“ชูวิทย์” แฉแหลก!โต๊ะจีน 300 ล้าน จวกยับ 'หล่อเล็ก'ด้านอยู่ต่อ 7 วันเพื่อเคลียร์บิลเก็บค่าโต๊ะจีนระดมทุน จี้ประชาธิปัตย์เตรียมจ่ายเงินค่าเลือกตั้ง 154 ล้าน ดักคอซ้ำลาก 'กรณ์' ลงชิงผู้ว่าฯ ย้ำประกาศจุดยืนอีกครั้ง 20 พ.ย.
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่ากทม.ที่ไม่สามารถดำรงตำแหน่งผู้ว่ากทม.ได้ 2 สมัย เพราะมันเป็นอาถรรพ์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์รู้อยู่แล้วว่านายอภิรักษ์จะถูกชี้มูลความผิดแต่ก็ยังส่งนายอภิรักษ์เข้าชิงผู้ว่ากทม.ทั้งที่ตนได้เคยเตือนแล้วว่าควรจะยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และไม่ควรส่งนายอภิรักษ์มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ควรรับผิดชอบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. 154 ล้าน และค่าใช้จ่ายของผู้รับสมัครเลือกตั้งทั้งหมด รวมถึงค่าเดินทางของชาวกทม.ที่เดินทางไปเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะเอานายกรณ์ จาติกวานิช ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเพราะเป็นการเสียเงินสองต่อจากการเลือกตั้งซ่อม และใครจะรับผิดชอบ วันนี้จึงไม่สมควรมาชื่นชมนายอภิรักษ์และพรรคประชาธิปัตย์เพราะทราบดีว่ามีชนักติดหลัง นายอภิรักษ์จึงควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกทันทีไม่ควรมาอ้างว่าจะปฏิบัติหน้าที่ต่อถึงวันที่ 19 พ.ย.เพื่อจัดงานสำคัญ
“รู้ว่าวันนี้ที่นายอภิรักษ์ยังไม่ออกเป็นเพราะโต๊ะจีนยังไม่เลิกรา แมสเซนเจอร์ยังส่งบิลมาไม่หมด ตอนนี้ต้องรอเคลียร์อะไรบางอย่าง นายอภิรักษ์ จะออกก็ออกเลยวันนี้กทม.ไม่มีนายอภิรักษ์แค่คนเดียวก็สามารถจัดงานได้ โต๊ะจีนโต๊ะละหนึ่งล้านมีแต่ผู้รับเหมาทั้งนั้น โดยแบ่งเป็นถ้าเป็นผอ.สำนักของเขตเล็กเอา 1โต๊ะ ผอ.สำนักเขตใหญ่ 2 โต๊ะส่วนผอ.สำนักโยธา 3 โต๊ะ โต๊ะละ 1 ล้านจึงเป็นที่มาของการอยู่ต่ออีก 7 วัน อย่าคิดว่าผมกระดี้กระด้า กระสันอยากจะลง ผมไม่ได้อยากลง แต่ผมเวทนาการเมืองไทยอย่างยิ่งและหมดหวังกับการเมืองไทยที่ปัดความรับผิดชอบ ทวงเอาบุญเอาคุณกับประชาชนกลายเป็นความชอบธรรมทางการเมือง ” นายชูวิทย์กล่าว
ทั้งนี้นายชูวิทย์ปฎิเสธที่จะตอบว่าจะลงสมัครผู้ว่ากทม.อีกครั้งหรือไม่ โดยกล่าวเพียงว่า ตนไม่ได้กระสัน และจะแสดงจุดยืนเกี่ยวกับการลงรับสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในวันที่ 20 พ.ย. แต่ตอนนี้ตนจะตอบเมื่อไปถามนายอภิรักษ์ว่าทำไมถึงต้องอยู่อีก 7 วันและฝากไปถามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โต๊ะจีนแบบนี้เรียกว่าการเมืองใหม่หรือ วันนี้ตนยังไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น แต่ที่ผ่านมาในการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ตนหาเงินมาเองกับมือ ไม่ได้เอาเงินโต๊ะจีนมาช่วย
พร้อมกันนี้พรรคประชาธิปัตย์ควรเอาเงินโต๊ะจีน 300 ล้านบาทมาแบ่งให้กับการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. 154 ล้านบาท และแจกให้กับอดีตผู้สมัครอีกคนละ 1 ล้านบาท และให้กับประชาชนชาวกทม.อีก คนละ 100 บาทเพื่อแสดงความรับผิดชอบ วันนี้เมื่อผีถึงป่าช้าแล้วก็ต้องเผาแต่ค่าเผาใครจะเป็นคนจ่าย
กกต.ชี้'อภิรักษ์'ยังไม่พ้นบ่วงกรรม!ลุ้นศาลอุทธรณ์'เพิกถอนสิทธิ
นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งใหม่ว่า คงจะใช้งบประมาณใกล้เคียงกับครั้งที่แล้วคือ 154 ล้านบาท แต่ก็ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องดำเนินการ เพราะประเทศไทยปกครองแบบประชาธิปไตย ทั้งนี้ประชาชนทุกคนไม่ควรที่จะเบื่อหากมีการเลือกตั้งกันอีก
ส่วนการพิจารณาดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่นาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ถูกยื่นคำร้องนายสุเมธกล่าวว่า แม้นายอภิรักษ์จะลาออก แต่คดีทุกอย่างก็ดำเนินการพิจารณาต่อไปตามปกติ ทั้งนี้ หาก กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่าควรให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) ก็ต้องยุติเรื่อง เพราะนายอภิรักษ์ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ส่วนถ้ามีการให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) กกต.ก็จะส่งความเห็นให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจะมีความเห็นเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามมติ กกต.หรือไม่
