WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, August 8, 2009

ทักษิณเร่งทำทีวี 100 ช่องออกอากาศพ.ย.

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_25014
ใช้ระบบเดียวกับช่องพีเพิลแชนแนล สามารถใช้จานรับสัญญาณเดียวกันได้ มั่นใจว่าโทรทัศน์ 100 ช่องนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยมาก

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (8 ส.ค.) ถึงความคืบหน้าในการทำโทรทัศน์ 100 ช่อง ของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งทำในเรื่องเทคนิค และ เนื้อหา มีการประชุมกันต่อเนื่องหลายครั้ง เชื่อว่าในช่วงต้นเดือนพ.ย. จะมีช่องทดลองออกอากาศได้แน่นอน โดยจะใช้ระบบเดียวกับช่องพีเพิลแชนแนล สามารถใช้จานรับสัญญาณเดียวกันได้ มั่นใจว่าโทรทัศน์ 100 ช่องนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยมาก จะเป็นการสื่อสาร รับเทคโนโลยีข่าวสารทั่วโลก เพราะมีเครือข่ายกว้าง ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมัน ไต้หวัน และหลายประเทศในเอเชีย ในอนาคตมีแนวคิดให้คนไทยที่อยู่ต่างแดนจัดทำรายการทีวีเพื่อสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ในต่างแดน ข้อเสนอแนะในการอาศัยอยู่ต่างประเทศด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5ส.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ โพสต์ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ว่า เพิ่งจะประชุมทำโทรทัศน์ 100 ช่อง ถือเป็นงานใหญ่มากเพราะต้องส่งคนออกไปทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามทีมงานก็จะพยายามจะทดลองออกอากาศให้ได้ปลายปีนี้

แถลงการณ์ ‘8888’ : “เราจะไม่ลืม เราจะไม่ยอมแพ้”

ที่มา ประชาไท

เครือข่ายองค์กรร่วมจัดงานครบรอบ 21 ปีของการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า ออกแถลงการณ์ในโอกาสครบรอบ 21 ปีของการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า 8 สิงหาคม 1988 กระตุ้นเตือนไปยังรัฐบาลไทย อาเซียน และประชาคมโลกได้จดจำถึงเจตจำนงของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนพม่า และดำเนินการเร่งผลักดันกระบวนการสร้างประชาธิปไตยในพม่าที่วางอยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนพม่าอย่างจริงจัง โดยมีรายละเอียดในแถลงการณ์ ดังนี้..

0 0 0
แถลงการณ์ของนักศึกษาและประชาชนไทย
เนื่องในโอกาสครบรอบ 21 ปีของการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า 8 สิงหาคม 1988
การลุกขึ้นสู้ของประชาชนทุกครั้งมีความหมาย และไม่เคยพ่ายแพ้
เมื่อ 8 สิงหาคม 1988 นักศึกษา ประชาชนพม่าได้ออกมาแสดงเจตจำนงของตนเอง ท่ามกลางกระแสการถูกกดขี่โดยเผด็จการทหารมานานหลายปี สิ่งที่พวกเขาได้กระทำในครั้งนั้น คือ การประกาศให้รัฐบาลทหารที่ฉ้อฉลได้รับรู้ว่า ประชาชนพม่าต้องการประชาธิปไตย ต้องการการเมืองที่พวกเขามีส่วนร่วม ต้องการประกาศให้โลกได้รับรู้ว่า ประชาชนพม่ามีความปรารถนาที่จะสร้างอนาคตของตนเองโดยเลือกทางเดินประชาธิปไตย
แม้ความตั้งใจจะถูกดับลงในเวลาอันสั้น เนื่องจากเผด็จการทหารพม่า ได้ใช้กำลังทหารและอาวุธเข้าปราบปรามประชาชนอย่างเหี้ยมโหด และกลับเข้ามาครองอำนาจอีกครั้ง แต่ประชาชนก็แสดงเจตจำนงของตนเองอีกครั้ง ในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 1990 ในการเลือกหนทางประชาธิปไตย ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และพวกเขาได้เลือกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) อันเป็นเสมือนสัญลักษณ์ความหวังประชาธิปไตยของประชาชนพม่า ให้มาเป็นรัฐบาลด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
แต่แล้วความหวังก็ถูกลบเลือนอีกครั้งด้วยน้ำมือของเผด็จการทหาร ที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้งครั้งนั้น แต่กระนั้นการต่อสู้ของประชาชนพม่าก็ไม่ได้สูญสลายไปกลับความหวังที่ถูกลบเลือนถึงสองครั้ง แต่กลับถูกส่งต่อไปยังประชาชน และขบวนการประชาสังคมทั่วทุกมุมโลก ที่ช่วยกันป่าวร้องให้ประชาคมโลกได้รับรู้ว่า ประชาชนพม่าต้องการอะไร และรัฐบาลเผด็จการพม่ากระทำการอย่างไรกับประชาชนพม่า
ทุกครั้งเมื่อประชาชนพร้อมที่ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง พวกเขาก็จะกลับมาด้วยพลังใจ และความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ดังจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวเรียกร้องความยุติธรรมในสังคมพม่าอีกครั้งของพระสงฆ์และประชาชนเมื่อเดือนกันยายน 2007 แม้จะจบด้วยการถูกปราบปรามจากรัฐบาลทหารพม่าเหมือนเช่นเคย แต่ก็แสดงให้เห็นว่า “พวกเขาไม่เคยยอมแพ้”
จากวันที่ 8 สิงหาคม 1988 ทอดยาวมา 21 ปีจนถึงปัจจุบัน พวกเรายังเชื่อมั่นเสมอว่า ประชาชนพม่าจะไม่ลืมเลือนการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าของพวกเขา จะไม่ลืมเลือนความหวังและกำลังใจของพวกเขา
พวกเราจึงใช้โอกาสเนื่องในโอกาสครบรอบ 21 ปี การเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า หรือเหตุการณ์ 8888 แสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชนพม่า และส่งกำลังให้ประชาชนพม่า และประชาชนทั่วโลก ร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ประเทศพม่ามุ่งไปสู่ประชาธิปไตยตามเจตจำนงของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในพม่าเมื่อ 8 สิงหาคม 1988
เราขอกระตุ้นเตือนไปยังรัฐบาลไทย อาเซียน และประชาคมโลกได้จดจำถึงเจตจำนงของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนพม่า และดำเนินการเร่งผลักดันกระบวนการสร้างประชาธิปไตยในพม่าที่วางอยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนพม่าอย่างจริงจัง
เราขอส่งเสียงไปถึงขบวนการประชาชนทั่วโลกที่จะร่วมยืนหยัดต่อสู้ไปพร้อมกับประชาชนพม่า เพื่อมุ่งสู่สังคมที่ดีสำหรับประชาชนทุกคน
เราขอส่งกำลังใจ และความปรารถนาดีต่อประชาชนชาวพม่าที่ร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างไม่ย่อท้อ เราจะยืนหยัดร่วมกันตลอดไป
สำหรับประชาชนจากพม่าทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ทั้งในฐานะแรงงานข้ามชาติ ผู้ลี้ภัย นักศึกษาพม่า หรือในชื่อเรียกอื่นๆใดก็ตาม เราพร้อมจะเป็น “เพื่อน” และร่วมก้าวเดินไปสู่หนทางประชาธิปไตยในพม่าพร้อมกัน
8888 เราจะไม่ลืม เราจะไม่ยอมแพ้
ด้วยความสมานฉันท์ของประชาชน
8 สิงหาคม 2552
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า
ศูนย์ข่าวข้ามพรมแดน
และเครือข่ายองค์กรร่วมจัดงานครบรอบ 21 ปี
ของการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า

“8 สิงหา 2508” (8-8-08) “วันเสียงปืนแตก”

ที่มา ประชาไท

ในช่วงเกือบ 20 ปี ระหว่างต้นทศวรรษ 2510 ถึงกลางทศวรรษ 2520 เมื่อมีสงครามระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กับรัฐบาล ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างถือเอาวันที่ 7 สิงหาคม เป็น “วันสำคัญ” โดยเฉพาะฝ่าย พคท. (ฝ่ายรัฐบาลถือเป็น “วันสำคัญ” ตามฝ่ายพคท.) คือ ถือว่าเป็นวันครบรอบการเริ่มต้นปะทะด้วยกำลังอาวุธระหว่างกัน เรียกตามสำนวนชาวบ้านภาคอีสานว่าวัน “แตกเสียงปืน” (หรือ “เสียงปืนแตก”) มีการจัด “งานรำลึก” ถึงวันนั้นทุกปีในเขต “ฐานที่มั่น” ของ พคท. ในปีหลังๆ ฝ่ายรัฐบาลเองก็จัด “งานรำลึก” บ้าง แต่ทำเป็นทำนอง “ข่มขวัญ” คือ ตั้งชื่องานว่า “วันเสียงปืนดับ” โดยจัดที่บริเวณจังหวัดนครพนม ซึ่งกล่าวกันว่าเป็น “ที่เกิดเหตุ” การปะทะกันครั้งแรกนั้น (หมู่บ้านนาบัว ตำบลเรณูนคร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม) ทางฝ่าย พคท. มีการผลิตบทกวี และเพลง สดุดี “7 สิงหา” จำนวนมาก ในฐานะที่เป็น “วันเริ่มต้นของการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ” รวมถึงเมื่อนักศึกษาเข้าป่าหลัง 6 ตุลา ก็ไปแต่งบทกวีและเพลงทำนองนี้หลายชิ้น (เช่น เพลงที่ขึ้นต้นว่า “ปัง ปัง ปัง เสียงปืนดัง 7 สิงหา ปลุกมวลประชาลุกขึ้นมาจับปืน หมู่บ้านนาบัวปืนรัวก้องอาจหาญ เป็นสัญญาณลุกขึ้นต้านหมู่มารไพรี . . .”)

ในความเป็นจริง ในขบวนของ พคท.เอง รู้รายละเอียดเกี่ยวกับการปะทะ 7 สิงหา น้อยมาก (เช่นเดียวกับเรื่องราวประวัติพรรคอื่นๆ เช่น สมัชชาครั้งแรกที่ว่าเป็นวันก่อตั้งพรรค หรือสมัชชาครั้งที่ 3 ที่ว่าเป็นการตัดสินใจเดินแนวทางชนบทล้อมเมือง ฯลฯ) ในเอกสารภายในเรื่อง “ประวัติและบทเรียนบางประการของพรรคเรา” ของวิรัช อังคถาวร ผู้นำพรรคคนสำคัญ ก็มีกล่าวถึงเพียงว่า “ต่อมาการปะทะก็เกิดขึ้น นั่นคือ กรณี ‘7 สิงหาคม’ เป็นการปะทะครั้งใหญ่ครั้งแรก ครั้งนี้ศัตรูมาล้อม เราเสียสหายคนหนึ่ง ศัตรูชั้นนายสิบตำรวจตาย 1 คน นายพันตำรวจโท ขาหัก 1 คน นี่เป็นกรณีใหญ่ ข่าวดังไปทั่วประเทศ ศัตรูได้รู้แน่ชัดว่าพรรคคอมมิวนิสต์เตรียมต่อสู้ด้วยอาวุธ” (ดู ฟ้าเดียวกัน ปีที่ 1 ฉบับที่ 1, มกราคม 2546, หน้า 188) ในงาน “7 สิงหา” ปี 2525 ของฐานที่มั่นแห่งหนึ่ง วิรัช เล่าเพิ่มเติมว่า “กรณี 7 สิงหาคม . . . แน่นอนการปะทะกับศัตรูไม่ใช่ครั้งนั้นครั้งเดียว ก่อนหน้านั้นก็มี แต่ว่าครั้งนั้น เนื่องจากมีตำรวจตายคนหนึ่ง และบาดเจ็บ 2-3 คน โดยเฉพาะผู้บาดเจ็บเป็นรองผู้กำกับจังหวัด คือ พตท.สงัด โรจนภิรมย์ (ขณะนี้ดูเหมือนจะเป็นนายพลแล้ว) กรณีนี้จึงดังไปทั่วประเทศ” (จุลสารมหาชน ชุด “ประวัติบุคคล” อันดับ 1, โรเนียว ไม่มีเลขหน้า)

อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการเล่ารายละเอียดของกรณีนี้ที่มากกว่านี้ แบบปากต่อปากตามฐานที่มั่น โดยเฉพาะทางภาคอีสานตอนเหนือ และโดยเฉพาะ เมื่อนักศึกษาเข้าป่าหลัง 6 ตุลาและไปแสดงความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวหรือ “ตำนาน” เก่าๆ (ประเภท “จิตร ภูมิศักดิ์ ตอนอยู่ป่าเป็นยังไง ตายยังไง” อะไรทำนองนี้) เมื่อผมเข้าไป “ทัศนศึกษา” ที่ฐานที่มั่นภูพานในเดือนมกราคม 2523 ก็ได้ยินการเล่าเรื่องนี้ มีการพูดถึง “สหายเสถียร” ซึ่งว่ากันว่าเป็นผู้นำของ “ฝ่ายเรา” ในการปะทะครั้งนั้น ถ้าจำไม่ผิด มีนักศึกษาที่เข้าป่าคนหนึ่งเอาเรื่องเล่าเกี่ยวกับ “สหายเสถียร” และกรณี 7 สิงหานี้ ไปผูกเขียนเป็นเชิงสารคดีหรือนิยายด้วย ในบันทึก สู่สมรภูมิภูพาน ของ อุดม สีสุวรรณ และในคำให้สัมภาษณ์ของ ธง แจ่มศรี เลขาธิการพรรคคนสุดท้าย ที่ตีพิมพ์ใน สารคดี เมื่อเร็วๆนี้ ก็เล่าถึง “วีรกรรม” ของ “สหายเสถียร” เมื่อ “7 สิงหาคม 2508” ผมจะกลับมาพูดถึงการเล่าของอุดมข้างล่าง ในส่วนของ ธง แจ่มศรี ยังระบุว่า หลังการปะทะ กรมการเมืองของ พคท.ได้มีมติให้ถือว่า วันที่ 7 สิงหาคม เป็น “วันเสียงปืนแตก” เขาไม่ได้ระบุว่า มตินี้มีขึ้นในการประชุมกรมการเมืองครั้งไหน แต่มีการเรียกประชุมกรมการเมืองในเดือนต่อจากการปะทะ คือ กันยายน 2508 ซึ่งที่ประชุมได้ยืนยันให้ลงมือต่อสู้ด้วยอาวุธในเขตที่มีเงื่อนไขได้ (ดูบทความของผมเรื่อง “ประวัติ พคท.ฉบับ พคท.”, ฟ้าเดียวกัน, 1:1, หน้า 168) เป็นไปได้ว่า มติเรื่องเรียก 7 สิงหาว่า “วันเสียงปืนแตก” ถ้ามีจริง ก็อาจจะมีขึ้นในการประชุมครั้งนี้เอง

