ที่มา Voice TV
กกต.โหวต 2 รอบ หลังมติเสมอกัน ก่อนชง ปธ.กกต. ใช้สิทธิ
เสียงชี้ขาด เป็น 3:2 ให้ใบแดง 'เก่ง การุณ' เผย 'สมชัย' ไม่อยู่
ที่ประชุมก็ไม่รอ ลุ้นหากหลุดจริง คนใหม่ใครจะมาลงส.ส.
หลังจากการออกมาแถลงข่าวของ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกต.มีมติเสียงข้างมาก สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 12พรรคเพื่อไทย พร้อมมีคำสั่งให้เลือกตั้งใหม่ และให้เรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ จากกรณีนายการุณ ปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยกันหลายครั้ง
ซึ่งการลงมติครั้งนี้ของกกต. ผลปรากฏว่ามติออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ ด้วยเสียง 3 ต่อ 2 ที่เห็นว่าควรให้ ใบแดง นายการุณ ซึ่งการลงมติในครั้งที่สองนี้ สืบเนื่องจาก มติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ ครั้งแรกเป็นมติในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ซึ่งที่ประชุมกกต.มีเพียง 4 คน ขาด นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนและวินิจฉัย ที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างจังหวัด
โดยการลงมติกรณีดังกล่าว ปรากฎว่ามีเสียงเท่ากัน คือ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. และ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เห็นควรสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง และ นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น เห็นควรให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่า การปราศรัยโจมตีกัน เป็นเรื่องปกติทางการเมือง อีกทั้งกรณีนี้ นายแทนคุณ ได้แจ้งความและตำรวจได้ทำสำนวนส่งไปยังอัยการ แต่อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปแล้ว จึงไม่น่ามีน้ำหนักอะไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการลงมติไปแล้วนั้น วันนี้นายอภิชาติ จึงให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมกกต.อีกครั้งในการ ประชุมวันนี้ (20 มิ.ย.) เพื่อขานมติที่ลงไปแล้วอีกครั้ง ซึ่งในที่ประชุมวันนี้เมื่อขานมติกกต.แต่ละ คนยังคงยืนยันมติของตนเอง ประธานกกต.จึงใช้อำนาจตามมาตรา 8 พ.ร.บ.ประกอบว่า ด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง ที่ระบุว่า ในกรณีที่ใช้คะแนนเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด ออกเสียงชี้ขาด ทำให้มติกกต.ที่ออกมาเป็นเสียงข้างมาก สั่งเพิกถอนสิทธินายการุณในที่สุด
ทั้งนี้ ในขั้นตอนต่อไป ทางกกต.จะต้องส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาพิพากษา หากศาลฯรับคำร้อง จะทำให้นายการุณ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จากนั้นจึงรอคำพิพากษาต่อไป ส่วนการจัดเลือกตั้งซ่อม จะเป็นหน้าที่ของ กกต.ในการดำเนินการ
ขณะเดียวกัน มีการวิเคราะห์กันว่า หาก นายการุณ พ้นตำแหน่งจริง ทางพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม สู้กับ นายแทนคุณ ที่เป็นตัวยืนจากพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว เบื้องต้นทางพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า ต้องรอความชัดเจนจากคำพิพากษาก่อนจึงจะมีการตัดสินใจพิจารณาผู้สมัคร
แต่ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าว อยู่ในความดูแลของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ซึ่งทราบกันดีว่า อยู่ในกลุ่มกรุงเทพฯ ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแกนนำกลุ่มฯของพรรคเพื่อไทย จึงคาดว่า ผู้สมัครส.ส. จะต้องสังกัดในกลุ่มนี้
นอกจากนี้ สมัยก่อนพื้นที่นี้ยังเป็นของ แม่ทัพหญิง แห่งทุ่งบางเขน สายไหม และดอนเมือง อย่าง "เจ๊ปิ๊ก" ปวีณา หงสกุล ซึ่งเพิ่งพ้นบ้านเลขที่ 111 มาเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ยื่นใบสมัครเข้าพรรคใด แต่ก็ต้องดูว่า "ระดับเซียน" ชั้นนี้ จำเป็นต้องมาลงสมัครส.ส.อีกหรือไม่ แต่หากจะสนับสนุนใครลงทำศึก ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่หากมาลงเองจริง คงจะเป็นดาวเด่นเช่นกัน
แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้นความชัดเจน คงต้องรอคำพิพากษาในประเด็นนี้ก่อน เพราะยังมีประเด็นคาใจว่า ทำไมกกต.ไม่รอประชุมแบบครบองค์ ทั้ง 5 คน เพื่อลงมติ แล้วเรื่องการปราศรัยโจมตีกัน ประเด็นเด่นชัด ถึงให้ใบแดงอยู่ตรงไหนอย่างไร คงต้องติดตาม.
