจสอบตามระบบ

ส่วน​ ​คตส​. ​เกิดขึ้น​จาก​ประกาศของ​ ​คปค​. ​ความ​จริงผม​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การจัดตั้งองค์กรเฉพาะกิจแบบนี้ขึ้นมา​ ​แต่​เขา​เกิดขึ้น​จาก​ตัวประกาศของ​ ​คปค​. ​หมาย​ความ​ว่า​ ​แม้​เลิก​ ​ม.309 นี้​ ​ตัวองค์กรนี้ก็​จะ​อยู่​ต่อไป​ ​เพราะ​ได้​รับการแก้​ไข​โดย​พระราชบัญญัติตอนที่มีสภานิติบัญญัติ​แห่งชาติ​ ​สิ่งที่ดีก็คือ​ ​ม.309 เดิมรับรองการกระทำ​ทุกสิ่งทุกอย่างเอา​ไว้​ ​ไม่​ว่า​จะ​ชอบ​หรือ​ไม่​ชอบ​ด้วย​กฎหมาย​ ​ไม่​ว่า​จะ​เกิดพรุ่งนี้​หรือ​เมื่อวาน​ ​ให้​มันชอบ​ด้วย​รัฐธรรมนูญ​และ​กฎหมาย​ ​เมื่อเลิกมาตรานี้​ไป​ ​กระบวนการต่างๆ​ ​ของ​ ​คตส​. ​ที่ทำ​กัน​ไป​ ​ถ้า​ชอบ​ด้วย​กฎหมายมันก็​ใช้​ได้​ไม่​มีปัญหา​ ​ก็ถูก​ต้อง​ ​มัน​ไม่​ได้​ไปลบล้าง​หรือ​ล้มเลิก

แต่​ถ้า​ไม่​ชอบ​ด้วย​กฎหมาย​และ​ไม่​ชอบ​ด้วย​รัฐธรรมนูญ​ ​ผมคิดว่า​เรา​ใน​ฐานะคนที่มโนสำ​นึกธรรมดา​เหมือน​กัน​ ​สิ่งที่​ไม่​ชอบก็ควร​ไม่​ชอบ​ ​ถ้า​ ​คตส​. ​ดำ​เนินกระบวนการสอบสวน​โดย​ไม่​ถูก​ต้อง​ ​โดย​ไม่​ชอบ​ ​ผลการสอบสวนก็​ต้อง​ไม่​ชอบ​ ​มัน​ไม่​ควรถูกรับรองเอา​ไว้​ล่วงหน้าว่ามันชอบ

นายจอมถามต่อว่า​ ​ถ้า​ยกเลิกมาตรานี้​ ​หลายคนกลัวว่า​ ​สิ่งที่​ ​คมช​. ​หรือ​ประกาศ​ ​คปค​. ​ก็​เริ่มต้น​กัน​ใหม่​หมด​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​ ​ต้อง​ไปดูว่าประกาศต่างๆ​ ​เหล่า​นั้น​ ​เมื่อมาตรวจวัด​กับ​ มาตร' ​ใน​ทางรัฐธรรมนูญ​แล้ว​ ​มันมีประกาศไหนที่​ใช้​ได้​หรือ​ใช้​ไม่​ได้​ ​ต้อง​ไปดูทีละ​เรื่อง​ ​กรณี​ ​คตส​. ​เขา​ตั้งขึ้นมา​ ​ตัวประกาศ​ ​คปค​. คตส​. ​ยัง​อยู่​ ​แต่การกระทำ​ของ​ ​คตส​. ​ต่างหาก​จะ​ถูกตรวจสอบว่าที่​ ​คตส​. ​ทำ​ไป​นั้น​ ​ชอบ​หรือ​ไม่​ชอบ​ด้วย​รัฐธรรมนูญ​ ​ซี่ง​เป็น​หลักปกติ​ ​เมื่อเรามีรัฐธรรมนูญ​ซึ่ง​ผ่านการออกเสียงประชามติมา​แล้ว​ ​กระบวนการต่างๆ​ ​ที่ทำ​กัน​ไป​โดย​องค์กรต่างๆ​ ​ควรที่​จะ​สอดคล้อง​กับ​รัฐธรรมนูญ

ผมเรียนว่า​ถ้า​ ​คมช​. ​ทำ​อะ​ไร​โดย​ที่​ไม่​ขัดแย้ง​กับ​รัฐธรรมนูญ​ ​ก็​ไม่​ต้อง​เกรงว่า​จะ​มีปัญหา​ ​แต่กระทำ​การ​โดย​ไม่​ถูก​ต้อง​ตามกฎหมาย​ ​ไม่​ถูก​ต้อง​ตามรัฐธรรมนูญ​ ​ควร​ต้อง​มีปัญหา​ใช่​ไหมครับ

ถ้า​มีการแก้รัฐธรรมนูญ​กัน​จริง​ ​กว่าที่รัฐธรรมนูญ​จะ​แก้​ไข​ ​คตส​. ​ก็หมดวาระ​ไป​แล้ว​ ​เขา​อยู่​ใน​วาระอีกแค่​ 2 เดือน​ ​คตส​.​เป็น​องค์กรเฉพาะกิจ​ ​แรกเริ่มเดิมที่​จะ​ตั้งขึ้นมา​ 1 ปี​ ​ก็​จะ​ได้​ระยะ​เวลาพอดี​กับ​ที่ประกาศ​ใช้​รัฐธรรมนูญ​ ​ซึ่ง​ความ​จริงควร​จะ​เลิกไปตั้งแต่ครบปีหนึ่ง​แล้ว​ ​แล้ว​ส่งเรื่อง​ให้​ ​ปปช​. ​ดำ​เนินการต่อไป​ ​เพราะ​ ​ปปช​. ​เป็น​องค์กร​ใน​ระบบ​ ​แต่​ ​สนช​. ​ไปต่ออายุ​ ​คตส​. ​จน​อยู่​มาทุกวันนี้​ ​เลยทำ​ให้​ ​คตส​. ​เป็น​องค์กรที่มีปัญหา​กับ​ระบบรัฐธรรมนูญที่มันเริ่มเดิน

ต่อข้อถามที่ว่า​ ​การแก้รัฐธรรมนูญ​ ​ม.309 จะ​เกิดปัญหา​กับ​เอกภาพของรัฐบาลไหม​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​เป็น​ไป​ได้​ ​เพราะ​มัน​เป็น​ปัญหาที่​เถียง​ใน​ทางกฎหมาย​ ​บางกรณีก็ยากแก่การทำ​ความ​เข้า​ใจของคน​ทั่ว​ไป​ ​ต้อง​ฟัง​ผู้​ที่มี​เสียงดัง​ใน​ทางสังคม​เป็น​สำ​คัญ​ ​ว่าคนเหล่า​นั้น​อธิบายอย่างไร​ ​ซึ่ง​เสียง​ส่วน​ใหญ่​จะ​อธิบาย​ใน​ลักษณะตรง​กัน​ข้าม​กับ​ผม​

ตอนที่มีการร่างรัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​ ​ผมบอก​กับ​ผู้​ร่างบางท่านว่า​ ​ถ้า​จะ​เขียนเรื่อง​ ​คตส​. ​ก็รับรององค์กรไป​ ​รับรอง​ให้​ ​คตส​. ​มี​อยู่​ ​อย่า​ไปรับรองการกระทำ​ ​เพราะ​เรา​ไม่​รู้ว่า​ ​การกระทำ​นั้น​จะ​ชอบ​หรือ​ไม่​ชอบ​ ​เรา​ไม่​ควรเขียนเช็คเปล่า​ให้​ใคร​ ​ว่าสิ่งที่​เขา​ไปถูก​ต้อง​ ​หรือ​ชอบ​ด้วย​รัฐธรรมนูญเสมอ​ ​ไม่​ควร​เป็น​แบบนี้

เพราะ​ฉะ​นั้น​วันนี้​ถ้า​กังวล​ ​และ​เพื่อ​ให้​ระบบกฎหมายเดินไป​ ​ผมคิดว่าก็​แก้​ไป​ ​ยกเลิก​ ​ม.309 ไป​ ​ถ้า​กังวลเรื่อง​ ​คตส​. ​ก็​เขียนรับรอง​ ​คตส​. ​ให้​เขา​อยู่​จนครบวาระ​ ​แต่การกระทำ​ของ​เขา​ต้อง​ถูกตรวจสอบ​โดย​เกณฑ์ทางกฎหมายว่าชอบ​หรือ​ไมชอบ​ ​ถ้า​ไม่​อย่าง​นั้น​ก็ประกาศตัว​ไม่​ได้​ว่า​เรา​เป็น​นิติรัฐ

ขืนตี​ความ​ ส​.​ส​.​แก้​ไข​ ​รธน​. ​คือประ​โยชน์ทับซ้อน' จะ​ไม่​มี​ใครแก้กฎหมายอะ​ไร​ได้

ต่อข้อถามที่ว่า​ ​กรณีที่มีกลุ่ม​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การแก้รัฐธรรมนูญบอกว่า​จะ​ใช้​วิธีรวบรวมรายชื่อ​ ​เพื่อถอดถอน​ ​ส​.​ส​.​ที่ยื่นญัตติ​แก้​ไข​ ​รธน​. ​โดย​บอกว่า​ ​การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้​ (แก้​ ​ม.237 เพื่อ​ให้​พ้น​จาก​การยุบพรรค) ​เป็น​การกระทำ​ที่​เข้า​ข่ายการขัด​กัน​ซึ่ง​ผลประ​โยชน์​นั้น​ ​ดร​.​วรเจตน์​ ​กล่าวว่า​ไม่​น่า​จะ​ทำ​ได้​ ​เพราะ​ ​ม.122 พูดเรื่องสมาชิกสภา​ผู้​แทนราษฎร​และ​สมาชิกวุฒิสภาย่อม​เป็น​ผู้​แทนปวงชนชาวไทย​ ​ไม่​อยู่​ใน​อาณัติมอบหมาย​ ​หรือ​ครอบงำ​ใดๆ​ ​และ​ต้อง​ปฏิบัติหน้าที่​เพื่อประ​โยชน์​ส่วน​รวม​โดย​ปราศ​จาก​การขัด​กัน​ซึ่ง​ผลประ​โยชน์​ ​มาตรานี​เขียนรับรองสถานะของ​ ​ส​.​ส​. ​และ​ ​ส​.​ว​. ​เอา​ไว้​ให้​เขา​ทำ​หน้าที่อย่างอิสระ

ประ​เด็นคือ​ ​การที่ตี​ความ​เรื่องนี้​ ​ต้อง​ดูว่าการที่​เขา​กระทำ​การ​นั้น​เป็น​เหตุถอดถอน​หรือ​ไม่​ ​ถ้า​เขา​ใช้​อำ​นาจหน้าที่​ใน​ตำ​แหน่งไป​ใน​ทางมิชอบถอดถอน​ได้​ ​แต่การแก้รัฐธรรมนูญ​ ​มันคงเอา​เรื่องนี้มากล่าวอ้าง​ไม่​ได้​ ​อย่างที่ผมบอก​ ​ถ้า​ตี​ความ​แบบนี้​ ​ใครๆ​ ​ก็​แก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ไม่​ได้​ ​ส​.​ส​.​ฝ่ายค้าน​ ​หรือ​ ​ส​.​ส​.​ฝ่ายรัฐบาลเองก็​ไม่​สามารถ​แก้​ไข​ได้​ ​เพรา​จะ​ถูกมองว่ากระทำ​การแก้​ไขเพื่อตัว​ทั้ง​สิ้น​ ​กฎหมายพรรคการเมือง​ ​หรือ​ ​การออกฎหมายบาง​ฉบับ​ ​ก็​จะ​กระทำ​มิ​ได้​เลย​ ​ความ​มุ่งหมายคง​ไม่​ใช่​อย่าง​นั้น​ ​ถ้า​มีการ​เข้า​ชื่อ​กัน​จริง​ ​ถามว่า​ใคร​จะ​เป็น​คนถอดถอน​ ​เพราะ​จะ​กลาย​เป็น​ว่าทุกคนกลาย​เป็น​คนที่มี​ส่วน​ได้​เสีย​กัน​หมด​ทั้ง​สภา

