ที่มา uddred
กรุงเทพธุรกิจ 26 พฤษภาคม 2555 >>>
"ยิ่งลักษณ์"เผย"เพื่อไทย"หารือนำร่างพรบ.ปรองดองเข้าสภาฯเพื่อพิจารณา ย้ำ ไม่ได้ทำเพื่อคนคนเดียว
นาง
สาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
กล่าวก่อนนำคณะเดินทางเยือนเครือรัฐออสเตรเลียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่
26-29 พฤษภาคม 2555 กรณีการนำร่างพรบ.ปรองดองแห่งชาติ
เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 30
พฤษภาคมนี้ว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมืองซึ่งพรรคเพื่อไทยยังไม่มีมติ
และรัฐบาลมีภารกิจที่ต้องเร่งบริหารประเทศแต่อะไรที่จะทำให้เกิดแนวทาง
ปรองดองก็จะเดินหน้าต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการต่างๆต้องขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนที่จะร่วมกันตัดสินใจ
พร้อม
กันนี้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกระแสวิพากวิจารณ์ในการเร่งผลักดันพรบ.ปรองดองเข้า
สู่สภาฯเป็นความพยายามในการนิรโทษกรรมให้พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร
ว่าต้องดูที่เนื้อหาที่สำคัญทุกคนต้องดูหลักการว่า
อะไรที่เป็นประโยชน์กับภาพรวมซึ่งทุกคนย่อมเห็นด้วย
แต่การทำเพื่อคนคนเดียวคงไม่มีใครร่วมทำงานด้วย
ซึ่งทุกอย่างต้องอยู่ที่กลไกของสภาฯ
ขณะที่
ท่าทีของพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการพูดคุย
แต่เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศอยากเห็นความปรองดองความสามัคคีเกิดขึ้นแต่ขอให้
เป็นการพูดคุยโดยสงบซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่าย
หนึ่ง
As Thailand comes to a full two-year cycle of the bloody crackdown of
pro-democracy protesters by armed security forces on the fateful day of
May 19, 2010, all Thais who are imbued with the spirit of democracy and
justice, Red Shirts and non-Red Shirts alike, came together to
commemorate the tragic event at the Rajprasong Intersection on Saturday,
May 19, 2012. This was not the occasion for rejoice or revelry. But
it is the occasion to reflect on the brutal crackdown ordered by the
Abhisit government which had no legitimacy whatsoever to cling on to
power. Two years have passed, but the same group of people still
entertains no shame or decency when it categorically denies or even
justifies the cold-blooded murder of at least 91 innocent civilians
whose only demand was a reinstatement of a democratic regime supported
by the majority of the Thai people. This people have made a mockery of
democracy and the constitution which, ironically, was crafted to suit
its own existence. Backed by the military and fascist zealots, the
regime in power at that time had indulged in murderous violence and
cold-blooded impartially in the choice of victims. This tyrannical
trio, consisting of some elements of old-guard politicians, military,
and elitists had no scruples in callously slaughtering innocent
civilians in order to maintain a backward regimented society where the
Thai people who were not deemed to be their own creed were brutally
subjugated and gunned down with impunity.
การเซ็นเซอร์จากรัฐแม้จะน่ากลัวก็ยังน่ากลัวน้อยกว่าการที่สื่อจงใจ
เซ็นเซอร์หรือจงใจไม่รายงานข่าวบางอย่างที่ไม่สอดคล้องกับทัศนคติของตัว
ไม่ว่าจะด้วยความกลัวหรือด้วยอคติอย่างอื่น