แต่เมื่อ 20 ปีก่อน ระหว่างที่ผมเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ์เรื่องขบวนการคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย ผมพบข้อมูลว่า วันที่เกิดการปะทะที่มีชื่อเสียงนี้ น่าจะไม่ใช่วันที่ 7 สิงหาคม 2508 แต่เป็นวันที่ 8 สิงหาคม 2508 ผมเคยเล่าข้อมูลที่พบนี้ให้เพื่อนๆ จำนวนหนึ่งฟัง แต่ไม่เคยเขียนออกมา เพราะไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญเชิงประวัติศาสตร์นัก เพราะจะเป็นวันที่ 7 หรือวันที่ 8 ก็ไม่ต่างกันนัก ถ้ามีการปะทะจริงๆ (และมีหลักฐานว่าปะทะกันจริง ดังจะกล่าวต่อไป) การที่ฝ่าย พคท.จะ “ฉลองผิดวัน” ก็ไม่สู้สำคัญนัก

บัดนี้ ผมรู้สึกว่า ไหนๆ “วันเสียงปืนแตก” ก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ และไหนๆ ผมก็มีข้อมูลอยู่ในมือ และแม้ว่า “ข้อมูลใหม่” นี้คงจะไม่ทำให้การรับรู้ทางประวัติศาสตร์ของเราต่อเรื่องนี้เปลี่ยนไปอย่างสำคัญ (เท่าที่ผมนึกได้ตอนนี้) ก็คงไม่ถึงกับเป็นการไร้ประโยชน์เสียทีเดียวที่จะเผยแพร่ข้อมูลนี้ ประกอบกับ ผมคิดว่า คนรุ่นหลังคงจะมีที่เคยเห็นหลักฐานร่วมสมัย (ในกรณีนี้คือข่าวหนังสือพิมพ์) เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยหรือไม่มีเลย และสำหรับคนรุ่นนั้นที่เคยเห็นก็อาจจะจำไม่ได้แล้ว หรืออาจจะจำผิด ข้อมูลนี้จึงอาจจะมีประโยชน์ อย่างน้อยก็ในเชิงสนองความอยากรู้อยากเห็น (curiosity) ได้บ้าง

พูดถึงการที่คนรุ่นก่อนที่เคยเห็นข่าวเรื่อง “วันเสียงปืนแตก” ในสมัยนั้นจริงๆ แต่ภายหลังจำไม่ได้หรือจำผิด ผมขอกลับไปที่คำบอกเล่าของอุดม สีสุวรรณ ใน สู่สมรภูมิภูพาน ใครที่เคยอ่านงานนี้อาจจะจำได้ว่า อุดม “เปิดฉาก” ด้วยการเล่าถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2508 ซึ่งเป็นวันแต่งงานครั้งที่ 2 ของเขา เขาตั้งชื่อบทที่ 1 ว่า “คืนวันที่ 6 สิงหาคม 2508” เมื่อเล่าไปถึงบทที่ 3 ที่เขาตั้งชื่อว่า “เสียงปืนดังขึ้นบนที่ราบสูง” อุดมเขียนว่า

“เช้าวันที่ 8 สิงหาคม ผมไปทำงานตามปกติ... ที่ถนนข้าวสาร บางลำพู...ผมขึ้นรถสีเทาสายดอนเมือง-สนามหลวงจากสะพานควายมาลงที่สี่แยกคอกวัว แล้วก็เดินไปที่สำนักงาน พอโผล่เข้าไปก็เห็นช่างพับหญิง 2-3 คนกำลังเร่งพับหนังสือพิมพ์อยู่ บนโต๊ะพับกระดาษ มีหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวางอยู่ข้างๆ เหลือบตาดู เห็นพาดหัวตัวใหญ่มีข้อความทำนองว่า ได้มีการปะทะกันแล้ว และมีคนตาย 1 คน ผมหยิบขึ้นมาอ่านดู เห็นมีรูปชายผู้หนึ่งนอนคว่ำตายอยู่บนพื้น แต่งชุดสีดำ สวมหมวกเบเร่ต์ ในข่าวกล่าวว่ามีการปะทะระหว่างผู้ก่อการร้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ก่อการร้ายตายหนึ่ง ฝ่ายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บหนึ่ง จากข่าวนี้รู้ได้ทันทีว่าได้มีการปะทะกันแล้วระหว่างเจ้าหน้าที่กับฝ่ายปฏิวัติ” (อ้างจากฉบับพิมพ์รวมเล่มปี 2532, หน้า 35)

อุดมไม่ได้ระบุว่า หนังสือพิมพ์ฉบับที่เขาเห็นคือหนังสือพิมพ์อะไร แต่ผมขอเสนอว่าสิ่งที่เขาจะต้องจำผิดแน่นอนคือเรื่องวันที่ที่เขาเห็นหนังสือพิมพ์นั้น ซึ่งเขาระบุว่าเป็นวันที่ 8 สิงหาคม (อันที่จริง ผมเชื่อว่า เขาไม่ได้จำได้ว่าเป็นวันที่ 8 สิงหาคมจริงๆ เขาเพียงแต่นึกถึง “ความจริง” ที่ว่า “วันเสียงปืนแตก” คือ วันที่ 7 สิงหาคม แล้วสรุปว่า เขาจะต้องเห็นข่าวเรื่องนี้ในวันต่อมาคือ 8 สิงหาคม) เหตุที่ผมเสนอเช่นนี้ก็เพราะเมื่อผมไปค้นหนังสือพิมพ์สมัยนั้นดู ผมพบว่า การปะทะเกิดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคม 2508 และ มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ในวันที่ 9 สิงหาคม

รายงานการเคลื่อนไหวของ “แดง” ก่อน 8 สิงหาคม 2508 ใน Bangkok Post
เท่าที่ผมสามารถบอกได้จากการค้นคว้า Bangkok Post เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวที่ติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของพวก “แดง” (คอมมิวนิสต์) ทางภาคอีสานมาตั้งแต่ต้น อันที่จริง Post คงได้ข่าวว่าระแคะระคายว่า มีความเคลื่อนไหวสำคัญของคอมมิวนิสต์ในภาคนั้น จึงได้ถึงกับส่ง เท่ห์ จงคดีกิจ ผู้ช่วยบรรณาธิการไปตะเวณสืบข่าวในพื้นที่โดยตรง ตั้งแต่กลางปีนั้น คืออย่างน้อย 3 เดือนก่อน “วันเสียงปืนแตก” และทำเป็นรายงานข่าวพิเศษมาตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์

ก่อนหน้านั้น ในปี 2505 เมื่อ พคท.เริ่มเปิดดำเนินการสถานีวิทยุของตนที่ชื่อ “เสียงประชาชนแห่งประเทศไทย” หรือ สปท. ใหม่ๆ Post เคยรายงานข่าวเรื่องนี้ โดยอ้างประเสริฐ รุจิระวงศ์ อตร.ขณะนั้น ระบุว่า ปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้ดำเนินการ (ดูภาพประกอบที่ 1) เรื่องปรีดีเกี่ยวพันกับ สปท.นี้ ฟังดูเป็นการมั่วข่าวอย่างสุดๆ ของทางการ แต่ผมอยากกล่าวในที่นี้เพียงว่า ในหมู่ชาว พคท.เอง มีการพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ผมต้องเก็บไว้เล่ารายละเอียดเรื่องนี้ในคราวอื่น


ภาพประกอบที่ 1
Bankok Post ฉบับวันที่ 23 เมษายน 2505 หน้า 1

กลางเดือนพฤษภาคม 2508 Post ตีพิมพ์รายงาน “พวกแดงในตะวันออกเฉียงเหนือ” ของเท่ห์ เริ่มจากฉบับวันที่ 13 ในหน้าหลัง โดยลงรูปเท่ห์ โฆษณาไว้ในหน้าแรก “พวกแดงในตะวันออกเฉียงเหนือ – หน้าหลัง โดย ผู้ช่วยบรรณาธิการ Post เท่ห์ จงคดีกิจ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางอย่างกว้างขวางเพื่อหาข้อเท็จจริง ในจังหวัดต่างๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นเขตที่มีแนวโน้มจะเกิดปัญหายุ่งยาก” ใต้รูปเท่ห์มีแผนที่ แสดงให้เห็นเส้นทางการเดินทางจากกรุงเทพไปที่หนองคายตรงข้ามกับเวียงจันทน์ โดยผ่านโคราช, ขอนแก่น และ อุดร จากหนองคายย้อนกลับมาที่อุดร แล้ววกไปทางสกลนคร จากสกลนครไปที่ตัวจังหวัดนครพนม แล้วต่อมาที่อำเภอธาตุพนม และนาแก หลังจากนั้น ลงใต้มาที่มุกดาหาร แล้วต่อไปอุบล จากอุบล วกมาทางศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์ กลับมาที่โคราช และกรุงเทพ (ภาพประกอบที่ 2) เข้าใจว่า เส้นทางนี้ความจริง คือเส้นทางการเดินทางของประภาส จารุเสถียร ในการตรวจเยี่ยมโครงการเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) “ในเขตพื้นที่ล่อแหลม” ทางภาคอีสาน โดยเท่ห์ติดตามไปด้วย(รายงานของเท่ห์ไม่ได้ระบุชัดเจนเรื่องนี้ แต่มีการเอ่ยถึงประภาส ว่าอยู่ระหว่างการเดินทางเยี่ยมชมโครงการ รพช. และมีคำให้สัมภาษณ์ของประภาสสอดแทรกในรายงานของเท่ห์ รวมถึงมีการรายงานคำสัมภาษณ์ของประภาส จากอุบล เรื่องรัฐธรรมนูญตีพิมพ์เป็นเรื่องหลักของหน้า 1 ฉบับวันที่ 13 นี้ด้วย)


ภาพประกอบที่ 2

Bangkok Post ฉบับวันที่
13 พฤษภาคม 2508 หน้า 1
ในหน้าหลัง มีรายงานของเท่ห์ 2 ชิ้น ชิ้นแรกชื่อ “พวกแดงในนครพนม” (‘Reds’ in Nakorn Phanom) กล่าวว่า มีกลุ่มชายติดอาวุธ เชื่อว่าเป็นพวกคอมมิวนิสต์ หลบเข้าไปอยู่ในป่าของเทือกเขาภูพาน ในเขตอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม “มีคนถูกฆ่าไปแล้ว 16 คนในเขตนี้ในระยะไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทุกคนเป็นตำรวจหรือสายตำรวจ” คนสุดท้าย คือ สตอ.พรามมี ตุ่นสอน ซึ่งถูกยิงตายในงานวัด ว่ากันว่าเขาเป็น 1 ในไม่กี่คนที่รู้เส้นทางในป่าเป็นอย่างดี เท่ห์เล่าถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ซึ่งเข้าไปอยู่กับชาวบ้าน 11 หมู่บ้านในอำเภออนาแก หมู่บ้านละ 1 คน โดยการพูดคุยและทำงานกับชาวบ้านของนักพัฒนาเหล่านี้ “ชาวบ้านได้เรียนรู้ประชาธิปไตยและภาวะการเป็นผู้นำ ปัจจุบันชาวบ้านกำลังดำเนินการสร้างถนนและโครงการอื่นๆซึ่งทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและชีวิตความเป็นอยู่มีความสุขมากขึ้น” เท่ห์อ้างว่า “นักพัฒนา” เหล่านี้สอนให้ชาวบ้านรู้จักพึ่งตนเองและรักประเทศ ทำให้ยากแก่การที่คอมมิวนิสต์จะเข้ายุยง ผลักดันให้พวกคอมมิวนิสต์ต้องถอยร่นลึกเข้าไปในป่าและบนเขามากขึ้นๆ สุดท้ายเท่ห์อ้างคำสัมภาษณ์ของประภาสว่า เขาไม่กลัวคอมมิวนิสต์ภายในประเทศโดยเฉพาะที่อีสาน “แต่ที่ผมห่วงที่สุดคือ คอมมิวนิสต์นอกประเทศ ติดกับชายแดน” รายงานชิ้นที่สอง ชื่อ “12 คนหลบอยู่ในป่า” (Twelve Hide in Jungle) เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านดงหลวง อำเภอนาแก ซึ่งมีประชากรกว่า 1 พันคนว่า กว่า 2 ปีก่อนหน้านั้น (คือประมาณ 2505-6) ชายแปลกหน้าผู้หนึ่งได้เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอ้างว่าจะมาทำสวนและสอนชกมวย เขาอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ก็หายไป หลังจากนั้นชาวบ้าน 12 คนก็พากันขึ้นเขาไปพร้อมปืน ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่า พวกเขาได้กลายเป็นคอมมิวนิสต์ไป (ดูภาพประกอบที่ 3)

ภาพประกอบที่ 3
Bangkok Post ฉบับวันที่
13 พฤษภาคม 2508 หน้าหลัง
ภาพประกอบที่ 4
Bangkok Post
ฉบับวันที่ 14 พฤษภาคม 2508 หน้าแรก


วันต่อมา Post ตีพิมพ์รายงานอีกชิ้นหนึ่งของเท่ห์เป็นเรื่องหลักของหน้าแรก (ดูภาพประกอบที่ 4) โดยพาดหัวตัวโตว่า “ความหวาดกลัว (การก่อการร้าย) ในตะวันออกเฉียงเหนือ” (Terror in Northeast) พร้อมหัวรองว่า “ฆาตรกรลึกลับสังหารผู้ใหญ่บ้านในงานวัดนาแก ในการลอบฆ่าสยองขวัญรายล่าสุด . . .” ในรายงานเล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 12 พฤษภาคม ผู้ใหญ่บ้านในอำเภอนาแกถูกยิงตายสยองในงานวัด จากทางด้านหลังศีรษะ กระสุนทะลุออกทางลูกตา ท่ามกลางฝูงชนที่มาเที่ยวงาน นับเป็นรายล่าสุดของการฆ่าลึกลับ ที่รวมถึงการฆ่ากำนันเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม โดยผู้ตายทั้งคู่เป็นสายให้ตำรวจ ไม่เป็นที่รู้โดยแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ลงมือ แต่เชื่อว่าเป็นฝีมือของชายหนุ่มราว 12 คนจากบ้านดงหลวง ที่หลบเข้าป่าไปก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าพวกนี้เป็นคอมมิวนิสต์ เท่ห์กล่าวว่าถ้าจริง พวกเขาก็จะเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กลุ่มแรกที่ปฏิบัติการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย “เข้าทำนอง ไทยกง (เหมือนพวกเวียดกง ในเวียดนามใต้)” อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บางส่วนในกรุงเทพไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้เป็นคอมมิวนิสต์จริงๆ เพียงแต่เป็นพวกที่กลัวถูกจับ (ในฐานะคอมมิวนิสต์) จึงหลบเข้าป่าไป พร้อมปืนเพื่อป้องกันตัว เท่ห์กล่าวว่า การฆ่าตำรวจและสายตำรวจอย่างลึกลับที่ติดต่อกัน สร้างความหวาดกลัวอย่างมากในหมู่บ้าน มีข่าวว่า ก่อนการฆ่าบางราย จะมีการกระซิบกระซาบในหมู่ชาวบ้านล่วงหน้าว่า ใครจะเป็นผู้ถูกฆ่ารายต่อไป เจ้าหน้าที่บางคนหวาดกลัวมาก ทุกครั้งที่เข้าโรงหนังต้องคอยหันกลับไปดูว่ามีใครอยู่ข้างหลังตัวหรือไม่



