WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, October 21, 2011

กนก-สลิ่มซาดิสม์พลิกวิกฤตเป็นโอกาสตื้บรัฐบาล

ที่มา Thai E-News

เขาหละ กนก!-กนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ดำเนินรายการข่าวโทรทัศน์เครือเนชั่น ซึ่งแสดงทัศนะอย่างเปิดเผยว่าสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านและอคติเกลียด ชังทักษิณกับ รัฐบาล สร้างความตะลึงด้วยการนำรูปนี้ขึ้นหน้าแฟนเพจ Kanok Ratwongsakul Fan Page ในเฟซบุ๊คของเขาเมื่อคืนนี้ แต่หลังจากโดนวิจารณ์อย่างหนักก็ได้ลบออกแล้ว แต่ไม่มีคำชี้แจงใดๆกับแฟนเพจที่ไปทวงถามคำชี้แจง แต่ได้แสดงความเห็นเรื่องทหารออกมาช่วยน้ำท่วมว่า "ซุเปอร์ฮีโร่ตลอดกาล"
แต่ไม่ว่านายกนกจะเขียนสนุกสนานสะใจทางเฟซบบุ๊คในเวลาจวน 4 ทุ่ม หรือ ตี 4 ก็ ตาม ความจริงก็คือนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นายกนกเกลียดชังกำลังทำงานหามรุ่งหามค่ำแก้ปัญหาน้ำท่วมอยู่ ล่าสุดทีมงานของนายกฯยิ่งลักษณ์ได้แนะนำให้คนเข้าไปกดLikeหน้าเพจ Thailand Anti-Hoax Center หรือหน้าเพจต่อต้านข่าวลือผิดๆทั้งหลาย


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
21 ตุลาคม 2554


เปิดโฉมแก๊งสลิ่มมือไม่พายเอาปากราน้ำ ปล่อยข่าวทำลายนายกฯไม่ใส่แก้น้ำท่วมหนีัเที่ยวดูคอนเสิร์ต
ต้นตอปล่อยข่าวนายกฯไม่สนใจแก้น้ำท่วมหนีไปดูคอนเสิร์ต-เว็บไซต์FreeThaiได้ แสดงหลักฐานตัวการที่เป็นต้นตอการปล่อยข่าวว่านายกฯยิื่งลักษณ์ไม่ใส่แก้ไข ปัญหาน้ำท่วม หนีไปดูคอนเสิร์ต เป็นผู้ใช้ชื่อล็อกอินทางทวิตเตอร์ว่า Tatum Natweerapoj


ซึ่งจากการตรวจสอบของคนในโลกออนไลน์คือ Facebookของล็อกอินที่ชื่อว่า สาคู เสรีซน รักหน้ากากแอ๊คชั่น พบว่า Tatum Natweerapoj เป็นผู้ที่มีทัศนะทางการเมืองต่อต้านนปช. เสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย โดยปรากฎภาพเคยไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มสลิ่มเพื่อต่อต้านนปช.



นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวปฏิเสธการโจมตีทางอินเตอร์เน็ตเรื่องไม่สนใจแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกลับเอา เวลาไปหนีเที่ยวว่า ไม่เคยไปดูงานคอนเสิร์ตที่ว่านั้น เวลานี้ไปแค่บ้านกับที่ศปภ.ดอนเมืองเท่านั้น ไม่มีเวลาไปไหน ไม่อยากให้นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติใน เวลานี้
(ภาพล่าง)ภาพตกแต่งล่าสุดที่สลิ่มพากันแชร์ และรีทวิตกันอย่างสนุกสนาน แต่ไม่รู้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจะขำไปด้วยไหม(ที่มา:อัลบั้มภาพจากเฟซบุ๊คกนก รัตน์วงศ์สกุล)


ช่วงนี้มีการแพร่ข่าวทางโลกออนไลน์หลายข่าวโจมตีว่านายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ได้ ทุ่มเทแก้ไขปัญหา นอกจากกุข่าวหนีไปดูคอนเสิร์ตแล้วก็มีการนำภาพว่านายกฯยิ่งลํกษณ์ขึ้น ฮ.เล่นBBหน้าระรื่น ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นรูปเก่าสมัยไปหาเสียงเมื่อเดือนมิถุนายน และภาพนายกฯยิ่งลักษณ์เดินบนสะพานไม้ ขณะที่ชาวบ้านจมน้ำ ซึ่งพบว่าความจริงนายกฯไปเจรจาชาวบ้าน2ฝ่ายที่ขัดแย้งกันเรื่องคันกั้นน้ำ รวมไปถึงการนำพระฉายาลักษณ์ของในหลวง กับสมเด็จพระเทพฯออกเผยแพร่พร้อมพระราชดำรัสที่ชี้ไปในทางว่ารัฐบาลบริหาร ผิดพลาด ต้องให้ในหลวงและพระราชวงศ์ลำบากพระวรกายแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้ราษฎร ซึ่งสำนักพระราชวังต้องออกมาปฏิเสธว่าเป็นพระราชดำรัสปลอม รวมทั้งเป็นภาพข่าวเก่า

พท.ล่าไอ้โม่ง ถล่ม"ปู"ในเน็ต

ข่าวสด รายงานว่า "พร้อมพงศ์" จวกขบวนการปล่อยข่าวโจมตีนายกฯ เชื่อเป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามที่เสียอำนาจ กุข่าวใส่ร้ายหวังจะล้มรัฐบาล เพื่อไทยมอบรมต.ไอซีที-รมต.คุมสื่อ กระชากหน้ากาก ไอ้โม่ง

"เด็จพี่"ชี้แผนล้มรัฐบาล

วันที่ 20 ต.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงขบวนการปล่อยข่าวด้านลบโจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในสังคมออนไลน์ ว่า คาดว่าเป็นการดำเนินการของฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งฝ่ายที่เสียอำนาจเสียประโยชน์ในทางการเมือง อาศัยสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือของนายกฯ และรัฐบาล ข้อเท็จจริงนายกฯ ก็ปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ตยานนี

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า กระบวนการปล่อยข่าวลือดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในแผนของฝ่ายตรงข้ามที่จ้องล้มรัฐบาล เล่นเกมการเมืองในทุกรูปแบบ ทำกันเป็นขบวนการ เริ่มจากกุเรื่อง สร้างข่าวมั่วใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ ด้วยข้อความหรือเรื่องราวอันเป็นเท็จเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ ขอเรียกร้องให้หยุดการกระทำที่จะสร้างความแตกแยก

ลั่นกระชากหน้ากากไอ้โม่ง

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การประชุมส.ส. พรรคเมื่อวันที่ 19 ต.ค. พูดคุยในประเด็นดังกล่าว มองว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นเป็นขบวน การจ้องทำลายความน่าเชื่อถือและหวังโจมตีรัฐบาล พรรคมีมติมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้า ไปตรวจสอบ ทั้งน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ตรวจสอบต้นตอของ การปล่อยข่าวลือว่ามาจากเว็บไซต์ใด รวมถึงรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสื่อ วิทยุชุมชน รวมทั้งสถานีข่าวบางช่องตามสถานีดาว เทียมที่พยายามขยายความเรื่องดังกล่าวหวังให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาล ลดความน่าเชื่อถือ ของนายกฯ ต้องดำเนินการเอาผิดเพื่อให้เป็น เยี่ยงอย่าง

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย หวังเพียงเพื่อเอาชนะทางการเมืองเท่านั้น ยืนยันว่า นายกฯ ทำงานหนักตลอดทั้งสัปดาห์ไม่มีวันหยุด ทั้งการดูแลและออกตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทก ภัย (ศปภ.) และที่ทำเนียบ จะเอาเวลาที่ไหนไปชมคอนเสิร์ต รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องกระชากหน้ากากของไอ้โม่งเหล่านี้ออกมาให้ได้

ยันนายกฯอยู่ศปภ.ตลอด

น.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ เลขานุการรมว. ไอซีที กล่าวถึงกระแสข่าวปล่อยนายกฯ ไม่เอาใจใส่ปัญหาน้ำท่วม แต่กลับไปดูคอนเสิร์ตยานนี ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯอยู่ที่ศปภ.ในสนามบินดอนเมืองเกือบตลอด จนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น และหากมีเวลานายกฯ ก็ไม่ไปดู เพราะไม่มีความสุขกับสถานการณ์น้ำท่วมที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ส่วนกระทรวงไอซีทีไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชน ที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมเป็นอันดับแรก ซึ่งในแต่ละวันมีผู้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือผ่านทางสายด่วน 1111 กด 5 นับหมื่นราย

******
ข่าวเกี่ยวเนื่อง

-หน้าเพจ Thailand Anti-Hoax Center ต่อต้านข่าวลือผิดๆ เช่น จริงไหมข่าวสะพานปทุม-รังสิตหัก,จริงไหมเรื่องว่าอาจารย์จุฬาหาว่าให้นิสิต จุฬาฯมาช่วยงานศปภ.ต้องเปลี่ยนเป็นเสื้อแดงก่อน ฯลฯ

-ตรวจสอบรูปข่าวลือง่ายๆ ด้วยGoogle Image Search

-จาก“FWD Mail”สู่“กดแชร์”และ“รีทวีต” เทคโนโลยีเปลี่ยนไป แต่การใช้งานไม่เคยเปลี่ยนแปลง

สำนักพระราชวังปฏิเสธในหลวงรับสั่งให้น้ำผ่้านวัง สมศักดิ์เจียมฯชี้กระฎุมพีซาบซึ้งปรากฏการณ์ใหม่

-ชั่วซ้ำซาก! "ปั้นคำสนทนาในหลวง-นายกฯ"

รายงานสถานการณ์น้ำ 21 ต.ค. 54

ที่มา Thai E-News

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน






วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ 20 ต.ค.54 เวลา 19.30 น. โดย รศ.เสรี ทางสถานีไทยพีบีเอส



วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ 20 ต.ค.54 เวลา 19.30 น.ศศิน เฉลิมลาภ

แผนผังแนวคันกั้นน้ำและแสดงระดับพื้นที่ในกทม.โดยกรมแผนที่ทหาร

ภาพถ่ายดาวเทียมจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กระทรวงวิทย์ฯ

From flood2011
ข้อมูล จากดา​วเทียม THEOS วันที่ 18 ตุลาคม 2554 แสดงพื้นที่​น้ำท่วมบริ​เวณบางส่วน​ของจังหวัด​สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และพระนครศ​รีอยุธยา

From flood2011
ข้อมูล จากดา​วเทียม RADARSAT-2 วันที่ 20 ตุลาคม 2554 แสดงพื้นที่​น้ำท่วมบริ​เวณบางส่วน​ของจังหวัด​นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี และสุพรรณบุ​รี

From flood2011
ข้อมูล จากดา​วเทียม RADARSAT-2 วันที่ 20 ตุลาคม 2554 แสดงพื้นที่​น้ำท่วมบริ​เวณบางส่วน​ของจังหวัด​อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และอุทัยธา​นี

Thailand Anti-Hoax Center ศูนย์ต่อต้านข่าวหลอกลวง

ที่มา thaifreenews

โดย NuDang

ตอนนี้มีกระบวน สร้างข่าวปล่อยเยอะมาก

เจตนาไม่หวังดีต่อประเทศชาติ

ต้องการให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยก

เพื่อตัวเองจะได้ครอบครองอำนาจ

จึงเกิดแฟนเพจหน้านี้ขึ้นมา..จะได้ติดตามกัน










อัพเดท!รายชื่อหมู่บ้านจมน้ำท่วม กทม.-ปริมณฑล บ้านหรูแค่ไหนก็ไม่เหลือ...

