ที่มา uddred
ข่าวสด 25 ตุลาคม 2555 >>>
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นาย จตุพร พรหมพันธุ์
แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ
เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ
จำนวน 99 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน
จากเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเดือนเม.ย.-พ.ค.2553
โดยนายจตุพรให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าให้การว่า
ได้หลักฐานเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลแพ่ง
กรณีสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.2552 หรือสงกรานต์เลือด ที่มีผู้ถูกยิง
และศาลพิพากษาให้กองทัพชดใช้ค่าเสียหาย
โดยระบุว่าในปฏิบัติการดังกล่าวมีการใช้กระสุนจริง
นายจตุพรกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังนำภาพ
ถ่ายและเอกสารที่รวบรวมรายละเอียดเหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
มามอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาคดีด้วย
โดยเชื่อว่าชายชุดดำที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
นำภาพถ่ายมาแสดงนั้น เหมือนมีการจัดฉากเรื่องราวมาตั้งแต่ต้น
เนื่องจากในช่วงดังกล่าวรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งที่ยังไม่มีความรุนแรง เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553
ก่อนจะใช้กำลังสลายการชุมนุมในวันที่ 10 เม.ย. 2553
ต่อมามีการอ้างโทรทัศน์ต่างประเทศเผยแพร่ภาพถ่ายชายชุดดำ
โดยมีข้อสังเกตว่ามีการเผยแพร่เพียงช่องเดียวหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 3 วัน
ชี้มีแต่ "ชุดดำ" ในกลุ่ม จนท.
แกนนำนปช. กล่าวอีกว่า ดังนั้น
จึงต้องการให้ดีเอสไอติดตามผู้สื่อข่าวที่เป็นผู้ถ่ายภาพดังกล่าวมาสอบถาม
ข้อเท็จจริง รวมถึงหลักฐานกล้องวงจรปิดการเข้าออก ศอฉ. ที่กรมทหารราบที่ 11
รักษาพระองค์ ด้วย หากทหารมีความบริสุทธิ์ใจก็ควรให้ตรวจสอบ เพราะช่วงนั้น
ศอฉ.ใช้งบประมาณถึง 6,000 ล้านบาท
จะมาปฏิเสธว่าไม่มีกล้องวงจรปิดได้อย่างไร
ขอยืนยันว่าประเด็นชายชุดดำยังต้องพิสูจน์ให้ชัด
แต่ข้อมูลที่พบคือมีภาพที่มีชายชุดดำไปซุ่มยิงในบริเวณใกล้กับเจ้าหน้าที่
และแฝงตัวอยู่ใกล้กับจุดที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในหลายพื้นที่
รวมทั้งวันที่ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
ถูกยิงก็มีชายชุดดำติดตามไปถึง ร.พ.หัวเฉียว ด้วย
"กรณีชายชุดดำเป็นจินตนาการล่วงหน้า วางแผนล่วงหน้า รัฐบาลประกาศใช้
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่ยังไม่มีการก่อการร้าย แต่มีพล็อตเรื่องไว้ล่วงหน้า
หลังจากนั้นจึงปฏิบัติการที่สี่แยกคอกวัวและถนนศรีอยุธยา
หากสุจริตก็ไม่ควรปกปิดและนำภาพวงจรปิดมาเผยแพร่
มีความพยายามปั่นเรื่องชายชุดดำ ทั้งที่ไม่มีใครเคยเห็นหน้า อย่างไรก็ตาม
เหตุการณ์ปี 2553 นั้น ผมอโหสิกรรมให้กลุ่มทหารที่ปฏิบัติหน้าที่
แต่จะไม่อโหสิกรรมให้คนสั่งการ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ
เทือกสุบรรณ อย่างแน่นอน" นายจตุพร กล่าว
"เหวง" จี้เปิดผลสอบ เม.ย. 52
ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ
จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อ
พล.ต.อ.วิรุฬห์ ฟื้นแสน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญกฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน
สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ประสานกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
ประธานรัฐสภา นำผลการศึกษาการชุมนุมทางการเมืองปี 2552 ของรัฐสภา
มาเผยแพร่ต่อสาธารณชน
นพ.เหวง กล่าวว่า ในปี 2552
มีการชุมนุมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่ม นปช.
กระทั่งรัฐบาลใช้ความรุนแรงเข้าปราบปราม
ระหว่างนั้นมีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดข้อสงสัยต่อรัฐบาลที่บริหารราชการในขณะ
นั้นหลายเรื่อง อาทิ รถแก๊สที่จอดอยู่บริเวณซอยรางน้ำ เป็นการจัดฉากหรือไม่
การยิงประชาชนกระทั่งต้องเข้าห้องไอซียู ร.พ.ทหารผ่านศึก
เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ศพของชาย 2 คน
และลอยขึ้นฝั่งที่ท่าพระอาทิตย์ แม่น้ำเจ้าพระยา
ในสภาพที่ถูกมัดมือไพล่หลัง การเสียชีวิตของพลทหารอภินพ เครือสุข
เป็นอุบัติเหตุล้มฟาดชักโครกหรือไม่ และคลิปเสียงที่คล้ายนายอภิสิทธิ์
ที่สั่งการสลายม็อบ เป็นเสียงของนายอภิสิทธิ์จริงหรือไม่ หรือมีการตัดต่อ
ตามที่พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์เคยออกมาระบุ
ถ้าแดงเลวทราม-ยินดีรับผิด
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ผลการศึกษาดังกล่าวมีนายชัย
ชิดชอบ ประธานรัฐสภาในขณะนั้นเป็นผู้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบ
แต่เหตุใดจึงเก็บไว้เป็นความลับ ไม่นำผลสอบมาเปิดเผย
หากกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นพวกเลวทราม มีความผิด ก็ยินดีรับผิดตามกฎหมาย
ขอให้เปิดเผยข้อมูลออกมา
หรือเป็นเพราะในรายงานระบุว่ารัฐบาลในขณะนั้นมีความผิด จึงไม่นำมาเปิดเผย
เพื่อปกปิดความผิดหรือไม่
จึงเรียกร้องให้นำผลการสอบสวนมาตีพิมพ์เผยแพร่ให้ทราบทั่วกัน และในวันที่
25 ต.ค. เวลา 13.30 น. จะไปยื่นเรื่องต่อดีเอสไอ
พร้อมทั้งจะประสานกับนายสมศักดิ์ เพื่อถามหารายงานฉบับนี้อีกทางหนึ่ง
ส่วน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวถึงชายชุดดำว่า
ในช่วงที่นำการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง
มีผู้ชุมนุมรายหนึ่งมาให้ข้อมูลเรื่องชายชุดดำว่า มีชายชุดดำ 6 คน
มากับรถตู้สีขาว และมีผู้หญิงคอยกำกับอยู่
โดยจะมีชายชุดดำอีกหนึ่งชุดคอยสลับกันยิงกลุ่มผู้ชุมนุม ดังนั้น
ขอให้ผู้ชุมนุมที่ให้ข้อมูลดังกล่าวกับตน
ออกมาให้ข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม
โดยส่วนตัวมองว่าอย่าพยายามค้นหาชายชุดดำเลย
แต่ไปเร่งรัดคดีกับผู้ที่สั่งฆ่าคนเสื้อแดงจะดีกว่า