พรรคการเมือง​เป็น​ที่ร่วมของคนคิดอ่านเหมือน​กัน​ ​ตั้งมา​แล้ว​ไม่​ควร​ให้​ยุบง่ายๆ

เรื่องการยุบพรรค​นั้น​ ​พรรคการเมืองเมื่อตั้งขึ้นมา​แล้ว​ ​หลัก​ทั่ว​ไป​ใน​โลก​เขา​ไม่​ให้​ยุบ​กัน​ง่ายๆ​ ​เพราะ​พรรค​เป็น​ที่รวมของคนที่มี​ความ​คิด​ความ​อ่านทางการเมืองคล้ายๆ​ ​กัน​ ​โดย​เฉพาะบ้านเราที่สถาบันทางการเมืองมันค่อยๆ​ ​พัฒนา​ไป​ ​ลองนึกดู​ถ้า​ยุบพรรคทำ​ได้​ง่ายๆ​ ​แม้​แต่พรรคประชาธิปัตย์​เอง​โดย​บัญญัติ​ใน​มาตรานี้ก็อาจถูกยุบพรรคเหมือน​กัน​ทั้ง​ที่มีอายุมากว่า​ 60 ปี​ ​มันคง​ไม่​ถูก​ต้อง​ ​ใครทำ​ผิด​ต้อง​เอาผิดคน​นั้น​ ​แล้ว​การตี​ความ​เรื่องนี้​ต้อง​ตี​ความ​ให้​สอดคล้อง​กับ​หลักการที่มันควร​จะ​เป็น​ ​สังคม​จะ​ได้​มีทางออก​ ​ขอ​ให้​พูด​กัน​ใน​หลักการ​ ​อย่าพูด​ใน​ผลประ​โยชน์​เฉพาะหน้า​ใครกลุ่ม​ใด​กลุ่มหนึ่ง

นายจอมถามว่าประชาชน​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร​ให้​เป็น​ธรรม​ ​ให้​เป็น​รัฐธรรมนูญที่มี​ส่วน​ร่วม​โดย​ประชาชน​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​โดย​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​ ​ผู้​ร่างรัฐธรรมนูญกำ​หนดกระบวนการแก้​ไข​แล้ว​ว่า​ให้​ญัตติมา​จาก​ใคร​ ​พิจารณา​กัน​อย่างไร​ ​ปัญหา​อยู่​ที่​ถ้า​เดินตามกลุ่มของ​ผู้​ที่​ต้อง​การแก้​ไขบางมาตรา​ ​โอกาสที่ประชาชนมี​ส่วน​ร่วมอาจ​จะ​น้อย​ ​เขา​อาจไปฟัง​ความ​เห็น​ความ​เห็นของประชาชน​ ​แต่อาจ​จะ​น้อย​ ​ถ้า​เกิดว่าดำ​เนินกระบวนการ​ใน​การยกร่างรัฐธรรมนูญ​กัน​ทั้ง​ฉบับ​ ​ประชาชนก็​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​หลายลักษณะ

ใน​ความ​เห็นผม​ ​คนที่​จะ​มาร่างรัฐธรรมนูญ​ ​ต้อง​มีที่มาตาม​ความ​ชอบธรรมตามหลักประชาธิปไตย​ ​มีการเลือกตั้ง​เข้า​มา​ส่วน​หนึ่ง​ ​บวก​กับ​ผู้​เชี่ยวชาญด้าน​อื่นๆ​ ​ประกอบ​กัน​ขึ้น​เป็น​องค์กรที่ทำ​หน้าที่​ใน​การยกร่างรัฐธรรมนูญ​ ​จะ​ทำ​ให้​ที่มาของการร่างรัฐธรรมนูญมี​ความ​ชอบทำ​ ​ไม่​ใช่​การ​ให้​ผู้​มีอำ​นาจตั้งบุคคลกลุ่มหนึ่งขึ้นมายกร่าง

ผมคิดว่าหากทุกคนต่างถอย​กัน​คนละก้าว​แล้ว​ ​และ​ยอมรับว่ารัฐธรรมนูญมันมีปัญหาจริงๆ​ ​ใน​ทางหลักการ​ ​ปัญหาคือ​ ​บางฝ่ายคิดว่า​เรื่องนี้​ไม่​เป็น​ปัญหา​ ​แต่ผมเองเห็นว่า​เป็น​ปัญหา​ ​และ​ปัญหาที่​เห็นมัน​ไม่​ใช่​ปัญหาที่มองย้อน​ใน​อดีต​ ​แต่มัน​เป็น​ปัญหาระดับหลักการ​ ​เรา​จะ​ไม่​ทะ​เลาะ​กัน​ ​ถ้า​หากเราพูดเรื่องหลักการที่ควร​จะ​เป็น​ว่ามัน​จะ​เป็น​อย่างไร​ ​รัฐธรรมนูญควรเขียนหลักการก่อน​ ​รัฐธรรมนูญควรมองไปข้างหน้าว่าอะ​ไรคือสิ่งที่สังคมไทยใฝ่ฝัน​จะ​ไป​ให้​ถึง​อาจ​ไม่​ต้อง​ยาวมาก​ ​ที่​เหลือก็ทำ​เป็น​กฎหมาย​ใน​ระดับรองลงมา​ ​เวลามีปัญหาทางการเมือง​จะ​ไม่​กระทบ​กับ​รัฐธรรมนูญ

ชี้การเมืองแบ่งสองขั้ว​ ​แต่สังคมไทย​ต้อง​พ้นไป​จาก​เรื่อง​ เอา' หรือ​ ไม่​เอา' ทักษิณ

นายวรเจตน์กล่าวต่อไปว่า​ ​สภาพทางการเมืองตอนนี้มันแบ่ง​เป็น​สองขั้ว​ ​ขั้วหนึ่งมีอำ​นาจทางการเมือง​ ​ขั้วหนึ่งมีอำ​นาจ​ใน​ทางกฎหมาย​ ​แล้ว​สองขั้วนี้ปะทะ​กัน​ ​แล้ว​ตอนนี้ฝ่ายที่มีอำ​นาจทางการเมือง​ต้อง​การแก้รัฐธรรมนูญ​ ​ส่วน​ขั้วที่มีอำ​นาจทางกฎหมาย​ไม่​ต้อง​การแก้​ ​เพราะ​ต่างฝ่ายต่างมีผลประ​โยชน์ที่​เกี่ยวพัน​กัน​ใน​ระบบการเมือง​ ​ซึ่ง​ประชาชน​ต้อง​รู้​เท่า​ทัน​ ​และ​ยกระดับปัญหานี้​ไปสู่ปัญหา​ใน​ระดับเชิงหลักการ​ ​ถ้า​จะ​เถียง​กัน​เชิงหลักการว่า​ไป​ได้​แค่​ไหน​ ​ไม่​ใช่​ไปจนสุดอย่างเรื่องยุบพรรคการเมือง​ ​ที่ยุบไป​แล้ว​ก็​เกิดพรรคการเมือง​ใหม่​ขึ้นมา​ซึ่ง​สืบสาวมา​จาก​พรรคการเมืองเดิม​ซึ่ง​ประชาชนก็​ยัง​เลือก​อยู่​ ​ถามว่าที่สุดประ​เทศชาติ​ได้​อะ​ไร​จาก​การเล่นเกมการเมือง​และ​กฎหมาย​ใน​ลักษณะ​เช่นนี้

นายจอมถามต่อว่า​ ​กลุ่มเคลื่อนไหวนอกสภาหลายกลุ่ม​ใน​ขณะนี้​จะ​เผชิญหน้า​กัน​หรือ​ไม่​ใน​อนาคต​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​ ​ประ​เมินยาก​ ​ขึ้น​อยู่​กับ​ว่าลักษณะ​และ​วิธีการ​ใน​การแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ ​คือตอนนี้บ้านเมืองเรา​ยัง​ไป​ไม่​พ้น​จาก​ปัญหา​ เอา' ​หรือ​ ไม่​เอา' คุณทักษิณ​ ​ยัง​เป็น​แบบนี้​ ​เพียงแต่มันแปรรูปไป​เป็น​เรื่องของรัฐธรรมนูญ​ ​ตั้งแต่การออกเสียงลงประชามติ​ ​มีคนกลุ่มหนึ่งที่​เริ่มมองไปไหนปัญหา​เรื่องหลักการ​ ​ไม่​ได้​มองว่าเอา' หรือ​ ไม่​เอา' คุณทักษิณ​ ​แต่ตอนนี้ปัญหานี้​ยัง​ดำ​รง​อยู่​และ​ต่อสู้​กัน​ต่อไป​

ถ้า​คนที่​เป็น​ชนชั้นนำ​ใน​สังคม​ยัง​มองไป​ไม่​พ้น​จาก​ปัญหานี้​ ​ก็​เป็น​ไป​ได้​ว่า​จะ​ปะทะ​กัน

พรรคการเมือง​ซึ่ง​ร่วมรัฐบาลพรรค​ใหญ่​สุดคือพรรคพลังประชาชน​ ​ได้​หา​เสียงเอา​ไว้​ว่า​เมื่อ​เป็น​รัฐบาลสิ่งหนึ่งแก้​ไขคือแก้รัฐธรรมนูญ​ ​แต่น่า​เสียดาย​ไม่​มีการพูด​กัน​ ​ใน​ที่วันแรกๆ​ ​ที่มีการจัดตั้งรัฐบาล​ ​ถ้า​ทำ​ตั้งแต่ตอน​นั้น​ ​และ​กำ​หนดกระบวนการแก้​ไข​ให้​ชัดเจน​ ​แรงกดดันที่มีต่อรัฐบาล​จะ​น้อย​ ​แต่ตอนนี้​ใน​เชิงระยะ​เวลามา​เกิดเอา​ใน​ช่วงที่มีปัญหายุบพรรค​หรือ​ไม่​ยุบพรรค​ ​ซึ่ง​ยัง​ไม่​ได้​ยุบพรรคกลไก​ยัง​อีกหลายขั้นตอน​ ​แต่ข้อกฎหมายมันพอมองไป​ได้

ตอนนี้​เลย​เป็น​ปัญหา​ ​ทุกคนเลยหวาดระ​แวง​กัน​หมด​ ​ไม่​คิดว่า​จะ​ดำ​เนินการไปเพื่อหลักการที่มันควร​จะ​เป็น​ ​ใน​ที่สุด​ ​ทุกฝ่าย​ ​รัฐบาลเองคงทำ​เรื่องแก้​ไขรัฐธรรมนูญ​ให้​เป็น​ระบบ​ ​ขั้นตอนที่​จะ​เสนอ​เป็น​อย่างไร​ ​ให้​พ้นไป​จาก​ปัญหา​เรื่องแก้​เพื่อตัวเอง​ ​อีกเรื่อง​ต้อง​ฟังคำ​อธิบาย​ ​และ​พ้นไป​จาก​เรื่อง​ เอา' หรือ​ ไม่​เอา' คุณทักษิณ​ ​คุณทักษิณ​ไม่​ได้​อยู่​กับ​เราตลอดกาล​ ​บ้านเมือง​ต้อง​เดินไปข้างหน้าอีก​ ​เรามาทะ​เลาะ​กัน​ด้วย​เรื่องแค่นี้​ ​เอามา​เป็น​ปัญหาหลักทางสังคม​ ​ก็​ได้​กฎหมายที่มีกลไกพิกลพิการ​และ​ทำ​ให้​สังคม​ไม่​ไปไหน

เรื่องเรียกร้อง​ให้​ยึดอำ​นาจ​ ​สะท้อนวุฒิภาวะทางสังคมว่า​ไม่​ยอมโต

นายจอมถามว่า​ ​คิดว่ากองทัพกังวลแค่​ไหน​กับ​เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ​ ​นายวรเจตน์กล่าวว่า​ ​กองทัพคงกังวล​ ​และ​ได้​รับบทเรียน​จาก​การยึดอำ​นาจว่า​ ​การยึดอำ​นาจ​ใน​ ​พ​.​ศ​. ​นี้​ไม่​แก้ปัญหาทางการเมือง​ ​การ​ใช้​กำ​ลังยึดอำ​นาจ​และ​ฉีกรัฐธรรมนูญ​ ​ไม่​แก้ปัญหาอะ​ไรเลย​ใน​ช่วงปีที่ผ่านมา​

