ที่มา ประชาไท
3 มิถุนายน 2555 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ
มีคำสั่งให้สภาชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ในวาระที่ 3 ว่า
ถือเป็นการรัฐประหารโดยใช้อำนาจตุลาการภิวัฒน์
เข้ามาแทรกแซงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติที่มาจากตัวแทนของประชาชน
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ
ไม่มีผลผูกพันในทางกฎหมาย
และไม่มีอำนาจเข้ามาวินิจฉัยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เพียงแต่มีหน้าที่ในการวินิจฉัยว่ากฎหมายหรือพระราชบัญญัติที่จะออกมาบังคับ
ใช้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่เท่านั้น ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น
เป็นเรื่องของ ส.ส. และประชาชน
"รัฐสภาไม่ควรดำเนินการตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ให้เดินหน้าตามมาตรา 291/5 พิจารณาลงมติในวาระที่ 3 ได้ทันที" นายจาตุรนต์กล่าว
อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
ยังเรียกร้องให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเพื่อล่าลายชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐ
ธรรมนูญที่มีการลงมติในเรื่องดังกล่าว
เนื่องจากตุลาการได้ใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 68
ที่จะต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเท่านั้น
ซึ่งศาลไม่สามารถรับเรื่องจากประชาชนมาพิจารณาได้เอง
"ขณะนี้สิ่งที่ควรทำคือ การทำความเข้าใจกับประชาชนผู้สนใจปัญหาบ้านเมือง
และผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายให้ทราบว่าขณะนี้เกิดกระบวนการรัฐประหารโดยตุ
ลาการภิวัฒน์แล้ว
ที่เกิดการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งจะเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาธิปไตยของ
ประเทศ เพื่อที่จะหาทางสกัดกั้นกระบวนการนี้กันใหม่
ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่ร่วมในกระบวนการนี้เป็นผู้ที่จะมีอำนาจวินิจฉัยรัฐ
ธรรมนูญ ผลที่ตามมาคือถ้าไม่มีแรงต่อต้าน
ไม่มีการแสดงความเห็นเชิงหลักการให้หนักแน่นเพียงพอก็ยากที่จะทัดทานตุลาภิ
วัฒน์นี้ได้ " นายจาตุรนต์ ระบุ