ที่มา มติชน













ชวนชื่นฟลอร่าวิลล์



ชวนชื่นฟลอร่าวิลล์



ชวนชื่นกอล์ฟ อเวนิว



หมู่บ้าน "มณีรินทร์ เลค พาร์ค" ถนนบางบัวทอง-บางคูวัด


เว็บไซต์ Think of Living (thinkofliving.com) ได้รวบรวมข้อมูลหมู่บ้านต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม จากห้อง WAR ROOM ของโครงการต่างๆและเครือข่ายสังคมออนไลน์ไว้ดังนี้

มากที่สุด รถเล็กวิ่งไม่ได้ (40 cm+)
มาก น้ำท่วมประมาณแข้ง (20-40 cm)
ปานกลาง น้ำท่วมขัง (<20 cm)
น้อย น้ำท่วมไม่ถึง 1 วันแล้วสามารถสูบออกไปได้

(ลำดับที่ แบรนด์ ชื่อหมู่บ้าน ทำเล ระดับความเสียหาย)

1 มั่นคงเคหะการ ชวนชื่นการ์เด้นวิลล์ ทางหลวง 307 มากที่สุด
2 มั่นคงเคหะการ ชวนชื่นฟลอร่าวิลล์ ทางหลวง 307 มากที่สุด
3 มั่นคงเคหะการ ชวนชื่นกอล์ฟ อเวนิว ทางหลวง 307 มากที่สุด
4 Property Perfect มณีรินทร์ ท่าอิฐ มากที่สุด
5 Property Perfect มณีรินทร์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
6 Property Perfect มณีรินทร์ บางพูน รังสิต มากที่สุด
7 Property Perfect The Villa รัตนาธิเบศร์ ท่าอิฐ ปานกลาง
8 Property Perfect The Villa บางบัวทอง บางบัวทอง มากที่สุด
9 ปริญสิริ เดอะ นอร์ธเธิร์น ทาวน์ รังสิต พหลโยธิน คลอง 1 มากที่สุด
10 Q.House คาซ่า วิลล์ 1 ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด (สูบออกหมดแล้ว)
11 Q.House คาซ่า วิลล์ 2 ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด (สูบออกหมดแล้ว)
12 Q.House คาซ่า วิลล์ ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
13 Q.House ลัดดารมย์ ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ มาก
14 Q.House ลัดดารมย์ ชัยพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
15 KC KC รามอินทรา ซ.พระยาสุเรนทร์ 40 ปานกลาง
16 แสนสิริ ฮาบิเทีย ราชพฤกษ์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
17 แสนสิริ เศรษฐสิริ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
18 แสนสิริ ฮาบิเทีย บางใหญ่ บางใหญ่ ปานกลาง
19 แสนสิริ V-Village นวนคร น้อย
20 แสนสิริ เศรษฐสิริ วงแหวน รามอินทรา น้อย
21 แสนสิริ บุราสิริ ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
22 บ้านซื่อตรง บ้านซื่อตรง บางบัวทอง บางบัวทอง มากที่สุด
23 Land & Houses ปาริชาต ทางหลวง 345 มากที่สุด
24 Land & Houses ชัยพฤกษ์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
25 Land & Houses พฤกษ์ลดา ติวานนท์ ราชพฤกษ์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
26 Land & Houses ชัยพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ วงแหวน ปานกลาง
27 Land & Houses ชัยพฤกษ์ บางบัวทอง บางกรวย ไทรน้อย มากที่สุด
28 Land & Houses ชลลดา บางบัวทอง บางบัวทอง มากที่สุด
29 Land & Houses ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ ชัยพฤกษ์ มาก
30 Land & Houses มัณฑนา แจ้งวัฒนะ ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
31 Land & Houses นันทวัน แจ้งวัฒนะ ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
32 - เฟื่องสุข 2 บางบัวทอง-ลำโพ มากที่สุด
33 พฤกษา ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
34 พฤกษา บ้านพฤกษา 50 กรุงเทพ-ปทุมธานี มาก
35 พฤกษา บ้านพฤกษา 12 รังสิต คลอง 3 มากที่สุด
36 พฤกษา บ้านพฤกษา 44 รังสิต คลอง 2 มาก
37 พฤกษา บ้านพฤกษา 25 กันตนา มาก
38 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 16 รังสิต คลอง 3 มากที่สุด
39 พฤกษา ภัสสร 2 รังสิต คลอง 3 มากที่สุด
40 พฤกษา ภัสสร 4 รังสิต-นครนายก ปานกลาง
41 พฤกษา ภัสสร 12 รังสิต คลอง 3 ปานกลาง
42 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 22 พระราม 5-2 น้อย
43 พฤกษา บ้านพฤกษา นารา อยุธยา มากที่สุด
44 พฤกษา บ้านพฤกษา 39 แก้วอินทร์ บางใหญ่ ปานกลาง (สูบออกหมดแล้ว)
45 พฤกษา บ้านพฤกษา 49 แก้วอินทร์ บางใหญ่ ปานกลาง (สูบออกหมดแล้ว)
46 พฤกษา บ้านพฤกษา 19 วัดลาดปลาดุก ปานกลาง
47 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 28 บางใหญ่ ปานกลาง
48 พฤกษา พฤกษาวิลเลจ 7 ประชาอุทิศ น้อย
49 พฤกษา พฤกษาวิลเลจ 11 รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ มากที่สุด
50 พฤกษา บ้านพฤกษา 41 กันตนา ปานกลาง
51 พฤกษา บ้านพฤกษา 31 พุทธมณฑล สาย 4 มากที่สุด
52 พฤกษา บ้านพฤกษา 30 วัดลาดปลาดุก มากที่สุด
53 พฤกษา บ้านพฤกษา 33 วัดลาดปลาดุก มากที่สุด
54 วังทอง วราบดินทร์ รังสิต บางพูน มากที่สุด
55 พรทวีวัฒน์ พรทวีวัฒน์ คลองหลวง มากที่สุด
56 - รัตนโกสินทร์ 200 ปี รังสิต มากที่สุด
57 - เศราณี บ้านกล้วย-ไทรน้อย มากที่สุด
58 - บุศรินทร์ บ้านกล้วย-ไทรน้อย มากที่สุด
59 - White House รังสิตคลอง 1 มากที่สุด
60 - สินบดี ราชพฤกษ์ ตลาดบางบัวทอง มากที่สุด
61 - ดิ เอมเมอรัล ราชพฤกษ์ ตลาดบางบัวทอง มากที่สุด
62 - ภัทรไพรเวท 3 บางบัวทอง มากที่สุด
63 Q.House ลัดดารมย์ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ 2 ราชพฤกษ์ มากที่สุด
64 Q.House พฤกษ์ภิรมย์ Regent ราชพฤกษ์ ปานกลาง
65 Q.House พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์ ปานกลาง
66 Land & Houses สีวลี สุวรณภูมิ น้อย
67 ลภาวัน ลภาวัน 12 บางบัวทอง มากที่สุด
68 บัวทอง Property บัวทอง 4 บ้านกล้วย-ไทรน้อย มากที่สุด
69 มนรดา มนรดา 1 บางกรวย-ไทรน้อย มากที่สุด
70 ลภาวัน ลภาวัน 15 ราชพฤกษ์ มากที่สุด
71 บัวทอง บัวทองธานีพาร์ค บางบัวทอง มากที่สุด
72 แสนสิริ สราญสิริ ราชพฤกษ์ มากที่สุด
73 แสนสิริ ฮาบิเทีย บางใหญ่ น้อย
74 แสนสิริ สราญสิริ รังสิต คลอง 2 มาก
75 Property Perfect Perfect Park บางบัวทอง มากที่สุด
76 - กานต์มณี บางบัวทอง มากที่สุด
77 Asian Property The city พระราม 5 – ราชพฤกษ์ น้อย
78 มั่นคงเคหะการ ชวนชื่นบรู๊คไซด์ ทางหลวง 307 มากที่สุด
79 เหรียญ เหรียญ เนเชอรัลโฮม1 คลองหลวง มากที่สุด
80 มั่นคงเคหะการ เหรียญ เนเชอรัลโฮม 2 คลองหลวง มากที่สุด
81 อริสรา อริสรา 1 บางบัวทอง-ลำโพ มากที่สุด
82 อริสรา อริสรา 2 บางบัวทอง-ลำโพ มากที่สุด
83 - ขจีนุช ทางหลวง 345 มากที่สุด
84 - วนาสิริ ทางหลวง 345 มากที่สุด
85 - หงส์ประยูร บางบัวทอง มากที่สุด
86 Property Perfect Perfect Park รังสิต มากที่สุด
87 พฤกษา ภัสสร 7 บางพูน รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด
88 พฤกษา พฤกษาวิลเลจ 30 ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ น้อย
89 พฤกษา พฤกษา 3 บางบัวทอง ปานกลาง
90 - สินทร บางพูน มากที่สุด
91 - มนวดี เอ็กซ์คลูซีฟ บ้านกล้วย-ไทรน้อย มากที่สุด
92 Property Perfect Perfect Masterpiece รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด
93 - รัตนาธิเบศร์ รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด
94 บุศรินทร์ บุศรินทร์ บางบัวทอง มากที่สุด
95 - แสงชัยนิเวศน์ ศาลากลางปทุม มากที่สุด
96 กฤษดานคร กฤษดานคร 19 พหลโยธิน รังสิต มากที่สุด
97 - มณียา ท่าอิฐ มากที่สุด
98 Property Perfect Perfect Place ท่าอิฐ มากที่สุด
99 ซื่อตรง ซื่อตรง บางใหญ่ มากที่สุด
100 ภัทรารมย์ ภัทรารมย์ 2 ลาดหลุมแก้ว มากที่สุด
101 - Sweet Home บางกรวย-ไทรน้อย มากที่สุด
102 Land & Houses ลดาวัลย์ รังสิต ปทุม มากที่สุด
103 - ฟลอร่าวิลล์ พาร์คซิตี้ สุวินทวงศ์ มากที่สุด
104 บัวทอง บัวทองแลนด์ บางกรวย-ไทรน้อย มากที่สุด
105 บัวทอง บัวทองเคหะ บางกรวย-ไทรน้อย มากที่สุด
106 นันทิชา บางบัวทอง มากที่สุด
107 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 16/1 รังสิต คลอง 3 มากที่สุด
109 Q.House คาซ่าแกรนด์ ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ ปานกลาง
110 - อักษรา ราชพฤกษ์ ตลาดบางบัวทอง มากที่สุด
111 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 15 บางบัวทอง วัดไผ่เหลือง มากที่สุด
112 - อุบลชาติ 2 สี่แยกนพวงศ์ ลาดหลุมแก้ว มากที่สุด
113 เปี่ยมสุข เปี่ยมสุข บ้านกล้วย-ไทรน้อย น้อย
114 - ฟลอร่าวิลล์ สุวินทวงศ์ มากที่สุด

หรือติดตามสถานการณ์จากห้อง WAR ROOM ของหมู่บ้านแต่ละแห่ง ดังนี้:

Sansiri
Land & Houses
Q.House
Pruksa
SC ASSET
Asian Property
Property Perfect
มั่นคงเคหะการ

พท.ล่าไอ้โม่ง ถล่ม"ปู"ในเน็ต

ที่มา thaifreenews

โดย bozo

"เด็จพี่"ชี้แผนล้มรัฐบาล

วันที่ 20 ต.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง
ขบวนการปล่อยข่าวด้านลบโจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในสังคมออนไลน์ ว่า
คาดว่าเป็นการดำเนินการของฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งฝ่ายที่เสียอำนาจเสียประโยชน์ในทางการเมือง
อาศัยสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือของนายกฯ และรัฐบาล
ข้อเท็จจริงนายกฯ ก็ปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ตยานนี

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า กระบวนการปล่อยข่าวลือดังกล่าว
เป็นส่วนหนึ่งในแผนของฝ่ายตรงข้ามที่จ้องล้มรัฐบาล เล่นเกมการเมืองในทุกรูปแบบ
ทำกันเป็นขบวนการ เริ่มจากกุเรื่อง สร้างข่าวมั่วใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ
ด้วยข้อความหรือเรื่องราวอันเป็นเท็จเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ
ขอเรียกร้องให้หยุดการกระทำที่จะสร้างความแตกแยก

ลั่นกระชากหน้ากากไอ้โม่ง

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การประชุมส.ส. พรรคเมื่อวันที่ 19 ต.ค. พูดคุยในประเด็นดังกล่าว
มองว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นเป็นขบวน
การจ้องทำลายความน่าเชื่อถือและหวังโจมตีรัฐบาล
พรรคมีมติมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้า ไปตรวจสอบ
ทั้งน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
ตรวจสอบต้นตอของ การปล่อยข่าวลือว่ามาจากเว็บไซต์ใด
รวมถึงรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสื่อ วิทยุชุมชน รวมทั้งสถานีข่าวบางช่องตามสถานีดาวเทียม
ที่พยายามขยายความเรื่องดังกล่าวหวังให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาล
ลดความน่าเชื่อถือ ของนายกฯ ต้องดำเนินการเอาผิดเพื่อให้เป็น เยี่ยงอย่าง

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
หวังเพียงเพื่อเอาชนะทางการเมืองเท่านั้น
ยืนยันว่า นายกฯ ทำงานหนักตลอดทั้งสัปดาห์ไม่มีวันหยุด
ทั้งการดูแลและออกตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่
ประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทก ภัย (ศปภ.) และที่ทำเนียบ
จะเอาเวลาที่ไหนไปชมคอนเสิร์ต
รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องกระชากหน้ากากของไอ้โม่งเหล่านี้ออกมาให้ได้

ยันนายกฯอยู่ศปภ.ตลอด

น.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ เลขานุการรมว. ไอซีที กล่าวถึง
กระแสข่าวปล่อยนายกฯ ไม่เอาใจใส่ปัญหาน้ำท่วม แต่กลับไปดูคอนเสิร์ตยานนี ว่า ไม่เป็นความจริง
เพราะนายกฯอยู่ที่ศปภ.ในสนามบินดอนเมืองเกือบตลอด จนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น
และหากมีเวลานายกฯ ก็ไม่ไปดู เพราะไม่มีความสุขกับสถานการณ์น้ำท่วมที่เป็นอยู่ในขณะนี้



http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdPREl4TVRBMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHhNQzB5TVE9PQ==

หาจุดอพยพเพิ่ม นายกฯวอน อย่าแบ่งพรรค

ที่มา thaifreenews

โดย bozo



'ยิ่งลักษณ์' ย้ำยังไม่จำเป็นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เกรงจะกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
เล็งหาศูนย์อพยพและจุดจอดรถเพิ่มเติม ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
วอนขอความร่วมมือผู้ว่าฯ กทม. และทุกฝ่ายทำงานโดยไม่แบ่งแยกพรรคการเมือง...