ต่อข้อถามที่ว่า​ ​ยัง​คงมีการเรียกร้อง​ให้​มีการยึดอำ​นาจกรุ่นๆ​ ​อยู่​นั้น​ ​นายวรเจตน์กล่าวว่า​ ​นี่​เป็น​ปัญหา​เรื่องวุฒิภาวะทางสังคม​ ​เรา​ยัง​เด็ก​อยู่​มาก​ ​ไม่​ยอมโต​ ​หลายคนคิดว่ามีปัญหา​ต้อง​แก้​ด้วย​การยึดอำ​นาจ​ ​ซึ่ง​มัน​ไม่​แก้ปัญหา​ ​และ​ปัญหาที่มัน​อยู่​มันก็ยิ่ง​อยู่

พัฒนาการ​ใน​ทางประชาธิปไตย​ ​มันไป​ไกล​พอสมควร​ ​จะ​เห็น​ได้​ว่ารัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้มีกลไกหลายอย่างที่​เป็น​ปัญหาทางประชาธิปไตยแฝงเร้น​ใน​รัฐธรรมนูญ​ ​แต่​ใน​ที่สุด​ผู้​ร่างรัฐธรรมนูญก็​ต้อง​หนี​ไม่​พ้นกระ​แส​ให้​ยอมรับหลักนิติรัฐ​และ​นิติธรรม​ใน​ประชาธิปไตย​ ​ก็​ต้อง​เขียนเอา​ไว้​ใน​รัฐธรรมนูญ​อยู่​ดี​ ​เลย​เป็น​ปัญหา​เวลาตี​ความ​ทางกฎหมาย​ ​ว่าคุณ​จะ​ให้​คุณค่า​กับ​หลักการพวกนี้อย่างไร

ผมเองเห็น​ยัง​ว่า​เพื่อ​ให้​ระบบเดินไป​ ​เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า​และ​การสูญเสีย​ ​ปัญหาระดับหลักการ​เป็น​สิ่งที่สำ​คัญที่สุด​ ​ก็ควรว่า​กัน​ไปตามระบบ​ ​ไปตามหลักที่ควร​จะ​เป็น​ ​เอา​เหตุ​เอาผลมาพูด​กัน​ ​อย่าตั้งธง​ ​มันก็​จะ​ไป​ได้

ชี้ชนชั้นนำ​ไทยเสียรังวัดไปมาก​ ​หลังทุ่มกำ​ลังกำ​จัดทักษิณ

นายจอมถามว่า​ ​สังไทยขาดที่พึ่ง​ ​ขาดคนชี้​แนะ​ ​ขาดอะ​ไรที่พอออกมา​แสดง​ความ​คิดเห็นทุกคนยอมรับ​และ​ไปร่วม​กัน​ ​เราขาดกลุ่มคนกลุ่มนี้​ไหมครับ

นายวรเจตน์ตอบว่า​ ​ก็อาจ​เป็น​ไป​ได้​ ​ผมเห็นว่า​ ​ใน​ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา​ ​ชนชั้นนำ​ใน​สังคมไทยทุก​ส่วน​ ​ได้​สูญเสีย​ความ​น่า​เชื่อถือไปอย่างมาก​ ​ทุ่มทุกสิ่งทุกอย่างไปจัดการ​กับ​คุณทักษิณ​ ​เราละ​เลยคุณค่า​ ​ละ​เลยหลักการที่ควร​จะ​เป็น​ ​วันนี้สังคมไทยมีปัญหามาก​ ​ถึง​ที่สุดใครพูดอะ​ไรก็​ไม่​มี​ใครฟังใคร​ ​ผมคิดว่า​ยัง​ไม่​สาย​ถ้า​เรา​จะ​ย้อนกลับมาดู​ ​ทำ​อย่างที่มันควร​จะ​เป็น​ ​อย่า​ไปปักธง​ ​อย่ามีอคติ​กัน​ไว้​ก่อน​ ​ใช้​กฎหมาย​ให้​มันเสมอ​กัน​กับ​ทุกฝ่าย​ ​ใน​วันพรุ่งนี้​ (8 เม​.​ย​.) ​กตต​. ​จะ​ประชุม​กัน​เรื่องการยุบพรรค​ ​ผมเห็นว่าประ​เด็น​ใน​ข้อกฎหมายที่ผม​และ​เพื่อนๆ​ 4 คน​ ​เสนอว่า​จะ​การตี​ความ​ ​ม.237 ต้อง​คำ​นึงหลักประชาธิปไตย​และ​หลักนิติรัฐ​นั้น​ ​ถ้า​ ​กกต​. ​ตี​ความ​ใน​หลักการนี้น่า​จะ​แก้ปัญหา​ใน​ระดับหนึ่ง

วอนฝ่ายค้านแก้​ ​รธน​. ​อย่าอ้างผลประชามติ​ ​เพราะ​ไม่​ได้​มาตรฐานสากล

นายวรเจตน์​ยัง​เสนอแนะว่า​ ​รัฐบาลก็คง​ต้อง​ฟังทุกๆ​ ​ฝ่าย​ ​และ​พยายามหาคน​ซึ่ง​น่า​จะ​เป็น​กลาง​หรือ​คนพอฟัง​อยู่​บ้างมาพูดคุย​กัน​ ​เพื่อออกไป​จาก​สภาพ​ความ​ขัดแย้งแบบนี้​ ​แต่อย่างที่บอกว่าอย่าปักธงว่ารัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​แก้​ไข​ไม่​ได้​ ​โดย​ที่มีการอ้างเรื่องของการออกเสียงประชามติ​นั้น​ ​ผม​เป็น​คนหนึ่ง​ซึ่ง​เห็นว่าการอ้างดังกล่าวมันอ้าง​ไม่​ได้

เพราะ​การทำ​ประชามติที่ทำ​ใน​คราวที่​แล้ว​ ​ไม่​ใช่​การทำ​ประชามติ​ใน​ระดับมาตรฐานสากล​ ​เราคงรู้ว่าหลายคนรับรัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​ไปเพียงเพื่อ​ให้​ประ​เทศพ้นสภาพที่พ้นสภาวะรัฐประหาร​ ​ให้​ประ​เทศกลับสู่หนทางประชาธิปไตยไปก่อน​ ​ถึง​ตอนนี้​เมื่อกลับมาสู่ระบบแบบนี้มันคง​ต้อง​เดินต่อไป​ ​ถ้า​ใครคิดว่า​เป็น​นักประชาธิปไตย​ ​เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย​ต้อง​มองประ​เด็นนี้​เป็น​หลัก​ ​ถ้า​มองประ​เด็นนี้​เป็น​หลัก​แล้ว​จะ​คุย​กัน​ได้​ ​ถ้า​มองประ​เด็น​อื่น​เป็น​หลัก​จะ​คุย​กัน​ไม่​ได้​ทั้ง​สองข้าง

ชวนสังคมจินตนาการเปลี่ยนผ่าน​ ​รธน​. ​จาก​เวอร์ชั่น​ 2534 มา​เป็น​ 2540

ใน​ช่วงสุดท้าย​ ​นายจอมถามว่า​ ​ทุกฝ่าย​จะ​ทำ​อย่างไร​ให้​ประ​เทศพ้นไป​จาก​หนทางตัน​จาก​การแก้รัฐธรรมนูญ​ ​นายวรเจตน์ตอบว่า​ ​เราอาจ​ต้อง​ย้อนเวลากลับไป​ ​อย่างยุคก่อน​ 2540 เรามีประสบการณ์ที่​จะ​ผ่านตัวรัฐธรรมนูญ​จาก​ 2534 มา​เป็น​ 2540 อย่างไร​ ​อีกทีหนึ่งคือย้อนกลับไปก่อนที่​จะ​มีการทำ​รัฐประหาร​ 19 ก​.​ย​. ​ที่มีการพูดเรื่องปฏิรูปรัฐธรรมนูญ​ใหม่​ทั้ง​ฉบับ​ ​เราน่า​จะ​ย้อนกลับไปตรงจุดเวลา​นั้น​ ​และ​ทำ​เรื่องนี้​ให้​เป็น​เรื่องสาธารณะ​ ​ทำ​องค์กรที่มี​ความ​ชอบธรม​ ​ให้​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​ใหม่​ทำ​ให้​สังคมไทยมี​เป้าหมายเดิน​กัน​ไป​ ​ไม่​ใช่​เป็น​รัฐธรรมนูญที่​เขียนขึ้นเพื่อแก้ปัญหาบางอย่าง​เท่า​นั้น​เอง​ ​แล้ว​มันก็​แก้​ไม่​ได้

ที่​เหลือ​เป็น​เรื่อง​ใน​ระดับกฎหมาย​ ​แม้ผมเอง​ส่วน​ตัว​จะ​เห็นว่า​ ​เรื่องนี้​ ​ใน​ภาวะการณ์ที่สู้​กัน​ทางการเมืองแบบนี้​ไม่​ได้​เกิดขึ้นง่าย​ ​แต่ว่า​เรา​ต้อง​ใช้​ความ​พยายาม​ ​อย่า​ได้​กลาย​เป็น​ว่า​ ​เมื่อผ่านอีกหลายปีข้างหน้า​แล้ว​มองย้อนกลับมา​ใน​อดีตต่างสำ​นึกเสียใจ​กัน​หมด​ ​ว่า​เรา​ไม่​ได้​ใช้​ความ​พยายามอย่างเต็มที่​ใน​การเอาบ้านเมืองออก​จาก​ปัญหา​ ​แล้ว​มานั่งเสียใจ​กัน​ภายหลัง


Hi-thaksin

กคพ​.​เร่งรัดดี​เอสไอ​ ​ทำ​คดี​เพชรซาอุ​ใหม่​ [11 ​เม​.​ย​. 51 - 04:31]

วานนี้​ (10 ​เม​.​ย​.) ​พ​.​ต​.​อ​.​ณรัชต์ เศวตนันทน์ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิ​เศษ​ (ดี​เอสไอ) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการคดีพิ​เศษ​ (กคพ​.) ครั้งที่​ 1/2551 ​ที่มีนายสมัคร​ ​สุนทรเวช​ ​นายกรัฐมนตรี​ ​เป็น​ประธาน​ ​ว่า​ได้​รายงานผลการทำ​งานของดี​เอสไอที่ผ่านมา ​โดย​มีคดีพิ​เศษที่รับมาดำ​เนินการ​ทั้ง​สิ้น​ 407 ​คดี​ ​ดำ​เนินการ​แล้ว​เสร็จ​ 269 ​คดี​ ​อยู่​ระหว่างการดำ​เนินการ​ 138 ​คดี​ ​นอก​จาก​นี้​ ​ที่ประชุม​ยัง​เห็นชอบ​ให้​รับคดี​ความ​ผิดทางอาญา​ไว้​เป็น​คดีพิ​เศษที่​จะ​ต้อง​ดำ​เนินการสืบสวนสอบสวน​ ​ตาม​ ​พ​.​ร​.​บ​.​การสอบสวนคดีพิ​เศษ​ 6 ​คดี​ ​ส่วน​ใหญ่​เป็น​ความ​ผิดฐานฉ้อโกง​ ​และ​การทำ​ธุรกรรมทางการเงิน​ ​ขณะ​เดียว​กัน​ ​มีมติ​ไม่​รับ​เป็น​คดีพิ​เศษ​ 4 ​เรื่อง​ ​ซึ่ง​จะ​แจ้งไป​ยัง​ผู้​ร้อง​และ​หน่วยงานที่​เกี่ยวข้อง​ให้​ดำ​เนินการตามช่องทางปกติ