ด้านนาย ประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การพิจารณาสำนวนร้องเรียนของนายอภิรักษ์นั้น ตามข้อกฎหมายแล้ว หาก กกต.มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) แก่ นายอภิรักษ์แล้ว หากศาลอุทธรณ์ยืนตามมติ กกต. นายอภิรักษ์ ก็จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 1 ปี และห้ามลงสมัคร ส.ส. ส.ว. รวมถึง ผู้ว่าฯ กทม. ส่วนจะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่หรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ เนื่องจากมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ไปแล้ว ซึ่งมาจากผลของการลาออก ไม่ใช่ผลของการให้ใบแดง ซึ่ง กกต.จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะสั่งให้มีการชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ เพราะยังมีปัญหาข้อกฎหมายอยู่
คะแนนนิยม'ปชป.-อภิรักษ์'ดิ่งเหว
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจทัศนคติของประชาชนต่อการทุจริตคอรัปชั่นและกรณีคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ถึง 69.6% เห็นด้วยกับการลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เมื่อถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิด ขณะที่มีผู้ไม่เห็นด้วย 30.4% นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ 73.2 %เห็นว่า นักการเมืองทุกๆ คนที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ควรลาออกทั้งหมด
โดยผลสำรวจยังพบว่าการลาออกของนายอภิรักษ์ มีผลต่อความนิยมศรัทธาต่อพรรคประชาธิปัตย์ โดยประชาชน 10.8% บอกว่านิยมศรัทธาเพิ่มขึ้น แต่ 49.9% ระบุว่ายังนิยมเหมือนเดิม แต่27.9%ไม่นิยมศรัทธาเหมือนเดิม และ 11.4% ยิ่งไม่นิยมศรัทธาเลย
ขณะเดียวกันหากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ผลสำรวจพบว่า 37% จะเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ 29.3%จะเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชาชน และ 33.7% จะเลือกผู้สมัครไม่สังกัดพรรค
'อภิรักษ์'ไขก๊อก!กกต.จี้หาผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเลือกตั้งซ่อมผู้ว่าฯ
หลังนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประกาศลาออกจากผู้ว่าฯกทม. หลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วินิจฉัยว่ามีความผิดในคดีจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของกทม. โดยนายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่า นายอภิรักษ์ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นการลาออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้กกต.และกทม.จะตั้งงบประมาณออกค่าใช้จ่ายเอง
วันนี้(13 พ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. แทนนายอภิรักษ์ว่า เตรียมจัดการเลือกตั้งทันวันที่ 11ม.ค. 2552 โดยการจัดการเลือกตั้งในลักษณะนี้ ต้องภายใน 60 วัน อย่างไรก็ตามวันนี้คงมีการนำเรื่องดังกล่าว เข้าสู่ที่ประชุมกกต. เพราะเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) มีการให้สัมภาษณ์ของนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้งไปแล้ว
นางสดศรี กล่าวถึงงบประมาณสำหรับจัดการเลือกตั้งว่า งบประมาณจัดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา กับที่จะใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า ใกล้เคียงกัน คือประมาณ 160 ล้านบาท สำหรับงบประมาณจัดการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนี้ จะมาจากนายอภิรักษ์ หรืองบของ กกต.เองนั้น จะต้องมีการพูดกันอีกครั้ง เพราะกรณีนี้ เป็นกรณีแรกว่า ไม่ใช่การเลือกตั้งปกติ เนื่องจากนายอภิรักษ์ลาออกตามความผิดของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 55
นางสดศรี กล่าวต่อว่า วันนี้การประชุมของ กกต. จะหารือครอบคลุมทั้งเรื่องการจัดการเลือกตั้งใหม่และค่าใช้จ่าย เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเงินภาษีของราษฎร อย่างไรก็ตามในกรณีผู้ที่จะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งนั้น เท่าที่ผ่านมา จะเป็นกรณีบุคคลทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ในเรื่องของนายอภิรักษ์เป็นกรณีแรกที่จะต้องมีการพิจารณาร่วมกันของ กกต.อีกครั้งว่าเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
นางสดศรี กล่าวถึงความคืบหน้าประเด็นเรื่องร้องเรียนของนายอภิรักษ์จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งที่ผ่านมาว่า ขณะนี้อนุกรรมการวินิจฉัยของ กกต. กำลังพิจารณาว่า ข้อร้องเรียนเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ที่จะต้องวินิจฉัยให้เสร็จภายใน 1 เดือน
