ที่มา ประชาไท
19 มิถุนายน 2555 พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก
แถลงและชี้แจงกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาไต่สวนพยานกรณีการการเสีย
ชีวิต 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม โดยพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ให้การว่า
การเสียชีวิตผู้ผู้ชุมนุมเกิดจากอาวุธของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งอยู่ในที่เกิด
เหตุ และมีวิถีกระสุนจากบนลงล่าง ทั้งนี้ รองโฆษกกองทัพบกระบุว่า
มิได้มุ่งหวังจะให้เกิดผลกระทบสถานการณ์บ้านเมือง
แต่เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจากข้อเท็จจริงจากหลักฐานทีเกิดขึ้น
จึงขอชี้แจงใน 3 ประด็น ดังนี้
1.ประเด็นผู้เสียชีวิต 5 ศพ ถูกยิงด้วยกระสูน .223 หัวสีเขียว
ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้กับ M 16 และ ทราโว
ที่มีการระบุว่ามีใช้เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น ในข้อเท็จจริงคือ
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 เจ้าหน้าที่ได้ถูกปล้นปืน
และกระสุนที่บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า เป็นอาวุธปืนทราโว จำนวน 12 กระบอก
พร้อมด้วยกระสุนขนาด.223 หัวสีเขียว จำนวน 700 นัด ปืนลูกซอง จำนวน 35
กระบอก พร้อมกระสูนยาง 1,152 นัด และในวันเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ทหารได้ถูกปล้นปืนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นปืนนทราโว
13 กระบอก และวันที่ 15 พ.ค. 53
เจ้าหน้าที่ได้ถูกปล้นปืนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เป็นอาวุธปืน M 16 2
กระบอก และกระสุน M 16 อีก 100 นัด
ซึ่งปืนและกระสุนปืนที่ถูกปล้นไปเหล่านี้
มีหลักฐานพบว่าได้ถูกนำมาใช้ก่อเหตุในหลายๆ เหตุการณ์
โดยขณะนี้ทางกองทัพได้อาวุธปืนคืนมาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
แต่อาวุธปืนส่วนใหญ่ที่ถูกปล้นไปยังไม่ได้รับคืน
2.ประเด็นการสอบสวนของเจ้าหน้าที่
ที่ระบุว่าไม่พบร่องรอยจากการยิงจากบริเวณด้านล่างขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้านั้น
ในข้อเท็จจริงการเคลื่อนย้ายกำลังของเจ้าหน้าที่ทหารขณะนั้น
ไม่สามารถผ่านแยกเฉลิมเผ่าเข้าไปได้
เนื่องจากชายชุดดำที่อยู่บนพื้นราบได้ยิงสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการ
เคลื่อนกำลังเข้าไป
และการตรวจสอบของพนักงานสอบสวนที่ได้สอบสวนพยานเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้การถึง
ชายชุดดำว่า
ชายชุดดำได้หลบอยู่บริเวณตอหม้อต้นที่ 1 นับจากบริเวณแยกเฉลิมเผ่า
และได้ใช้อาวุธปืนความเร็วสูงยิงใส่เจ้าหน้าที่
โดยสังเกตได้จากกระสุนปืนที่ไปกระทบกับตอหม้อและคานปูนของรางรถไฟฟ้า
ซึ่งแตกกระจายและมีฝุ่นตกลงมาเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน
และมีภาพถ่ายของรอยกระสุนอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสยาม แต่ไม่มีการกล่าวถึง
3.ประเด็นภาพถ่ายของประจักษ์พยานที่นำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเกิดเหตุ
พบว่า บนรางรถไฟมีเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่ประจำอยู่
ทั้งนี้ข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ทหารวางกำลังอยู่บนรางรถไฟฟ้าจริง
แต่การวางกำลังไม่ได้วางตลอดแนว เพราะถูกขัดขวางตลอดเวลา
แนวที่วางกำลังไปได้แค่จากสถานีรถไฟฟ้าสยามถึงวัดปทุมเท่านั้น
ซึ่งข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าว กองทัพบกได้ส่งให้ส่วนต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องแล้วได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คณะกรรมาธิการวุฒิสภา
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและพิจารณาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ
ทั้งนี้
กองทัพบกมิได้มุ่งหวังว่าจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงซึ่งกระบวนการยุติธรรม
แต่คาดหวังว่าทุกฝ่ายจะทำหน้าที่ของตนด้วยความรับผิดชอบตามพยานหลักฐานและ
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทั้งนี้ยืนยันว่า
การชี้แจงครั้งนี้ไม่ได้เป็นคำสั่งจากผบ.ทบ.แต่อย่างใด แต่กองทัพบกเกรงว่า
ประชาชนอาจเกิดความเข้าใจผิดไปจากข้อเท็จจริงจึงอยากชี้แจงให้ประชาชนได้รับ
ทราบข้อเท็จจริงตามหลักฐานที่เกิดขึ้น
.......................
เรียบเรียงจาก: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ เว็บไชต์ไทยรัฐ และเอเอสทีวีผู้จัดการ