โฆษกกรมสอบสวนคดีพิ​เศษ​ ​กล่าวต่อว่า​ ​นอก​จาก​นี้​ ​ยัง​ได้​แต่งตั้งคณะอนุกรรมการดำ​เนินการตามกรณีต่างๆ​ ​รวม​ถึง​มีมติ​เสนอแนะคณะรัฐมนตรี​ ​ออกกฎกระทรวงกำ​หนดคดีพิ​เศษตาม​ความ​ผิดทางอาญาตามกฎหมาย​ ​จำ​นวน​ 10 ​ฉบับ​ ​และ​ออกกฎกระทรวงกำ​หนด​ความ​ผิดทางอาญาตามกฎหมายว่า​ด้วย​การปราบปรามการค้ามนุษย์​ ​เป็น​คดีพิ​เศษเพิ่มเติม

พ​.​ต​.​อ​.​ณรัชต์​ ​กล่าว​ด้วย​ว่า​ ​ที่ประชุม​ยัง​ได้​เร่งรัด​ให้​มีการนำ​คดี​เพชรซาอุดีอาระ​เบีย​ ​กลับ​เข้า​สู่กระบวนการพิจารณา​ใหม่​เป็น​การเร่งด่วน​ ​เพราะ​เป็น​เรื่องที่มี​ความ​สำ​คัญระหว่างประ​เทศ


ไทยรัฐ

เปิดบ้านรดน้ำดำหัว 'ป๋าเปรม' ไร้เงา 'นายกฯ - ครม.' ไม่คึกคักเหมือนที่ผ่านมา

'​เปรม​' ​เปิดบ้านรดน้ำ​สงกรานต์​ ​ไร้​เงา​ '​สมัคร​' ​และ​คน​ใน​รัฐบาล​ ​อัดคน​ไม่​สืบสานวัฒนธรรมคือ​ '​คน​ไม่​รักษาชาติ​' ​เน้นรู้รักสามัคคี​ ​ซื่อสัตย์​ ​สุจริต​ ​เหมือนเดิม​ '​วินัย​' ​นำ​ผบ​.​เหล่าทัพตบเท้าอวยพร​

​ที่บ้านพักสี่​เสา​เทเวศร์ของ​ ​พล​.​อ​.​เปรม​ ​ติณสูลานนท์​ ​ประธานองคมนตรี​และ​รัฐบุรุษ​ ​เปิดบ้านพักรับรอง​ให้​ข้าราชการทหาร​ ​ตำ​รวจ​ ​และ​ฝ่ายพลเรือน​ ​เข้า​ร่วมพิธีรดน้ำ​ดำ​หัวเพื่ออวยพร​ ​เนื่อง​ใน​ประ​เพณีสงกรานต์ประจำ​ปี​ 2551 ​ทั้ง​นี้​ ​ใน​ส่วน​ของกระทรวงกลา​โหม​ ​พล​.​อ​.​วินัย​ ​ภัททิยกุล​ ​ปลัดกระทรวงกลา​โหม​ ​เป็น​ผู้​แทนนำ​คณะ​ผู้​บัญชาการเหล่าทัพ​เข้า​ร่วมพิธีรดน้ำ​ดำ​หัว​ ​พล​.​อ​.​เปรม​ ​ซึ่ง​แตกต่าง​จาก​ธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปี​ ​ซึ่ง​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลา​โหม​จะ​เป็น​ผู้​นำ​เหล่าทัพ​เข้า​ตบเท้าอวยพร​

​ทั้ง​นี้​ ​ผู้​บัญชาการเหล่าทัพที่​เข้า​ร่วมพิธี​ ​ประกอบ​ด้วย​ ​พล​.​อ​.​บุญสร้าง​ ​เนียมประดิษฐ์​ ​ผู้​บัญชาการทหารสูงสุด​ ​พล​.​อ​.​อนุพงษ์​ ​เผ่าจินดา​ ​ผู้​บัญชาการทหารบก​ ​พล​.​ร​.​อ​.​สถิรพันธุ์​ ​เกยานนท์​ ​ผู้​บัญชาการทหารเรือ​ ​พล​.​อ​.​อ​.​ชลิต​ ​พุกผาสุข​ ​ผู้​บัญชาการทหารอากาศ​ ​และ​คณะข้าราชการทหารระดับสูง​ ​อาทิ​ ​พล​.​อ​.​ทรงกิตติ​ ​จักกาบาตร์​ ​เสนาธิการทหาร​ ​ที่นำ​คณะนายทหารเหล่าม้า​เข้า​อวยพร​ ​และ​พล​.​ท​.​ประยุทธ์​ ​จันทร์​โอชา​ ​แม่ทัพภาคที่​ 1 ​รวม​ถึง​ ​พล​.​ต​.​อ​.​พัชรวาท​ ​วงษ์สุวรรณ​ ​รักษาการ​ผู้​บัญชาการตำ​รวจแห่งชาติ​ ​ที่​เข้า​ร่วมพิธี​ด้วย​

​พล​.​อ​.​วินัย​ ​กล่าวอวยพรว่า​ ​เนื่อง​ใน​โอกาสวันสงกรานต์ขอถือโอกาสอัน​เป็น​มงคลปฏิบัติตามประ​เพณี​ไทย​ ​ด้วย​การมารดน้ำ​ ​และ​ขอพร​จาก​ท่าน​ ​เพื่อ​ความ​เป็น​สิริมงคล​ ​พวกตนตระหนัก​ถึง​อุดมการณ์อันแน่วแน่​และ​บริสุทธิ์ของท่านที่​ได้​มุ่งมุ่นต่อการบริหาร​ ​ชาติบ้านเมืองอัน​เป็น​ที่รักมาตลอดระยะ​เวลานาน​ ​ซึ่ง​ท่าน​ได้​ทุ่มเทกำ​ลังกาย​ ​กำ​ลังใจ​ ​กำ​ลัง​ความ​รู้​ความ​สามารถ​ ​มุ่งเน้น​ความ​เจริญ​ ​ความ​มั่นคงของชาติบ้านเมือง​เป็น​สำ​คัญ​ ​สร้างสรรค์พัฒนากองทัพ​ให้​ทัดเทียม​กับ​นานาประ​เทศ​ ​พร้อม​ทั้ง​ให้​ปลูกฝัง​ให้​มี​ความ​รัก​ ​ความ​สามัคคี​ ​ความ​สมานฉันท์​ ​อยู่​ร่วม​กัน​อย่างมี​ความ​สุขตามกระ​แสพระบรมรา​โชวาทของพระบาทสมเด็จพระ​เจ้า​อยู่​หัวมา​โดย​ตลอด​

'​การมุ่งมั่น​ใน​ความ​ดีทำ​ให้​ท่าน​ได้​รับ​ความ​เชื่อถือ​ ​ศรัทธา​จาก​ข้าราชการ​ ​และ​ประชาชนทุกหมู่​เหล่า​ ​และ​พวกผมมี​ความ​ภาคภูมิ​ใจที่มีท่าน​เป็น​แบบอย่างแห่ง​ความ​ดี​ ​ใน​เรื่องของ​ความ​เสียสละ​ ​อดทน​ ​ซื้อสัตย์สุจริต​ ​มี​ความ​จงรักภักดี​ ​มีคุณธรรม​และ​จริยธรรม​ ​ตลอดจนอบรมสั่งสอน​ให้​ทุกคนมี​ความ​รับผิดชอบต่อชาติ​ ​ศาสน์​ ​กษัตริย์​ ​ซึ่ง​ฝัง​อยู่​ใน​จิตใจของพวกเราทุกคน​ ​และ​จะ​ยึดถือ​เป็น​แบบอย่าง​ใน​การครองตน​ใน​การปฏิบัติราชการ​ ​และ​ร่วม​กัน​ประกอบคุณงาม​ความ​ดี​ ​เพื่อตอบแทนบุญทุนแผ่นดินตลอดไป​' ​พล​.​อ​.​วินัย​ ​กล่าว​

​จาก​นั้น​ ​พล​.​อ​.​เปรม​ ​กล่าวอวยพรแก่คณะนายทหารว่า​ ​ขอขอบใจเพื่อนทุกคนที่ระลึก​ถึง​ ​และ​มี​ความ​ปรารถนา​ ​ดีต่อ​กัน​ ​ประ​เพณีสงกรานต์​เป็น​วัฒนธรรมของเรา​ ​การรักษาวัฒนธรรมของชาติก็คือ​ ​การรักษาชาติ​ ​ซึ่ง​เป็น​หน้าที่ของ​ ​คนไทยทุกคน​ ​ส่วน​เรื่อง​ความ​ซื่อสัตย์สุจริต​เป็น​เรื่องที่สำ​คัญที่​เรา​ต้อง​ยึดมั่น​ไว้​ให้​ได้​ ​ตลอดชีวิต​ ​ของเรา​ ​สิ่งที่พวกเรา​ ​ต้อง​ยึดถือ​ ​ยึดมั่นคือ​ ​ความ​ซื่อสัตย์สุจริต​ ​ต่อตนเอง​และ​ชาติบ้านเมือง​ ​เพื่อเกียรติยศ​และ​ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล​ ​ชาติบ้านเมืองของเรา​ ​พระบาทสมเด็จพระ​เจ้า​อยู่​หัวที่​เรา​เคารพเทิดทูนบูชาอย่างสูงสุด​ ​ได้​มอบพระบรมรา​โชวาท​ ​และ​พระราชดำ​รัสแก่พวกเราตลอดระยะ​เวลา​ 61 ​ปีที่ทานทรงครองราชย์​ ​ขอ​ให้​เรารับ​ใส่​เกล้า​ใส่​กระหม่อม​ ​นำ​ไปปฏิบัติ​และ​สอนคน​อื่น​ให้​ปฏิบัติ

​พล​.​อ​.​เปรม​ ​กล่าวว่า​ ​ท่าน​ทั้ง​หลายที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​ใน​องค์กรต่างๆ​ ​โปรดภูมิ​ใจ​ใน​การทำ​ความ​ดี​แก่​ส่วน​รวม​ ​และ​ชาติบ้านเมือง​ ​โปรดมั่นใจ​ใน​การที่​จะ​เป็น​คนดี​ ​และ​ตัวอย่างที่ดีของชาติบ้านเมืองเพื่อ​ให้​คน​อื่น​ปฏิบัติตาม​ ​โปรดระลึกว่าบ้านเมือง​จะ​สงบสุข​ ​หากพวกเรา​เข้า​ใจ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ ​รัก​กัน​ ​สามัคคี​กัน​ ​รู้จักการ​ให้​อภัย​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ ​คิดว่านี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น​ ​พระบาทสมเด็จพระ​เจ้า​อยู่​หัวทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อพสกนิกรของพระองค์ท่าน​ ​เราที่​เป็น​ข้าราชการชอบที่​จะ​สนองพระบรมรา​โชวาท​ ​และ​พระราชราชดำ​รัสเหล่า​นั้น​ ​เพื่อตอบแทนบุญคุณของพระบาทสมเด็จพระ​เจ้า​อยู่​หัว​และ​แผ่นดินนี้​

'​ที่พูดโปรดอย่า​เข้า​ใจผิดว่า​ ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​ได้​ทำ​อะ​ไรอย่างที่ผมพูด​ ​ท่านทำ​มา​โดย​ตลอด​ ​ผมรู้ดี​ ​ผมรู้จักแทบทุกคน​ ​แต่ที่ผมพยายามพูดเพื่อ​เป็น​กำ​ลังใจแก่พวกเราว่า​ ​โปรดทำ​ความ​ดี​เถิด​ ​ความ​ดี​จะ​คุ้มครอง​ ​ป้อง​กัน​พวกเรา​ ​คนที่ทำ​ความ​ดี​ไม่​มีวันที่​จะ​ประสบต่อ​ความ​ชั่วร้ายต่างๆ​ ​จะ​มี​แต่คนยกย่องสรรเสริญ​ ​ขอ​ให้​มั่นใจ​ใน​การทำ​ความ​ดีตอบแทนพระบาทสมเด็จพระ​เจ้า​อยู่​หัว​ ​ใน​โอกาส​ใน​วันสงกรานต์ขออัญเชิญพระสยาม​ ​เทวาธิราชปกป้องพวกเรา​ให้​มี​ความ​ปลอดภัยต่อสิ่งร้ายต่างๆ​ ​และ​ขอ​ให้​ประทานกำ​ลังใจ​ ​ความ​เข้มแข็งแก่พวกเรา​ใน​การทำ​ความ​ดีต่อชาติบ้านเมือง​' ​พล​.​อ​.​เปรม​ ​กล่าว​