เมื่อวันที่ 21 ต.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
ขอให้ กทม.ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ กทม.
ซึ่ง ศปภ.พร้อมสนับสนุน หาก กทม. ไม่สามารถรับมือได้
เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้ง มีถือว่ามีความรุนแรง
จึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน
โดยไม่แบ่งแยกพรรคการเมือง หรือเชื่อมโยงเป็นประเด็นการเมือง
พร้อมปฏิเสธให้ความเห็นว่าผู้ว่าฯ กทม.ใจแคบหรือไม่
เพราะเกรงจะเกิดความเข้าใจผิด แต่เชื่อว่า กทม.ต้องการร่วมแก้ไขปัญหา
จึงขอให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
และในวันนี้จะเชิญทุกภาคส่วน มาทบทวนร่วมกันว่ามีส่วนใดที่เป็นอุปสรรค
เพื่อกำหนดการทำงานให้เอกภาพมากขึ้น รวมถึงการจัดหาที่จอดรถและศูนย์อพยพเพิ่มเติม



ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวว่า เรื่องการคมนาคม จะมีการจัดการจราจรให้สะดวก
แต่เห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เนื่องจากเกรงว่า จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ไม่กังวลสถานการณ์น้ำท่วมในเขตดอนเมือง
เพราะเป็นพื้นที่สูง แต่เตือนประชาชนในทุกเขตให้เฝ้าระวัง โดยให้ยกของขึ้นที่สูง

http://www.thairath.co.th/content/pol/210925

มหาอำมาตย์ไทยดูเอาไว้ กัลดาฟี่เก่งกว่าคุณ โหดกว่าคุณ แต่ก็ตายอย่างหมาข้างถนน ?

ที่มา thaifreenews

โดย ลูกชาวนาไทย


จุดสุดท้ายของจอมเผด็จการ ให้ยิ่งใหญ่มีบารมีขนาดไหน แต่เมื่อต้องสู้กับประชาชน เก่งแค่ไหน รวยแค่ไหน อาวุธดีแค่ไหน โหดเหี้ยม อำมหิตสุดยอด

คิดว่าจะรอด เพราะตัวเองมีอาวุธดีกว่า ยิ่งใหญ่กว่าประชาชน
แต่ก็ตาย ตายอย่างหมาข้างถนนด้วย
ลูกเต้าเสวยสุขมาชั่วชีวิตตั้งแต่เกิด นึกว่าจะเสวยสุขตลอดไป แต่ก็ตาย โลกไม่มีที่ให้หนีได้สำหรับคนที่ฆ่าประชาชน

สงครามกับประชาชน ไม่ใช่ว่านับจำนวนศพได้มากกว่า ก็จะชนะ
แต่ รบกับประชาชน ศพยิ่งมาก ยิ่งไม่มีทางจบ ไม่มีวันที่จะหวนคืนกลับไปในวันที่บารมีเบ่งบานได้ มีแต่จุดจบว่าจะมาถึงเมื่อไหร่แบบ กัลดาฟี่เท่านั้น

กัลดาฟี่ ยิ่งใหญ่ขนาดต่อสู้กับอเมริกา และตะวันตก ยืนยงอยู่ได้ด้วยความยิ่งใหญ่

เกิด ความอหังการ์ มองไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา นึกว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม ไม่มีใครจะเทียบได้ แต่สุดท้ายก็โดนนักรบเสรีภาพ ชาวบ้าน ลากลงไปยิงตายข้างถนน เหมือนยิงหมาบ้าตัวหนึ่ง

หากยอมแพ้แต่ต้น ยอมคืนอำนาจให้ประชาชนแต่ต้น ไม่คิดว่าจะเอาชนะประชาชนได้
ก็คงไม่ตาย ก็คงมี "ที่ยืน มีเงินให้ใช้อย่างสุขสบายตลอดชีวิต ตายอย่างสงบ ลูกหลานยังพอมีที่ยืนบ้าง"

วันนี้อย่าหวังเลยว่าลูกหลาน วงศ์ตระกูลของกัลดาฟี่จะยืนอยู่ได้
กัลดาฟี่ ข้ามเส้น สังหารประชาชน ก่อให้เกิดความแค้นของคนหมู่มาก สุดท้ายคนก็รวมตัวสู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ตายสิบเกิดแสนเกิดล้าน

สุดท้ายก็เต็มประเทศ จุดจบก็เป็นอย่างกัลดาฟี่
ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ก็ตายอย่างหมาบ้า

จาก ภาพที่เห็นในโทรทัศน์ กัลดาฟี่ จนมุมโดนลากลงจากรถ แล้วนักรบเสรีภาพก็เอาไปยิงทิ้งข้างถนน ก่อนยิงคงมีการรุมสกรัม สหบาทาตามความแค้นมากมาย

ไม่เหลือเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ ใดๆ เอาไว้เลย

ผมคาดว่าลูกๆ กัลดาฟี่ที่ยังสู้อยู่ในลิเบียคงโดนฆ่าล้างโคตร หมดวงศ์ตระกูลแน่

"สามีนายกฯ" เผยภรรยาเหนื่อยมาก กางแผนที่ดูน้ำทุกวัน ย้ำเป็นผู้นำท้อไม่ได้

ที่มา มติชน

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติโดย คู่สมรสคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมได้มีการแบ่งงานเรื่องความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพราะขณะนี้สิ่งของบริจาคเริ่มขาดแคลน จากการที่โรงงานปิดทำให้อาหารที่จะรับมอบไม่สามารถผลิตได้ โดยขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) หากขาดอะไรเราก็จะยกให้

นายอนุสรณ์กล่าวว่า ขณะนี้นายกฯก็ทำงานหนัก ถามว่าบ่นไหมก็กังวลมากกว่า นายกฯได้ประสานทุกหน่วยงาน โดยตอนนี้มีแต่ฉุกเฉินเยอะ ดูแล้วก็ทำงานเต็มที่ก็ให้กำลังใจกันเพราะตอนนี้ก็เดือดร้อน ทำอะไรได้ที่ช่วยก็ต้องทำให้เต็มที่ ดูจากความร่วมมือทุกฝ่ายนายกฯก็บอกว่าทุกคนก็เหนื่อยแต่ทุ่มเททำงาน ตอนนี้ไม่มีแบ่งตรงไหนเดือดร้อน โดยนายกฯเป็นห่วงคนที่ติดอยู่ในน้ำ โดยเฉพาะ จ.นนทบุรี ได้ประสานให้เข้าไปช่วย และกลัวว่ามวลน้ำหากมากจนต้องเสียหายเข้าท่วมก็จะวางมาตรการต่อ


"เหนื่อย ยอมรับทุกวันนี้นายกฯก็เหนื่อยต้องกางแผนที่ดู เรื่องอื่นต้องเก็บไว้หมดวันหนึ่งงานส่วนใหญ่ 80-90% เป็นเรื่องน้ำ และเป็นผู้นำเหนื่อยได้แต่ท้อไม่ได้" นายอนุสรณ์กล่าว และว่า เท่าที่ได้ฟังทุกฝ่ายก็ทำงานเต็มที่แต่ข้อผิดพลาดมีบ้างเพราะคนหมู่ใหญ่ แต่ต้องดูความตั้งใจในการช่วยงานด้วยซึ่งนายกฯก็ไม่ได้ตำหนิ อาจมีบางส่วนที่ทำให้ไม่ได้ตามที่ต้องการแต่ต้องช่วยเหลือบรรเทาแต่ละส่วนไป ก่อน ในฐานะที่เป็นคู่สมรสมีส่วนจะช่วยดูแล้วก็เดือดร้อนจริงๆ ทุกวันอยากขอให้กำลังใจกับคนที่เข้าไปช่วยงาน อะไรยอมอภัยให้กันได้ก็ต้องอภัยให้กันทุกคนก็กังวลเครียดเหมือนกันหมด

นายกฯ ถกผู้ว่า กทม.แบ่งงานให้มีเอกภาพ เตรียมจัดพื้นที่จอดรถคนกรุง

ที่มา ข่าวสด


วันที่ 21 ต.ค.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ออกมาปัดความรับผิดชอบโดยระบุว่าหากน้ำท่วมพื้นที่เขตดอนเมือง และหลักสี่ ไม่เกี่ยวกับ กทม. เพราะคลองประปาไม่ได้อยู่ในการดูแลของกทม.ว่า ตนไม่อยากพูดคำว่าเราต้องการความเป็นเอกภาพ เพราะวันนี้คนไทยทุกคนไม่ว่าอยู่ต่างจังหวัดหรือกทม.มีภาระรับผิดชอบที่ต้อง ช่วยกัน จึงอยากขอให้ กทม.ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ อย่ามองว่าส่วนไหนเป็นหน้าที่ของ ศปภ.หรือของรัฐบาล

ในความเป็นจริงรัฐบาลมีหน้าที่ดูในภาพรวม ดูแลประชาชนหลายจังหวัด ถ้าทางกทม.จะช่วยเหลือได้ก็ยินดีอย่างยิ่ง และทางเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุน แต่ถ้าคิดว่าพื้นที่ใดที่ทางกทม.ดูแลไม่ไหว ทางศปภ.พร้อมที่จะเข้าไปดูแลเอง เมื่อคืนวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนก็ลงพื้นที่ไปยังเขตสายไหมเพื่อให้เกิดความแน่ใจในการดูแลพื้นที่ หากกทม.ต้องการความช่วยเหลือเรื่องใดเราก็พร้อมสนับสนุน ตนก็คอยที่จะให้ความร่วมมือและยินดีเสมอ ส่วนไหนที่ ศปภ. รัฐบาล หรือทุกหน่วยงานจะเข้าไปช่วยกทม.ได้ก็ยินดี อยากให้รวมกันเป็นหนึ่ง

วันนี้ต้องขอแรงในการรวมพลัง ช่วยกันทุกส่วน เพื่อที่เราจะได้ต่อสู้กับอุทกภัยครั้งนี้ เพราะถือว่าเป็นครั้งที่หนักมาก และต้องการความร่วมมือร่วมใจให้เป็นเอกภาพเพื่อที่จะมองภาพรวม เพราะถ้าต่างคนต่างมองในมุมของตัวเองก็จะทำให้ประเทศเดินไม่ได้ ดังนั้น วันนี้ ตนจึงได้เรียกประชุมทุกหน่วยงาน เพื่อมาทบทวนอีกครั้งว่าส่วนไหนบ้างที่เป็นอุปสรรค และจำเป็นจะต้องตัดสินใจทำงาน เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งก็จะต้องมีการวางแผนในการดูแลประชาชน โดยจะคำนึงถึงเรื่องชีวิตเป็นสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้สั่งการแบ่งกลุ่มสายความรับผิดชอบ เพื่อให้ไปรับประชาชนที่ประสบภัยออกมา เพราะเจ้าหน้าที่คงไม่สามารถเข้าไปรับทีละครอบครัวได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอเบ้า ว่าวันนี้การทำงานในศปภ.ทุกหน่วยงาน ทุกเหล่าทัพ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชน หรือแม้แต่สื่อมวลชนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เชื่อว่าทุกคนมีใจที่จะช่วยเหลือประเทศไทย วันนี้เราไม่อยากเห็นภาวะนี้ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีปัญหาอยู่ แล้วเกิดขึ้นเพิ่มอีก จึงอยากขอให้คนไทยทุกคนร่วมใจกันทำงานเพื่อกอบกู้ภาวะวิกฤติ ถ้ายิ่งไปประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะยิ่งทำให้ความมั่นใจ
ของนักลงทุนต่างชาติลดลง เพราะมองว่าประเทศไทยดูแลกันเองไม่ได้

เมื่อถามว่าถ้ากทม.ไม่ให้ความร่วมมือ เราจะเดินหน้าทำงานต่อไปได้อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงจะต้องหารือกับทางกทม.ให้ชัดเจน ซึ่งในวันนี้ตนก็ได้เรียกผู้ว่าฯ กทม.มาหารือด้วย ก็หวังว่าเราจะไม่มาเล่นการเมืองกันตรงนี้ หวังว่าจะมาทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนและคนไทยทุกคน แล้วอย่ามองว่าการที่เป็นคนละพรรคการเมืองหรือคนละเขตเลือกตั้งจะทำงานร่วม กันไม่ได้ ตนยินดีเข้าไปทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน และยินดีรับฟังทุกหน่วยงานเพื่อคนไทยทุกคน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหาสำคัญที่ต้องทำเร่งด่วนคือเรื่องเส้นทางคมนาคม การจัดสรรที่ให้ประชาชนสำหรับจอดรถ เพราะทุกวันนี้บางเส้นทางจอดกันจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เพราะรถไปกีดขวางการจราจร ก็ยิ่งทำให้คนตื่นตระหนก จึงต้องมาสั่งการเรื่องการจัดระบบการจัดการ รวมทั้งการดูแลสถานที่สำคัญบริเวณพระบรมมหาราชวัง สนามบินสุวรรณภูมิ และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่จะต้องมีคนรับผิดชอบดูแล และก็จะต้องมีอีกทีมคอยดูแลความปลอดภัยในการอพยพประชาชนที่เดือดร้อนให้มาก ขึ้น โดยจะมีการจัดหาศูนย์อพยพเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นมีที่ดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิบางส่วน และยังมีสถานที่สำรองอื่นอีก แต่ขอไปประเมินและตรวจสอบให้รอบคอบอีกครั้งว่าภาวะขณะนี้มีความปลอดภัยหรือ ไม่

