ที่มา Voice TV
กลายเป็นประเด็นวิพากษ์ สำหรับมติ 3 ต่อ 2 จาก 4 กกต.
ที่มอบใบแดงให้ 'เก่ง การุณ' ส่วนก่อนหน้านี้ ใบเหลือง ใบแดง
ของกกต.ล้วนมีหลากแนว ชวนให้ 'กวน มึน งง'
กลายเป็นข้อถกเถียงกันสนุกปาก ว่า ตกลงการปราศรัยใส่ร้ายผู้สมัคร เป็นเรื่องโทษใบแดงหรือไม่อย่างไร
เป็นประเด็นสืบเนื่องจาก กรณี นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย ที่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งในปีที่ผ่านมา ลงประกบคู่แข่งอย่าง นายแทนคุณ จิตรอิสระ หรือ อี้ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเขตนี้ดุเดือด สนุกสนาน และรุนแรงเป็นอย่างมาก
กระทั่ง มีการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. ว่า มีการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยกล่าวหา นายการุณ ปราศรัยใส่ร้าย นายแทนคุณ ซึ่งจากการไต่สวนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ที่ประชุม กกต. จำนวน 4 ท่าน จึงลงมติในครั้งที่ 2 ด้วยมติ 3 ต่อ 2 ควักใบแดงให้ "เก่ง การุณ" ด้วยข้อกังขา กับมติครั้งนี้ เนื่องจาก ประธานกกต.ขอใช้สิทธิชี้ขาด ตัดสินกรณีดังกล่าว ประชุมกัน 4 คน ขาด 1 คน เสียงจึงออกมาอย่างที่เป็นข่าว
ประกอบกับ คำสัมภาษณ์ของ นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ในฐานะเสียงข้างน้อย ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การปราศรัยโจมตีกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ถึงต้องเป็นเรื่องของการให้ใบแดง
จากปมนี้ จึงทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้ทันทีว่า ข้อมูลกกต.น่าจะสับสน เพราะที่ผ่านมา กกต.ก็เคยให้ใบแดง ในกรณี นายธานินทร์ ใจสมุทร ในการเลือกตั้ง นายกฯอบจ.สตูล ซึ่งมีการร้องเรียนเรื่องการปราศรัยเช่นกัน
ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ยังมีคดีมีผู้ร้องเรียนในเรื่องการแจกเงินเพื่อโน้มน้าวการเลือกตั้ง แต่กกต.ก็ไม่ได้แจกใบแดง แต่กลับสั่งให้ดำเนินคดีอาญา เพราะเชื่อว่ามีหลักฐานในการทำผิด ซึ่งเป็นกรณีใบเหลืองของ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยการนั้น นายสุทธิพล ทวีชัยการ อดีตเลขาฯกกต. ได้แถลงอีกว่า "ที่ ประชุมมีมติแจกใบเหลืองแก่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ว่าที่ ส.ส.นครนายก เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ข้อหาให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจ รวมถึงให้มีการดำเนินคดีอาญากับนายชาญชัย ด้วย พร้อมกับให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง"
ส่วนในประเด็น คำถามว่า การให้ดำเนินคดีอาญา แสดงว่ามีหลักฐานความผิดชัดเจน แต่ทำไมถึงโดนแค่ใบเหลือง นายสุทธิพล ตอบว่า "เป็น มติ กกต.เสียงข้างมากเห็นว่ามีการกระทำผิดจริง แต่การให้ใบแดงต้องใช้มติ 4 ใน 5 ซึ่งกรณีนี้เมื่อเสียงไม่ถึง 4 ใน 5 จึงกลายเป็นแค่ใบเหลือง อย่างไรก็ตาม เสียงข้างมากของ กกต.เห็นว่า ควรให้ดำเนินคดีอาญาด้วย จึงจำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดี แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการขัดคุณสมบัติลงเลือกตั้งของผู้สมัคร เพราะคดียังไม่สิ้นสุด"
แต่ในที่สุด ผลการเลือกตั้งใหม่ นายชาญชัย พ่ายผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย คือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย เคยโดนใบแดงถูกร้องว่าแจกของ ซึ่งกกต.ลงมติให้ใบแดง แต่เมื่อไปถึงศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นายบุญจง ได้ "ใบขาว" รอดจากข้อหาดังกล่าวไปได้
เมื่อมีหลายรูปแบบ จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลักการในการพิจารณาตัดสิน ใบแดง หรือ ใบเหลือง เป็นอย่างไร
ขณะเดียวกัน จากการสอบถามข้อมูลทางข้อกฎหมาย ไปยัง อดีตกกต.ท่านหนึ่ง (หนึ่งใน กกต.ชุดแรก) ได้คำตอบเพียงว่า "การ วินิจฉัยถือเป็นเอกสิทธิ์ของ กกต.แต่ละท่าน แต่จะว่าไปแล้ว การประชุมลงมติแต่ละครั้ง จะต้องถกกันให้ถึงที่สุด และต้องเอาหลักฐานมากางกันจะจะ ไล่กันให้สุด ถ้ายังไม่แน่ใจต้องหาหลักฐานมัดให้ได้ แต่ถ้าไม่ชัดก็ต้องจำยอมตามหลักฐาน โดยจะต้องว่ากันตามหลักฐานเท่านั้น ส่วนกรณีนี้ คงต้องรอดูคำวินิจฉัยของกกต.แต่ละท่าน และรอคำพิพากษาจากศาลฯน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด"