​รายงานข่าวแจ้งว่า​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​พิธีรดน้ำ​ดำ​หัว​ ​พล​.​อ​.​เปรม​ ​ใน​ปีนี้​ไม่​มีบุคคลสำ​คัญทางการเมือง​ ​เข้า​ร่วมอวยพรเหมือนทุกปีที่มีรัฐมนตรีกระทรวงสำ​คัญ​เข้า​อวยพร​ ​อาทิ​ ​กระทรวงมหาดไทย​ ​ซึ่ง​ใน​ปีนี้มี​เพียง​ ​นายพงศ์พโยม​ ​วาศภูติ​ ​ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ ​ที่นำ​ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย​เข้า​ร่วมพิธี​ใน​ครั้งนี้​ ​นอก​จาก​นี้​ ​นางจิราภรณ์​ ​ฉายแสง​ ​ภริยานายจาตุรนต์​ ​ฉายแสง​ ​อดีตรักษาการหัวหน้า​ไทยรักไทย​ ​เดินทางมาร่วมพิธี​ด้วย​ ​พร้อม​ทั้ง​อวยพร​ให้​ ​พล​.​อ​.​เปรม​ ​มีสุขภาพแข็งแรง​ ​ซึ่ง​พล​.​อ​.​เปรม​ได้​กล่าวทักทายอย่าง​เป็น​กัน​เอง​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​บรรยากาศพิธี​ใน​ปีนี้​ไม่​คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา

Hi--thaksin

เย็นแค่วันสงกรานต์​? [11 ​เม​.​ย​. 51 - 04:24]

จาก​บ้านสี่​เสา​เทเวศร์ผ่านถนนราชดำ​เนินวก​เข้า​ทำ​เนียบรัฐบาลระยะทาง​ใกล้ๆ​ก็​แค่ช่วง​ไม่​กี่ป้ายรถเมล์​เท่า​นั้น​เอง​

แต่กลับ​ไกล​แสน​ไกล​หากเทียบ​กับ​ความ​หมายทางใจที่​แฝง​อยู่​

กับ​ปรากฏการณ์ล่าสุดที่​เกิดขึ้น​ ​สงกรานต์ปีนี้​ไม่​มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลา​โหม​เป็น​หัวแถวนำ​เหล่าขุนทหาร​เข้า​รดน้ำ​ขอพร​ “​ป๋า​เปรม​” ​พล​.​อ​.​เปรม​ ​ติณสูลานนท์​ ​ประธานองคมนตรี​และ​รัฐบุรุษ​ ​ตามประ​เพณีที่ทำ​กัน​มาทุกปี

ปล่อย​ให้​เป็น​หน้าที่ของ​ ​พล​.​อ​.​วินัย​ ​ภัททิยกุล​ ​ปลัดกระทรวงกลา​โหม​ ​นำ​ทีม​ ​พล​.​อ​.​บุญ​-​สร้าง​ ​เนียมประดิษฐ์​ ​ผู้​บัญชาการทหารสูงสุด​ ​พล​.​อ​.​อนุพงษ์​ ​เผ่าจินดา​ ​ผู้​บัญชาการทหารบก​ ​พล​.​อ​.​อ​.​ชลิต​ ​พุกผาสุข​ ​ผู้​บัญชาการทหารอากาศ​ ​พล​.​ร​.​อ​.​สถิรพันธุ์​ ​เกยานนท์​ ​ผู้​บัญชาการทหารเรือ​ ​และ​ ​พล​.​ต​.​อ​.​พัชรวาท​ ​วงษ์สุวรรณ​ ​รักษาการ​ผู้​บัญชาการตำ​รวจแห่งชาติ​

ตบเท้า​กัน​พรึบพรับ

ทั้งๆ​ที่​ “​ลุงหมัก​” ​นายสมัคร​ ​สุนทรเวช​ ​นายกรัฐมนตรี​ ​และ​ ​รมว​.​กลา​โหม​ ​ก็นั่งทำ​งาน​อยู่​ที่ทำ​เนียบรัฐบาลห่าง​กัน​ไม่​ถึง​ 2 ​กิ​โลเมตร​

ก็อย่างว่า​ ​หนทาง​ใกล้​แต่​ใจ​อยู่​ไกล​กัน​

และ​ก็​เป็น​ปรากฏการณ์ที่​ไม่​ค่อย​ได้​เห็นสัก​เท่า​ไหร่​ ​สงกรานต์ปีนี้​ ​เหล่าขุนทหาร​ใหญ่​ที่นำ​โดย​ ​พล​.​อ​.​วินัย​และ​ผู้​บัญชาการทุกเหล่าทัพ​ ​ได้​เคลื่อนขบวน​จาก​บ้านสี่​เสา​เทเวศร์ผ่านถนนราชดำ​เนิน​ ​มุ่งหน้า​เข้า​ทำ​เนียบรัฐบาล​

ตบเท้า​เข้า​รดน้ำ​ขอพรนายกรัฐมนตรี

ที่​แน่ๆ​มุกนี้​เล่นเอาจอมโผงผางอย่าง​ “​ลุงหมัก​” ​ทั้ง​ซึ้ง​ทั้ง​ปลื้มอกปลื้มใจ​ ​กล่าวขอบคุณเหล่าขุนทหารซะหยาดเยิ้ม​

“​ที่​ผู้​นำ​เหล่าทัพทุกคนแสดงไมตรีจิต​ ​มา​กัน​ด้วย​ใจ​กัน​ใน​วันนี้​ ​จะ​ขอจดจำ​เหตุการณ์วันนี้​ไว้​นานตลอดไป​ ​ใน​ช่วงเวลา​ 2 ​เดือนที่ผ่านมา​นั้น​ ​มี​ความ​ตั้งใจ​ใน​การทำ​งานร่วม​กับ​กองทัพ​ใน​ฐานะ​ ​รมว​.​กลา​โหม​ ​เพื่อ​ให้​งานเดินหน้า​ไป​ได้​ด้วย​ดี​

ก็ขอ​ให้​ข้าราชการทุกเหล่าทัพ​และ​ตำ​รวจ​ ​มี​ความ​มุ่งมั่นทำ​งาน​ใน​หน้าที่​ ​โดย​ร่วม​กัน​รักษา​ความ​มั่นคงของชาติ​ให้​ดีที่สุด​”

ยิ่งกว่าน้ำ​ชุ่มฉ่ำ​ ​เย็นวาบ​อยู่​ใน​หัวใจ​

เหล่าขุนศึกนายกองเล่นบทประคองน้ำ​หนัก​ “​เช็กบาลานซ์​” ​ใน​จุดที่สมดุล​

การันตีสถานะ​ “​ลุงหมัก​” ​ก็​ไม่​ธรรมดา

และ​ก็​เป็น​อะ​ไรที่บังเอิญคิวตรง​กัน​พอดิบพอดี​ ​คิวของ​ “​ป๋า​เปรม​” ​ที่บ้านสี่​เสา​เทเวศร์​ ​คิวของ​ “​ลุงหมัก​” ​ที่ทำ​เนียบรัฐบาล​

อีกด้านหนึ่งที่อาคารชินวัตร​ 3 ​พ​.​ต​.​ท​.​ทักษิณ​ ​ชินวัตร​ ​อดีตนายกรัฐมนตรี​ ​ก็ถือโอกาสก่อนเดินทางไปจังหวัดเชียง​ใหม่​ ​เปิด​ให้​รัฐมนตรี​ ​อดีตลูกพรรค​ใกล้​ชิด​ ​และ​กองเชียร์นับร้อย​เข้า​รดน้ำ​ขอพรวันสงกรานต์​

3 ​รายการประชัน

และ​ที่บังเอิญคล้าย​กัน​อีก​ “​ป๋า​เปรม​” ​กล่าว​ให้​โอวาทเหล่าขุนทหาร​ ​โปรดระลึกว่า​ ​บ้านเมือง​จะ​สงบสุข​ ​หากพวกเรา​เข้า​ใจ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ ​รัก​กัน​ ​สามัคคี​กัน​

รู้จักการ​ให้​อภัย​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ ​นี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น

“​ลุงหมัก​” ​ก็บอก​กับ​ผู้​นำ​เหล่าทัพว่า​ ​มี​ความ​ตั้งใจ​ใน​การทำ​งานร่วม​กับ​กองทัพ​ใน​ฐานะ​ ​รมว​.​กลา​โหม​ ​เพื่อ​ให้​งานเดินหน้า​ไป​ได้​ด้วย​ดี​ ​ก็ขอ​ให้​ข้าราชการทุกเหล่าทัพ​และ​ตำ​รวจ​ ​มี​ความ​มุ่งมั่นทำ​งาน​ใน​หน้าที่​

โดย​ร่วม​กัน​รักษา​ความ​มั่นคงของชาติ​ให้​ดีที่สุด

ใน​โทนเดียว​กัน​ ​อดีตนายกฯ​ ​ทักษิณก็ฝากผ่านทีมงาน​ใกล้​ชิด​ ​ให้​พร​ให้​ทุกคนโชคดี​ ​และ​ขอ​ให้​ปี​ใหม่​ไทย​เป็น​การเริ่มต้น​ใหม่​ของทุกคน​

อย่าคิดล้าง​แค้น​ ​จองล้างจองผลาญ​กัน​

ต่างคนต่างขอ​ ​ต่างฝ่ายต่างพูด​ให้​อภัย​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ ​ให้​เลิกล้าง​แค้น​ ​เลิกจองล้างจองผลาญ​ ​ให้​ร่วม​กัน​รักษา​ความ​มั่นคงของชาติ​

ฟัง​แล้ว​ก็​ใจชื้นขึ้น​เป็น​กองเลย​

จาก​ที่​เสียวๆ​กับ​ข่าววง​ใน​ให้​จับตา​เดือนพฤษภาคม​.

ทีมข่าวการเมือง​ ​รายงาน


ไทยรัฐ

Thursday, April 10, 2008

‘นิวส์วีค'ขึ้นปก‘ทักษิณ' หนึ่งในแบบอย่างผู้นำเอเชียที่ปชช.โหยหา!

​นิวส์วีค​ ​นิตยสารชื่อดังของสหรัฐที่วางจำ​หน่าย​ทั่ว​โลก​ฉบับ​ล่าสุด​ ​ขึ้นปก​ 4 ​ผู้​นำ​ใน​เอเชีย​...​สะดุดตาตรงหนึ่ง​ใน​นั้น​มีรูปของ​ ​พ​.​ต​.​ท​.​ทักษิณ​ ​ชินวัตร​ ​อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย​ ​รวม​อยู่​กับ​ ​นายหม่า​ ​อิง​ ​จิ่ว​ ​ผู้​นำ​หมาดๆ​ ​ของไต้หวัน​ ​นายลี​ ​เมียง​ ​บัก​ ​ประธานาธิบดีนักธุรกิจของเกาหลี​ใต้​ ​และ​ ​นายอันวาร์​ ​อิบราฮิม​ ​อดีตรองนายกรัฐมนตรีมา​เลเซีย​ ​ซึ่ง​นำ​พรรคฝ่ายค้านผงาดขึ้นท้าทายพรรคอัมโน​เป็น​ครั้งแรก

​ประ​เด็นที่นิวส์วีคนำ​เสนอก็คือ​ The Politics of Practical Nostalgia ​หรือ​ ​การเมืองแห่งการโหยหาอดีตที่ทำ​ได้​จริง​...​ฟังชื่ออาจวกวน​ ​แต่ประ​เด็นของประ​เด็นก็คือ​ ​การเลือกตั้งที่ผ่านมาของ​ทั้ง​ 4 ​ประ​เทศ​ ​(​ซึ่ง​ลงเอย​ด้วย​ความ​ปราชัยของฝ่ายอำ​นาจเก่า) ​สะท้อน​ให้​เห็นว่า​ ​ใน​ห้วงยามที่ปัญหา​เศรษฐกิจกำ​ลังบีบรัด​ทั้ง​ใน​บ้าน​และ​นอกบ้าน​ ​สิ่งที่ชาวเอเชียกำ​ลังโหยหาก็คือ​ ​วันคืนเก่าๆ​ ​ที่​เศรษฐกิจของประ​เทศขยายตัวอย่างรวด​เร็ว​ ​ชาวบ้านชาวเมืองมีการงานมั่นคง​ ​มีการเลื่อนชั้นทางสังคม​ ​และ​ผู้​นำ​ที่สัญญาว่า​จะ​นำ​ Good Old Days ​เหล่า​นั้น​กลับมาก็คือ​ ​คนที่ประชาชน​จะ​เทคะ​แนน​ให้