การปะทะวันที่ 8 สิงหาคม 2508: “วันเสียงปืนแตก”
เกือบ 3 เดือนต่อมา ในวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2508 Bangkok Post ก็ตีพิมพ์ในหน้าแรก (ต่อไปถึงหน้าหลัง) ข่าวการ “ปะทะใหญ่” ที่นครพนม (Post ใช้คำว่า battle) ผมจะขอแปลรายงานข่าวนี้ทั้งหมดมาให้ดูกันข้างล่าง แต่ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจว่า ที่รายงานข่าวกล่าวถึง พตอ.สงัด โรจนภิรมย์ “ให้สัมภาษณ์จากเตียงคนเจ็บ ในเช้าวันนี้” คือวันที่ 9 สิงหาคม ได้ ก็เพราะสมัยนั้น Postออกวางตลาดตอนบ่าย (เหมือน สยามรัฐ) จากรายงานข่าวทั้งหมด จะเห็นว่า เกือบไม่ต้องสงสัยว่า เหตุการณ์ซึ่งจะเป็นที่รู้จักกันภายหลังในฐานะ “วันเสียงปืนแตก” นั้น เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2508 ไม่ใช่วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2508 ขอให้สังเกตรายละเอียดจากการบอกเล่าของ พตอ.สงัดเอง ที่ระบุได้ชัดเจนเรื่องการ “เดินทางตลอดคืนวันเสาร์” เพื่อไปดักพบ “กองโจร” จนเกิดการปะทะ “ประมาณ 7.00 น. เมื่อวานนี้

รายงานข่าวของ Bangkok Post ฉบับวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2508 มีข้อความทั้งหมด ดังนี้ (ดูภาพประกอบที่ 5 ถึง 7)

ระดมกวาดล้างพวกแดงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

หลังจากการรบในจังหวัดนครพนมเมื่อวานนี้ ซึ่งมีรายงานว่า ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ได้มีคำสั่งให้กวาดล้างให้สิ้นซากกลุ่มคนที่น่าจะเป็นคอมมิวนิสต์ติดอาวุธ กลุ่มแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย 1 ในผู้ก่อการร้ายถูกยิงเสียชีวิต
ตำรวจในท้องที่อาจจะได้รับการช่วยเหลือจากทหารในการระดมกวาดล้างนี้ถ้าจำเป็น
ตามการบอกเล่าของ พตอ.สงัด โรจนภิรมย์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสในการสู้รบ พวกผู้ก่อการร้ายได้รับการฝึกฝนมาจากขบวนการปะเทดลาวในลาว
การรบ
ผู้ก่อการร้ายกล่มนี้ถูกกำลังตำรวจหน่วยหนึ่งไล่ล่าติดตามและเข้าโจมตีเมื่อวานนี้ในป่าจังหวัดนครพนม ใกล้กับแม่น้ำโขงตรงข้ามกับลาว
มีรายงานว่า ตำรวจ 1 นาย สตอ.ไพรัตน์ นิ่มดวง เสียชีวิต
พตอ.สงัด ซึ่งนำกำลังตำรวจหน่วยดังกล่าวด้วยตัวเอง ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกระสุน 3 นัด เขาถูกนำตัวเข้ากรุงเทพโดยเฮลิคอปเตอร์และนำส่ง รพ.ตำรวจเมื่อคืนนี้ เขายังไม่ทราบข่าวการเสียชีวิตของ 1 ในตำรวจลูกน้องของเขา
พล.ต.ต.เอื้อ เอี่ยมพันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจภาคสี่ (ซึ่งคลุมนครพนม) ได้สั่งให้ส่งกำลังตำรวจไปเสริมในพื้นที่แล้ว
พตอ.สงัด ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ประกาศว่าพ้นขีดอันตรายแล้วเมื่อเช้านี้ ได้ให้สัมภาษณ์บางกอกโพสต์จากเตียงคนเจ็บ เช้าวันนี้ว่า :
"ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนในสงครามกองโจรจากขบวนการปะเทดลาว ในจังหวัดมหาชัยของลาว
"พวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าบริเวณรอยต่ออำเภอนาแก เรณู และ ธาตุพนม"
ผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ลงมือลอบสังหารหลายราย ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ ผู้ถูกฆ่ารวมถึงนายตำรวจ ผู้ใหญ่บ้านกำนัน และผู้เป็นสายให้ตำรวจ
หลังจากรู้ที่ซ่อนล่าสุดของผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ พตอ.สงัด ได้นำกำลังตำรวจ 20 นาย รีบรุดไปยังจุดนั้น โดยเดินทางตลอดคืนวันเสาร์

การรบ

ประมาณ 7.00 น. เมื่วานนี้ กำลังตำรวจก็พบกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายประมาณ 15 คน พตอ.สงัด นำการรบด้วยตัวเอง โดยมีเพียงปืนขนาด .22 มม. เมือผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งวิ่งเข้าหา พตอ.สงัดได้ยิงด้วยปืนของเขา แต่ลูกกระสุนมีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะทำอันตรายผู้โจมตีได้
พตอ.สงัด จึงพุ่งไปข้างหน้าเพื่อคว้าตัวผู้ก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าใกล้กัน ผู้ก่อการร้ายคนนั้นได้ยิงเข้าใส่เขา 3 นัด
กระสุนนัดหนึ่งเข้าทางไหล่ซ้ายเขา ทะลุออกด้านหลังตรงซี่โครงซ้าย อีกนัดหนึ่งทะลุผ่านน่องขวาของเขา ส่วนนัดที่ 3 ทะลุเท้าเขาข้างหนึ่ง
แล้วผู้ก่อการร้ายที่โจมตีเขา ก็ถูกตำรวจนายหนึ่งยิงตาย ตำรวจอีกนายหนึ่ง สตอ.เฉลิมพล ยวนชมพล ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ พตอ.สงัด ก็ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
พตอ.สงัด และ สตอ.เฉลิมพล ได้รับการนำตัวออกจากพื้นที่สู้รบด้วยเกวียนควายลาก ขณะเดียวกับที่ได้ส่งข่าวขอความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์
เฮลิคอปเตอร์เครื่องหนึ่งได้รับการส่งไปจากตัวจังหวัดนครพนม และบินนำ พตอ.สงัดเข้ากรุงเทพ
นายกรัฐมนตรีถนอม กิตติขจร ในฐานะผู้บัญชาทหารสูงสุด และ พล.อ.อ.ทวี จุลลทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และเสนาธิการทหารสูงสุด ได้ส่งดอกไม้ไปให้กำลังใจแก่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ สตอ.เฉลิมพล ได้รับการประกาศว่าพ้นขีดอันตรายเช่นเดียวกัน
นายแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ทำการใส่เหล็กดามขาข้างที่ถูกกระสุนของ พตอ.สงัด
พตอ.สงัด ได้ทำงานอย่างขันแข็งมาหลายปีในการต่อสู้กับการแทรกซึมและบ่อนทำลายของคอมมิวนิสต์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เกี่ยวกับการรบครั้งนี้ ถวิล สุนทรสารทูล ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า "นี่อาจจะหมายความว่า คอมมิวนิสต์กำลังเริ่มต้นสงครามกองโจรในประเทศไทย"
ถวิลยืนยันว่ารัฐบาลมีคำสั่งให้ใช้ความพยายามเต็มที่เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์
เขากล่าวด้วยว่าพวกผู้ก่อการร้ายได้ทิ้งใบปลิวคอมมิวนิสต์ไว้จำนวนมาก


ภาพประกอบที่ 5
Bangkok Post
ฉบับวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2508 หน้าแรก


ภาพประกอบที่ 6

Bangkok Post
ฉบับวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2508 หน้าหลัง


ภาพประกอบที่ 7
ภาพ พตอ.สงัด โรจนภิรมย์ จาก Bangkok Post ฉบับวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2508 หน้าหลัง
คำบรรยายใต้ภาพเขียนว่า
“พตอ.สงัด โรจนภิรมย์ มีใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดในโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเช้านี้”

.............................................
หมายเหตุประชาไท : บทความนี้เคยตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์ 13-19 สิงหาคม 2547 และปรับปรุงแก้ไขเล็กน้อยโดยผู้เขียนเพื่อเผยแพร่ในประชาไท

ไทยฟื้นคดีสังหารทูต เสกปมอมเพชรซาอุหายวับ

ที่มา Thai E-News


โปรโมชั่นวันแม่-ห้างเพชรจิวบ้วนง้วน จังหวัดลำปางขึ้นป้ายคัตเอ๊าต์ทั่วเมืองลำปางจัดโปรโมชั่นพิเศษ"เพชรเพื่อแม่"ลดดับเบิ้ลสูงสุดถึง50% ท่านที่สนใจติดต่อได้ที่โทรศัพท์054-217358,054-322694 โดยรายการพิเศษนี้จัดขึ้นในช่วงวันที่1-15สิงหาคม2552นี้เท่านั้น ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ วงการชี้ภาพเพชรในป้ายโฆษณาละม้ายblue diamondหรือเพชรซาอุฯที่โดนโจรกรรมลึกลับ และทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯแตกร้าว

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา มติชน
8 สิงหาคม 2552

รัฐมนตรียุติธรรมฝันความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯฟื้น หลังออกหมายจับชาวอาหรับผู้ต้องหาฆาตกรรม 3 ทูตซาอุฯเมื่อ19ปีก่อน ก่อนคดีจะหมดอายุความลง แต่วงการยังกังขาซาอุฯจะเชื่อน้ำยาไทยอยู่หรือ เมื่อฝ่ายไทยโยนปมสังหารให้เป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศระหว่างซาอุกับชาติอาหรับด้วยกัน ขณะที่ไม่มีการมุ่งคดีไปที่เรื่องเพชรซาอุที่โดนอมแต่อย่างใด


นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีศาลอนุมัติหมายจับนายอาบู อาลี ชาวอาหรับ เป็นผู้ต้องหาฆ่านายอับดุลเลาะห์ เอ อัล เบชารีห์ เลขานุการโทของสถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อ 19 ปีที่ผ่านมา ว่า การออกหมายจับครั้งนี้ถือเป็นความคืบหน้าของคดี เพราะก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนไม่รู้แม้แต่จะจับใคร ทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ และคดีมีความคืบหน้า ก็เชื่อว่า น่าจะมีการยกระดับคามสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุฯได้ดีขึ้น อย่างน้อยการออกหมายจับครั้งนี้ทำให้รู้รูปพรรณสัณฐานของคนร้าย โดยการออกหมายจับไม่คำนึงว่าบุคคลตามหมายจับจะอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ขั้นตอนต่อไปเป็นหน้าที่ของดีเอสไอที่ต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดี

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า คดีดังกล่าวมีผู้ก่อเหตุเป็นกระบวนการ สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย แม้คดีดังกล่าวจะผ่านมาแล้วถึง 19 ปี แต่เป็นสำนวนในความรับผิดชอบของตำรวจ จึงเชื่อว่าดีเอสไอจะสามารถสั่งฟ้องคดีได้ก่อนหมดอายุความ 20 ปี ซึ่งกำชับให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด แม้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าผู้ต้องหาเป็นคนยิง แต่สามารถใช้พยานแวดล้อมได้


ก่อนหน้านี้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)แถลงเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ว่า ศาลอาญาได้อนุมัติให้ออกหมายจับนายอาบู อาลี ชาวอาหรับ ซึ่งเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงนายอัลลุเลาะห์ เอ อัล เบซารีห์ เลขานุการโท ของสถานเอกอัครราชฑูตซาอุดิอาระเบีย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 บริเวณด้านหน้าศรีวัฒนาอพาร์ตเม้นท์ เลขที่ 34/3(บ้านสุทธิพงษ์) ตรงข้ามซอยเย็นอากาศ2 ถนนเย็นอากาศ แขวงทุ่งมหาเฆม เขตสาธร กรุงเทพมหานคร

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า คดีดังกล่าว ดีเอสไอได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับการฆาตรกรรมนักการทูตซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเกิดเหตุมาตั้งแต่ปี 2533 มาดำเนินการตั้งแต่ปี 2547 และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศร่วมกับพนักงานอัยการคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้มาโดยตลอด


อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวน ก็ได้พยานสำคัญจากต่างประเทศ พร้อมทั้งประจักษ์พยาน ยืนยันตัวบุคคลที่กระทำความผิดในคดีนี้ จนนำมาสู่ความเห็นชอบร่วมกันระหว่างพนักงานอัยการและคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอออกหมายจับดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

สำหรับคดีฆาตกรรมนายอัลลุเลาะห์ เอ อัล เบซารีห์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 บริเวณด้านหน้าศรีวัฒนา อพาร์ตเม้นท์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุดังกล่าวประมาณ 10 นาที มีคนร้ายกลุ่มหนึ่งใช้อาวุธปืนยิงนายฟาฮัด เอแซด อัลบาฮลี เลขานุการโทและนายอาหะหมัด เอ.อัลชาอีพ ผู้ช่วยเลขานุการ สถานทูตซาอุฯ เสียชีวิต ซึ่งทางการสืบสวนเชื่อว่า น่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน

ต่อมาในวันที่ 28 พฤษภาคม 2547 คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ จากการสืบสวนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม รวมถึงพยานผู้เชี่ยวชาญยืนยัน นำเสนอต่อศาลว่า นายอาบู อาลี เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว ดีเอสไอจึงส่งสำนวนคดีดังกล่าวต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษเพื่อพิจารณาสั่งคดีต่อไป

