WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, October 26, 2010

ความไร้กึ๋นของผู้บริหารกรมการค้าต่างประเทศ

ที่มา มติชน



โดย สายสะพาย

นายมนตรี จุ้ยม่วงศรี ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์"มติเชน"รายวัน ทำหนังสือถึงนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ขอข้อมูลข่าวสาร 5 รายการเรื่องการประมูลมันเส้นในสต็อกของรัฐบาล

แต่เมื่อได้อ่านหนังสือตอบปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของกรมการค้าต่างประเทศแล้ว หัวร่อมิออก ร่ำไห้มิได้จริงๆเพราะ เนื้อหาของหนังสือฉบับดังกล่าวสะท้อนถึงไร้กึ๋นของฝ่ายกฎหมายและผู้บริหาร กรมการค้าต่างประเทศที่ชักแม้น้ำทั้งห้ามาเพื่อปกปิดข้อมูลข่าวสารอย่างสุด ฤทธิ์สุดเดช

หนังสือของกรมการค้าต่างประเทศลงวันที่ 14 ตุลาคม 2553 แบ่งออกเป็น 2ข้อซึ่ง"สายสะพาย"ขอชำแหละคำตอบให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความ"มั่ว"ในการหยิบยกทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงมาอ้างในหนังสือฉบับนี้


ข้อแรก หนังสือของกรมการค้าต่างประเทศอ้างว่า หนังสือขอข้อมูลของท่าน(นายมนตรี จุ้ยม่วงศรี )มีความไม่ชัดเจนพอที่จะเข้าใจได้ว่า นายมนตรีประสงค์ที่จะขอข้อมูลในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะของหนังสือพิมพ์มติชน เพราะแม้ว่านายมนตรีนจะเป็นผู้ลงนามในหนังสือฉบับที่อ้างถึง แต่ตอนท้ายของหนังสือกลับปรากฏชื่อและที่อยู่ของบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ผู้เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์มติชน และมีหมายเลขโทรศัพท์ของกองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์มติชนปรากฏอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่ง หากนาย มนตรีประสงค์จะขอข้อมูลในนามของหนังสือพิมพ์มติชน หนังสือขอข้อมูลฉบับนี้จะต้องลงนามโดยบรรณาธิการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์มติชนหรือเจ้าของหนังสือพิมพ์มติชน จึงจะชอบด้วย พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ. 2484


สายสะพาย: ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ บัญญัติถึง ผู้ที่มีสิทธิในการขอข้อมูลข่าวสารฯจากหน่วยงานของรัฐไว้ใน มาตรา 9 วรรคสามว่า "บุคคลไม่ว่า จะมีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม ย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสำเนา....ของข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่งได้"ซึ่งคำว่า บุคคลในที่นี้ย่อมหมายถึง"บุคคลธรรมดา" หรือ"นิติบุคคล"ก็ได้ (ขอเพียงให้มีสัญญชาติไทย-ดูมาตรา9วรรคสี่ที่กำหนดสิทธิเรื่องบุคคลต่างด้าวไว้เป็นการเฉพาะ)


ดังนั้น เมื่อนายมนตรี เป็นบุคคลสัญชาติไทย ไม่ว่าจะขอในนาม"บุคคล"หรือ"นิติบุคคล" ย่อมมีสิทธิทำได้ตามกฎหมาย ไม่ใช่เหตุที่กรมการค้าต่างประเทศนำมาอ้างในการปฏิเสธการไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่อนายมนตรี


นอก จากนั้น หนังสือกรมการค้าต่างประเทศยังอ้างว่า "หากท่านประสงค์จะขอข้อมูลในนามของหนังสือพิมพ์มติชน ...จะต้องลงนามโดยบรรณาธิการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์มติชนหรือเจ้าของหนังสือพิมพ์มติชน จึงจะชอบด้วย พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ. 2484"


จากคำตอบดังกล่าวเห็นชัดว่า สมควรที่จะยุบสำนักกฎหมายทิ้ง เพราะ พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 ถูกยกเลิกไปนานถึง3 ปีแล้วโดย มาตรา 3 แห่งพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550


คำตอบดังกล่าว ยังแสดงให้เห็นความล้าหลังของบุคคลากรในสำนักกฎหมายที่หลับหูหลับตาตอบเพื่อปัดสวะให้พ้นตัวโดยไม่มีการค้นคว้าถึงพัฒนาการทางด้านกฎหมายใหม่ๆ แล้วจะไปสู้กับต่างประเทศที่มีการพัฒนาด้านกฎหมายอย่างรวดเร็วได้อย่างไร


ข้อสอง สำหรับข้อมูลที่ท่าน(นายมนตรี จุ้ยม่วงศรี )มีความประสงค์ให้กรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยให้แก่ท่าน จำนวน 5 รายการนั้น เป็นข้อมูลที่กรมการค้าต่างประเทศยังจำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการประมูล ซึ่งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ และประกอบกับข้อมูลส่วนนี้เป็นเอกสารลับของทางราชการ หากอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนนี้ได้จะกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ตาม กฎหมายของกรมการค้าต่างประเทศในการระบายมันเส้นและแป้งมันตามนโยบายของ รัฐบาล


ข้อมูลข่าวสารส่วนนี้จึงเป็นข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผยไป แล้วจะก่อให้ เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540


สายสะพาย: เมื่อพิจารณาดุจากข้อมูลข่าวสารที่นายมนตรีขอแล้วมีลักษณะคล้ายกันคือ การดำเนินการประมูลมันเส้นเสร็จสิ้นเป็นที่ยุติแล้ว เช่น รายละเอียดผลการประมูลมันเส้นในโกดัง จ.กำแพงเพชร จำนวน 7.4 หมื่นตัน ที่ ครม.มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 อาทิ มีเอกชนกี่รายที่เข้าร่วมการประมูลและราคาที่แต่ละรายเสนออยูที่เท่าไหร่

ดังนั้นข้ออ้างของกรมการค้าต่างประเทศว่า การดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จจึงไม่เป็นความจริง

เมื่อการดำเนินการแล้วเสร็จ ข้ออ้างว่า การเปิดเผยข้อมูลจะกระทบต่อการปฏิบัติงานของกรมการค้าต่างประเทศจึงฟังไม่ขึ้น


ข้อมูล ข่าวสารดังกล่าว จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่จะอ้างไม่ยอมเปิดเผยตามมาตรา 15(1)ว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารแล้วจะกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้


นอก จากนั้นจากข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนเปิดโปงนั้นยังพบว่า บริษัทที่ชนะการประมูลเป็นบริษัทในเครือข่ายของที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็น"เจ้านาย"ของนายมนัส สร้อยพลอยอีกด้วย


แต่ การเปิดเผยข้อมูลจะเป็นการตรวจสอบมิให้กรมการค้าต่าง ประเทศ"หมกเม็ด"และอ้างเอกสารลับของทางการราชการเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจ สอบอย่างที่กระทำเป็นอาจิณ