​ใน​เอเชียเวลานี้ดู​เหมือนว่า​ ​การกำ​หนดนโยบายที่มองโลก​ใน​แง่​ความ​เป็น​จริง
และ​มีการเปลี่ยนแปลง​ได้​เพื่อผลลัพธ์ที่สร้าง​ความ​พึงพอใจ​ให้​แก่ประชาชน​ ​กำ​ลัง​อยู่​เหนืออุดมการณ์​และ​นโยบายที่​ไม่​ยืดหยุ่นของอำ​นาจเก่า​ใน​อดีต

​ใน​ช่วงทศวรรษ​ 1980 ​เศรษฐกิจของเกาหลี​ใต้​และ​ไต้หวันเคยขยายตัว​ถึง​ 8-9% ​แต่​ใน​ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา​ ​เศรษฐกิจของสองดินแดนนี้​เติบโตเฉลี่ยแค่​ 5% ​ล้าหลังอัตรา​เฉลี่ยของตลาดเกิด​ใหม่​ซึ่ง​อยู่​ที่​ 6.5%

​นายลี​ ​เมียง​ ​บัก​ ​ให้​คำ​มั่นสัญญา​แบบเห็นภาพ​เป็น​ตัวเลข​ด้วย​แผน​ 747 ​ว่า​ ​เขา​จะ​ผลักดัน​ให้​เศรษฐกิจเกาหลี​ใต้​ขยายตัว​ 7% ​ประชาชนมีราย​ได้​ต่อหัว​ 40,000 ​ดอลลาร์ภาย​ใน​หนึ่งทศวรรษ​ ​และ​เศรษฐกิจเกาหลี​จะ​มีขนาด​ใหญ่​เป็น​อันดับ​ 7 ​ของโลก

​ขณะที่​ ​นายหม่า​ ​อิง​ ​จิ่ว​ ​ก็มา​แนวเดียว​กัน​ด้วย​แผน​ 633 ​ซึ่ง​ตั้งเป้าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่​ 6% ​ต่อปี​ ​ประชาชนมีราย​ได้​ต่อหัว​ 30,000 ​ดอลลาร์​ใน​ปี​ 2016 ​และ​ลดอัตราการว่างงาน​ให้​เหลือ​ 3%

​ทั้ง​นายลี​และ​นายหม่าต่างก็สนับสนุนการลดกฎระ​เบียบด้านเศรษฐกิจ​และ​การลดภาษีธุรกิจ​ ​เพื่อดันตัวเองขึ้น​เป็น​ศูนย์กลางทางการเงิน​ใน​ภูมิภาค​ ​และ​ทั้ง​คู่​ยัง​มี​เมกะ​โปรเจ็กต์​เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ​และ​ขยายการลงทุน​ ​นั่นคือ​ ​นายลีมี​โครงการสร้างคลองเชื่อมภาคเหนือ​และ​ภาค​ใต้​มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์​ ​ขณะที่นายหม่ามี​โครงการปรับปรุงระบบขนส่งมวลชน​ ​การขยายสนามบิน​และ​สถานีขนส่งมูลค่า​ 130 ​ล้านดอลลาร์​ ​รวม​ทั้ง​การเปิดสัมพันธ์มิติ​ใหม่​กับ​จีนแผ่นดิน​ใหญ่​เพื่อผลประ​โยชน์ทางเศรษฐกิจ

​อย่างไรก็ดี​ ​การย้อนกลับไปหาอดีตอันรุ่งเรืองก่อนวิกฤติต้มยำ​กุ้งเมื่อปี​ 1997 ​อาจ​จะ​ไม่​ใช่​เรื่องง่ายสำ​หรับเศรษฐกิจของเกาหลี​ใต้​และ​ไต้หวัน​ ​ซึ่ง​อิ่มตัวเกินกว่า​จะ​ขยายตัว​ได้​รวด​เร็ว​เท่า​กับ​ประ​เทศกำ​ลังพัฒนา​อื่นๆ​ ​ยกตัวอย่าง​ ​เกาหลี​ใต้​ซึ่ง​ตอนนี้มีมูลค่า​ GDP ​หรือ​ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย​ใน​ประ​เทศ​อยู่​ที่​ 950 ​ล้านดอลลาร์​ ​การ​จะ​ผลักดัน​ให้​เศรษฐกิจขยายตัว​ให้​ได้​ถึง​ 7% ​อย่างที่​ ​นายลี​ ​เมียง​ ​บัก​ ​สัญญิงสัญญา​ไว้​ ​นั่นหมาย​ถึง​ว่า​ ​เกาหลี​ต้อง​สร้างผลผลิต​ใน​ประ​เทศเพิ่มอีก​ 67 ​พันล้านดอลลาร์ต่อปี​! ​แต่​ถ้า​เป็น​เมื่อ​ 10 ​ปีก่อน​ ​การขยายตัว​ใน​อัตรา​เดียว​กัน​นี้​ ​ต้อง​เพิ่ม​ GDP ​อีกแค่​ 25 ​พันล้านดอลลาร์​เท่า​นั้น

​กล่าว​กัน​ถึง​ปฏิกิริยา​ใน​มา​เลเซีย​และ​ไทย​ ​ผู้​เขียนบท​ความ​ชิ้นนี้ของนิวส์วีคบอกว่า​ "ดราม่า​" ​และ​เห็น​ได้​ชัดกว่ากรณีของไต้หวัน​และ​เกาหลี​ใต้​เสียอีก

​ใน​มา​เลเซีย​ ​พรรคฝ่ายค้าน​ 3 ​พรรค​เล็กๆ​ ​เกือบ​จะ​โค่นพรรคพันธมิตรรัฐบาลที่ครองอำ​นาจมาตั้งแต่ครั้งประกาศเอกราชเมื่อเกือบ​ 40 ​ปีก่อน​ได้​อย่างหวุดหวิด​ ​ขณะที่​ ​นายอันวาร์​ ​อิบราฮิม​ ​ซึ่ง​เคยงัดข้อ​กับ​อดีตนายกรัฐมนตรีมหา​เธร์​ ​โมฮัมหมัด​ ​ใน​หลายประ​เด็น​ ​รวม​ทั้ง​เรื่องการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ​ ​ก็ผงาดขึ้นมาท้าทายรัฐบาลอีกครั้ง​ ​และ​นโยบายต่างๆ​ ​ที่​เคยถูกมองว่า​เป็น​ประ​เด็นอ่อนไหวทางการเมือง​ ​อาทิ​ ​นโยบาย​ "ภูมิบุตร" ​ที่​เอื้อประ​โยชน์​ให้​แก่ประชาชนเชื้อสายมา​เลย์​ ​ก็กำ​ลังถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณา​ใหม่

​ใน​ประ​เทศไทย​ ​นิวส์วีคบอกว่า​ ​ประชาชน​ผู้​มีสิทธิออกเสียง​ได้​ทำ​ลายวงจรของการปฏิวัติที่ล้าหลัง​ ​โดย​ใน​อดีต​นั้น​ ​ผู้​นำ​ทหาร​จะ​อยู่​ใน​อำ​นาจ​ให้​นานที่สุด​เท่า​ที่​จะ​ทำ​ได้​ ​แล้ว​ค่อยตั้งรัฐบาลพลเรือนที่​เป็น​พรรคพวก​กัน​ขึ้นมาสืบทอดอำ​นาจ​ ​แต่​ใน​ปัจจุบัน​ ​เพียงแค่​ 14 ​เดือนหลัง​จาก​ทำ​รัฐประหารอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ​ ​ชินวัตร​ ​ฝ่าย​ผู้​นำ​ทหารก็ถูกกดดัน​โดย​กระ​แสสังคม​ให้​จัดการเลือกตั้ง​ใน​วันที่​ 23 ​ธันวาคม​ ​ที่ผ่านมา​ ​ซึ่ง​ผลปรากฏว่าชัยชนะ​เป็น​ของฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายกฯ​ ​ทักษิณ

​บท​ความ​ของนิวส์วีคอ้างคำ​กล่าวของ​ ​ธิตินันท์​ ​พงศ์สุทธิรักษ์​ ​จาก​คณะรัฐศาสตร์​ ​จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ ​ซึ่ง​ระบุว่า​ ​พ​.​ต​.​ท​.​ทักษิณ​ ​ได้​เปลี่ยนแปลงวิถีที่​เคย​เป็น​ใน​ประ​เทศไทย​ ​ตอนนี้กระ​แส​ทั้ง​ใน​ประ​เทศ​และ​นอกประ​เทศ​อยู่​ข้างทักษิณ

​บท​ความ​ของนิวส์วีค​ยัง​บรรยายต่อว่า​ ​ความ​สำ​เร็จ​ใน​การ​ใช้​นโยบายเศรษฐกิจเพื่อตอบรับกระ​แสโลกาภิวัตน์คือปัจจัยหลักที่ทำ​ให้​ ​พ​.​ต​.​ท​.​ทักษิณ​ ​ขึ้นสู่อำ​นาจ​ ​และ​เป็น​เครื่องอธิบายการกลับมาของ​เขา​ ​ใน​ช่วง​ 5 ​ปีภาย​ใต้​การบริหารของ​ ​พ​.​ต​.​ท​.​ทักษิณ​ ​เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวอย่างรวด​เร็ว​ ​ชนบทเติบโตขึ้น​ ​และ​ไทย​เป็น​เพียงประ​เทศเดียว​ใน​เอเชียที่​สามารถ​ลดช่องว่างระหว่างคนจน​กับ​คนรวย​ ​พรรคไทยรักไทย​ได้​รับ​ความ​นิยม​จาก​การทุ่มงบประมาณด้านสาธารณูปโภค​และ​การ​ช่วย​เหลือคนจน​ ​เช่น​ ​การจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน​ ​และ​การประ​กัน​สุขภาพ​ ​แต่ขณะ​เดียว​กัน​ ​ก็​ยัง​เปิด​ให้​นักลงทุนต่างชาติ​เข้า​มาลงทุน​ ​และ​ส่งเสริมการค้าอย่างแข็งขัน​...​จาก​นั้น​ ​รัฐบาลทหารก็​เข้า​มา​ ​ซึ่ง​ทำ​ให้​นักลงทุนหนีหาย​ ​อีก​ทั้ง​ยัง​ชู​แนวนโยบาย​ "​เศรษฐกิจพอเพียง" ​ซึ่ง​เน้น​ความ​มี​เสถียรภาพมั่นคงมากกว่าการเติบโต​...​ภาย​ใต้​การนำ​ของรัฐบาลทหาร​ ​เศรษฐกิจของไทย​ใน​ปีที่​แล้ว​ขยายตัวเพียงแค่​ 4.8% ​เท่า​นั้น

​บท​ความ​ของนิวส์วีคสรุปว่า​ ​ตอนนี้​ยัง​เร็ว​เกินไปที่​จะ​ฟันธงว่า​ ​การเกิดขึ้นของ​ผู้​นำ​หน้า​ใหม่​ที่​เป็น​นักปฏิบัติ​และ​มองโลกแง่​ใน​ความ​เป็น​จริง​ ​จะ​เป็น​การเปลี่ยนกรอบ​ความ​คิดครั้ง​ใหญ่​ใน​เอเชีย​ ​หรือ​เป็น​แค่​แฟชั่นที่​จะ​ผ่านไป​ใน​ฤดูกาลหน้า​ ​ทั้ง​นี้ก็ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​ ​พวก​เขา​เหล่า​นั้น​จะ​ทำ​อะ​ไร​ให้​เกิดขึ้น​ได้​จริงบ้าง​ใน​ทางปฏิบัติ

​และ​งานนี้คง​ไม่​นานเกินรอ

hi-thaksin

Wednesday, April 9, 2008

ปธ.วุฒิสภา ล้ำเส้น ออกความเห็นชี้นำ ค้านการแก้ไข รธน.