กลายเป็นข้อถกเถียงกันสนุกปาก ว่า ตกลงการปราศรัยใส่ร้ายผู้สมัคร เป็นเรื่องโทษใบแดงหรือไม่อย่างไร
เป็นประเด็นสืบเนื่องจาก กรณี นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย ที่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งในปีที่ผ่านมา ลงประกบคู่แข่งอย่าง นายแทนคุณ จิตรอิสระ หรือ อี้ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเขตนี้ดุเดือด สนุกสนาน และรุนแรงเป็นอย่างมาก
กระทั่ง มีการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. ว่า มีการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยกล่าวหา นายการุณ ปราศรัยใส่ร้าย นายแทนคุณ ซึ่งจากการไต่สวนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ที่ประชุม กกต. จำนวน 4 ท่าน จึงลงมติในครั้งที่ 2 ด้วยมติ 3 ต่อ 2 ควักใบแดงให้ "เก่ง การุณ" ด้วยข้อกังขา กับมติครั้งนี้ เนื่องจาก ประธานกกต.ขอใช้สิทธิชี้ขาด ตัดสินกรณีดังกล่าว ประชุมกัน 4 คน ขาด 1 คน เสียงจึงออกมาอย่างที่เป็นข่าว
ประกอบกับ คำสัมภาษณ์ของ นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ในฐานะเสียงข้างน้อย ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การปราศรัยโจมตีกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ถึงต้องเป็นเรื่องของการให้ใบแดง
จากปมนี้ จึงทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้ทันทีว่า ข้อมูลกกต.น่าจะสับสน เพราะที่ผ่านมา กกต.ก็เคยให้ใบแดง ในกรณี นายธานินทร์ ใจสมุทร ในการเลือกตั้ง นายกฯอบจ.สตูล ซึ่งมีการร้องเรียนเรื่องการปราศรัยเช่นกัน
ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ยังมีคดีมีผู้ร้องเรียนในเรื่องการแจกเงินเพื่อโน้มน้าวการเลือกตั้ง แต่กกต.ก็ไม่ได้แจกใบแดง แต่กลับสั่งให้ดำเนินคดีอาญา เพราะเชื่อว่ามีหลักฐานในการทำผิด ซึ่งเป็นกรณีใบเหลืองของ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยการนั้น นายสุทธิพล ทวีชัยการ อดีตเลขาฯกกต. ได้แถลงอีกว่า "ที่ ประชุมมีมติแจกใบเหลืองแก่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ว่าที่ ส.ส.นครนายก เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ข้อหาให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจ รวมถึงให้มีการดำเนินคดีอาญากับนายชาญชัย ด้วย พร้อมกับให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง"
ส่วนในประเด็น คำถามว่า การให้ดำเนินคดีอาญา แสดงว่ามีหลักฐานความผิดชัดเจน แต่ทำไมถึงโดนแค่ใบเหลือง นายสุทธิพล ตอบว่า "เป็น มติ กกต.เสียงข้างมากเห็นว่ามีการกระทำผิดจริง แต่การให้ใบแดงต้องใช้มติ 4 ใน 5 ซึ่งกรณีนี้เมื่อเสียงไม่ถึง 4 ใน 5 จึงกลายเป็นแค่ใบเหลือง อย่างไรก็ตาม เสียงข้างมากของ กกต.เห็นว่า ควรให้ดำเนินคดีอาญาด้วย จึงจำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดี แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการขัดคุณสมบัติลงเลือกตั้งของผู้สมัคร เพราะคดียังไม่สิ้นสุด"
แต่ในที่สุด ผลการเลือกตั้งใหม่ นายชาญชัย พ่ายผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย คือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย เคยโดนใบแดงถูกร้องว่าแจกของ ซึ่งกกต.ลงมติให้ใบแดง แต่เมื่อไปถึงศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นายบุญจง ได้ "ใบขาว" รอดจากข้อหาดังกล่าวไปได้
เมื่อมีหลายรูปแบบ จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลักการในการพิจารณาตัดสิน ใบแดง หรือ ใบเหลือง เป็นอย่างไร
ขณะเดียวกัน จากการสอบถามข้อมูลทางข้อกฎหมาย ไปยัง อดีตกกต.ท่านหนึ่ง (หนึ่งใน กกต.ชุดแรก) ได้คำตอบเพียงว่า "การ วินิจฉัยถือเป็นเอกสิทธิ์ของ กกต.แต่ละท่าน แต่จะว่าไปแล้ว การประชุมลงมติแต่ละครั้ง จะต้องถกกันให้ถึงที่สุด และต้องเอาหลักฐานมากางกันจะจะ ไล่กันให้สุด ถ้ายังไม่แน่ใจต้องหาหลักฐานมัดให้ได้ แต่ถ้าไม่ชัดก็ต้องจำยอมตามหลักฐาน โดยจะต้องว่ากันตามหลักฐานเท่านั้น ส่วนกรณีนี้ คงต้องรอดูคำวินิจฉัยของกกต.แต่ละท่าน และรอคำพิพากษาจากศาลฯน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด"
by
pakornr
22 มิถุนายน 2555 เวลา 16:51 น.