ส่วนการระบายน้ำ เพราะวันนี้น้ำเข้ามายังคลองเปรมประชากรมาก พื้นที่ก็เป็นแอ่ง จึงต้องพยายามเบี่ยงให้น้ำออกทางขวา โดยการปิดประตูระบายน้ำคลองรังสิตประยูรศักดิ์ แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำสูง จึงไม่แน่ใจว่าเครื่องระบายน้ำจะทำงานได้เต็มที่หรือไม่ กำลังให้กรมชลประทานประเมินอยู่

′อยากขอให้ประชาชนในกทม.ทั้งหมดทุกเขต ให้เตรียมเคลื่อนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่สูงขึ้น เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก่อนดีกว่า แต่อย่าตระหนก เราจะพยายามประเมินสถานการณ์ให้เร็วและแจ้งประชาชนให้ทราบ รวมทั้งจะต้องหาทางเร่งระบายน้ำ พื้นที่ส่วนไหนที่บล็อคทางน้ำไว้ก็อาจจะขอความกรุณาให้เปิดทางน้ำ′ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

ยิ่งลักษณ์งัด "ม.31" สั่งการเด็ดขาดแก้น้ำท่วมขึ้นตรงนายกฯ

ที่มา ข่าวสด





เวลา 10.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ ศปภ. ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ว่าการประปานครหลวง (กปน.) ผู้ว่าฯ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับแผนการทำงานแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้เป็นเอกภาพ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้น ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ที่ไม่ได้เข้าร่วม แต่ส่งนายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สำนักการระบายน้ำ เข้าร่วมประชุมแทน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมช่วงหนึ่งว่า วันนี้ภาพรวมของมวลน้ำที่มาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้สูงขึ้น แสดงว่าสามารถผันน้ำไปได้ระดับหนึ่ง แต่เพื่อให้การระบายน้ำทำได้รวดเร็วมากขึ้น และให้การทำงานสัมพันธ์กัน และเป็นเอกภาพ ตนจะมีการออกคำสั่งในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติร้ายแรง ตามมาตรา 31 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกันในวันนี้แล้ว ตนจะออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนให้ทราบกันอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่แต่ละส่วนได้นำไปปฏิบัติตาม ซึ่งตนได้ตั้งคณะทำงานเพื่อเฝ้าระวังติดตามระดับน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในแต่ละส่วน เพื่อให้มีการเร่งระบายน้ำออกไปทางฝั่งตะวันออกทำได้ให้เร็วที่สุด ซึ่งคำสั่งตรงนี้หมายการทำงานร่วมกับกทม.ด้วย แม้ว่าการบริหารงานของ กทม.จะแยกส่วนไปต่างหาก แต่การทำงานในภาพรวมต้องเชื่อมต่อและสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเปิดประตูระบายน้ำทำได้เต็มที่ โดยผู้รับผิดชอบในแต่ละจุดจะต้องเปิดประตูระบายน้ำให้มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการระบายน้ำออกสู่ทะเล เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะถ้าประตูแรกเปิดเต็มที่ แต่อีกประตูเปิดไม่เต็มที่น้ำก็จะไม่มีทางระบายลง จึงต้องขอความร่วมมือจากผู้ที่รับผิดชอบทุกส่วน เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาที่มีน้ำไหลเข้าสู่คลองประปานั้น เนื่องจากมีพนังกั้นน้ำบางส่วนชำรุดจึงขอให้ผู้ว่า กปน.เฝ้าระวังพื้นที่ที่เกิดการชำรุด และดูแลการไหลของน้ำ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในความสะอาดของน้ำประปา ในส่วนของแนวคันกั้นน้ำในจุดที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหลัก 6 และคลอง 6 วา ขอให้กองทัพจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ขอให้ทุกจังหวัดและทุกหน่วยงานเฝ้าระวังสถานที่สำคัญ เช่น สถานที่ผลิตไฟฟ้า ผลิตน้ำประปา พระบรมมหาราชวัง โรงพยาบาลศิริราช สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ต้องให้แน่ใจว่าสถานที่เหล่านี้ได้รับการดูแลและปกป้องอย่างดี ส่วนเส้นทางคมนาคมสายหลัก เช่น โทลเวย์ จุดขึ้น-ลง โทลเวย์ ต้องใช้ได้ ไม่ปล่อยให้มีการติดขัด รวมทั้งรถไฟฟ้า สถานีรถไฟต่างๆ ต้องรักษาไว้และให้แน่ใจว่าใช้การได้ และขอให้ทางกระทรวงคมนาคมไปดูเส้นทางหลักๆ เช่น เส้นทางเข้าเมือง เส้นทางที่ใช้ขนส่งสินค้า จะต้องไม่ถูกปิดหรือเป็นอัมพาต เพื่อไม่ให้สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นของประชาชนขาดตลาด และขอให้เพิ่มสถานที่จอดรถให้กับประชาชนด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ส่วนการดูแลช่วยเหลืออพยพประชาชน ขณะนี้ยังมีประชาชนที่ประสพภัยและติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ จ.ปทุมธานี นนทบุรี ส่วน กทม.ก็ต้องเตรียมทำแผนไว้ ต้องไม่ประมาท ควรจะมีการจัดหาศูนย์อพยพให้เพียงพอ โดยให้ทุกหน่วยงานที่มีตึกสูงทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนราชการ โรงเรียน และหน่วยงานของกองทัพ จัดเตรียมเป็นสถานที่ให้ประชาชนได้พักพิงอาศัย และเป็นที่จอดรถ และขอให้ไปประสานกับภาคเอกชนด้วย หากได้ข้อสรุปแล้ว สถานที่ใดทำเป็นศูนย์อพยพก็ขอให้ติดป้ายบอกให้ชัดเจนและแจ้งมายัง ศปภ.เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ

“ทั้งหมดที่ได้สั่งการจะออกเป็นคำสั่งตามมาตรา 31 เพื่อให้ทุกหน่วยงาน ทำงานขึ้นตรงกับนายกฯ และขอให้รายงานผลตรงมายังนายกฯด้วย โดยขอให้พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ.ประสานกับทุกหน่วยงานให้แจ้งรายชื่อผู้ที่รับผิดชอบในแต่ละส่วนให้ชัดเจน” นายกฯ กล่าว

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 21/10/54 ร่วมชะตาเดียวกัน...

ที่มา blablabla

โดย

ภาพถ่ายของฉัน





เสียงร้องร่ำ พร่ำมา ว่า"ช่วยด้วย"
ทั้งจน-รวย ไม่อาจลี้ หลีกหนีพ้น
ล้วนต้องรับ เคราะห์กรรม อย่างจำนน
ทั่วทุกคน ชอกช้ำ ระกำใจ....


เหมือนหัวอก เดียวกัน วันน้ำท่วม
ทุกข์จนอ่วม หมองหม่น เกินทนไหว
ทั้งพ่อค้า ประชาชน คนใกล้ไกล
น้ำบ่าไหล่ ท่วมมิด ติดหลังคา....


ภาพน้ำท่วม อ่วมทั่ว ทุกหัวระแหง
ยิ่งเสียดแทง จนร้าวรอน นอนผวา
ความสูญเสีย ไหลอาบ คราบน้ำตา
ปวดอุรา เหลือล้น หนอคนไทย....


กี่ร้อยพัน ความทุกข์ยาก ต้องบากบั่น
รอคืนวัน ที่แสนงาม ยามสดใส
กัดฟันเพื่อ ผ่านทุกข์เข็ญ ที่เป็นไป
สู่ฟ้าใหม่ ฟูเฟื่อง สุดเรืองรอง....


กำลังใจ ส่งถึงกัน ช่วยฟันฝ่า
เช็ดน้ำตา ที่หมองหม่น ชนทั้งผอง
แล้วตั้งมั่น ต่อสู้ กู้น้ำนอง
ด้วยความรัก สมัครปอง พี่น้องไทย....


๓ บลา / ๒๑ ต.ค.๕๔

ตรวจสอบแล้วไม่พบช่วย "ศปภ." ต้องใส่เสื้อแดง ตามที่ อ.จุฬากล่าว

ที่มา ประชาไท

ผอ.สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาฯ ออกทีวีระบุได้เรียกนักศึกษากลับจาก ศปภ. เนื่องจากมีบังคับให้แต่งแดง ขณะที่ผู้สื่อข่าวพบอาสาสมัคร ศปภ. ยังคงสวมเสื้อผ้าสีต่างๆ ตามปกติ



เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้ใช้ youtube นาม realmkii ได้ โพสต์คลิปจากรายการ คมชัดลึก ทางสถานีเนชั่นแชแนล ดำเนินรายการโดย น.ส.จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ สัมภาษณ์ รศ.ดร.ทวีวงศ์ ศรีบุรี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งในคลิปดังกล่าว ตอนหนึ่ง รศ.ดร.ทวีวงศ์ได้กล่าวว่าได้ให้นักศึกษาถอนตัวจากการช่วยเหลือศูนย์ปฏิบัติ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เนื่องจากมีผู้บอกว่าต้องใส่เสื้อสีแดงเข้ามา

"พอเราจะส่งเด็กเราเข้าไปทำงาน เขาบอกต้องใส่เสื้อสีแดงเข้ามา แค่นี้เราก็เรียกเด็กกลับแล้ว"

"เราต้องการจะไปช่วยเขา เขาเดือดร้อน แต่บอกว่าจะเข้ามาให้ใส่เสื้อแดงมาด้วย หมายความว่าอย่างไร มันเป็นวิกฤต ใช่ไหม ซึ่งเรากำลังจะเข้าไปช่วย แต่คำพูดแบบนี้ออกมาก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรแล้ว เหมือนแบ่งชั้นวรรณะ แล้วจะทำอย่างไร ในเมื่อคนยังไม่ยอมรับซึ่งกันและกันอยู่เลย" โดย รศ.ดร.ทวีวงศ์ กล่าวด้วยว่า ในสายของผมคนที่ตั้งใจไปช่วยก็ถอยกันหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม จากการที่ประชาไทตรวจสอบ พบว่าอาสาสมัครที่ช่วยเหลือ ศปภ. ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อสีแดงแต่ตามที่ รศ.ดร.ทวีวงศ์กล่าวแต่อย่างใด

บรรยากาศที่ ศปภ.ดอนเมือง, 19 ตุลาคม 2554
ที่มา: ประชาไท

ศปภ.รับช่วย ปชช.ไม่ทั่วถึง แต่เร่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือเพิ่มแล้ว ผสาน3เหล่าทัพ เร่งช่วยเหลือ ชาวนนทบุรี

ที่มา มติชน

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 ตุลาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) สนามบินดอนเมือง โดย นายวิม รุ่งวัฒนาจินดา โฆษกศปภ. เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ พื้นที่ประสบภัยแพร่เข้าถึงกรุงเทพมหานครแล้ว ศปภ. ได้ดำเนินการต่อเนื่องตลอด 2 สัปดาห์ แต่ต้องยอมรับว่า การช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นจากประชาชน แต่ขณะนี้ทางกองทัพไทย ได้มีการตั้งศูนย์เพิ่มเติม ซึ่งทาง ศปภ. อำนวยความสะดวกให้กองทัพไทย อำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือ 5 จังหวัด นครสวรรค์ อยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ซึ่งจังหวัดนนทบุรี โดยอำเภอที่ประสบปัญหามากที่สุดคือ อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางบัวททอง และอำเภอไทรน้อย โดย กองทัพไทยจะให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน


พล.ท.จิร เดช สิทธิประณีต ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝาสยกิจการพลเรือน ในฐานะหัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกส่วนหน้า แถลงข่าวว่า ตามที่ศปภ.มอบหมายให้กองทัพบก ช่วยเหลือประชาชน 5 จังหวัด เช่น ปทุมธานี นครสวรรค์ อยุธยา ลพบุรี นนทบุรี เป็นจังหวัดหนึ่ง ที่ทางกองทัพได้รับมอบหมายให้เข้าไปบูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือ บางบัวทอง ซึ่งได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือก่อนที่จะเกิดน้ำท่วม ทางกองทัพช่วยเหลือมาตลอด แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมานั้น สถานการณ์ในพื้นที่นนทบุรี ประสบปัญหาในระดับ วิกฤติ และ ประชาชนเดือดร้อนมาก ดังนั้นกองทัพบกจึงร่วมกับเหล่าทัพ เพื่อช่วยประชนให้เร็วที่สุด


ดังนั้นกองทัพไทย ขอความร่วมมมือ ดังนี้ 1. ขอให้ประชาชนที่ติดค้างอยู่ในบ้าน เตรียมความพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งทางกองทัพจะส่งเรือเรือ เข้าไปรับ 2. ศูนย์ป้องกันภัยทางอากสศ ได้เตรียมนำเรือออกเป็นสาย เพื่อออกไปรับประชาชน ในพื้นที่ตามเส้นทางที่ได้มีการแบ่งไว้ แต่ขณะนี้มีปัญหาคือเรือจะเข้าไปรับ ยังมีไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงได้ระดมเรือจากกองทัพเรือ ในคืนนี้คาดว่ารวมทั้งหมดจะได้ 40-50 ลำ โดยจะมีการลงเข้าไปในเขตพื้นที่ บางบัวทองก่อน หากประชาชน ได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้ง 1131 02241-1709 1111 กด 5 ทั้งนี้กองทัพจะขอความร่วมมือจากประชาชนที่มีเรือ และมีขีดความสามารถ เข้ามาอาสาช่วยมารับประชาชชนที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่


พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาการ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้กองกำลังตำรวจตะเวนชายแดน และตำรวจน้ำที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ อยุธยา เดินทางมาสมทบ เข้าช่วยเหลือประชาชน และได้รับมอบหมายให้ป้องกันเหตุการณ์โจรกรรมในพื้นที่ประสบอุทกภัย และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ และขณะนี้ได้มีการกำลังระดม กำลังตำรวจ เข้าลาดตระเวน มาช่วยด้านความปลอดภัยในทรัพย์สิน ด้านการจราจร และ อาชญากรรม ทั้งนี้จะมีการประสานกับร่วมกับอาสาสมัครต่างๆ เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หากมีข้อมูลเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่เบอร์ ศูนย์ช่วยเหลือเตือนภัยทางอากาศ และ ศูนย์วิทยุเตือนภัยแห่งชาติ 02-534-1911 02-504-3569

พล.อ.ท.ธงชัย แฉล้มเขตร รองผอ.ศูนย์บรรเทาสาธารภัยกองทัพอากาศ กล่าวว่า ตามที่นายกฯได้ มีคำสั่งให้มีการจัดตั้งศูนย์ค้นหาและช่วยชีวิตโดยมีวัตถุประสงค์ในการค้นหา ช่วยชีวิตผู้ที่ติดค้าง โดยทางกองทัพอากาศเป็นผู้รับผิดชอบและทำหน้า อำนวยความสสะดวกในการตรวจหาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยซึ่งเดิมครอบคลุม พื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งหลังจากได้รับการแจ้งเหตุผ่าน สายด่วน 1111 กด 5 ก็ได้มีการประสานกับทาง ศปภ. ในการจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ โดยขณะนี้ได้มีการจัดลงกำลังช่วยผู้ประสบภัย อ.ไทรน้อย จ.อยุธยา และ อ.เมืองจ.นนทบุรี โดยผู้แทนจากกองทัพบกได้มีการประสานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ แต่เนื่องจากระดับน้ำสูง รถของกองทัพไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงต้องใช้เรือของกองทัพเรือเข้าช่วย


ขณะที่ พลเรือโทบงสุช สิงห์ณรงค์ หัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารภัย กองทัพเรือส่วนหน้า กล่าวว่าในการส่งเรือเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมีหลายพื้นที่ เช่น จังหวังพระนครศรีอยุธยา และ ศาลาญาจังหวัดนครปฐม ซึ่งปัจจุบันมีกำลังเจ้าหน้าที่และเรืออยู่ 13 ลำ ที่ต้องขนย้ายประชาชนออกมา ขณะเมื่อค่ำวานนี้ทาง ศปภ.ได้รับเรือจากทางประเทศจีนที่ส่งมาช่วยเหลือ อีกกว่า 20 ลำ จึงทำให้กองทัพเรือ มีเรือที่จะนำไปช่วยผู้ประสบอุทกภัย 40-50 ลำ ที่จะเข้าเหลืออพพยประชาชนไปที่ปลอดภัย


ขณะเดียว กันกองทัพเรือ ได้ตั้งฐานปฏิบัติการลอยน้ำที่วัดเฉลิมพระเกียรติ และ วัดไทรม้า ซึ่งจะมีเรือประจำการพร้อมให้ความช่วยเหลือ 3-4 ลำ อย่างไรก็ดีในการช่วยเหลือเพื่ออพยพประชาชนในพื้นที่นนท์บุรี ขณะนี้ทราบว่าทางการไฟฟ้าได้ ทำการตัดไฟแล้ว ซึ่งจะทำให้การเข้า ช่วยเหลือ มีความยากลำบาก จึงขอให้ประชาชน เมื่อได้ยินเสียงเรือเจ้าหน้าที่ให้มีการ ส่งสัญญาณ เช่น ส่องไฟฉายทำสัญญาณกระพริบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้ตรงจุด

พังเพราะการเมือง

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด



ตอนแรกมีการคาดการณ์กันไว้ว่ากรุงเทพฯ จะรอดพ้นน้ำท่วม

เพราะน้ำเหนือก้อนใหญ่ลงทะเลไปแล้ว ประกอบกับพ้นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุดเช่นกัน

แต่สถานการณ์ตอนนี้เริ่มไม่แน่นอน เพราะน้ำก้อนมหาศาลที่กระจายอยู่ตามทุ่งต่างๆ ทั่วภาคกลางเคลื่อนตัวมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ

ตรงนี้สร้างความตื่นตระหนกให้ชาวกรุงอย่างมาก เพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะป้องกันไว้ได้หรือไม่

ยิ่งมาเจอปัญหา "ศปภ." กับ "กทม." แถลงไปคนละทิศคนละทาง ก็ยิ่งสับสนไปกันใหญ่

จนล่าสุดนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งดูแลศปภ. แถลงเสียงสั่น-น้ำตาคลอ วอนทุกฝ่ายหยุดเล่นการเมือง ร่วมกันแก้วิกฤตชาติ

ขณะที่อีกฟากหนึ่งก็คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งต้องยอมรับว่าทุ่มเททำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้กรุงเทพฯ รอดพ้นจากวิกฤตน้ำท่วม

แต่การแถลงแต่ละครั้งของผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ก็ทำให้ประชาชนสับสนเหมือนกัน

เพราะจะเน้นตลอดว่า "ขอให้ประชาชนฟังผมคนเดียว"

ประโยคนี้แหละที่เป็นปัญหา คนฟังไม่รู้จะเชื่อใครดีระหว่างกทม.กับศปภ.

จนเกิดข้อสงสัยว่าทำไม กทม.กับศปภ.จึงไม่ร่วมมือกันทำงานแก้ปัญหาวิกฤตน้ำท่วมด้วยกัน

จะว่ากันตามข้อเท็จจริงแล้ว ศักยภาพในการบริหารจัดการของกทม. ไม่เทียบเท่ากับรัฐบาลแน่นอน

ศปภ.เป็นศูนย์ที่รัฐบาลตั้งขึ้น การบูรณาการครบถ้วนทุกภาคส่วน

รวมศูนย์หมดทุกกระทรวง ทบวง กรม และทุกเหล่าทัพ

เครื่องมือเครื่องไม้ครบครัน งบประมาณพร้อมสรรพ ทำงานได้ฉับไว

เป็นศูนย์รวมข้อมูลทุกอย่างที่จะใช้ในการตัดสินใจ

จึงแปลกใจว่าทำไมกทม.จึงต้องแยกตัวออกมาบริหารจัดการปัญหานี้เพียงลำพัง !?

จนเกิดวิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มว่า กทม.เป็นเวทีเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้เป็นพื้นที่หาเสียงในช่วงวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้

กรุงเทพฯ จะรอดพ้นวิกฤตน้ำท่วมหรือไม่ อยู่ที่ความร่วมมือแก้ไขของทุกภาคส่วน

ที่สำคัญต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

หากกรุงเทพฯ ไม่รอดน้ำท่วมจริงๆ ก็ยังถือว่าทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาอย่างถึงที่สุดแล้ว

อย่าลืมว่าบ้านเมืองเราต้องสูญเสียครั้งใหญ่มาหมาดๆ เมื่อปี"53 ก็เพราะเกมช่วงชิงอำนาจที่แหกคอกแหกประชาธิปไตย

แล้วยังจะปล่อยให้กรุงเทพฯ ต้องพังพินาศจากพิษน้ำท่วม

เพราะเกมการเมืองกันอีกหรือ !?

เม้าท์มอย: Occupy Wall Street เทวดาไขปัญหาน้ำท่วม และเขื่อนไม่ได้มีไว้เก็บน้ำ

ที่มา ประชาไท

เม้าท์มอยสัปดาห์นี้ คุยกันถึงปรากฏการณ์ occupy wall street ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศทั่วโลก และฟังเรื่องของมนุษย์ถอดจิตไปคุยกับเทวดาเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมประเทศไทย ปิดท้ายด้วยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเขื่อนเพื่ออะไร



ช่วงที่ 1

ดาวน์โหลดไฟล์เสียง mp3 ช่วงที่ 1





ช่วงที่ 2

ดาวน์โหลดไฟล์เสียง mp3 ช่วงที่ 2





ช่วงที่ 3

ดาวน์โหลดไฟล์เสียง mp3 ช่วงที่ 3

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

ที่มา ประชาไท

พลันที่เห็นข่าว (จะเรียกว่าข่าวได้หรือเปล่าก็ไม่รู้) นายกฯ ปู ใส่รองเท้าบู๊ต Burberry ลุยน้ำท่วม ตามมาด้วยคุณเจ จาติกวนิช ภรรยาคนสวยของคุณกรณ์ จาติกวนิช อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ใส่บู๊ตสีเขียวซ้วย...สวยของ Chanel (อ่านออกเสียงว่า ‘ชาเนล’ สระเอ นะคะ ไม่ใช่ ‘ชาแนล’ สระแอ อ้างอิงตามชาเนล ประเทศไทย) ลุยน้ำท่วมเช่นเดียวกัน ดิฉันก็รีบเปิดตู้รองเท้าค้นหารองเท้าบู๊ตมาใส่ เพราะไม่แน่ว่าอีกไม่นานแถวบ้านก็คงท่วม จะได้มีบู๊ตสวยๆ เก๋ๆ เหมือนสุภาพสตรีทั้งสองไว้ใส่บ้าง จะได้ไม่ต้องไปหาซื้อใหม่ให้เปลืองสะตุ้งสตางค์ เพราะจำได้เลาๆ ว่าที่บ้านมีเรนบู๊ตฮันเตอร์ของ Jimmy Choo อยู่คู่หนึ่งนี่นา...ต้องรีบเอามาปัดฝุ่นขัดเงาเสียแล้ว เพราะไม่นานคงได้ใช้

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

ข่าวไม่เป็นข่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนายกฯ ปูใส่รองเท้าบู๊ต Burberry หรือตามมาด้วยภาพคู่ระหว่างรองเท้า Burberry ของนายกฯ ปู และรองเท้าบู๊ต Chanel ของคุณเจนั้น นอกจากยี่ห้อ ราคา แล้ว ดิฉันยังหาประเด็นไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วประเด็นของข่าวคืออะไร ? และการนำเสนอข่าวนี้มุ่งหวังอะไร หรือได้ประโยชน์อะไร (ต่อผู้อ่าน) ? (ขอแอ๊บแบ๊วชั่วขณะนะคะ...นะคะ) โอเค...ถ้าหากพิจารณาว่ามันเป็นเพียงเกร็ดข่าวสนุกๆ อย่างที่เคยทำกันอย่างเช่น นายกฯ ปูใช้ชิเชโด้ อดีตนายกฯ พี่มาร์ค ใช้ลาแมร์ หรือใครแต่งหน้าให้นายกฯ ปู มันก็คงเป็นเกร็ดข่าวสนุกๆ เหมือนนิตยสารกอสซิปเมืองนอกทั้งหลายที่ปาปารัสซี่ชอบไปถ่ายภาพเซเล็บดารา ว่าเธอใส่เสื้อผ้าอะไร ถือกระเป๋าอะไร (เหมือนเคท มิดเดลตันไงคะ) แล้วนำมาลง แต่ประเด็นนี้มันกลับลุกลามไปมากกว่า ‘เกร็ดข่าว’ เพราะเรื่องนายกฯ ปูใส่รองเท้าบู๊ต Burberry ถูกนำมาพูดถึงในเชิงเสียดสี ล้อเลียน ด่าทอ ดังที่ปรากฏในเฟซบุ๊กมากมาย รวมถึงภาพการ์ตูนที่มีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษที่ตามออกมา แต่จนแล้วจนรอดดิฉันก็ยังไม่เห็นประเด็นว่า แล้วรองเท้าบู๊ต Burberry ที่นายกฯ ปูใส่ มันมีประเด็นตรงไหน ? หรือว่ารองเท้ายี่ห้อนี้ใส่แล้วทำให้น้ำท่วม หรือว่ารองเท้ายี่ห้อนี้ใส่แล้วทำให้โง่ อย่างที่ในเฟซบุ๊กโพสต์กัน