ประธานวุฒิสภา ปัด ไม่มีอำนาจดำเนินการกรณี “ไชยา” แต่ดันออกความเห็นชี้นำ ค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้ คู่สมรสของนายไชยา สะสมทรัพย์ ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินกรณีการถือหุ้นเกินร้อยละ 5 เลยกำหนด 30 วัน ส่งผลให้นายไชยา ขาดคุณสมบัติสิ้นการเป็นรัฐมนตรีนั้น

ต่อเรื่องนี้ นายประสบสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ให้อำนาจสภาผู้แทนราษฎร ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยวุฒิสภาไม่มีอำนาจในการดำเนินการ

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้ ประธานวุฒิสภา ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไข โดยเห็นว่า ควรจะมีการรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวไปจนกว่าจะครบ 1 ปี แล้ว จึงมีการแก้ไข

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในขั้นพิจารณาจำต้องใช้เสียงของทั้ง 2 สภา รวมกัน ซึ่งในฐานะประธานวุฒิสภาแล้ว ควรต้องวางตัวเป็นกลาง เพื่อให้สมาชิก ส.ว.ได้ใช้ความคิดเห็นอย่างอิสระ แต่นายประสบสุข ได้ออกความคิดเห็นคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมาเป็นระยะนับแต่ได้เป็นประธานวุฒิสภา ซึ่งนายประสบสุขเป็น 1 ใน 74 ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ 2550



ปัดฝุ่นคดี ปรส. / ดีเอสไอ เดินหน้าส่งอัยการฟ้องสิ้นเดือนนี้

ดีเอสไอ หยิบคดี ปรส.มาเดินเครื่องต่อ หลังถูกดองยุคเผด็จการครองเมือง โดยมีมติส่งอัยการฟ้องปลายเดือนนี้ เผยมีผู้ต้องหาหลัก 2 ราย ผู้สนับสนุนอีก 6 ราย ส่วนเป็นใคร ยังไม่ยอมเปิดเผย

ทั้งนี้ คดีการขายสินทรัพย์ 56 สถาบันการเงิน เมื่อครั้งเศรฐกิจตกต่ำเมื่อปี 2540 ซึ่งต่อมาพบว่าเกินความเสียหายนับหมื่นล้านบาท และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำการสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง จนท้ายสุด ดีเอสไอมีมติให้ส่งสำนวนต่ออัยการฟ้องร้องเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2550 แต่ก็เงียบหายไป

ล่าสุด ดีเอสไอ ได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ในที่ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการขายสินทรัพย์ 56 สถาบันการเงิน ขององค์การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) โดยการประชุมประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายวิชช์ จีระแพทย์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีช่วยเหลือทางกฎหมาย ร่วมประชุมใช้เวลาประชุมประมาณ 3 ชั่วโมง

ภายหลังการประชุม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการขายสินทรัพย์ 56 สถาบันการเงินของ ปรส.เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2550 พนักงานสอบสวนได้เคยมีมติให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดในคดี ปรส.ไว้แล้ว

ซึ่งที่ประชุมได้มีความเห็นยืนยันให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาตามฐานความผิดและบทกฎหมายที่เคยมีความเห็นไว้เมื่อ 22 ตุลาคม 2550 ที่สำคัญวันนี้ ดดยนายวีรพงษ์ ได้ให้ข้อสังเกตสำคัญหลายประการ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งอัยการภายในปลายเดือนเมษายนนี้ต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดกรณีนี้ ในฐานขายสินทรัพย์ของ 56 สถาบันการเงินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ 2502 มาตรา 11 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

โดยผู้ต้องหาประกอบด้วย ผู้กระทำความผิดหลัก 2 ราย และผู้สนับสนุนอีก 6 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคลหรือบริษัท 4 บริษัท และในนามบุคคลอีก 2 คน ส่วนจะเป็นใครบ้าง ดีเอสไอยังไม่สามารถเปิดเผยให้ทราบได้ แต่จะเปิดเผยได้ทั้งหมดเมื่อส่งสำนวนให้อัยการในปลายเดือนเมษายนนี้

สำหรับผู้บริหารคณะกรรมการปรส. ในขณะนั้น ประกอบด้วย นายอมเรศ ศิลาอ่อน เป็นประธานกรรมการบริหาร และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ เป็นเลขานุการ และอยู่ในช่วงของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์



นพ.สุรพงษ์ เชื่อการแก้ไข รธน.ทำให้ต่างชาติมั่นใจไทยมีพัฒนาการ ปชต.

ทำเนียบรัฐบาล 9 เม.ย. – “นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” ระบุทุกฝ่ายเห็นด้วยที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่เรื่องกระบวนการ โดยเฉพาะวิธีที่จะทำให้หลายฝ่ายมีส่วนร่วมจะต้องหารือกันต่อไป มอบหมายวิปรัฐบาลเป็นแกนนำประสาน ยืนยันการแก้ไข รธน.ทำให้ต่างชาติมั่นใจว่าไทยมีการพัฒนาทางประชาธิปไตย

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนมีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่พรรคเพื่อแผ่นดินยังมีเงื่อนไขว่า ควรตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษา ว่า ควรดำเนินการไปทีละขั้น โดยขณะนี้เราเริ่มต้นที่รัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งมีหลายมาตราที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีการวิจารณ์ตั้งแต่ก่อนลงประชามติแล้ว และมีผู้ที่ออกมาให้ความเห็นว่า ให้รับไปก่อน เพื่อให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว จากนั้นค่อยมาแก้ไข ซึ่งหลักการที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าคนจำนวนมากเห็นด้วยว่าควรจะแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตย แต่ในแง่ของกระบวนการและวิธีการเป็นเรื่องที่ต้องหารือกันต่อไป ว่าวิธีใดที่จะทำให้หลายฝ่ายมีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ก็มาคุยเรื่องกระบวนการว่าจะทำอย่างไร

เมื่อถามว่าระดับแกนนำที่ นพ.สุรพงษ์ เป็นผู้ประสาน ได้มีการนัดหารือหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า มอบหมายให้คณะกรรมการประสานงาน (วิป) รัฐบาลไปดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่ามีการประสานอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว โดยประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน

ต่อข้อถามว่า พรรคชาติไทยไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการแก้ไขมาตรา 309 จะเป็นเงื่อนไขให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะความเห็นที่หลากหลายนี้จะนำไปคุยกันต่อถึงกระบวนการว่า การที่จะได้มาถึงแนวทางแก้ไขนั้น ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน หากเสียงส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าควรจะแก้หรือเพิ่มเติมอย่างไร คงจะเป็นไปตามนั้น

ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า การที่พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่แสดงความชัดเจนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ต่างชาติไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมือง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตรงกันข้าม การที่เรามีทิศทางว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ต่างชาติจะเกิดความมั่นใจว่า ประเทศไทยมีการพัฒนาทางประชาธิปไตย ซึ่งการรับฟังความเห็นเป็นเรื่องที่ดี

“การที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทุกคนเห็นพ้องกันว่าควรจะแก้ ยังไม่มีใครบอกว่าไม่ควรแก้เลย เพียงแต่ว่าจะแก้อย่างไรเท่านั้น” นพ.สุรพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-04-09 15:13:11


พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุหากได้เงินคืนจะตั้งกองทุนเอเชีย

กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – “พ.ต.ท.ทักษิณ” ปาฐกถายืนยันปล่อยวางและเลิกเล่นการเมือง หันมาทำงานเพื่อสังคม โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาส ขณะเดียวกัน จี้รัฐบาลเร่งโครงการเมกะโปรเจกต์ ระบุหากได้เงินคืนจะตั้งกองทุนเอเชีย สร้างความเชื่อมั่นในภูมิภาค

ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (9 เม.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “คิดเป็น ทำเป็น ปั้นเด็กไทยให้เรียนรู้ และรู้โลก” โดยมี นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล นายวราเทพ รัตนากร นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล นายประชา มาลีนนท์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้าร่วม

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขอบคุณที่ช่วยกันบริจาคเงินเข้ามูลนิธิไทยคมกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้ 2 ส่วน คือ เป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กผู้ยากไร้ ซึ่งจะนำไปสมทบกับทุนส่วนตัวที่ใช้ไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งจะจัดทำโครงการพิเศษช่วยเด็กหูหนวก ด้วยการฝังไมโครชิปด้านหลังหู ทำให้กลับมาได้ยิน จำนวน 10 คน อายุระหว่าง 3-13 ปี

อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่าโลกปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงมาก ความไม่แน่นอนสูง มีความยุ่งยากซับซ้อน และความไม่ชัดเจน จึงต้องมีวิสัยทัศน์ในการเข้าใจโลก มีมุมมองที่ชัดเจน มีความเด็ดขาดแม่นยำ ส่วนตัวเป็นห่วงอนาคตของประเทศ หลังจากที่ทำงานเพื่อประเทศชาติมาหลายปี อยากจะหาทางช่วยในทุกทางที่ช่วยได้ การลงทุนกับเด็ก เหมือนเป็นการเตรียมการให้กับประเทศในอนาคต

“เด็กเปรียบเหมือนเจนเนอเรชั่นที่สอง หากไม่มีคุณภาพ ประเทศก็จะไม่มีคุณภาพด้วย โลกทุกวันนี้การพัฒนาสมองเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อไปบริหารขับเคลื่อนเศรษฐกิจในวันข้างหน้า หากไม่มีคนที่มีคุณภาพ ประเทศก็จะแย่ ผมเป็นห่วงเด็กไทยคิดไม่เป็นและมีอยู่ทั่วไป ทั้งที่มีวัตถุดิบที่ดี มีความเก่งอยู่ในตัว แต่ขาดความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าแสดงออก ขาดการเจียระไนที่ดี” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังการปฏิวัติที่ผ่านมา พยายามคิดตลอดเวลา ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่สอนให้ปล่อยวาง ไม่เครียด หลังจากนั้นจึงได้เดินทางไปหลายประเทศทั่วโลก เพื่อค้นหาสิ่งต่าง ๆ นำมารวบรวมช่วยเหลือประเทศ ตนยืนยันว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมืองแล้ว อยากทำหน้าที่ในฐานะคนไทย อย่างน้อยก็ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะช่วยสร้างบ้านเมืองให้เดินไปสู่ทิศทางที่ดีในวันข้างหน้าได้ ตนอยากให้ประเทศไทยทำอะไรที่คิดสร้างสรรค์ เพื่อหาปัญหาของสิ่งที่เกิดขึ้น คิดวิธีแก้ การจัดการต้องเริ่มตั้งแต่ระบบการศึกษา

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้การศึกษาต้องเน้นใช้ทฤษฎีควบคู่ด้วยการเชิญครูกับเด็ก ให้เด็กสามารถมีความคิด แสดงออกได้อย่างเต็มที่ เกิดการพัฒนา เชิงความคิดสร้างสรรค์ ต้องมองในทางบวกให้มาก ซึ่งขณะนี้เป็นปัญหาอยู่ เด็กไทยคิดในทางบวกน้อย ดังนั้น จึงอยากให้เกิดการพัฒนาทางความคิดตั้งแต่เด็ก ซึ่งจะเป็นการพัฒนาคนรุ่นใหม่ ให้เป็นตัวแทนของเรา

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ปีนี้ราคาน้ำมันคงถึง 120 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลแน่นอน ดังนั้น ถึงเวลาลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์แล้ว เพราะค่าเงินบาทแข็ง รัฐบาลต้องเร่งทำโดยด่วนด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีของภาคเอกชนร่วมกัน และหากมีอะไรก็ควรหันหน้าพูดคุยกัน ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะเดินขบวน ไม่มีประโยชน์ ต้องช่วยกันเสนอแนะแนวคิดแก้ไขปัญหาที่สร้างสรรค์กับรัฐบาล ที่ผ่านมาหลายประเทศก็สนใจมาลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ โดยเฉพาะตอนที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่รัฐต้องส่งสัญญาณให้ดี และประชาชนในบ้านเมืองมีความสามัคคี