ส่วนเรื่องงบประมาณจัดการเลือกตั้งนั้น นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่วาระเร่งด่วน เพราะคงจะต้องรอให้ครบองค์คณะ สำหรับกรอบการจัดการเลือกตั้งที่น่าจะเป็นวันที่ 11 ม.ค. 2552นั้น จะต้องมีการเปิดรับสมัครผู้สมัครชิงตำแหน่งประมาณปลายเดือนพ.ย.นี้ และคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะกกต.ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งทุกระดับมาแล้ว และปีนี้จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นมาแล้วกว่า 2,000 แห่ง คงไม่มีปัญหา
'มาร์ค'แย้มผู้สมัครกทม.เปิดกว้างทั้งคนใน-นอก
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเตรียมบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ในนามของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขณะนี้ทางพรรคมีรายชื่อบุคคลที่เสนอตัวเข้ามาไม่ต่ำกว่า 6 คน ซึ่ง มีทั้งบุคคลภายนอกและบุคคลในพรรค โดยพรรคจะพิจารณาและตัดสินใจโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เป็นทางเลือกที่ที่สุดให้กับคน กทม. พร้อมยอมรับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหนักใจ และพรรคจะไม่ประมาท ดังนั้น พรรคจะเลือกสรรบุคคลที่มีความเหมาะสม มีความรู้ความสามารถ มีมุมมองที่ทันสมัยสานต่อและผลักดันนโยบายของพรรคได้ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ
สำหรับนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่คาดว่าจะเป็นผู้ลงสมัครผู้ว่า กทม.ในครั้งนี้ นายอภิสิทธิ กล่าวว่า เป็นบุคคลหนึ่งที่พรรคกำลังพิจารณาถึงความเหมาะสม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมติของพรรคด้วย ซึ่งตนยังไม่ได้พิจารณาใครเป็นพิเศษ แต่จะเปิดกว้างสำหรับทุกคน
ชี้ป.ป.ช.ทำถูก!ฟันอภิรักษ์เซ่น'ดับเพลิงฉาว' มั่นใจพปช.ทวงแค้นสนามกทม.
ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.พรรคพลังประชาชน (พปช.) ได้กล่าวถึงกรณีที่กคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กรณีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กทม. มูลค่า 6,687 ล้านบาท
โดยชี้ว่า ป.ป.ช.ทำถูกต้องแล้ว ซึ่งตนเคยตั้งข้อสังเกตมานานแล้วว่าตั้งแต่ครั้ง คตส.เป็นผู้ตรวจสอบ และชี้ว่านายอภิรักษ์ไม่ผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะ คตส.จะมาชี้ว่าคนที่เปิดแอล/ซีไม่ใช่ผู้กระทำความผิดไม่ได้ ถ้าจะถามหาตัวคนผิด ต้องโทษ คตส.ไม่ใช่ ป.ป.ช. เพราะ คตส.พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยนายอภิรักษ์และพรรคประชาธิปัตย์
ในเรื่องนี้ นายสุวัฒน์ วรรณะศิริกุล ประธาน ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชาชน (พปช.) ให้สัมภาษณ์ "ประชาทรรศน์" ว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามถึงประมาณที่จะใช้ในการเลือกตั้งซ่อมผู้ว่าฯกทม.ที่ต้องใช้สูงถึง 160 ล้านบาท ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ นายสุวัฒน์ชี้ว่า คงต้องเป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องดูแล
เมื่อถามว่า นายอภิรักษ์และพรรคประชาธิปัตย์จะต้องออกมารับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายสุวัฒน์ กล่าวย้ำว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องของ กกต. ส่วนกรณีที่มีผลสำรวจความชื่อมั่นศรัทธาของชาวกรุงเทพฯที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ลดน้อยลงนั้น จะทำให้ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชนสู้ไหวหรือไม่ นายสุวัฒน์ กล่าวว่า สู้ไม่ได้ก็ต้องสู้ เมื่อส่งลงสมัครแล้วก็ต้องสู้
ต่อข้อถามว่า พรรคพลังประชาชนจะส่งนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ลงชิงตำแหน่งผู้ว่ากทม.หรือไม่ นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ทราบและยังไม่ได้คุยกัน เพราะยังเป็นเรื่องสดๆร้อนๆ ป.ป.ช.เพิ่งชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งต้องรอให้พรรคฯมีข้อสรุปออกมาก่อน ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลไม่เกินวันนี้ (14 พ.ย.)
เมื่อถามถึงกรณียุบพรรคพลังประชาชน นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่ ตนเป็นเพียงชั้นผู้น้อยยังไม่ทราบรายละเอียดอะไรมาก ส่วนท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ตนก็ไม่เคยติดต่อและไม่เคยทราบเรื่อง