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะโอนสำนวนการสอบสวนมายังดีเอสไอ สำนวนดังกล่าวได้ถูกดำเนินการโดยกรมตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน โดยมีการตั้งประเด็นการสอบสวนสาเหตุการฆาตรกรรม เนื่องมาจาก

1. การขัดแย้งผลประโยชน์ในการส่งแรงงานไปทำงานยังประเทศซาอุดิอาระเบีย

2. เจ้าหน้าที่สถานทูตบางคนร่วมกับบุคคลภายนอก ส่งสินค้าผิดกฎหมาย เช่น กัญชาอัดแท่ง ไม้หอมและน้ำมันไปประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยใช้เอกสิทธิทางการทูต

3. การขัดผลประโยชน์ของกลุ่มแก๊งค์พัทยาที่มีนายมุนีย์ อาหะหมัด เป็นหัวหน้า

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ประเด็นทั้ง 3 เรื่องที่กรมตำรวจตั้งเป็นประเด็นการสืบสวน นำไปสู่การจับกุมและดำเนินการคดีกับผู้ต้องหาบางราย ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ส่วนคดีความที่ส่งขึ้นพิจารณาในชั้นศาล ศาลได้มีคำสั่งยกฟ้องทั้งหมด

อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า ส่วนการสืบสวนของดีเอสไอ ได้ตั้งประเด็นแตกต่างไปจากกรมตำรวจ โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เห็นว่า ประเด็นสาเหตุการฆาตรกรรมน่าจะมาจากความขัดแย้งระหว่างประเทศซาอุดิอาระเบียกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งพบว่า ก่อนหน้าที่จะมีการฆาตรกรรมเจ้าหน้าที่สถานทูต ประเทศซาอุดิอาระเบีย เคยมีหนังสือขอความร่วมมือมายังประเทศไทย ให้ช่วยดูแลเจ้าหน้าที่และประชาชนชาวซาอุดิอาระเบียในประเทศไทย เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ ซึ่งเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า คดีฆาตรกรรมนักการทูตซาอุดิอาระเบียที่ได้รับการคลี่คลาย จนนำไปสู่การอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ถือว่า เป็นความคืบหน้าอีกระดับหนึ่งในความพยายามของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะแสดงให้รัฐบาลซาอุดิอาระเบียเชื่อมั่นว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศขึ้น

ข่าวแจ้งว่า ความขัดแย้งที่ดีเอสไออ้างถึงหมายถึงความขัดแย้งกับกลุ่มชาวอาหรับบางประเทศเนื่องจากในช่วงวันที่ 31 กรกฎาคมและต้นเดือนสิงหาคมเกิดการจลาจลที่นครเมกกะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นช่าวอาหรับกว่า 400 คน ในจำนวนนี้มีชาวอาหรับประเทศดังกล่าวถึง 275 คน ซึ่งหลังจากนั้นมีนักการทูตซาอุฯหลายประเทศถูกฆาตกรรม จนรัฐบาลซาอุฯทำหนังสือถึงรัฐบาลไทยในเดือนตุลาคม 2532 ให้ช่วยระมัดระวังในความปลอดภัยของนักการทูตชาวซาอุฯด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดการฆาตกรรมนักการทูตชาวซาอุฯ3 คนและนักธุรกิจชาวซาอุฯอีก 1 คน ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและซาอุฯอย่างรุนแรง จนมีการสั่งระงับไม่ให้ส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุฯและมีการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตให้เหลือแต่เพียงส่งอุปทูตมาประจำสถานทูตในประเทศไทย และแม้แต่ในในคราวพระราชพิธีฉลองครองราชย์60ปี กษัตริย์และราชวงศ์ซาอุฯก็ไม่ได้เสด็จร่วมพระราชพิธีเหมือนราชวงศ์อื่นๆทั่วโลก

คนสงสัยคดีไม่มีโยงเรื่องเพชรซาอุ

คดีดังกล่าวตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มานานว่า อาจเกี่ยวพันกับกรณีเพชรซาอุฯที่นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานไทยที่ทำงานในวังเจ้าฟ้าชายไฟซาลขโมยเพชรออกมา ต่อมาได้ขายให้ร้านอัญมณีในเมืองไทย และผู้รับซื้อถูกตำรวจนำโดยพล.ต.ท.ชะลอ เกิดเทศ สังหาร แต่เพชรดังกล่าวสูญหายไป โดยเฉพาะเพชรบลูไดมอนด์ โดยมีเสียงร่ำลือว่าตกไปเป็นสมบัติของหญิงสูงศักดิ์รายหนึ่ง ทางซาอุฯจึงส่งเจ้าหน้าที่ทูตชุดดังกล่าวมาติดตาม และที่สุดก็โดนสังหาร

เหตุการณ์ผ่านไปเกือบหมดอายุความ 20 ปี ตำรวจไทยได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยการฆาตกรรมทูตซาอุฯ โดยได้พุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งของชาติอาหรับด้วยกัน ไม่มีการตั้งข้อสงสัยพัวพันเพชรซาอุฯแต่อย่างใด จึงเป็นที่น่าติดตามว่า เรื่องนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของไทยกับซาอุฯจะดีขึ้นตามที่รัฐบาลหวังไว้หรือไม่

แดงนนท์เชิญชาวเสื้อแดงรวมพลสืบสานตำนานผู้กล้าวันนี้

ที่มา Thai E-News


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
8 สิงหาคม 2552

กลุ่มเสื้อแดงนนทบุรี ขอเชิญพี่น้องชาวเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรมในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และใกล้เคียงทั้งกรุงเทพฯ นครปฐม ปทุมธานี เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้


กำหนดการงาน “รวมพลคนเสื้อแดงนนทบุรี เพื่อประชาธิปไตย ”
สืบสานตำนานผู้กล้า เมษาเลือด... จากสามเหลี่ยมดินแดง สู่ สามเหลี่ยมบ้านบัวทอง



วันที่ 8 สิงหาคม 2552 เวลา 14.00 – 24.00 น.ณ สนามเอนกประสงค์ ข้างโรงเรียนกสินธร ฯ ม. บัวทอง


เวลา 14.00 - 15.30 น. สัมมนากลุ่มย่อย (แกนนำชุมชน กลุ่มต่างๆในจังหวัดนนทบุรี)

เวลา 15.30 - 16.00 น. ดนตรี

เวลา 16.00 - 18.00 น. ดร.อภิวันทน์ วิริยะชัย เปิดประเดิมเวที และกลุ่มแกนนำมวลชนต่างๆ ขึ้นปราศรัยบนเวที

เวลา 18.00 - 19.00 น. แกนนำวิทยุชุมชนแท็กซี่ ขึ้นปราศรัยบนเวที

เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป แกนนำใหญ่ นำทีมโดยคุณวีระ มุสิกพงศ์ คุณจตุพร พรหมพันธ์
และคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อฯลฯ พร้อมแกนนำ น.ป.ช. ท่านอื่นๆ และทีมงานครบชุด

เวลา 21.30 น. โดยประมาณ พ.ต.ท.ดร. ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินสดถึงพี่น้องเสื้อแดงนนทบุรี

เวลา 23.30 น. แกนนำบ้านบัวทองขอบคุณและกล่าวปิดงาน

วีรบุรุษสามเหลี่ยมดินแดง-ภาพข่าวBBCนำเสนอชายนิรนามคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปกอดปืนบนรถถังไม่ให้กราดยิงประชาชนในเหตุการณ์สงกรานต์เลือด นี่เป็น1ภาพแทนพันๆคำว่า นี่หรือคนที่ใครจะหมิ่นแคลนว่าเขารับจ้างทักษิณมา หรือทำเพื่อทักษิณเพียงคนๆเดียว ทั้งที่เขาวีระอาจหาญกล้าสู้กล้าเอาชนะกล้าเสียสละ และอุทิศตนเพื่อประชาธิปไตยอย่างที่ภาพข่าวกำลังฟ้อง(คลิ้กชมคลิปวิดิโอ คลิ้ก)
0000000000000000
ไฮไลต์กิจกรรมฝ่ายประชาธิปไตยที่น่าสนใจวันนี้-สิงหาคม 2552

-8 สิงหาคม แดงนนทบุรีจัดงานรวมพลคนเสื้อแดงนนทบุรีเพื่อประชาธิปไตย ”สืบสานตำนานผู้กล้า เมษาเลือด... จากสามเหลี่ยมดินแดง สู่ สามเหลี่ยมบ้านบัวทอง
-9 สิงหาคม แดงอุดรพร้อมแดง9จังหวัดทั่วประเทศชุมนุมโหมโรงหนุนถวายฎีกา
-9 สิงหาคม แดงบูรพารวมพลังกันที่หนองจอก พบแกนนำ3เกลอ และอดิศร เพียงเกษ
-10 สิงหาคม แกนนำ3เกลอจัดรายการความจริงวันนี้ที่เชียงใหม่
-12 สิงหาคม น้อมรำลึกบุณคุณบรรพชนปฏิวัติ2475 วันพระยาทรงสุรเดช
-15 สิงหาคม ไลต์ออเคสตราเพลงป่า เพลงปฏิวัติ เพราะคิดถึงเพื่อน
-16 สิงหาคม รำลึกถึงวันประกาศสันติภาพ16สิงหาคม2488ของหัวหน้าขบวนการเสรีไทย ทำให้ไทยไม่ตกเป็นประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่2 ทำให้ไทยมีเอกราชสมบูรณ์มาทุกวันนี้
-16 สิงหาคม แดงภาคใต้รวมพลปักธงแดงทั่วปักษ์ใต้ที่กันตัง จังหวัดตรัง
-17 สิงหาคม แห่ขบวนพานถวายฎีกาไปถวายฎีกา ไม่มีการชุมนุม แต่หากประชาชนจะมามากๆก็แล้วแต่ใจ
-23 สิงหาคม แดงขอนแก่นจัดสัมมนาภาคประชาชน
-5 กันยายน แดงระยองรวมพลังครั้งแรกลบภาพถิ่นเสื้อเหลืองเมืองระยอง


วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม-แดงอุดรชุมนุมพร้อมแดง9จังหวัดทั่วประเทศ โหมโรงถวายฎีกา

ชมรมคนรักอุดร จะจัดการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง โดยจะตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ ที่ลานปูน สนามทุ่งศรีเมือง เทศบาลนครอุดรธานี

โดยจะมีชื่องานว่า “แดงทั้งแผ่นดิน ร่วมลงชื่อถวายฎีกา” ซึ่งวันนั้นจะมีการเปิดเวทีพร้อมกันทั่วประเทศ 9 จังหวัดด้วยกัน ซึ่งเวทีที่ จ.อุดรธานี ทางแกนนำของรายการความจริงวันนี้ จะเดินทางมาร่วมปราศรัยที่เวที จ.อุดรธานีด้วย กว่า 10 คน รวมทั้งวันนั้นทางสถานี ดีสเตชั่น ของคนเสื้อแดง จะยกทีมมาถ่ายทอดสดจากเวทีสนามทุ่งศรีเมือง ตั้งแต่เริ่มเปิดเวที จนถึงเวทีจะยุติ

แกนนำที่จะเดินทางมาปราศรัยในวันที่ 9 สิงหาคม นำทีมโดย นายวีระ มุกสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายชินวัตร หาบุญภาค นายนิสิต สินธุไพร นายเวียง วรเชษฐ ดร.สุทิน คลังแสง คุณสมชาย ไพรบูลย์ และแรมโบ้อีสาน พร้อมนักปราศรัยอีกจำนวนมาก

ซึ่งวันนั้นจะมีคนเสื้อแดงจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน จากหลายจังหวัดมาร่วมงาน พร้อมลงรายชื่อเพื่อถวายฎีกา ซึ่งวันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับชาว จ.อุดรธานี และ จ.ใกล้เคียงที่มาร่วมงานด้วย

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2552 เสื้อแดงบูรพา รวมพลังที่หนองจอก

เป็นงานคนเสื้อแดงของกลุ่มไก่ชน แดงบูรพา จัดที่วัดบึงทองหลาง หรือวัดปากบึง หนองจอก งานนี้กลุ่มไก่ชนแดงบูรพา เป็นเจ้าภาพ งานจะเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น แกนนำที่ไปร่วมงานก็คือ3เกลอ วีระ คุณณัฐวุฒิ คุณจตุพร และ คุณอดิศร เพียงเกษ

งานนี้นอกจากการรวมตัวแสดงพลังของคนเสื้อแดงแล้ว ยังมีรายการพิเศษสำหรับคนชอบพระเครื่อง จะมีการนำพระเครื่องมาให้คนที่สนใจได้ชมกัน หรือภาษาสำหรับคนชอบพระเครื่องก็คือ มีการส่องพระ

งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆนะครับ

จันทร์ที่10สิงหาคม- ความจริงวันนี้ที่เชียงใหม่

รายการความจริงวันนี้ ที่เชียงใหม่ วันที่ 10 ส.ค. 52 เริ่มเวลา 12.00 น. - 24.00น. สถานที่จัดงาน พื้นที่ว่างข้าง ห้างแม็กโคร เชียงใหม่ ถนนซุปเปอร์สาย เชียงใหม่-ลำพูน มาจากลำพูน อยู่ฝั่งด้ายซ้ายมือ พบกัน แกนนำ ความจริงวันนี้ ชุดใหญ่ ทุกท่าน
ดำเนินการ จัดงาน โดย แกนนำ ความจริงวันนี้

พุธ 12 สิงหาคม ทำบุญวันพระยาทรงสุรเดช บรรพชนปฏิวัติ2475


ผู้รักชาติรักประชาธิปไตย สืบทอดภารกิจปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475 กำหนดทำบุญเนื่องในวันครบรอบวันเกิดนายพันเอกพระยาทรงสุรเดช หัวสมองผู้วางแผนการปฏิวัติ24มิถุนายน2475จนเป็นผลสำเร็จ แต่มีบั้นปลายชีวิตที่อนาถา ท่านเกิดตรงกับวันที่12สิงหาคม ฝ่ายประชาธิปไตยกำหนดให้เป็น"วันพระยาทรงสุรเดช" มีกิจกรรมทำบุญที่วัดประธิปไตย(วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน)สถานที่เก็บอัฐิของท่านและบรรพชนปฏิวัติหลายท่าน

โครงการจัดแสดงคอนเสิร์ตไลท์ออเคสตร้าเพลงปฏิวัติ ...เพราะคิดถึงเพื่อน”
ณ หอประชุมพิพิธภัณฑ์ฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม 2552 19:30 น.