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

การขาดประเด็น เนื้อข่าว (ไม่ใช่น้ำข่าว) หรือข้อเท็จจริง กลายเป็นเรื่องฮิตที่ปรากฏอยู่บนหน้าเฟซบุ๊กในทุกวันนี้ การใส่รองเท้าบู๊ต Burberry ของนายกฯ ปู ถูกนำไปใช้โจมตี หรือนำไปล้อเลียนเสียดสีอย่างไม่มีประเด็น หรือมีประเด็นอย่างเช่น ความไม่เหมาะสมที่เธอใช้ของแบรนด์ราคาแพงในขณะที่ประชาชนกำลังทุกข์ยากจาก ภัยน้ำท่วม ฯลฯ ถ้าหากเราไม่นาอีฟ (หรืออคติ) จนปัญญาอ่อน เราก็พอจะเข้าใจได้ว่า ไม่ว่านายกฯ ปู หรือคุณเจ ที่ใส่รองเท้าบู๊ตแบรนด์หรูนั้น จากฐานะของทั้งสองที่พอมีเงินจับจ่ายก็น่าจะเข้าใจได้ และเป็นไปได้ว่ามันเป็นรองเท้าที่ทั้งคู่มีอยู่ในแล้วในตู้ที่บ้าน จะหยิบจับมาใส่โดยไม่ต้องซื้อหามาใหม่ให้เสียเงินเสียทองทำไมกัน หรือว่าเรายังติดกับมายาคติว่าด้วยความ ‘โรแมนติก’ อยู่ว่าจะไปหาเสียง ไปหาประชาชนต้องใส่ม่อฮ่อม ผ้าไหมทอมือ ผูกผ้าขาวม้าไปด้วยทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าในตู้เสื้อผ้าคนเหล่านี้ก็มีแต่ของแบรนด์ที่เขามีกำลังซื้อมา สวมใส่ทั้งนั้น

จากภาพข่าวดังกล่าว หากจะทำเป็นประเด็นเชิงแฟชั่น ก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่แค่เพียงความถูกแพงของราคา จะเห็นได้ว่านายกฯ ปู เลือกใส่รองเท้า Burberry ซึ่งแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายรู้ดีว่า Burberry เป็นแบรนด์เก่าแก่ของอังกฤษที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1856 และที่เราเห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าเป็นแบรนด์ Burberry นั้น ก็เพราะลวดลายอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่าลาย ‘Tartan’ หรือลายตารางนั่นเอง อันประกอบไปด้วยลายตารางสลับสีทั้งกากี น้ำตาลคาเมล ดำ ขาว อันเป็นสีพื้นสุดคลาสสิคของแบรนด์

ในอดีตแบรนด์ Burberry นั้นเป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมด้วยซิกเนเจอร์ 2 อย่างคือ อย่างแรกเนื้อผ้าแบบ Waterproof หรือกันน้ำ ซึ่งเป็นผลพวงของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในการผลิตเนื้อผ้า ที่เจ้าของแบรนด์ Thomas Burberry คิดค้นได้เมื่อปี ค.ศ. 1879 และอย่างที่สองคือลาย Tartan ที่มาพร้อมกับซิกเนจอร์อีกอย่างของแบรนด์นั่นก็คือ Trench Coat ซึ่งเป็นที่รู้จักในปี ค.ศ. 1924 ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะสภาพภูมิอากาศของอังกฤษ ที่ต้องเจอกับฝนทุกเมื่อเชื่อวัน และไอเท็มเบสิคอย่างร่มลายตาราง เทรนช์โค้ตลายตาราง กระเป๋าสตางค์ หรือรองเท้าบู๊ตลายตางนั่นก็เป็นไอเท็มคลาสสิคและเบสิคที่ Burberry มีให้ช้อปทุกซีซั่นอยู่แล้ว ส่วนไอเท็มที่เป็นแฟชั่นขึ้นมาหน่อย จะเป็นแบรนด์ Burberry Prorsum ที่อยู่ในสังกัดเดียวกัน

ส่วนรองเท้าบู๊ตแบรนด์ Chanel ของคุณเจ นั้น สิ่งที่ทำให้เราเป็นปุ๊บแล้วรู้ปั๊บว่าเป็นแบรนด์ Chanel ก็คือการประดับประดาด้วยดอก ‘คามิเลีย’ ซึ่งชื่อรุ่นของรองเท้าบู๊ตคู่นี้คือ CHANEL Camellia CC Jelly Rain Boots เป็นรุ่นที่เพิ่งออกมาในปี 2010 นี่เอง นอกจากแจ๊กเก็ตผ้าทวีด น้ำหอม Chanel No.5, Little Black Dress หรือสร้อยไข่มุกแล้ว ดอกคามิเลีย ยังเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Chanel ที่โคโค่ ชาเนลชอบนำมาผสมผสานในการทำเสื้อผ้า เริ่มตั้งแต่ต้นยุค 1920s แล้ว ไม่ว่าจะเป็นดอกคามิเลียที่ทำด้วยผ้าที่นำมาประดับบนปกเสื้อ ตามมาด้วยต่างหูดอกคามิเลีย สร้อยดอกคามิเลีย แหวนดอกคามิเลีย และในสองคอลเล็กชั่นที่ผ่านมา รองเท้าแตะพลาสติกใสดอกคามิเลียนั้นเป็นไอเท็มที่ฮอตสุดๆ ของ Chanel ซึ่งบู๊ตอันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในคอลเล็กชั่นนี้ ไม่มีข้อเท็จจริงที่แน่นอนว่าทำไมโคโค่ ชาเนลถึงชอบดอกคามิเลียนัก บ้างว่าโคโค่ ชาเนล ได้แรงบันดาลใจมาจาก Alexandre Dumas ตัวละครนำใน La Dame aux Camellias บ้างก็ว่า หรือเพลงของ Giuseppe Verdi ในโอเปร่าเรื่อง La Traviata หรือไม่มีเหตุผล เป็นความชอบส่วนตัวของเธอ

หากจะนำมาวิเคราะห์เล่นๆ ต่อจากนั้น อาจบอกได้ว่า นายกฯ ปู ค่อนข้างจะเป็นคนเซอร์เวทีฟ เรียบง่ายชอบความคลาสสิค และชอบฟังก์ชั่นมากกว่าแฟชั่น เมื่อดูจากแบรนด์ที่ใช้ หรือรูปแบบความคลาสสิคแบบลายตาราง และการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในเรื่องไอเท็ม Waterproof ของ Burberry ในขณะที่คุณเจ เป็นคนทันสมัย ชอบความโมเดิร์นคลาสสิค มีความเป็นเฟมินีนสูง และมีความเป็นแฟชั่นนิสต้า ดูได้จากรองเท้ารุ่นนี้ ที่เธอเลือก ที่จริงรุ่นนี้มีหลายสี ส่วนมากที่เห็นคือขาว ดำ ชมพูชานม แต่เธอมีคลาสมากๆ ที่เลือกสีเขียวเข้มมะกอก เพราะสีเบสิคที่ผลิตมามัน Look Cheap มากๆ (ขอดัดจริตนี้ดดด...นึงนะคะ) และหากให้โหวตไอเท็มสองชิ้นของผู้หญิงสองคนนี้ดิฉันขอโหวตให้รองเท้าบู๊ต Chanel ของคุณเจ ที่สวย มีกิมมิคน่ารักๆ อย่างดอกคามิเลีย สีสวย มีคลาส

แต่แน่ละว่าหากมันเป็นเพียงประเด็นแฟชั่น (ซึ่งก็ถูกตราหน้าว่าไร้สาระอยู่ดี) ก็คงไม่ได้รับความสนใจอยู่ดี เพราะตอนนี้เรื่องน้ำท่วม หรือเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวพันกับเรื่องนี้ท่วม มันถูกนำไปใช้เป็นประเด็นทางการเมืองเสียหมด ดังจะเห็นได้จากรูป+ข้อความบรรยาย บนหน้าวอลเฟซบุ๊กในทุกวันนี้ ที่มีอยู่เต้มหน้าจอ ถูกโพสต์ ถูกแชร์ ถูกฟลัด (Flood) ขึ้นซ้ำๆ เช้าเย็นจนเต็มหน้าจอ (ไม่รู้ว่าของคนอื่นเป็นอย่างไร แต่หน้า Home ของดิฉันเป็นประมาณนี้) เริ่มต้นด้วยแค่ถ้อยคำด่าทอนายกฯ รัฐบาล คปภ. ฯลฯ ซึ่งมีทั้งการให้รายละเอียดข้อมูลว่าตำหนิ ติเตียน ด่าทอ ด้วยเหตุผลกลใด หรือในแบบที่ไม่มีเหตุผลกำกับ (ก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นเพียงวอลเฟซบุ๊ก ไม่ใช่เนื้อหาอย่างข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์) แต่หนักไปกว่านั้นเมื่อเริ่มมีการแชร์ รูป+เรื่อง ที่เสมือนเป็น ‘ข่าว หรือข้อเท็จจริง’ ตามหน้าเฟซบุ๊กขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

เริ่มต้นด้วยเรื่องนายกฯ ปูเดินบนสะพานไม้ ที่กลายเป็นประเด็นอยู่สักพัก ตามมาด้วยเรื่องรองเท้า Burberry ที่ไม่มีเนื้อความอะไรมากนัก หนักกว่านั้นคือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในเชิงคอมพิวเตอร์ต่างๆ นานา ไม่ว่ะเป็นการทำเป็นแบนเนอร์ หรือการตัดต่อภาพอย่างสนุกสนาน แต่นั่นก็ยังไม่เท่าไหร่ เพราะใครๆ ที่เห็นก็รู้ได้ว่ามันเป็นการ ‘เล่น’ แต่ (อาจจะ) ไม่ได้หวังผลให้เกิดการบิดเบื้อข้อเท็จจริง แต่ก็เริ่มมี ‘รูปแบบ’ ข่าวหรือข้อเท็จจริงแบบ รูป+เรื่อง ที่พยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

1. รูปเมืองทั้งเมืองที่จมน้ำจากเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Happy Richy รูปในอัลบั้มที่ชื่อว่า ‘Photos of เกลียดควาย [[แดง]] เชี่ยแม้ว "กบฎ" แผ่นดิน’ โดยมีที่มีข้อความต่อมาว่า

คนที่ต้องรับผิดชอบ ในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้

ใครมีข้อมูล หรือหลักฐานเก่าๆช่วยๆนำมาเสนอกันนะครับ
อันนี้ได้จาก Forward Mail ครับ...

.....รู้มั้ยว่าทำไมน้ำถึงท่วมเป็นวงกว้างขนาดนี้....... สาเหตู.....การจัดการบริหารน้ำผิดพลาด
ใครผิดพลาด.....นายปลอดประสพภัย ทำไมถึงเป็นนายคนนี้ เพราะตอนน้ำท่วมช่วงแรกๆ
นายคนนี้เป็นคนสั่งให้เขื่อน ทุกเขื่อนกักน้ำให้ไว้ให้มากที่สุด แทนที่จะปล่อยให้ระบายน้ำออกจาก
เขื่อนตามหลักการที่เคยทำมา เพื่อที่จะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมในช่วงนั้นลดลง ...........
โดยไม่สนใจคำคัดค้านจาก ผอ.เขื่อนต่างๆ โดยเฉพาะเขื่อภูมิพล ที่พยายามโต้ เถี่ยงคัดค้านมาโดย
ตลอด จนนายคนนี้ไม่สามารถโต้เถี่ยงจึงกล่าวออกมาว่า
นี่คือคำสั่ง ผมสั่ง...คุณต้องทำ
แล้วเป็นไง....น้ำเหนือที่ยังไม่หมดช่วงมรสุมตะวันออกลงมาที่เขื่อนต่างๆเป็น จำนวนมาก
จะค่อยๆระบายก็ไม่ได้ ต้องกัก...นี่เป็นคำสั่ง จนส่งผลดังปัจุบันที่ เป็นอยู่.....
แล้วเราจะประนามใคร......... ช่วยกระจายเรื่องหน่อยเถอะครับ ชาวไทยจะได้ตาสว่าง

*** ชาวเขื่อน ***

น้ำท่วมครั้งนี้ เกิดจากความผิดพลาดการบริหารน้ำทั้งหมด คนที่ต้องรับผิดชอบ ปู ปลอดประศพ
เตี้ยสุพรรณ รมต.เกษตร กรมชล! ฯ ความจริงที่ควรรู้

๑.ปริมาณน้ำไม่ได้มากกว่าปี ๔๙ และ ๓๘
๒. เพียงแต่น้ำมาเร็วกว่าปกติประมาณ ๔๕ วัน
๓. ทำให้มีการกักน้ำไว้ไม่ให้ไปท่วมนาที่ยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จ
๔. บรรหารไม่ยอมให้ผันน้ำไปท่าจีนตั้งแต่แรก ทำให้เกิดการแตก ของบาง โฉมศรีทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติหนัก
๕. อ้ายเหลี่ยมรู้ดีดังนั้นตอนที่อ้ายพายัพ มันออกมาโวย อ้ายเตี้ยสุพัน มันจึงรีบออกมาห้ามเพราะม่ายงั้น จะความแตก เพราะงานนี้ชิหายเกินกว่าจะคาดคิด
๖. อ้ายปลอดประศพสั่งไม่ปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพล ตั้งแต่แรกเพราะต้องการให้ ตอนล่างเก็บเกี่ยวเสร็จ พอน้ำเหนือมามาก จนท่วมตัวเมืองเชียงใหม่จึงต้องปล่อย น้ำลงเขื่อนจนน้ำในเขื่อนเกิดวิกฤติ ต้องปล่อยน้ำจำนวนมาก ติดต่อกัน
๗. หลายพื้นที่มีการกักกันน้ำ โดยเน้นไม่ให้พื้นที่ฐานเสียง ที่ยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จถูกน้ำท่วมยิ่งเป็นการซ้ำเติม ให้น้ำมีมวลมากก้อนใหญ่และรุนแรง หลายพื้นที่ไม่เคยท่วมหรือท่วมหนักจึงโดนกันทั่ว
๘.มีการบริหารผิดพลาดที่อยุธยาทำให้ ตัวเมือง เกาะเมือง และนิคมวายวอด ฝีมือหลักของอ้ายปลอดประศพ
๙.ใบเสร็จทั้งหมดดูได้จาก ปริมาณน้ำของแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำสายอื่นๆ ที่มีการเก็บข้อมูล
๑๐. ผู้ได้รับความเสียหายควรฟ้องศาลปกครอง เรียกให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบค่าเสียหายเพราะเป็นการปฏิบัติงาน ผิดพลาดร้ายแรง รวมถึงม.๑๕๗
๑๑.ย้ำอีกครั้งว่าอย่าอ้างภัยธรรมชาติ เป็นฝีมือห่วย๑๐๐%

สรุปต้องลากคอ บรรหาร ธีระ ปู ปลอดประศพ อธิบดีกรมชล มารับโทษ โดยใช้หลักฐานจากข้อมูลน้ำทั้งหมด ซึงถ้าฟ้องศาลปกครอง ให้ศาลออกหมายเรียก เอกสารพวกนี้มาดูได้ ประเทศชิหายขนาดนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

โดย Leonet

ซึ่งในข้อความนั้นก็ไม่ปรากฏหลักฐาน ข้อเท็จจริงอะไรเลย นอกจากคำกล่าวลอยๆ และที่โอละพ่อไปกว่านั้นคือรูปที่ใช้ประกอบการอ้างอิงเป็นภาพน้ำท่วมนั้น ไม่ใช่ภาพที่เกิดในเมืองไทยในขณะนี้ แต่เป็นภาพที่เกิดจากพายุเฮอริเคน แคทริน่า ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราสามารถเสิร์จคำว่า ‘hurricane katrina’ ในกูเกิ้ลส่วนของรูปภาพได้ และจะปรากฏภาพนี้ออกมา เหมือนกันเปี๊ยบ...