หลังจากการออกมาแถลงข่าวของ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกต.มีมติเสียงข้างมาก สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 12พรรคเพื่อไทย พร้อมมีคำสั่งให้เลือกตั้งใหม่ และให้เรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ จากกรณีนายการุณ ปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยกันหลายครั้ง
ซึ่งการลงมติครั้งนี้ของกกต. ผลปรากฏว่ามติออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ ด้วยเสียง 3 ต่อ 2 ที่เห็นว่าควรให้ ใบแดง นายการุณ ซึ่งการลงมติในครั้งที่สองนี้ สืบเนื่องจาก มติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ ครั้งแรกเป็นมติในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ซึ่งที่ประชุมกกต.มีเพียง 4 คน ขาด นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนและวินิจฉัย ที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างจังหวัด
โดยการลงมติกรณีดังกล่าว ปรากฎว่ามีเสียงเท่ากัน คือ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. และ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เห็นควรสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง และ นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น เห็นควรให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่า การปราศรัยโจมตีกัน เป็นเรื่องปกติทางการเมือง อีกทั้งกรณีนี้ นายแทนคุณ ได้แจ้งความและตำรวจได้ทำสำนวนส่งไปยังอัยการ แต่อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปแล้ว จึงไม่น่ามีน้ำหนักอะไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการลงมติไปแล้วนั้น วันนี้นายอภิชาติ จึงให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมกกต.อีกครั้งในการ ประชุมวันนี้ (20 มิ.ย.) เพื่อขานมติที่ลงไปแล้วอีกครั้ง ซึ่งในที่ประชุมวันนี้เมื่อขานมติกกต.แต่ละ คนยังคงยืนยันมติของตนเอง ประธานกกต.จึงใช้อำนาจตามมาตรา 8 พ.ร.บ.ประกอบว่า ด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง ที่ระบุว่า ในกรณีที่ใช้คะแนนเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด ออกเสียงชี้ขาด ทำให้มติกกต.ที่ออกมาเป็นเสียงข้างมาก สั่งเพิกถอนสิทธินายการุณในที่สุด
ทั้งนี้ ในขั้นตอนต่อไป ทางกกต.จะต้องส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาพิพากษา หากศาลฯรับคำร้อง จะทำให้นายการุณ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จากนั้นจึงรอคำพิพากษาต่อไป ส่วนการจัดเลือกตั้งซ่อม จะเป็นหน้าที่ของ กกต.ในการดำเนินการ
ขณะเดียวกัน มีการวิเคราะห์กันว่า หาก นายการุณ พ้นตำแหน่งจริง ทางพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม สู้กับ นายแทนคุณ ที่เป็นตัวยืนจากพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว เบื้องต้นทางพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า ต้องรอความชัดเจนจากคำพิพากษาก่อนจึงจะมีการตัดสินใจพิจารณาผู้สมัคร
แต่ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าว อยู่ในความดูแลของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ซึ่งทราบกันดีว่า อยู่ในกลุ่มกรุงเทพฯ ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแกนนำกลุ่มฯของพรรคเพื่อไทย จึงคาดว่า ผู้สมัครส.ส. จะต้องสังกัดในกลุ่มนี้
นอกจากนี้ สมัยก่อนพื้นที่นี้ยังเป็นของ แม่ทัพหญิง แห่งทุ่งบางเขน สายไหม และดอนเมือง อย่าง "เจ๊ปิ๊ก" ปวีณา หงสกุล ซึ่งเพิ่งพ้นบ้านเลขที่ 111 มาเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ยื่นใบสมัครเข้าพรรคใด แต่ก็ต้องดูว่า "ระดับเซียน" ชั้นนี้ จำเป็นต้องมาลงสมัครส.ส.อีกหรือไม่ แต่หากจะสนับสนุนใครลงทำศึก ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่หากมาลงเองจริง คงจะเป็นดาวเด่นเช่นกัน
แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้นความชัดเจน คงต้องรอคำพิพากษาในประเด็นนี้ก่อน เพราะยังมีประเด็นคาใจว่า ทำไมกกต.ไม่รอประชุมแบบครบองค์ ทั้ง 5 คน เพื่อลงมติ แล้วเรื่องการปราศรัยโจมตีกัน ประเด็นเด่นชัด ถึงให้ใบแดงอยู่ตรงไหนอย่างไร คงต้องติดตาม.
by
pakornr
20 มิถุนายน 2555 เวลา 18:59 น.