“และหากได้เงินคืนมาก็สนใจจะไปตั้งกองทุนเอเชีย สร้างความเชื่อมั่นในภูมิภาค นำเงินสดที่อยู่ในโลกขณะนี้เข้าประเทศเยอะ ๆ เพื่อจะช่วยคนไทย แต่ก็อยากให้คนไทยรวมพลังให้ได้มากกว่านี้ เลิกขัดแย้งทะเลาะกัน ปล่อยวาง อย่าถือทิฐิใส่กัน มองโลกในแง่บวก ช่วยกันทำในสิ่งที่ดี บ้านเมืองจะได้ไปได้ ที่ผ่านมาก็สนับสนุนให้คนรักกีฬา เพราะกีฬาจะสอนให้คนมีวินัย เคารพกฎกติกา ทำอะไรอยู่ในระเบียบ” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีกำลังใจให้ทุกคน ที่มาให้กำลังใจตนและอยากให้กำลังใจคนไทย ยอมรับว่าชีวิตในต่างประเทศมีทั้งความสุขและความทุกข์ แต่ขณะนี้ปล่อยวางแล้ว เพราะคิดว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ชีวิตก็มีแค่นี้ บางคนบอกว่าดีที่ชีวิตเกิดมาครั้งหนึ่งได้รู้จักทั้ง นรก สวรรค์ ในชาติเดียว ที่ผ่านมาเดินทางไปที่ญี่ปุ่นก็ถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่ มีการตรวจค้นซักถามมากกว่าบุคคลธรรมดา ซึ่งบางครั้งไม่สามารถเล่ารายละเอียดได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้นำระดับสูงของหลายประเทศโทรศัพท์มาให้กำลังใจ พอกลับมาถึงเมืองไทยก็มีพรรคพวกชวนตั้งมูลนิธิ 111 เพื่อทำประโยชน์ให้กับส่วนร่วม แต่ตนไม่ได้พูดอะไรมาก ต้องยอมรับว่าคนที่เข้ามาทำงานทางการเมืองจะมีประมาณร้อยละ 50 ที่รักประชาชน รักประเทศชาติบ้านเมือง อยากทำงานให้ส่วนร่วม.-สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-04-09 15:06:39

สนนท.ยื่นหนังสือให้สภาฯ ยกเลิก รธน.ปี 50 พร้อมคำสั่ง คปค.

รัฐสภา 9 เม.ย.- สนนท.ยื่นหนังสือให้สภาฯ ยกเลิก รธน.ปี 50 แล้วนำ รธน.ปี 40 มาเป็นต้นร่างปรับแก้ เพื่อแก้วิกฤติการเมือง พร้อมเสนอให้ยกเลิกประกาศคำสั่งของ คปค.ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.40 น. วันนี้ (9 เม.ย.) ตัวแทนสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) นำโดย นายพงษ์สุวรรณ สิทธิเสนา เลขาธิการ สนนท. ได้ยื่นหนังสือต่อ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณายกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 เนื่องจาก สนนท.มองว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.กันยายน 2549 จึงขอเรียกร้องต่อสภาฯ ให้ยกเลิก แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นต้นร่าง เพื่อแก้ไขวิกฤติทางการเมืองอย่างเร่งด่วน รวมทั้งขอให้ยกเลิกประกาศคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) และขอให้สภาฯ สนับสนุนส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย โดยจัดให้มีการเลือกตั้งทุกระบบ พร้อมทั้งกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง

พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอที่จะให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาปรับแก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ยอมรับว่าบางจุดยังมีข้อบกพร่อง ก็ควรนำส่วนดีของปี 2550 มาปรับใช้พ่วงกับรัฐธรรมนูญปี 2540

ส่วนญัตติที่ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนเสนอมานั้น รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ต้องให้คณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลประสานมา ทั้งนี้ เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเร่งรีบที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ และมีผลกระทบต่อประชาชน.-สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-04-09 14:59:52

นายกฯ สั่งปลด ผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน

กทม. 9 เม.ย. - นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งปลดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองได้ภายใน 90 วัน

มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 733/2551 ลงวันที่ 8 เมษายน ให้ปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงใน 3 เรื่อง คือ โครงการเช่ารถ ซึ่งมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ฝ่าฝืนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทผู้ให้เช่ารถ รวมถึงสั่งการโดยใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงาน และแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในกองบังคับการต่าง ๆ โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และกฎระเบียบของทางราชการ

ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองได้ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รับแจ้ง หรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์. -สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-04-09 01:07:54




Tuesday, April 8, 2008

จรรยาบรรณหมอดู​ [8 ​เม​.​ย​. 51 - 14:13]

หมอเทวดาสมัยสามก๊ก​ ​ชื่อฮู​โต๋​...​เก่ง​ใน​การรักษาจนถูกเรียกว่าหมอเทวดา​ ​แต่​ไม่​เก่ง​ใน​การ​...​รู้จัก​ ​รู้​ใจคน​ ​ตอนไปรักษา​โรคปวดหัว​ให้​โจโฉ​ ​เสนอวิธีผ่ากะ​โหลก​

โจโฉโกรธ​ ​ว่ารับแผนคู่​แค้น​ทางการเมืองมาฆ่า​ ​สั่งจับไปขังคุกมืด​ไว้​...​จนตาย

เป็น​อันว่า​ ​โจโฉ​ไม่​ศรัทธาหมอรักษาคน​...​แต่​ไพล่​ไปศรัทธา​... ​หมอดู

หมอดู​เอกสมัยสามก๊ก​ ​เป็น​ลูกประมุขชนเผ่าลังยา​...​ชื่อกวนลอ​ ​นิสัยชอบสุรา​ ​พอๆ​กับ​ชอบดูดาว​ ​ศึกษาดาราศาสตร์​แตกฉาน​ ​ก็​ไล่​เรียงไปศึกษา​โหราศาสตร์​ ​ไสยศาสตร์​ ​วิปัสสนา​ ​อุตุนิยมวิทยา​ ​มนุษยลักษณวิทยา​ ​ฯลฯ

เรียนรู้​เจนจบ​ ​จน​ได้​ฉายาว่า​...​ขงเบ้ง​ ​ผู้​หยั่งรู้ดินฟ้า

แต่ขงเบ้งคนนี้​ ​ไม่​โด่งดังเปรี้ยงปร้าง​เท่า​ขงเบ้ง​...​จูกัดเหลียง​ ​กุนซือเล่าปี่

กระ​นั้น​ ​ชื่อเสียงกวนลอก็​โด่งดังไป​เข้า​หูตันสูจุ้น​ ​เจ้า​เมืองเปงหงวน​ ​ตันสูจุ้น​ ​เชิญกวนลอ​เข้า​จวน​ ​ประลองปัญหาด้านดาราศาสตร์​ ​กวนลอเอาชนะตันสูจุ้น​ได้​ ​ชื่อเสียงก็​เลื่องลือยิ่งขึ้น

สังข์​ ​พัธโนทัย​ ​เขียน​ไว้​ใน​ ​พิชัยสงครามสามก๊ก​ ​กวนลอแสดงวิชา​ช่วย​ชีวิตคน​ไว้​มากมาย​ ​เจอเด็กหนุ่มอายุ​ 19 ​ปี​ ​รู้ว่า​จะ​ตาย​ใน​สามวัน​

เมื่อถูกขอร้อง​ให้​ช่วย​ ​กวนลอแนะวิธี​ให้​เอา​เครื่องเซ่น​ ​ไปสังเวยสองเทวทูต​ ​เทวทูตกินสินบน​แล้ว​ก็จำ​ใจ​ช่วย​ ​แก้ตัวเลขอายุ​เด็กหนุ่ม​จาก​ 19 ​ปี​ ​เป็น​ 99 ​ปี​...​ไม่​เพียงรอดตาย​ ​ยัง​อายุยืนจนแก่​เฒ่า

นับแต่​นั้น​ ​กวนลอก็​ไม่​ยอมทำ​นายเรื่องตาย​ให้​ใคร​ ​อ้างว่า​ ​การเอา​ความ​ลับของมฤตยูมา​เปิดเผย

ผิดจรรยาบรรณหมอดู

ดังขนาดนี้​ ​ไม่​ช้า​...​ท่านสมุหนายกโจโฉก็​เรียกตัว​เข้า​ไป​ให้​ช่วย​ทำ​นายชะตาบ้านเมือง

“​หมูป่า​จะ​รบ​กับ​เสือโคร่ง​...” ​กวนลอทำ​นาย​ “​ถ้า​ท่านยกทัพไปภาค​ใต้​ ​จะ​เสียแขนข้างหนึ่ง​”

โจโฉถาม​ถึง​อนาคตตัวเอง​ ​กวนลอทำ​นายว่า​ “​ท่าน​จะ​เป็น​ราชสีห์​อยู่​ใน​วัง​ ​ลูกหลานท่าน​จะ​มี​เกียรติสูงยิ่ง​” ​เมื่อถูกขอ​ให้​ทำ​นายรูปลักษณ์​ “​คนมีบุญญาธิการขนาดท่าน​ ​ยัง​จะ​ปรารถนาอะ​ไรยิ่งไปกว่านี้อีก​”

โจโฉถามว่า​ “​อันเมืองกังตั๋ง​ (ก๊กซุนกวน) ​กับ​เสฉวน​ (ก๊กเล่าปี่) ​จะ​เป็น​ศัตรู​กับ​ข้าพเจ้า​หรือ​ไม่​” ​กวนลอบอกว่า​ “​เวลานี้กังตั๋งเสียแม่ทัพ​ ​ส่วน​เสฉวนกำ​ลังยกทัพมา​โจมตีท่าน​”

ไม่​ช้า​...​ม้า​เร็ว​ก็รายงาน​ “​โลซกแม่ทัพกังตั๋งตาย​ ​เล่าปี่​ ​เตียวหุย​ (ก๊กเล่าปี่) ​ยกทัพมายึดช่อง​เขา​ใกล้​เมืองฮันต๋ง​” ​โจโฉก็​เพิ่ม​ความ​ ​เลื่อมใสกวนลอ​ ​ถามคำ​ถามสุดท้าย​ ​สงครามคราวนี้​จะ​ชนะ​หรือ​แพ้​

กวนลอบอกว่า​ ​ถ้า​ท่านยกทัพไป​ ​ไฟ​จะ​ไหม้​ใหญ่​ใน​พระนครหลวง​...

ไม่​นาน​ ​เรื่องราวก็​เป็น​ไปตามที่กวนลอทำ​นาย​ ​โจโฉตั้ง​ให้​เป็น​โหรประจำ​ราชสำ​นัก​ ​กวนลอปฏิ​เสธ​ ​จัดเงินทอง​ให้​ ​กวนลอก็​ไม่​รับ​ ​อ้างว่า​เป็น​หมอดู​เพื่อประชาชน​

ว่า​แล้ว​ ​กวนลอก็ลา​โจโฉ​ ​สัญจรเร่ร่อนไป​ช่วย​ประชาชน

อ่านสามก๊ก​ถึง​ตอนนี้​ ​พอ​ได้​ข้อสรุปว่า​ ​บทเรียน​จาก​หมอฮู​โต๋​ ​ทำ​ให้​กวนลอรู้​แจ้งว่า​ ​นายนิสัยแบบโจโฉ​ ​ขืนภักดีรับ​ใช้​ ​นอก​จาก​อนาคต​จะ​ไม่​รุ่ง​แล้ว​ ​ไม่​แน่ว่า​...​ตัวก็อาจ​จะ​ตาย

หมอดูสมัยสามก๊กนอก​จาก​ทายแม่น​แล้ว​ ​ยัง​รู้จักเหลี่ยมคูการ​ ​เมือง​...​รู้ดีว่า​ ​หากการเมืองพลิกด้าน​...​ตัวเองก็พลอย​ไม่​รอด​

ไม่​เหมือนหมอดูสมัย​ใหม่​...​สมัยไหนก็​ไม่​รู้​ ​ทายผิด​แล้ว​ ​ก็​ยัง​หน้าด้านทายผิดต่อไปอีก​.

กิ​เลน​ ​ประลองเชิง


ไทยรัฐ