หรือจะเป็น

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

2. รูปนายกฯ ปู กำลังถือมือถือถ่ายรูปบนเฮลิคอปเตอร์ ของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ ‘NooAnn Subthamrong’ ในอัลบั้มที่ชื่อ ‘การเมืองไทย ??’ โดยมีข้อความประกอบว่า

“อนาคตของประเทศไทยก็น่าห่วงยิ่งนัก !!! ลาออกเสียเถอะบ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นของคุณไปนั่งแอ๊บแอ้วที่บริษัทตระกูล ชินดีกว่า มั้ง..... —“

โดยเนื้อหาก็ไม่มีประเด็น หรือข้อเท็จจริงอะไร ไม่ได้ลิ้งก์กับรูป แต่ที่โอละพ่อกว่านั้นคือรูปที่หยิบยืมมาใช้นั้นเป็นรูปในช่วงที่ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ยังอยู่ในช่วงหาเสียง ซึ่งเป็นรูปจากข่าวของหนังสือพิมพ์แนวหน้า ในวันที่ 14 มิถุนายน 2544 ใช้ชื่อว่าว่า ‘แอ๊กชั่น’ มีบรรยายประกอบภาพว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครสส.ระบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ใช้กล้องมือถือถ่ายภาพทิวทัศน์ ขณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปปราศรัย ที่โรงเรียนศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่” (http://www.naewna.com/news.asp?ID=266017)

หรือล่าสุดที่เลยเถิดไปกว่านั้นคือ มีการโพสรูปพระบาทสมเด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2 แบบ แบบแรกมาจากเจ้าของเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า ‘Supakorn Nok เรารักในหลวง’ มีข้อความประกอบรูปประหนึ่งเป็นพระราชดำรัส ว่า

“ในหลวงทรงมีรับสั่ง: ถ้าน้ำเข้าพระนครให้ผ่านวังสวนจิตรไปเลย อย่ากั้นนำ ให้ผ่านวังไปเลย”

และอีกรูปแบบหนึ่งจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘เล็ก รักพ่อหลวง’ ในหัวข้อ ‘การเมืองเรื่องผลประโยชน์' โดยมีข้อความแตกต่างจากรูปแบบแรกเล็กน้อยว่า

"ถ้าน้ำเข้าพระนคร ให้น้ำผ่านวังสวนจิตรไปเลย อย่ากั้นให้ผ่านไปเลย" ทรงพระเจริญ

ซึ่งในเวลาต่อมา สำนักพระราชวังปฏิเสธข่าวลือเฟซบุ๊ก เรื่องในหลวงรับสั่งฯ ให้น้ำผ่านสวนจิตรฯ ตามข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ออนไลน์ต่างๆ (http://prachatai.com/journal/2011/10/37486)

ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าผู้ที่กระทำการดังกล่าว โดยนำรูปพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นรูปที่มาจากเหตุการณ์ใด วันเวลาใด มาประกอบกับพระราชดำรัสที่สำนักพระราชวังออกมาปฏิเสธแล้วว่าในหลวงทรงมิได้ รับสั่งฯ เช่นนั้น จะมีความผิดทางกฎหมายหรือไม่

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

ไม่ว่าจะอย่างไร ประเด็นนี้ที่น่าสนใจสำหรับดิฉันก็คือ อะไรที่ทำให้เรา ‘เชื่อ’ บรรดาข้อความ (บวกรูปภาพ) เหล่านั้น แชร์ต่อจนกลายเป็นแชร์ลูกโซ่บนหน้าวอลเฟซบุ๊ก อะไรที่ทำให้เรา ผู้ที่มีการศึกษาทั้งหลาย ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ ไม่คิดที่จะใช้สติหยุดคิด เพื่อตรวจสอบ แหล่งที่มา ข้อเท็จจริง ของโพสต์นั้นๆ แต่กลับรีบแชร์รีบแสดงความคิดเห็นอย่างบ้าคลั่ง และที่สำคัญในขณะที่บ้านเมืองกำลังเกิดวิกฤติน้ำท่วม และผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กอีกหลากหลายคนที่ใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางในการให้ข้อมูล ข่าวสาร การแจ้งเตือน การขอความช่วยเหลือ ฯลฯ แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งกลับกำลังสนุกสนานในการสร้างสรรค์ข้อเท็จจริงที่บิดเบือน ขึ้นมา และคนอีกกลุ่มหนึ่งก็หลงงมงาย ขาดสติ รีบแชร์ รีบคอมเมนต์โดยปราศจากคิดใคร่ครวญ ตั้งคำถาม ประเมิน ตรวจสอบว่าโพสนั้นๆ จริงเท็จอย่างไร และแม้จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่การแชร์ต่อ การฟลัดเรื่องราวเหล่านี้อย่างต่อเนื่องมันก็เท่ากับการโหมกระพือข้อเท็จ จริงอันบิดเบือนสู่สังคม (ที่กำลังวุ่นวายและทุกข์ด้วยภัยพิบัติ) อยู่ดี แทนที่เราจะได้รับรู้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เพื่อป้องกัน รับมือ หรือช่วยเหลือกันและกันในยามทุกข์ยากนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าบนหน้าเฟซบุ๊กมันกลับท่วมท้นไปด้วยข้อเท็จจริงอันบิด เบือน ที่ถูกโพสต์ ถูกแชร์ ก่นด่าด้วยความสะใจ หยาบคาย ไร้สติไร้เหตุผลอย่างสนุกสนาน

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

มันคืออคติทางการเมืองใช่หรือไม่ ? มันคือเกมทางการเมืองบนความทุกข์ร้อนและคราบน้ำตาของประชาชนใช่หรือเปล่า ?

อคติทางการเมือง การสาดโคลนทางการเมือง มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในสังคมการเมืองนี้ สิ่งที่น่าเสียใจที่สุด ไม่ใช่การยอมรับไม่ได้ที่มีการสาดโคลนกัน เพราะเราคงไม่นาอีฟที่จะไม่เข้าใจปรากฏการณ์นี้ขนาดนั้น แต่เป็นการที่บรรดาคน คนแชร์รูป+เรื่องนั้นๆ ทั้งหลาย ที่มืดบอดต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริง เอนเอียงไปด้วยอคติจนหลงลืมทั้งกาละเทศะในวิกฤติบ้านเมืองที่กำลังเผชิญ และบรรดาคนที่แชร์รูป+เรื่องนั้นๆ ที่ไม่ว่าคุณจะ ‘เลือกข้าง’ หรือ ‘นิยมชมชอบ’ หรือ ‘เกลียด’ ใคร ฝ่ายใด ข้างใด ก็ตาม การตั้งคำถาม การประเมิน การตรวจสอบ ว่าอันไหนเท็จ อันไหนจริง ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็น การเป็นเจ้าของอความคิด อุดมการณ์นั้นๆ ในรูปแบบการชอแชร์เรื่องราวนั้นๆ มันก็เป็นพื้นฐานของผู้ที่มีการศึกษา มีอารยะ วัฒนธรรม ในสังคมประชาธิปไตยไม่ใช่หรือ ทำไมเราถึงหลงลืมที่จะตรวจสอบ ความถูกผิดบิดเบือนแล้วรีบประโจนลงไปเล่นสนุกสนานอย่างง่ายดายได้ขนาดนั้น หรือว่าแท้ที่จริงแล้ว เราไม่สนหรอกว่า อันไหนจะเท็จ อันไหนจะจริง แต่เราล้วนบูชาลัทธิความเชื่อส่วนตัวของเราและพร้อมจะมืดบอดต่อตรรกะ เหตุผล ความจริงเท็จ ทุกประการ

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

ในขณะที่หน้าเฟซบุ๊กยังเต็มไปด้วยข้อความที่ว่า ไม่อยากได้ผู้นำ หรือนายกฯ ‘โง่’ ในประเทศนี้ เรา...ประชากร พลเมืองในประเทศก็อย่าได้แชร์ข้อความที่บืดเบือนข้อเท็จจริงด้วยอคติทางการ เมืองต่อด้วยความ "โง่ๆ" โดยไม่ดู ไม่หยุดคิดสักนิดที่จะตั้งคำถาม ตรวจสอบ เลยว่ารูปกับเรื่อง ตรงกันไหม ข้อความเหล่านั้นเป็นเท็จเป็นจริงประการใด จงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง สติ และเหตุผล กันดีกว่า อย่าได้ปล่อยไก่ แสดง (หรือตกเป็นเหยื่อ) ความ ‘โง่’ ของตัวเองโดยการแชร์ การฟลัด สิ่งที่บิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยอคติ หรือประเด็นทางการเมืองออกมาอีกเลย

น้ำท่วมประเทศครั้งนี้ คงไม่ใช่เพียงแค่ผู้นำที่โง่อย่างที่มีการกล่าวอ้าง แต่ประชากร (ในเฟซบุ๊ก ?) ในประเทศก็ไม่ได้ฉลาดเท่าไหร่ น้ำเลวทางการเมืองที่บิดเบือนและสกปรกโสมมจึงท่วมเฟซบุ๊กเช่นเดียวกั

ร้ายสไตล์บายรุ้งรวี: Flood On Facebook : น้ำท่วมบนเฟซบุ๊ก

ฮีโร่สีเหลืองฝ่าเวลากู้วิกฤตเซฟชีวิตชาวกรุง

ที่มา Thai E-News

ความร่วมมือ-วิกฤต มาสามัคคีเกิดในการแก้ไขปัญหา แต่ดูเหมือนคนจำนวนไม่น้อยยังอาศัยวิกฤตนี้เป็นโอกาสที่จะสร้างคะแนนนิยมให้ ฝ่ายตน และโยนผิดบ่อนเซาะความนิยมฝ่ายตรงข้าม

ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ตอนนี้ต้องการกำลังกาย
แกน นอน บก.ลายจุด หลังจากไปปักหลักเป็นอาสาสมัครภาคประชาชนที่ดอนเมืองมาหลายวัน ได้รับกำลังใจท่วมท้น เจ้าตัวแจ้งว่า ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ แต่สิ่งที่ผมต้องการยามนี้คือ "กำลังกาย" อย่าโกรธนะ พูดจริง

ต้องการอาสาสมัครมืออาชีพ มีใจ มีความคิด มีทักษะ มีความยืดหยุ่น และมีเวลา 2 สัปดาห์ มีเท่าไหร่ รับหมด ที่มูลนิธิกระจกเงา ดอนเมือง
******

1ปี 7เดือน ราชประสงค์ ใครสั่งฆ่า...เราไม่ลืม!
เมื่อ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา พี่น้องเสื้อแดงที่ไปตั้งเต๊นท์บริจาคช่้วยน้ำท่วมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (นักรบCyberรวมใจต้านภัยน้ำท่วม) ได้พากันปลีกตัวไปที่แยกราชประสงค์ ทำพิธีรำลึกวีรชน 92 ศพ ครบรอบ 1 ปี 7เดือน ขออนุญาตมาทำหน้าที่แทน เนื่องจากหลายๆคนประสพภัยพิบัติน้ำท่วมหนัก หรือติดภารกิจไปช่วยน้ำท่วม ไม่สามารถมาได้ แต่เรารู้ว่าไม่มีใครลืม

ไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร น้ำท่วม เราก็ต้องเยียวยาช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถ แต่กับการตามล่าคนสั่งฆ่าพี่น้องวีรชน ...รอยเลือดยังไม่เคยจางหายไป