วัตถุประสงค์
คอนเสิร์ตครั้งนี้ จึงได้จัดมีขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูจิตใจกล้าต่อสู้ กล้าเสียสละเพื่อส่วนรวม ของมวลนิสิต นักศึกษาและประชาชน ที่ต่อสู้เพื่อเอกราช ประชาธิปไตย และความเป็นธรรมในสังคม เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ของบทเพลงปฏิวัติ และเพื่อได้มีการพบปะกันในหมู่อดีตนักปฏิวัติ

รูปแบบการแสดง
เป็นการแสดงดนตรีของวงเพื่อนมิตรไลท์ออเคสตร้า ประกอบการขับร้องของส่วนหนึ่งของนักร้องปฏิวัติในอดีต นักศึกษาปัจจุบัน และชุดการแสดงนาฏศิลป์ประกอบ

บทเพลงที่ใช้แสดง
คัดเลือกบทเพลงปฏิวัติที่เกี่ยวกับความคิดความผูกพัน จำนวน 20 เพลง มาแสดงได้แก่

1. เพลงรำลึกวีรชน 12. เพลงแองเตอร์นาซิอองนาล
2. นาฏศิลป์ประกอบเพลงฟ้าทอง 13. เพลงลาไปเป็นทหารปลดแอก
3. เพลงสดุดีวีรชน 14 ตุลา 14. เพลงทหารประชาชน
4. เพลงสดุดีวีรชน 6 ตุลา 15. เพลงดาวแดงส่องสว่างเหนือภูพาน
5. เพลง ตุลาชัย 16. เพลงพี่น้องภาคใต้รุกรบช่ำชอง
6. เพลง นกน้อย 17. เพลงสดุดีนักรบแนวหน้า
7. สดุดีครูประชา 18. เพลงความหวังแห่งชีวิตใหม่
8. เพลงดาวแห่งชาวนา 19. เพลงขอสดุดีแด่พรรคที่รักยิ่ง
9. เพลงขอเพื่อนจงหยัดยืน 20. เพลงสายทางนักรบประชา
10. เพลงแผ่นดินของเรา 21. เพลงภูสระเริงรำ
11. นาฏศิลป์ประกอบเพลงตันหยง

บัตรชมการแสดง

ประกอบด้วยที่นั่งชม 520 ที่นั่ง จำแนกเป็น

บัตรวีไอพี 10 ที่นั่ง
บัตรราคา 1,000 บาท จำนวน 149 ที่นั่ง
บัตรราคา 500 บาท จำนวน 188 ที่นั่ง
บัตรราคา 300 บาท จำนวน 173 ที่นั่ง

การจองบัตรชมการแสดง

ติดต่อจองบัตรได้ที่ คุณจันทิรา สระทองเขียว หมายเลขโทรศัพท์: 084.116.4992 Email: cpt.song@gmail.com

จัดส่งโดย: โปรดโอนเงินเข้าบัญชี น.ส. นงลักษณ์ จตุเทน
เลขที่บัญชี 748-2-03431-9
ประเภทบัญชีออมทรัพย์
ธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยเซ็นทรัลพระรามที่ 3
และโปรดส่งใบโอนเงิน ถึงคุณจันทิรา สระทองเขียว โทรสาร: 0.2295.1154 โทรศัพท์: 084.116.4992

สถานที่จัดการแสดง
ณ หอประชุมพิพิธภัณฑ์ฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ด้านติดกับถนนวิภาวดีรังสิต)

สถานที่จัดการแสดง
ณ หอประชุมพิพิธภัณฑ์ฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ด้านติดกับถนนวิภาวดีรังสิต)

วันที่จัดแสดง
วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม 2552 เวลา 19.30 น.
รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะมอบให้โครงการกำแพงประวัติศาสตร์


หมายเหตุ: การแสดงครั้งนี้จะไม่มีบันทึกซีดี และดีวีดีไว้จำหน่ายแต่อย่างใด แต่จะมีต้นฉบับเพื่อการนำไปสำเนาได้เพื่อการแจกจ่ายโดยไม่ได้นำไปหารายได้ รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจำเป็นแล้ว (ถ้ามี) จะมอบให้กำแพงประวัติศาสตร์ 6 ตุลา เพื่อร่วมสมทบทุนจัดงานรำลึก 6 ตุลาคม 2519)


โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติม และชมกิจกรรม3ครั้งที่ผ่านมาได้ที่ http://cpt.igetweb.com


อาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม-วันสันติภาพ-รำลึกวันประกาศสันติภาพ ไทยพ้นสถานะประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2

รำลึกถึงเหตุการณ์วันที่ 16 สิงหาคม 2488 นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการในขณะนั้น และเป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยได้ออกประกาศสันติภาพ สาระสำคัญคือประกาศว่า การประกาศสงครามต่อสหรัฐฯ และอังกฤษของรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงคราม เป็นโมฆะไม่ผูกพันกับประชาชนชาวไทย ที่ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่น และให้สถานะของประเทศกลับไปมีไมตรีอันดีกับ2ประเทศมหาอำนาจเหมือนก่อนประกาศสงคราม และพร้อมจะร่วมมือทุกวิถีทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้

ด้วยคำประกาศสันติภาพดังกล่าว ทำให้ไทยไม่ต้องผูกพันกับญี่ปุ่นและรอดพ้นการตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม มีเอกราชโดยสมบูรณ์ สมควรที่ชาวไทยผู้รักชาติจะได้หวนรำลึกถึงบุญคุณของบรรพชนในคราวนั้น

วันอาทิตย์ 16 สิงหาคม ปักธงแดงทั่วปักษ์ใต้-แกนนำเสื้อแดงทั่วภาคใต้ จะประชุมกำหนดแนวทางการดำเนินงานและขยายมวลชน โดยจัดงานที่จังหวัดตรัง มีแกนนำ 3 เกลอร่วมเป็นวิทยากร ตอนนี้ยังติดต่อแกนนำจังหวัดระนองไม่ได้(ขาดจังหวัดเดียว)ใครรู้จักแดงระนองช่วยส่งข่าวด้วย ( ดูรายละเอียด คลิ้ก )

จันทร์ที่ 17 สิงหาคม-แห่ขบวนพานฎีกาเพื่อถวายฎีกาทั้งแผ่นดิน

จะมีกิจกรรมนำรายชื่อ ขึ้น ทูลเกล้าฯถวายฎีกาในวันที่ 17 ส.ค. จำนวนรายชื่อทั้งหมดกว่า 5.5 ล้านรายชื่อ เราจะจัดเป็นขบวน โดยจะมีพานรองรับถวายฎีกาขนาดใหญ่ ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น สามารถรองรับได้เป็นแสนรายชื่อ ส่วนที่เหลือ จะใช้คนลำเลียง ไม่น้อยกว่า 1 พันคน ในวันถวายฎีกา จะไม่มีการชุมนุมใหญ่ ผู้ที่จะมาร่วมกิจกรรม ก็เป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ

อาทิตย์ที่ 23 ส.ค.แดงขอนแก่นสัมมนาภาคประชาชน

ชมรม เสื้อแดง ขอนแก่น 51 เชิญพี่น้องจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมงานสัมมนาเชิงวิชาการ ภาคประชาชน โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรพิเศษเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ได้แก่
-คุณวิสา คัญทัพ
-คุณวิภูแถลง พัฒนภูมิไท
-คุณไพจิตร อักษรณรงค์
ในวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2552 เวลา 16.00 น. - 20.00 น. ณ ห้องประชุมศาลาประชาคม จังหวัดขอนแก่น

สนใจติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ 085-0033318

เดือนกันยายน 2552


เสาร์ที่ 5 กันยายน-แดงระยองรวมพลังครั้งแรก

เราจะมีการจัดโต๊ะจีนในวันที่5 กันยายน 2552นี้ที่บริเวณมาบยา แถวๆมาบตาพุดนะครับ ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วครับ ตอนนี้ผมอยากได้จำนวนนะครับ อยากให้ทุกคนติดต่อมาที่ผม ที่เบอร์โทร 081-7616525 ถ้าเป็นคนใน บริษัท IRPC ติดต่อได้ที่แผนก ADU2 เบอร์ 2104 /2103 กะ A อยากให้ทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์ต่อ และรวบรวมจำนวน แล้วแจ้งมาที่ผมนะครับ ตามเบอร์โทรที่ให้ไปนะครับ

คนละ 200 บาท นะครับ ถ้าเป็นโต๊ะจะตก 2000 บาท/ 1โต๊ะ สำหระบท่านที่มีรายได้น้อย เราจะจัดโต๊ะให้ แต่จะมีอาหารจำหน่ายในราคาถูกครับ อยากให้เสื้อแดงทุกคน ได้มาร่วมแสดงพลังกันเยอะๆนะครับเพื่อความมั่นคงและเติบโตของแดงระยองครับ คาดว่าแกนนำจากส่วนกลางจะมากันครบนะครับเพราะครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่เกิดขึ้น ในระยอง ขอความร่วมมือจากทุกๆท่านนะครับ/ คุณหนึ่ง ผู้ประสานงานแดงระยองแจ้งข่าว

"เยาวเรศ"นำทีมเพื่อไทยส่งน้อง"ยงยุทธ"สู้ศึกสุราษฎร์ฯ

ที่มา มติชนออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ,นายภิญญา ช่วยปลอด และทีมงานอีกประมาณ 20 คน พร้อมกองเชียร์ร่วม 100 คน ถือฤกษ์ 09.09 น.ส่ง นายสมพล วิชัยดิษฐ น้องชายนายยงยุทธ ลงสมัครได้หมายเลข 2 แข่งขันกับ นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่ได้ใบเหลืองจากการเลือกตั้ง นายก อบจ. หันมาลงสนามเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1


นายสมพลกล่าวว่า ตอนนี้จะพยายามลงพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อเป็นตัวแทนรับใช้ประชาชน อย่างไรก็ตามจะไม่ท้อ แม้ว่าจะเป็นถิ่นของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน โดยตนเองเข้าใจถึงสภาพปัญหาในท้องถิ่นเป็นอย่างดี พร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

น้ำเน่า ก้อนอิฐ ดอกไม้

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน




ใครจะเชื่อจะได้เห็น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ น้ำตาคลอเบ้า

รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 ผู้นี้ ตำรวจด้วยกันรู้ดีถึง ตัวตน นิสัยใจคอ ความประพฤติ

เป็นตำรวจอาชีพ หรือแค่มีอาชีพตำรวจ?

ชีวิตราชการต้องถูกการเมืองเล่นงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เพียงเพราะนามสกุลดามาพงศ์ กับเป็นพี่เมียทักษิณ!

การประกาศฟ้องนายกฯ กรณีไม่ได้รับแต่งตั้งนั่งรักษาการผบ.ตร.

จึงน่าเห็นใจ และน่าสนใจ

โดยเฉพาะบรรดาข้าราชการที่อยู่ในสภาพเดียวกัน

สิ้นก.ย.นี้ข้าราชการใหญ่หลายคนถึงวาระเกษียณอายุ

ระดับปลัดกระทรวง มีมหาดไทย พาณิชย์ คมนาคม สาธารณสุข อุตสาหกรรม เกษตรฯ

และผบ.ตร.!!

แม้ระบบราชการจะมีระเบียบ กฎเกณฑ์ ธรรมเนียมปฏิบัติ เรื่องแต่งตั้งโยกย้ายไว้รัดกุม สวยหรู

แต่โลกของความจริงก็เป็นได้แค่ในหน้ากระดาษ

คำตอบสุดท้ายขึ้นกับนักการเมือง ผู้สวมหัวโขน นายกฯ และรมต.

จะกาชื่อใคร??

ได้นายกฯ ได้รมต. มีคุณธรรม รู้คน รู้งาน รู้ถูก รู้ผิด ก็ดีไป

ถ้าได้ตรงกันข้ามก็เหมือนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติขณะนี้

(รวมทั้งกระทรวง กรม กองอื่นๆ ในยุคนักการเมืองไร้คุณธรรมมาปกครอง)

ปั่นป่วน ระส่ำระสาย ขัดแย้ง แตกแยก

ต้นสายปลายเหตุล้วนมาจากไร้ระเบียบ ไม่สนกฎเกณฑ์ ละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติ

เอาผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นสำคัญ

เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน หวังว่านายกฯ และ รมต.จะเลือกคนเก่ง คนดี คนเหมาะสมขึ้นทดแทนคนเก่า

สำหรับนายกฯ ที่ประสบการณ์ด้านบริหารงาน บริหารคนยังน้อย

บทเรียนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คงเป็นตำราเล่มใหญ่ให้ศึกษา เรียนรู้

รูปหล่อ พูดเพราะ สะอาดเอี่ยม อยู่ดีๆ ทำไมโดนทั้งน้ำเน่า ก้อนอิฐ จนน่วม

คงไม่ใช่เฉพาะฝ่ายข้าราชการทำไม่ดี ไม่ถูกต้องกระมัง

ตัวเราผิดพลาดตรงไหน ต้องรีบค้นหา แล้วปรับ ปรุงแก้ไข

เพราะการแต่งตั้งข้าราชการใหญ่อีกไม่กี่วันข้างหน้า

จะพิสูจน์ถึงคุณธรรม ความสามารถของนายกฯ ในฐานะผู้นำสูงสุด

อยากได้น้ำเน่า ก้อนอิฐ หรือดอกไม้

ก็เลือกเอา เลือกเอง!?

หนูไล่จับแมว

ที่มา ไทยรัฐ

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ฤกษ์ได้ยาม แถลง นโยบายในรอบ 6 เดือน โดยเชิญพรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง 6 พรรค มาช่วยกันแถลงผลงาน

ก่อนหน้านั้น คุณปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ในฐานะโฆษกรัฐบาล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในทำนองว่า เป็น ฤกษ์ที่ไม่ค่อยดี เพราะมีเรื่องเล่าของชาวคริสต์โบราณว่า การเรียงกันของเลข 6 สามตัวคือ 666 หมายถึงรหัสลับของซาตาน

"ผมในฐานะที่เรียนต่างประเทศมานาน 12 ปี ก็เข้าใจวัฒนธรรมฝรั่งในการเชื่อรหัส 666 เพราะถือว่าเป็นรหัสของซาตานที่จะมาครองโลกซึ่งจะต้องช่วยกันกำจัด ดังนั้น การแถลง ผลงานตรงกับเลข 666 เพื่อสะท้อนว่าเราพยายามกำจัดและต่อสู้กับความชั่วร้าย และเราหวังว่าจะชนะเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า"

ผมอยากจะย้ำว่า คุณปณิธานนั้น เป็นนักเรียนนอก อยู่ต่าง ประเทศถึง 12 ปี เช่นกัน นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็นักเรียนนอก เรียนอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งนายกฯอภิสิทธิ์ก็เคยแพลมๆว่าไม่กลัว อะไร เพราะมีพระปราบมาร ออกแนวไสยศาสตร์

อันที่จริงไม่อยากจะวิจารณ์อะไรมาก เพราะจะ 666 หรือจะ วันไหนก็ไม่เกี่ยวกับผลงานรัฐบาล และไม่เกี่ยวกับซาตานที่ไหน อยู่ที่รัฐบาลเองว่าจะทำตัวให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ชาวบ้านพึ่งพา อาศัยได้แค่ไหนมากกว่า ถ้ารัฐบาลบริหารประเทศแล้วชาวบ้านอดอยาก เศรษฐกิจตกต่ำ การเมืองย่ำแย่ ทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง โรคภัยไข้เจ็บ เบียดเบียนเอาชีวิตประชาชนเป็นรายวัน

รัฐบาลเองนั่นแหละที่จะถูกมองว่าเป็นซาตาน

มีผู้ใหญ่หลายท่านเคยวิจารณ์ให้ได้ยินว่า เรากำลังปล่อยให้เด็กไม่กี่คนมาเล่นขายของ อนาคตคนของประเทศอยู่ในกำมือเด็กไม่กี่คน น้ำเสียงไม่ได้มีความอิจฉาริษยา แต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
ผมได้แต่พยักหน้าตาม ไม่อยากวิจารณ์อะไร แล้วก็มีคำถาม มาที่ผมอีกว่า รัฐบาลจะเล่นเกมหนูไล่จับแมวไปทำไม เอะอะก็ไปวกเข้าหาอดีตผู้นำ บริหารงานไม่เป็นโล้เป็นพายก็หาทางโยง ไปถึงอดีตผู้นำ วันดีคืนดีก็กระเหี้ยนกระหือรือจะเอาตัวกลับมาให้ได้

คนก็เลยไม่ลืมอดีตผู้นำซะที

ไม่ต้องไปโทษใครที่ไหน รัฐบาลต้องหัดโทษตัวเองบ้าง ยิ่งออกอาการก็ยิ่งเห็นถึงวุฒิภาวะ ราเกซ สักเสนา ก็ยังไม่เห็นมีวี่แววอะไร คุณสมชาย คุณปลื้ม หรือ คุณวัฒนา อัศวเหม ไม่เห็นนายกฯหรือคนในรัฐบาลพูดถึงซักคำ

ย้ำถึงความไม่มีมาตรฐาน

ไหนๆรัฐบาลก็ทุลักทุเลอยู่กันมาได้ถึง 6 เดือนแล้ว ประเทศไทยก็เสียโอกาสไปถึง 6 เดือนแล้วเช่นกัน และไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ผลงานจริงๆไม่ใช่แค่สร้างภาพสะเปะสะปะ.

หมัดเหล็ก

'เนวิน'กล้าเดิมพันคุก

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_24926

นับถอยหลังอีกไม่ถึง 10 วัน จะได้เวลาระทึก 17 สิงหาคม

และโดยอารมณ์เหมือนตั้งใจให้ประจันหน้า ทางหนึ่งม็อบเสื้อแดงฝ่าแนวต้าน กำหนดยื่นรายชื่อถวายฎีกา เปิดทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับเมืองไทย นัดรวมพลใหญ่ที่ท้องสนามหลวง

แต่อีกทางหนึ่ง ข้ามฝั่งมาที่ศาลฎีกา เครือข่ายพรรคภูมิใจไทย ก็นัดระดมพลคนเสื้อน้ำเงินให้กำลังใจ "เดอะเป็ด" นายเนวิน ชิดชอบ ลุ้นคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตกล้ายาง

2 คิวใหญ่ๆ เดิมพันทิศทางการเมืองไทย

และก็ให้บังเอิญ โดยเงื่อนไขที่วนอยู่กับยี่ห้อ "เนวิน" กลายเป็นพระเอกตามท้องเรื่อง ที่สปอตไลต์ฉายส่องเด่นกว่าใคร

เอาเป็นว่า มาถึงนาทีนี้ถ้าคิดจะหลบ ก็คงไม่ทันแล้ว


เพื่อเป็นการตอกย้ำกันอีกรอบว่า ไม่หนีแน่

ล่าสุดแว่วๆ "เนวิน" ยืนยันกลางวง "จอมยุทธ์เหยียบเมฆ" ลั่นคำต่อหน้าพวกพ้องเซียนเลือกตั้ง มีพยานที่ได้ยินกันชัดๆทั้งนายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ฯลฯ จะไม่หนีคำพิพากษาคดีทุจริตกล้ายางในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ติดเป็นติด พร้อมเดินเข้าคุก

สั่งเพื่อนให้เตรียมข้าวผัดกับโอเลี้ยงไปเยี่ยมได้


และโดยน้ำเสียงไม่ใช่ท้าทาย เช็กทางลึกแล้วมั่นใจว่า "หลุด" แน่ หรือมั่นใจในอานิสงส์กับการออกมาเล่นบทองครักษ์ต่อต้านทัพเสื้อแดง ขวางเกมฎีกาล้างโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

แต่เซียนด้วยกันจับอารมณ์ได้ คิวนี้ "เนวิน" พร้อมรับชะตาจริงๆ

"ผู้ยิ่งใหญ่" ไม่กลัวติดคุก

"ใจนักเลง" บทนี้ "เนวิน" ได้ไปแล้วแน่ๆ


แม้แต่ในอารมณ์ของเซียนการเมืองด้วยกันยังต้องยกให้ มันก็ไม่ต้องพูดถึงกระแสภายนอกจะมองยังไงกับรายการวัดใจ เดิมพันหลังห้องขัง "เนวิน" ประกาศดังๆชีวิตนี้จะไม่หนีไปไหน

เป็นคนไทยต้องพร้อมรับกระบวนการยุติธรรมไทย ก้มหน้ารับคำตัดสินของศาล

งานนี้ "ผู้ร้ายกลับใจ" กลายเป็นพระเอกได้ แค่พลิกเกมนิดเดียว

นี่แหละ แต้มของจอมยุทธ์เขี้ยวลากดิน


โดยการกล้าเปิดเดิมพันวัดใจ "เนวิน" น่าจะคิดทบทวนหลายชั้นแล้ว

กล้าติดคุก สูญเสียอิสรภาพ แต่แลกกับสิ่งที่จะได้คืนมา กับความ "ใจนักเลง" ในหมู่จอมยุทธ์แวดวงนักเลือกตั้ง ภาพของนักการเมืองที่ไม่หนีชะตา กล้าทำกล้ารับผิดในสายตาของผู้คนในสังคม

ยอมล้ม เพื่อกลับมายืนระยะใหม่

ด้วยวัยแค่ 50 ต้นๆ "เนวิน" ยังมีเวลาบนเส้นทางการเมืองอีกยาวไกล


ดีดลูกคิดแล้ว ยังไงก็คุ้ม

และก็เป็นอะไรที่มองข้ามช็อตไปลึกกว่านั้น โดยประวัติศาสตร์

นักการเมืองไทยที่ยอมติดคุก ไม่นานก็ต้องมีกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษ บนพื้นฐานของอดีตผู้แทนราษฎร อดีตรัฐมนตรี ความดีความชอบมันต้องมีอยู่แล้ว

อ้างกันได้ตามประเพณี

และที่พิเศษกว่า กับคิวของ "เนวิน" ที่กล้าเล่นบท "ใจนักเลง" เอาตัวเองเป็นเดิมพันหลังห้องขัง แสดงความเป็นคนไทย ก้มรับกระบวนการยุติธรรมของไทย


มันเป็นอะไรที่เข้าทาง "เกมบีบ" คนไกลที่เมืองดูไบ

โดยบทวัดใจจะกระทบไปถึง "นายใหญ่" ที่กำลังเปิดเกมล้มคดี ปั่นกระแสมวลชน ทวงคืนความเป็นธรรม ท่ามกลางเสียงของฝ่ายคุมอำนาจ กวักมือเรียกกลับมารับโทษก่อน

มันก็เป็นอะไรที่กระตุ้นต่อม "นักเลง" อดีตลูกน้องอย่าง "เนวิน" ที่โดนชะตากรรมพร้อมกัน กล้าเสี่ยงคุกท้าตะราง เปิดเกมย้อนศรวัดใจ "นายใหญ่"


เข้าตาผู้คุมเกมประเทศไทยเต็มๆ.


ทีมข่าวการเมืองรายงาน

ชทพ.แนะรัฐเร่งแก้ไขปัญหาการเมืองคู่ ศก.-รธน.

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_24960

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

"วัชระ" ให้คะแนน รบ.แค่คาบเส้น เตือนอาจเจอวิกฤติ ขรก.เกียร์ว่างแนะ "มาร์ค" ต้องถอยอย่าคิดล้วงลูกปัญหา ผบ.ตร. ดักคอเสื้อแดงให้รักษาสัจจะไม่ป่วนอีก ...

วานนี้ (7ส.ค.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแถลงผลงานของนายกรัฐมนตรีว่า ฐานะพรรคร่วมรัฐบาลชื่นชมผลงานของรัฐบาลโดยรวม แต่อยากให้มีมิติของการประเมินเป็น 2 ส่วน คือ ในแง่การทำงานของรัฐบาลทำงานมากทั้งเศรษฐกิจ สังคม ที่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จ แต่อีกมิติหนึ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนายังเป็นห่วง เพราะยังไม่ได้รับฟังจากนายกรัฐมนตรีมากถึง การแก้ปัญหาในเชิงการเมือง เนื่องจากเป็นช่วงที่วิกฤติที่สุดตั้งแต่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยกว่า 50 ปี ที่มีปัญหาเชิงการเมืองเรื่องความปรองดอง ซึ่งพรรคคิดว่าในมิตินี้รัฐบาลได้คะแนน 5 จาก 10 ซึ่งเป็นการให้คะแนนในฐานะพรรคร่วมแล้ว เพราะยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าปัญหาวิกฤติการเมืองของไทยได้รับการแก้ไขอย่าง เป็นรูปธรรม ยังมีความแตกแยกระหว่างผู้ต้องการถวายฎีกา และผู้คัดค้าน

โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวต่อว่า ในช่วง 6 เดือนต่อไปนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาอยากเห็นนายกรัฐมนตรีเร่งแก้ไขปัญหาทางการเมือง ควบคู่ไปกับปัญหาเศรษฐกิจ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ในประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังเห็นชัดว่าคนไทยจำนวนมากยังรอการกลับมา ประชาชน ข้าราชการประจำบางส่วนรอและไม่ทำอะไร ซึ่งลักษณะเกียร์ว่างอาจจะกลับมาได้ จึงขอเรียกร้องให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถกุม สภาพทางการเมืองได้อย่างเบ็ดเสร็จ ให้คนไทยเกินไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ นายวัชระ กล่าวอีกว่า เห็นด้วยกับนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ออกมาแนะประเด็นของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.นั้น นายกรัฐมนตรีควรปล่อยให้คนอื่นทำ เพราะคงไม่อยากเห็นภาพการล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำ โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพ เพราะขนาดในส่วนของตำรวจยังมีปัญหา หากเกิดในจุดอื่น นายกรัฐมนตรีจะไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ และขอให้ใช้เครื่องมือตัวอื่น หรือคนอื่น ไม่ควรเปลืองตัวไปดูแลในทุกเรื่อง

"ท่านต้องระมัดระวัง เพราะถ้าการเมืองนิ่ง รัฐบาลก็นิ่ง ขอให้ใช้หลักธรรมาภิบาล และใช้มาตรฐานการดูแล ดักกรองเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นโดยไม่เลือกปฏิบัติกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ท่านกำลังเล่นกับไฟ ถอยมาเถอะ ให้ตัวขุนตัวอื่นไป ไม่ใช่นายกฯ ลงไปลุยกับ ผบ.ตร.เอง ถ้าท่านมาชน ท่านก็เสียรังวัดเอง ซึ่งเราเป็นห่วง และงานนี้เราประเมินไม่ถูกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และพี่ชายของพล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.จะแฮปปี้หรือไม่" นายวัชระ กล่าว

โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวด้วยว่า การเคลื่อนไหวของคนกลุ่มเสื้อแดงในการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขณะนี้ทั้งกลุ่มที่จะถวายฎีกาและคัดค้าน ก็ได้แต่พูดตัวเลขคนกลุ่มของตัวเอง อย่างไรก็ตามกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาประกาศว่าหากได้ถวายฎีกาในวันที่ 20 ส.ค.ไปแล้ว ก็จะหยุดเคลื่อนไหวดำเนินการทันที ตนก็อยากให้รักษาคำพูดตรงนั้นจริงๆ และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอน

‘ข่าวอิศรา’ รายงาน : สถิติไฟใต้ครึ่งปี 52 เหตุร้ายพุ่ง 447 ครั้ง ตาย 230 เจ็บ 424

ที่มา ประชาไท

ปี พ.ศ.2552 ล่วงเลยผ่านครึ่งทางมาแล้ว สถานการณ์ไฟใต้ดีขึ้นจริงตามที่ฝ่ายความมั่นคงโฆษณา หรือย่ำแย่ลงตามความรู้สึกของใครหลายๆ คนกันแน่ "ทีมข่าวอิศรา" ขอสรุปสถิติความรุนแรงทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2552 มานำเสนอ

จากการรวบรวมของ "อิศรา" พบว่า ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นทั้งหมด 447 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 230 ราย บาดเจ็บ 424 ราย แยกตามรายเดือนได้ดังนี้