คนที่ไปงานแจ้งว่า ตัวผมและพี่น้องพอจะสะดวกไปได้ ก็แวะมา"ทำหน้าที่แทนพี่น้องร่วมอุดมการณ์"ครับ

จากนั้นกลุ่มนักรบCyberรวมใจต้านภัยน้ำท่วม ก็ลงพื้นที่ครั้งที่ 8 อ บางปะหัน จ อยุธยา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย



(รายละเอียดกิจกรรมตามไปดู)

*********
สีเหลืองมาแล้ว เป็นฮีโร่ไม่ให้น้ำทะลักจมกทม.



ภาพเหตุการณ์จากกระทู้เว็บบอร์ด IF เหตุการณ์เขื่อนดิน ที่คลองระพีพัฒน์แตก คลองนี้อยู่ระหว่างคลอง 3 กับ คลอง 4 โดยเป็นคลองย่อย แต่ก็ออกไปสู่คลองรังสิตเช่นกัน

ถ้าหากปล่อยให้เขื่อนดินจุดนี้แตก ไม่รีบกู้คืน ผลก็คือมันจะแตกมากยิ่งขึ้น เหมือนช่วงที่แตกพร้อมกันที่ระหว่างคลองคลองห้า คลองหก และจะมีผลให้ทุกอย่างที่ทำมา ล้มเหลว จะทำให้น้ำทะลักเข้าสู่บ้านเรือนริมคลองทุกคลอง และเลยไปท่วม กทม. อย่างรวดเร็ว แบบเอาไม่อยู่แน่

ทาง อบต. คลองสาม พระ, ฆราวาส วัดพระธรรมกาย และประชาชนคลองสาม จึงได้ร่วมแรงร่วมใจกัน มาปกป้องเขื่อนดินแห่งนี้ ตั้งแต่ สองทุ่ม จนถึง ตีสามจึงจะสำเร็จ

งานนี้ไม่ต้องใช้ฮ.ซีนุกส์ ไม่ต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์แบบสีเขียวทำ เอาหนึ่งสมองสองมือของมนุษย์นี่แหละ ต่อสู้กับกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ความสามัคคีและความมุ่งมั่น เท่านั้น ครับ ที่จะทำให้งานใดๆ สำเร็จได้

ตอนเช้าทางวัดพระธรรมกาย กระจายเสียงแจ้งข่าวให้ ศธัทธาญาติโยม เจ้าหน้าที่วัด พระ เณร ให้มาช่วยกันเสริมกระสอบทรายเพิ่มขึ้นอีกชั้น ตลอดแนว 8 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบเมื่อคืนอีก และจะเฝ้าเวรยาม ตรวจดูตลอด 24 ชม.


เป็นอันเบาใจได้นะครับ ท่านทั้งหลาย ที่อยู่ใน กทม.(เรื่องและภาพโดย:JPLSOFT)


*********

เส้นทางสีแดงจากราชประสงค์ถึงดอนเมืองช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เนื่อง จากปัญหาอุทกภัยได้ลุกลามทั่วประเทศ กลุ่มเส้นทางสีแดงจึงได้จัดกิจกรรมแรลลี่ในกรุงเทพเพื่อรวบรวมน้ำใจและสิ่ง ของบริจาคไปมอบให้กับผู้ประสพอุทกภัยทั่วประเทศผ่านศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัยของรัฐบาลที่ดอนเมือง

กิจกรรม : เส้นทางสีแดงเพื่อผู้ประสพอุทกภัย

เป้าหมาย : เพื่อรวบรวมน้ำใจ สิ่งของบริจาคมอบให้กับผู้ประสพอุทกภัยทั่วประเทศที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ดอนเมือง)

กำหนดการ : 9.00 น. เปิดรับมอบน้ำใจและสิ่งของบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ผู้สนใจร่วมกิจกรรมน้ำรถมอเตอร์ไซด์ รถกระบะ รถหกล้อ รถทุกชนิดมาร่วมบรรทุกสิ่งของบริจาค หน้าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม FORD 081-5836964

10.00 น. เคลื่อนขบวนแรลลี่ไปตามเส้นทางที่กำหนด และรวบรวมนำไปมอบให้กับศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัยที่ดอนเมือง

เส้นทาง : ราชประสงค์-ดอนเมือง (ผ่าน เยาวราช บางลำพู นางเลิ้ง ประตูน้ำ ดินแดง อนุเสาวรีย์ สะพานควาย ลาดพร้าว พหลโยธิน ดอนเมือง)

วันเวลา : อาทิตย์ 23 ตค. 2554 เวลา 9.00-12.00 น.

******


ร้านหนังสือในฝันของคุณๆเป็นกันแบบนี้ไหม


*22 ตุลานี้ เปิดร้าน Book Re:public เปิดพื้นที่สาธารณะสำหรับการพูดคุยและถกเถียงด้วยเหตุผล


วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม นี้ บริเวณถนนริมคลองชลประทาน หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะมีกิจกรรมเปิด เสวนา อ่านออกเสียงครั้งที่ 1 “เปิดปาก เปิดพื้นที่เสรีทางความคิด”

เนื่องในโอกาสเปิดร้าน Book Re:public ซึ่งนอกจากเป็นร้านหนังสือและบาร์กาแฟแล้ว ยังเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับพบปะพูดคุยเรื่องต่างๆ อย่างเปิดเผย ตั้งแต่ประเด็นหนักหัวอย่างประวัติศาสตร์การเมือง ไปจนถึงสารพันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมในชีวิตประจำวัน



“เรายังมีพื้นที่สาธารณะไม่เพียงพออีกหรือ?”

คณะผู้ก่อตั้งฯ ซึ่งประกอบด้วย นักวิชาการ นักกิจกรรมทางสังคม ได้เห็นร่วมกันว่า นับตั้งแต่หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมาพื้นที่สาธารณะหลากหลายประเภทถูกเซ็นเซอร์จากอำนาจรัฐ ไม่ว่าด้วยการปิดเว็บไซต์ การห้ามเผยแพร่หนังสือ การแบนภาพยนตร์ การยึดสถานีวิทยุชุมชน โดยรัฐอ้างว่าพื้นที่เหล่านี้มีเนื้อหาขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอัน ดีของประชาชนและที่

ยิ่งไปกว่านั้น การก่อตัวของภาคประชาสังคมเอียงขวา เช่น ขบวนการล่าแม่มดในอินเตอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชนหลายแขนงที่สนับสนุนอำนาจรัฐในการปราบปรามประชาชนใน เหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 2553

คณะผู้ก่อตั้งฯ ในฐานะประชาชนธรรมดาไม่อาจเห็นด้วยกับการถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพเช่นนี้ ด้วยความเชื่อว่าการสถาปนาระบอบเสรีประชาธิปไตยให้ลงหลักปักฐานได้อย่างมั่น คงนั้น ประชาชนจำเป็นต้องทวงคืน สร้างใหม่ และขยายพื้นที่สาธารณะทางความคิด ที่เปิดโอกาสให้ทุกอุดมการณ์ได้มาถกเถียง วิวาทะกันอย่างเปิดกว้างที่สุด เพื่อที่เราจะได้ต่อสู้กันทางความคิดแทนการใช้อาวุธและความรุนแรง

กิจกรรมของร้าน Book Re:public เริื่มจากการจัดเสวนา “อ่านออกเสียง” เพื่อให้ทุกอุดมการณ์ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สร้างวิวาทะ และวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งกันและกันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม หลังจากนั้น ก็จะเป็นการเปิด “หลักสูตรประชาธิปไตยศึกษา” เพื่อสร้างพื้นฐานความรู้ทางการเมืองแนววิพากษ์ สำหรับการวิเคราะห์และทำความเข้าใจพลวัตความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย

นอกจากนี้ เรายังจัดพื้นที่ให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการอ่านและค้นคว้าหนังสือเกี่ยว กัประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทย มีการจัดฉายหนัง แสดงดนตรี อ่านบทกวี นิทรรศการหมุนเวียน และการแสดง collection หนังสือหายาก เป็นครั้งคราว ซึ่งทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


กิจกรรมเสวนาอ่านออกเสียงประจำเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน

อ่านออกเสียงครั้งที่ 1 “เปิดปาก เปิดพื้นที่เสรีทางความคิด”
วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2554

16.00 น. - 17.00 น. ปาฐกถา "อ่าน คำพิพากษา จากชาติ กอบจิตติ ถึงตุลาการศาลไทย"
ไชยันต์ รัชชกูล สถาบันศาสนา วัฒนธรรม และสันติภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ
แนะนำโครงการ Cafe´ Democracy และ Book Re:public
ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
17.00 น. - 17.40 น. เสวนา “คนหนุ่มสาวสามยุคในขบวนการประชาธิปไตย”
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สืบสกุล กิจนุกร นักวิจัยอิสระ
สุลักษณ์ หลำอุบล อดีตนักกิจกรรม สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
17.40น. - 19.00 น. เสวนา "ยังจะทำ/เขียน/อ่าน/ขาย หนังสืออยู่อีกหรือ?"
คนทำ ไอดา บรรณาธิการวารสารอ่าน
คนเขียน วรพจน์ พันพงศ์ นักเขียนสารคดี
คนขาย เสาวนีย์ เมฆานุพักตร์ เจ้าของร้านเล่า
ดำเนินรายการโดย รจเรข วัฒนพาณิชย์ ร้าน Book Re:public
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ และชมดนตรี โดยวงสุดสะแนนและผองเพื่อน

อ่านออกเสียงครั้งที่ 2 “ประสบการณ์จัดหนัก”
วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554
15.00 น. -16 .00 น. "คนทำหนังสือที่ริอ่านมาทำหนัง"
สุภาพ หริมเทพาธิป ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ ไบโอสโคป/รักจัดหนัก
โจ้ วชิรา Rabbithood ดำเนินรายการ
18.00 -21.00 น. "คนทำหนังที่ริอ่านเป็นผู้ก่อการร้าย"
ดูหนัง ผู้ก่อการร้าย ร่วมเสวนากับ ธัญสก พันสิทธิวรกุล และคำ ผกา


อ่านออกเสียงครั้งที่ 3 “อ่านอัลกุรอาน”
วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554
13.00 น. - 15.00 น. “อ่านอัลกุรอาน ผ่านตัวบท บริบท และการเมืองของคัมภีร์อัลกุรอาน”
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


อ่านออกเสียงครั้งที่ 4 “อ่านนิยาย/นิทานแห่งชาติ”
วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2554
13.00 น. - 15.00 น. "นิทานแห่งชาติเรื่อง รักแห่งสยาม, พ่อขุนอุปถัมภ์, และ ชนบทไร้เดียงสา”
ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รอการยืนยันหัวข้อ
ธงชัย วินิจจะกูล ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน

********

ทนายดา ตอร์ปิโด รายงานยอดบริจาคช่วงพี่ชายโดนจับ

ทนายประเวศ ประภานุกูล แจ้งรายงาน รายการบัญชีเงินบริจาคช่วยเหลือ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล (ดา ตอร์ปิโด)
ว่า สืบเนื่องจากการที่คุณกิตติชัย ชาญเชิงศิลปกุล พี่ชายของดารณี ถูกจับตัวเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 ทำให้ไม่มีคนดูแลความเป็นอยู่(การซื้อของใช้)และฝากเงินเข้าบัญชีทัณฑสถาน หญิงกลางให้ดา จึงมีคนนำหมายเลขบัญชีเงินฝากของผมไปเผยแพร่เพื่อให้ผู้ที่ประสงค์จะให้ความ ช่วยเหลือดา โอนเงินเข้ามาเป็นค่าใช้จ่ายของดา นั้น

ต่อมาคุณกิตติชัย ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้วตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ดังนั้นเรื่องความเป็นอยู่ของดา คุณกิตติชัย จึงเป็นผู้ดูแลต่อไปเช่นเดิม ไม่จำเป็นต้องผ่านผมอีก หากใครต้องการช่วยเหลือดา ขอให้ติดต่อคุณกิตติชัย ตามเดิม

ส่วนเงินที่โอนเข้าบัญชีผมมาแล้วนั้น ผมได้ไปคุยกับดา ได้ข้อสรุปจากดา ว่า ให้โอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีของคุณกิตติชัย เพื่อให้คุณกิตติชัย รับไปใช้ดูแลดา ต่อไป ผมจึงได้โอนเงินเข้าบัญชีคุณกิตติชัย ชาญเชิงศิลปกุล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาพูนผล เลขที่บัญชี 297-1-25805-5 จำนวนเงิน 16,224.13 บาท โดยเป็นการโอนผ่านธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเสียค่าโอนเงิน 60 บาท (ตามใบคำขอโอนเงิน/ใบเสร็จรับเงิน)

ดังนั้นหากมีใครต้องการช่วยเหลือดา ขอได้โปรดติดต่อคุณกิตติชัย ชาญเชิงศิลปกุล พี่ชายดาโดยตรงตามเดิม ไม่ต้องโอนผ่านบัญชีของผมแล้ว


อ่านปากคำของดา ตอร์ปิโด ที่พูดกับบางกอกโพสต์ล่าสุด และประชาไทถอดความเป็นภาษาไทย คลิ้กที่นี่ มีหลายประเด็นน่าสนใจ และคนยังไม่รู้แบบลึกๆในบทสัมภาษณ์นี้