มกราคม 67 เหตุการณ์ ผู้เสียชีวิต 33 ราย บาดเจ็บ 75 ราย
กุมภาพันธ์ 75 เหตุการณ์ ผู้เสียชีวิต 38 ราย บาดเจ็บ 64 ราย
มีนาคม 74 เหตุการณ์ ผู้เสียชีวิต 45 ราย บาดเจ็บ 42 ราย
เมษายน 89 เหตุการณ์ ผู้เสียชีวิต 29 ราย บาดเจ็บ 71 ราย
พฤษภาคม 65 เหตุการณ์ ผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 38 ราย
มิถุนายน 77 เหตุการณ์ ผู้เสียชีวิต 59 ราย บาดเจ็บ 135 ราย
ปัตตานีหนักสุด-เบตงไร้เหตุรุนแรง
หากจำแนกเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นตามพื้นที่ รายจังหวัดและอำเภอ สามารถจำแนกได้ดังนี้
จังหวัดปัตตานี มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น 164 เหตุการณ์ แยกเป็น อำเภอเมืองปัตตานี 30 เหตุการณ์ อำเภอโคกโพธิ์ 7 เหตุการณ์ อำเภอยะรัง 30 เหตุการณ์ อำเภอยะหริ่ง 6 เหตุการณ์ อำเภอสายบุรี 29 เหตุการณ์ อำเภอมายอ 7 เหตุการณ์ อำเภอหนองจิก 29 เหตุการณ์ อำเภอปะนาเระ 5 เหตุการณ์ อำเภอไม้แก่น 3 เหตุการณ์ อำเภอทุ่งยางแดง 7 เหตุการณ์ อำเภอกะพ้อ 7 เหตุการณ์ อำเภอแม่ลาน 3 เหตุการณ์
จังหวัดยะลา มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น 140 เหตุการณ์ แยกเป็น อำเภอเมืองยะลา 42 เหตุการณ์ อำเภอยะหา 13 เหตุการณ์ อำเภอรามัน 20 เหตุการณ์ อำเภอบันนังสตา 37 เหตุการณ์ อำเภอกรงปินัง 14 เหตุการณ์ อำเภอธารโต 10 เหตุการณ์ อำเภอกาบัง 4 เหตุการณ์ ส่วนอำเภอเบตงไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นเลย
จังหวัดนราธิวาส มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น 141 เหตุการณ์ แยกเป็น อำเภอเมืองนราธิวาส 9 เหตุการณ์ อำเภอบาเจาะ 19 เหตุการณ์ อำเภอระแงะ 22 เหตุการณ์ อำเภอยี่งอ 4 เหตุการณ์ อำเภอตากใบ 12 เหตุการณ์ อำเภอสุไหงปาดี 10 เหตุการณ์ อำเภอสุไหงโก-ลก 5 เหตุการณ์ อำเภอแว้ง 4 เหตุการณ์ อำเภอสุคิริน 1 เหตุการณ์ อำเภอศรีสาคร 12 เหตุการณ์ อำเภอเจาะไอร้อง 12 เหตุการณ์ อำเภอรือเสาะ 25 เหตุการณ์ อำเภอจะแนะ 6 เหตุการณ์
จังหวัดสงขลา เฉพาะ 4 อำเภอรอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ ในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อยทั้งสองเหตุการณ์ ส่วนอำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอนาทวี ไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ
ยิงรายวันยังครองแชมป์-ระเบิด 113 ตูม
สถิติเหตุการณ์ความไม่สงบ ยังสามารถแบ่งตามประเภทของเหตุการณ์และจังหวัดที่เกิดเหตุได้ดังนี้
ยิงรายวัน 301 เหตุการณ์ แยกเป็น ปัตตานี 124 เหตุการณ์ ยะลา 92 เหตุการณ์ นราธิวาส 82 เหตุการณ์ สงขลา 1 เหตุการณ์
วางเพลิง 34 เหตุการณ์ แยกเป็น ปัตตานี 13 เหตุการณ์ ยะลา 10 เหตุการณ์ นราธิวาส 11 เหตุการณ์
วางระเบิด 113 เหตุการณ์ แยกเป็น ปัตตานี 26 เหตุการณ์ ยะลา 37 เหตุการณ์ นราธิวาส 49 เหตุการณ์ และสงขลา 1 เหตุการณ์
เหยื่อความรุนแรงกระจายทั้งสามจังหวัด
ทางด้านเหยื่อความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบ ทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในแต่ละจังหวัด สามารถจำแนกตามกลุ่ม คือ เจ้าหน้าที่รัฐ (ฝ่ายความมั่นคง) ประชาชน (รวมทุกศาสนา) และผู้ก่อความไม่สงบ ได้ดังนี้
ปัตตานี มีเหยื่อความรุนแรงทั้งหมด 201 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 41 ราย ประชาชนเสียชีวิต 75 ราย บาดเจ็บ 63 ราย ผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย
ยะลา มีเหยื่อความรุนแรงทั้งหมด 210 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 57 ราย ประชาชนเสียชีวิต 58 ราย บาดเจ็บ 78 ราย ผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 9 ราย
นราธิวาส มีเหยื่อความรุนแรงทั้งหมด 241 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 66 ราย ประชาชนเสียชีวิต 47 ราย บาดเจ็บ 118 ราย ผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 8 ราย
สงขลา ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนตกเป็นเหยื่อความรุนแรง แต่มีผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 2 ราย
มิ.ย.เจ็บตายสูงสุด-ยอดผู้เสียชีวิต 5 ปีครึ่ง 3,635 ศพ
ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เดือนที่สถานการณ์ความรุนแรงดูเหมือนกลับมาปะทุขึ้นอีกรอบทางความรู้สึก คือเดือนมิถุนายน แม้ว่าตัวเลขของจำนวนเหตุการณ์จะสูงกว่ารอบเดือนพฤษภาคมเพียงเล็กน้อย แต่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเดือนมิถุนาฯนับว่าสูงที่สุดในรอบครึ่งปี คือ 194 ราย แยกเป็นเสียชีวิต 59 ราย บาดเจ็บ 135 ราย
หากรวมยอดผู้เสียชีวิตตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 จนถึงปัจจุบัน จะพบว่ามียอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3,635 ราย!
สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนมี 77 เหตุการณ์ แยกตามพื้นที่ในระดับอำเภอและจังหวัดได้ดังนี้
ปัตตานี 22 เหตุการณ์ แยกเป็นอำเภอสายบุรี 7 เหตุการณ์ อำเภอหนองจิก 5 เหตุการณ์ อำเภอเมือง 4 เหตุการณ์ อำเภอยะรัง 3 เหตุการณ์ อำเภอแม่ลาน อำเภอไม้แก่น และอำเภอโคกโพธิ์ อำเภอละ 1 เหตุการณ์
ยะลา 27 เหตุการณ์ แยกเป็นอำเภอบันนังสตา 9 เหตุการณ์ อำเภอรามัน 5 เหตุการณ์ อำเภอเมือง 4 เหตุการณ์ อำเภอธารโตและอำเภอกรงปินัง อำเภอละ 3 เหตุการณ์ อำเภอยะหา 2 เหตุการณ์ อำเภอกาบัง 1 เหตุการณ์
นราธิวาส 28 เหตุการณ์ แยกเป็นอำเภอรือเสาะ 5 เหตุการณ์ อำเภอระแงะและอำเภอบาเจาะ อำเภอละ 4 เหตุการณ์ อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอตากใบ อำเภอละ 3 เหตุการณ์ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอศรีสาคร และอำเภอยี่งอ อำเภอละ 2 เหตุการณ์ อำเภอเมือง อำเภอสุคีริน และจะแนะ อำเภอละ 1 เหตุการณ์
หากแบ่งตามลักษณะเหตุการณ์และพื้นที่เกิดเหตุ สามารถแบ่งได้ดังนี้
ยิงรายวัน 54 เหตุการณ์ แยกเป็นปัตตานี 15 เหตุการณ์ ยะลา 20 เหตุการณ์ นราธิวาส 19 เหตุการณ์
วางระเบิด 18 เหตุการณ์ แยกเป็นปัตตานี 5 เหตุการณ์ ยะลา 5 เหตุการณ์ นราธิวาส 8 เหตุการณ์
วางเพลิง 5 เหตุการณ์ แยกเป็นปัตตานี 2 เหตุการณ์ ยะลา 2 เหตุการณ์ นราธิวาส 1 เหตุการณ์
ด้านเหยื่อความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งสิ้น 194 รายนั้น แบ่งเป็นเสียชีวิต 59 ราย บาดเจ็บ 135 ราย สามารถแยกตามจังหวัด กลุ่ม และอาการของเหยื่อความรุนแรงได้ดังนี้
ปัตตานี 23 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 5 ราย ประชาชนเสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 7 ราย
ยะลา 60 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 7 ราย ประชาชนเสียชีวิต 16 ราย บาดเจ็บ 29 ราย ผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 6 ราย
นราธิวาส 111 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 16 ราย ประชาชนเสียชีวิต 23 ราย บาดเจ็บ 71 ราย
........................................................

แม่นไหมไม่ทราบ ประจำวันที่ 8-14 สิงหาคม 2552

ที่มา ประชาไท


พี่โด้กำลังผ่อนคลาย


น้องอองก็อยากมาแจมด้วยไง


อ้าว...พูดกันดีๆ ก็ได้นินา


ชักมีน้ำโหแล้วนะ
!


อยากเล่นจริงๆ เหรอ


ได้เลย
!


ดูซิ ใคร (ตัว) ใหญ่


ยอมหรือยังล่ะพี่โด้


ยืดเส้นยืดสายเสียหน่อย


พี่โด้ๆ อย่างอนเลยนะ ดีกันเถอะ น้องอองล้อเล่นเฉยๆ น้า

(พี่โด้ละเซ็งเด็กนี่จริงๆ)


ราศีเมษ
Aries (13 เมย.-13 พค.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ King of Cups อารมณ์ ความสุข ความปรารถนาในเรื่องรัก มักเป็นจุดเด่นของไพ่ใบนี้ค่ะ และยังแสดงถึงคนที่เข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจ สร้างความหวั่นไหว เป็นผู้เชี่ยวชาญเกมรัก มีประสบการณ์มาก่อน
ความรัก ความสัมพันธ์ Page of Cups ข่าวคราว, การเริ่มต้น, สิ่งที่ก่อเกิดขึ้นทีละเล็กน้อยในความรู้สึกนึกคิด คุณอาจกำลังตกหลุมรักไม่รู้ตัว หรือคิดถึงการคืนดี การพบคนต่างวัยที่น่ารักจริงๆ
สถานการณ์การเงิน Seven of Cups หลายครั้งไพ่ใบนี้เตือนคุณถึงการจับจ่ายใช้สอยที่ "มาก" เกินไป หรือใช้เงินกับเรื่องไม่จำเป็นต่างๆ มีความหวังกับอนาคตทางการเงินแต่อยู่บนพื้นฐานความจริงน่าจะดีที่สุด
ธุรกิจ การงาน Four of Cups อาจมีข้อเสนอเข้ามาให้เลือกหรือตัดสินใจ บอกยากว่าข้อสรุปจะเป็นอย่างไร ประเด็นสำคัญคือการเปรียบเทียบที่ยังไม่พึงพอใจ ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการหรือยอมรับได้ทั้งหมด
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น Three of Cups ความสนุกสนานแค่ชั่วครั้งคราว คนที่อยู่เพียงลำพังไม่ได้

คำแนะนำพิเศษ Two of Cups สิ่งที่พึงมอบแก่กันคือความรักและความเข้าใจ แต่ที่สำคัญกว่านั้นอาจเป็นความละเอียดอ่อนต่ออารมณ์อีกฝ่าย

ราศีพฤษภ Taurus (14 พค.-13 มิย.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Four of Wands หากมีการเริ่มต้นการงานหรือธุรกิจ หวังได้ถึงความยั่งยืน คุณอาจพบหุ้นส่วนหรือเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันสอดคล้อง มองไปข้างหน้าด้วยความหวังที่ดี
ความรัก ความสัมพันธ์ Seven of Pentacles มีหลายอย่างที่คุณกับคนรักสั่งสมร่วมกันมา อาจเป็นประสบการณ์ทั้งวันร้ายและดี สิ่งเหล่านั้นเองคือรากฐานแข็งแรงที่จะนำคุณไปสู่อนาคตร่วมกัน
สถานการณ์การเงิน Six of Pentacles การขอความช่วยเหลือใดๆ จะประสบความสำเร็จ มีผู้เข้ามาช่วยปัดเป่าปัญหา การกู้ยืม ขอเครดิตผ่านราบรื่นค่ะ
ธุรกิจ การงาน The Moon จะมีช่วงที่คุณเหน็ดเหนื่อยแกมกังวล มองทางข้างหน้าไม่ชัดเจน เกิดความหวาดระแวงต่อเพื่อนร่วมงาน หรือรู้สึกตกในสถานการณ์อึมครึมอย่างมาก
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น Wheel of Fortune ชีวิตมีขึ้นมีลง แต่โปรดระวังขาลงที่ทุรกันดาร

คำแนะนำพิเศษ Five of Wands คุณอาจหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งในหมู่เพื่อนร่วมงานไม่ได้ หรือจับพลัดจับผลูเข้าร่วมในวงเวียนสับสนนั้นด้วย

ราศีเมถุน Gemini (14 มิย.-14 กค.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Queen of Wands การทำงานอย่างมืออาชีพ ได้รับมอบหมายงานสำคัญ ได้เกียรติยศชื่อเสียง หรือเป็นผู้วางนโยบายแก่คนอื่นๆ ในระดับลูกจ้างพนักงานองค์กร จะถูกจับตามองในความสามารถ
ความรัก ความสัมพันธ์ The High Priestess อาจมีความสัมพันธ์ที่เปราะบางและซ่อนเร้นในที มีความลับเต็มไปหมดที่นั่นที่นี่ แถมบางทีก็ยากจะบอกได้ใครกันแน่ที่แบ่งใจ
สถานการณ์การเงิน The Fool ถือว่ามีโอกาสในการเสี่ยงโชค การได้รับประโยชน์จากสิ่งหวือหวาน่าตื่นเต้น แต่อย่าชะล่าใจกับภาพสวยหรูที่เพิ่งมองเห็น อาจมีค่าใช้จ่ายกับบุตรหลานบริวารด้วยค่ะ
ธุรกิจ การงาน Nine of Cups มักมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้า เจ้านาย หรือผู้บริหารระดับสูง มีค่าตอบแทนที่ดี ทำงานด้วยความหวังถึงผลประโยชน์ในระยะยาว
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น Queen of Cups แม้จะเหมือนมีทุกอย่างเพียบพร้อม แต่ลึกๆ ในใจกลับไม่มีความสุขมากพอ

คำแนะนำพิเศษ Knight of Cups ใช้ความรักในการขับเคลื่อนชีวิต ฟังเหมือนคำพูดโรแมนติคดาดๆ แต่คิดให้ดี อะไรเล่าที่จะเติมเต็มคุณได้มากกว่าไป "รัก"



ราศีกรกฎ
Cancer (15 กค.-16 สค.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Death การสิ้นสุดหรือจบลงของบางเรื่องราว อาจเป็นเพียงความรู้สึกภายใน หรือสถานการณ์ที่จำต้องยอมรับเงื่อนไขนั้นๆ ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากหากคุณจะฝ่าความมืดไปให้ได้
ความรัก ความสัมพันธ์ Nine of Swords ระวังช่วงจิตตก ฟุ้งซ่าน เป็นกังวลแม้กับสิ่งที่ไม่ได้มีอิทธิพลต่อคุณอย่างแท้จริง เป็นช่วงที่ปัญหาระหว่างคู่รักเกิดขึ้นง่ายมาก
สถานการณ์การเงิน Three of Swords มีความขัดอกขัดใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น สถานการณ์อาจไม่มีอะไรมาก แต่เป็นเรื่องอารมณ์เสียมากกว่า อย่างไรก็ตามระวังการเสียเงินเพราะความใจร้อนด่วนได้ด้วย
ธุรกิจ การงาน Strength ข่าวดีคือคุณเป็นคนเก่ง จัดการสิ่งต่างๆ ลุล่วงได้ด้วยดี มีพลังในตัวเอง แต่ข่าวร้ายอาจเป็นการพบอุปสรรคหรือคู่ต่อสู้แข่งขันที่มีกำลังเสมอกัน กินกันไม่ลง
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น Eight of Wands งานไม่รู้จักเสร็จเสียที งานเก่ายังไม่หมดไป งานใหม่ก็งอกมาอีกแล้ว

คำแนะนำพิเศษ Justice ยังเหมือนในสัปดาห์ก่อน คุณจะได้รับความยุติธรรมทุกอย่าง หากต้องเกี่ยวข้องกับรัฐ ราชการ เอกสารสำคัญต่างๆ ผลลัพธ์จะเป็นไปตามความเที่ยงธรรม

ราศีสิงห์ Leo (17 สค.-16 กย.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ The Devil การงานที่ลากยาว พันธนาการติดค้าง การเข้าไปพัวพันกับเล่ห์กะเท่ของมนุษย์ หรืออาจเป็นตัวคุณเองที่อยู่ในช่วงโลภโกรธหลงเกินห้ามใจ
ความรัก ความสัมพันธ์ Page of Wands ความสัมพันธ์มักนำคุณไปสู่การงานใหม่ๆ หรือได้พบคนที่จุดประกายความคิดต่อกันและกัน บางคนแอบรักเพื่อนร่วมงานสุดจะห้ามใจ
สถานการณ์การเงิน The Sun เจิดจ้าอย่างยิ่ง การเงินสดใส ลู่ทางแจ่มชัด มีโอกาสได้เงินก้อนโต ได้ค่าตอบแทนงามๆ มีความเบิกบานอย่างมาก
ธุรกิจ การงาน The Tower ระวังเรื่องพลิกผันที่เกิดขึ้นกะทันหัน มีสิ่งทำให้คุณตกอกตกใจหรือเปลี่ยนความคิดความเชื่อ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานอาจเปลี่ยนแปลง หรือค้นพบเรื่องน่าตะลึง แต่ไม่ได้หมายถึงผลลัพธ์ในแง่ร้ายเสมอไป
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น The Emperor การเมืองในสำนักงาน ความสัมพันธ์กับผู้อยู่ในตำแหน่งสูง ผู้มีอำนาจ

คำแนะนำพิเศษ Page of Swords มั่นคงไว้ท่ามกลางกระแสลมพัดแรงจัด หยัดยืนในจุดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

ราศีกันย์ Virgo (17 กย.-16 ตค.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ The Magician โอกาสดีสำหรับความคิดสร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันแต่นำคุณไปสู่ลู่ทางแจ่มใส หากทำธุรกิจ ทำมาค้าขาย การเดินทางต่างๆ ราบรื่นอย่างมาก
ความรัก ความสัมพันธ์ The Hanged Man อาจมีเรื่องที่หมักหมมคาใจ หรือแสวงหาวิธีปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ แต่ก็ยังคลุมเครือและคาราคาซัง อาจต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมเสียสละ
สถานการณ์การเงิน Queen of Swords ค่อนข้างหนักทีเดียวในรอบสัปดาห์นี้ ระวังค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่หรือการจำใจจ่ายในสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ธุรกิจ การงาน Ten of Wands ยังเหมือนในสัปดาห์ก่อน งานหนัก งานมาก มีภาระความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น มีเป้าหมายยาวไกลที่ต้องไปให้ถึง ต้องใช้ความอดทนอย่างหนักในช่วงนี้
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น King of Swords ปัญหากับคนแข็งแกร่ง ก้าวร้าว หรือสถานการณ์ที่ต้องใช้ความเด็ดเดี่ยวอย่างถึงที่สุด

คำแนะนำพิเศษ Nine of Wands อดทนไปก่อนในเวลาที่ยังไม่มีจังหวะขยับขยาย หากต้องการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงใดๆ รออีกสักระยะค่ะ

ราศีตุลย์ Libra (17 ตค.-15 พย.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Three of Wands การมองไปข้างหน้าด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลกว่าเดิม การงานหรือธุรกิจที่เริ่มต้นได้ดีแล้วระดับหนึ่ง แต่ยังต้องก้าวต่อไป อาจได้หุ้นส่วนหรือเพื่อนร่วมงานใหม่เข้ามาเสริมทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ความรัก ความสัมพันธ์ The Chariot ต่างฝ่ายอาจอยู่ในช่วงฝ่าฟันปัญหาหนักๆ มีเป้าหมายปลายทางที่ต่างต้องมุ่งไป สำคัญคือการให้กำลังใจ การสนับสนุนกันและกัน การทำให้แต่ละคนยังอยู่ในลู่ทางของตัวเอง
สถานการณ์การเงิน The Empress คนรักหรือคู่ครองจะให้การสนับสนุนกันอย่างมาก บางคนถือว่าได้ลาภได้ทรัพย์จากคนรัก คนในครอบครัว และยังเป็นช่วงเก็บเกี่ยวพืชผลที่เคยลงแรงไว้ ได้ค่าตอบแทนงามๆ จากสิ่งที่รอมานาน
ธุรกิจ การงาน Two of Pentacles มีปัญหาให้ต้องจัดการอย่างพลิกแพลงตลอดเวลา สำคัญคือการหมุนเงิน การจัดสรรเวลา การหาเทคนิคเอาตัวรอดไปทีละวันด้วยซ้ำ
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น The Hierophant การถืออาวุโส การยึดมั่นถือมั่น การครอบงำคนอื่นด้วยประสบการณ์หรือความรู้เฉพาะตัว ทั้งที่หลงยุคไปนานแล้ว

คำแนะนำพิเศษ Page of Pentacles ข่าวดีด้านการเงินกำลังจะมาถึง

ราศีพิจิก Scorpio (16 พย.-15 ธค.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Ace of Pentacles การเริ่มต้นใหม่ทางการเงิน เงินก้อนใหม่ๆ โอกาสทางธุรกิจที่เริ่มตันอย่างสวยงาม หากต้องการเงินทุนใดๆ จะราบรื่น
ความรัก ความสัมพันธ์ King of Pentacles การจัดสรรเป็นความหมายอย่างหนึ่งของไพ่ใบนี้ คือการบริหารสิ่งมีค่าที่คุณถืออยู่ อาจหมายถึงความรัก ความสัมพันธ์ หรือการเงินระหว่างคู่รักคู่สมรสก็ได้ แต่ที่แน่ๆ มักแสดงถึงคนที่ดวงสมพงศ์กัน ทำมาค้าขึ้น เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ
สถานการณ์การเงิน Nine of Pentacles จะได้รับเงินจากความเหน็ดเหนื่อยช่วงที่ผ่านมา เป็นไพ่ทางการเงินที่ดีมากใบหนึ่ง แสดงถึงฐานที่มั่นคง ความมั่งคั่งที่หวังได้
ธุรกิจ การงาน Queen of Pentacles ท่าทางคุณจะเฮงน่าดูในรอบสัปดาห์นี้ การงานจะนำค่าตอบแทนหรือโชคลาภทางการเงินมาให้ อาจได้จับเงินก้อนโต หรือบริหารเงินอย่างมืออาชีพ
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น Ten of Pentacles การเงินภายในครอบครัว ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคคลอันเป็นที่รัก

คำแนะนำพิเศษ Eight of Pentacles ภาษาบ้านๆ คือ น้ำขึ้นให้รีบตัก พัฒนาทักษะคุณไว้ มีสิ่งที่ทำแล้วเจริญก้าวหน้า ได้ลาภได้ทรัพย์ อยากรับมากกว่านี้ก็ขยันไว้

ราศีธนู Sagittarius (16 ธค.-13 มค.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Six of Swords ปัญหาใดๆ ที่เคยคาราคาซังมาก่อนหน้านี้ จะคลี่คลายออกไปในไม่ช้า แต่สิ่งใดเพิ่งเริ่มต้นดูไปอีกยาว มีโอกาสเลื่อนชะลอกันต่อไป
ความรัก ความสัมพันธ์ Six of Wands คุณอาจมีความหวังหรือความฝันกับปลายทางที่สวยงาม แต่ตัวคุณเองมีวินัยพอหรือเปล่า กับคนรักคู่ครอง มีเป้าหมายเดียวกันมั้ย?
สถานการณ์การเงิน Five of Pentacles ระวังให้มาก คุณอาจเงินขาดมือ หมุนไม่ทัน หรือเจอกับปัญหาค่าใช้จ่ายจุกจิกแต่รวมแล้วก็ก้อนโตไม่น้อย
ธุรกิจ การงาน The Lovers อาจมีจุดสำคัญในชีวิต ทางเลือกที่ต้องการการตัดสินใจ อาจได้รับข้อเสนอ หรือตอบรับการสมัครงาน มีคนเสนอเงื่อนไขน่าสนใจ แต่คุณพร้อมจะเลือกหรือเปล่าล่ะ
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น The Star ความหวังลมๆ แล้งๆ ความสุขสงบที่หาไม่ได้ภายในใจ แท้แต่เพื่อนดีๆ สักคน ก็ยัง (รู้สึก) ว่าหาไม่ได้

คำแนะนำพิเศษ The Hermit เมื่อคุณต้องการค้นหาเส้นทางของตัวเอง เริ่มด้วยความปลอดโปร่งแจ่มใส น่าจะดีกว่าความหมกมุ่นกดดัน อย่างน้อยในเวลาที่สันโดษไม่ได้แปลว่าเหงา


ราศีมังกร
Capricorn (14 มค.-12 กพ.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ King of Wands การทำงานกับคนเก่ง ได้รับมอบหมายงานสำคัญ มีส่วนร่วมในการวางแผนหรือกำหนดนโยบายต่างๆ บางคนได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
ความรัก ความสัมพันธ์ Ten of Swords ยังมีเรื่องทุกข์ มีปัญหา หรืออาจมีคนหมู่มากเข้ามามีส่วนร่วมทับซ้อนเข้าไปอีกในปัญหาระหว่างกัน เป็นช่วงที่ชีวิตส่วนตัวก็อาจวุ่นวายอยู่แล้วด้วย ความสัมพันธ์มีจุดเปราะบางง่าย
สถานการณ์การเงิน Judgement ได้หรือเสีย ทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่คุณเองพอจะรู้อยู่เลาๆ ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงอนาคตไม่ให้ผิดพลาดอย่างที่ผ่านมา จำต้องเงี่ยหูฟัง "คำประกาศ" บางอย่างให้ดี
ธุรกิจ การงาน Seven of Wands แก้ปัญหาหน้างานไปเถอะค่ะ สั้นๆ แค่นี้ล่ะ ไม่มีใครไม่เจออุปสรรคในชีวิตนี้ อย่าเจ็บไข้ได้ป่วยอาจจะดีพอแล้ว
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น Two of Wands ไม่มีความไว้วางใจใครอย่างแท้จริง ไม่มีเพื่อนร่วมงานหรือหุ้นส่วนคนไหนช่วยเหลือคุณได้

คำแนะนำพิเศษ Knight of Wands กระตือรือร้นได้ แต่อย่างเร่งรัดจนพลาดไปเพราะความพร้อมจริงๆ ไม่มี



ราศีกุมภ์
Aquarius (13 กพ.-13 มีค.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Ace of Wands งานใหม่ การเริ่มต้นของความคิดดีๆ โอกาสทางธุรกิจ การร่วมงานหรือได้ความคิดมาต่อยอดสร้างสรรค์ต่อไปอีก
ความรัก ความสัมพันธ์ Four of Cups อาจมีความมั่นคงเกินไปจนกลายเป็นซ้ำซากจำเจ หรือส่วนลึกคุณเองหวาดระแวง มีความไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ หลายครั้งจึงเหมือนคนตกลงใจไม่ได้ ไม่ก้าวหน้าแต่ก็ไม่ถอยหนี อยู่กับที่อย่างมึนๆ
สถานการณ์การเงิน Eight of Cups อาจจำตัดหนี้สูญ หรือตัดใจจากเงินบางก้อน มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทาง การแก้ปัญหาความสะดวกสบายในชีวิต
ธุรกิจ การงาน Temperance การเดินทางสายกลางดีที่สุดในเวลานี้ หมายถึงการประนีประนอม การยอมรับต่อความเปลี่ยนแปลง ยืดหยุ่นปรับตัวไปตามสภาพ "ยอมรับ" เท่าที่จะ "ได้"
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น The World พยายามยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นแต่ไม่สำเร็จ

คำแนะนำพิเศษ Ten of Cups ตระหนักให้มากถึงความหมายของครอบครัว คนที่คุณรัก แต่ไม่จำเป็นต้องหมายถึง "แฟน" เท่านั้น

ราศีมีน Pisces (14 มี ค.-12 เมย.)

เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Five of Cups ความผิดหวัง ความเสียใจ ความรู้สึกเหมือนตัวเองได้อะไรมาแค่ครึ่งๆ กลางๆ มีความสุขก็ไม่เต็ม 100 ว่าอย่างนั้นเถอะ
ความรัก ความสัมพันธ์ Knight of Swords อาจมีปัญหาเอาชนะคะคานกันอยู่เรื่อยๆ ศึกนอกยังไม่มากพอหรือไง ศึกในถึงเกิดได้อยู่ทุกวี่วัน :-) ความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นค่ะ
สถานการณ์การเงิน Three of Pentacles มีรายได้พิเศษ หรือได้เงินจากงานที่ทำระยะสั้น โครงการชั่วคราว เพื่อนฝูงนำลาภผลมาให้
ธุรกิจ การงาน Knight of Pentacles หวังได้ถึงความมั่งคั่งรุ่งเรืองจากงานของคุณ (หากคุณต้องการน่ะนะ) อาจเกี่ยวข้องกับงานที่มีมูลค่าสูง ธุรกิจขนาดใหญ่ สัมพันธ์กับผู้บริหาร นักการเงินที่เก่งกาจ
คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น Ace of Cups การเริ่มต้นที่ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก

คำแนะนำพิเศษ Two of Swords ระวังปัญหาจากการสื่อสาร คนที่พยายามปกป้องตัวเอง พูดไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่ยอมเลิกลาง่ายๆ