WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, April 8, 2010

ฉุกเฉินพ่นพิษหุ้นรูด30จุด ต้านพรก.เผด็จการทุกหย่อมหญ้า เย็นนี้แจกแถลงการณ์อนุสาวรีย์ชัยฯ

ที่มา Thai E-News



งามหน้า-สำนักข่าวAFPลงแผนที่ไทยไปทั่วโลกว่ารัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่งผลให้นักลงทุนวิตกหนัก เทขายหุ้นไทยรูดเกือบ31จุดในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากก่อนหน้านี้การชุมนุมที่สงบส่งผลให้ราคาดัชนีหุ้นขึ้นมาร่วม 100 จุดในช่วงเกือบเดือนที่เสื้อแดงชุมนุมโดยสันติ



โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
8 เมษายน 2553

ข่าวเกี่ยวเนื่อง:คนไทยต่างแดนทั่วโลกลุกฮือต้านประกาศฉุกเฉิน ประจานสากลคัดค้านรัฐบาลเผด็จการ

ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงตั้งแต่เปิดทำการ หลุดด่าน800ลงไปต่ำสุดแถว 780จุดช่วงกลางภาคบ่าย หรือร่วงลงจากวันก่อน 32 จุดหรือ-3.9% เนื่องจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศวิตกว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุมเสื้อแดง

ทั้งนี้ในช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาเริ่มจากวันที่12มีนาคม ตอนนั้นดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่720จุด เมื่อวานนี้ขึ้นไปที่820จุด หรือขึ้นมาร่วม 100 จุด เพราะนักลงทุนเห็นว่าการชุมนุมยังเป็นไปโดยสันติ แต่พอค่ำวานนี้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เปิดทำการมาวันนี้ตลาดหุ้นก็ร่วงลงตลอดทั้งวัน

*ขอเชิญชวนพี่น้องช่วยกันแจกใบปลิวแถลงการณ์คัดค้านพรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูิมิ ฝั่งดอกหญ้า กับประชาชนทั่วไปเวลา 5 โมงเย็นนี้


สมัชชาสังคมก้าวหน้า,กลุ่มประกายไฟ, เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์เดือนพฤษภาคม ได้นัดหมายแจกเอกสารแถลงการณ์ต่อประชาชนในเวลาราว 17.00 น.วันนี้ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้


แถลงการณ์คัดค้านการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

8 เมษายน 2553

การประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปเพื่อสลายการชุมนุมของแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ของนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยอ้างเหตุว่า การชุมนุมของ นปช. ได้พัฒนาขยายตัวจนส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมอย่างกว้างขวาง และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง

ทั้งที่เหตุการณ์นี้ควรคลี่คลายภายหลังการเจรจาระหว่างสองฝ่ายซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะยุบสภา โดย นปช. ต้องการยุบสภาภายใน 15 วัน และพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้ยุบภายใน 9 เดือน จึงไม่มีข้อยุติ แต่นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เดินหน้าเรื่องการยุบสภาอย่างจริงจัง ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ และนำมาสู่การสร้างความกดดันด้วยการปิดสี่แยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียงของ นปช. แต่การชุมนุมยังคงอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ

เป้าหมายที่รัฐบาลประกาศไว้ขาดเหตุผลที่เพียงพอต่อการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ประการแรก การประกาศพระราชกำหนดฯฉบับนี้ส่งผลโดยตรงต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในทุกๆด้าน ตั้งแต่การห้ามชุมนุมทางการเมือง การปิดช่องทางการสื่อสารทางการเมืองของประชาชน เช่น การปิดสถานีโทรทัศน์ การปิดคลื่นวิทยุชุมชน และการปิดเวปไซต์ที่เห็นต่างจากรัฐบาล ทั้งๆที่สิทธิเหล่านี้เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนตามหลักการประชาธิปไตยสากล

ประการที่สอง รัฐบาลต้องรีบเร่งคืนความเป็นปกติสุข เนื่องจากการชุมนุมเป็นการเรียกร้องทางการเมืองจึงต้องแก้ไขด้วยวิธีทางการเมือง เช่น การเปิดเจรจา ไม่ใช่การใช้กำลังทหารตำรวจปราบปรามประชาชน จึงจะทำให้สถานการณ์คืนสู่สภาพปกติได้อย่างแท้จริง

ประการที่สาม รัฐบาลอ้างว่า ต้องการยับยั้งการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนที่สร้างความแตกแยกและทำผิดกฎหมาย ทั้งๆที่เรื่องนี้สามารถใช้กฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่งได้อยู่แล้ว รัฐบาลต่างหากที่ต้องยุติการใช้สื่อเพื่อยุยงและบิดเบือนข่าวสารสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคม

ประการที่สี่ หากรัฐบาลเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมจริง ก็ควรจะใช้การแก้ไขโดยกรอบของกฎหมาย โดยให้สามารถดำเนินคดีกับแกนนำได้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป เรื่องนี้สามารถใช้กฎหมายอาญาได้ ถ้าแกนนำเหล่านี้กระทำผิดกฎหมาย

ประการสุดท้าย การอ้างว่าความรุนแรงเกิดจากการกระทำของ นปช. เป็นสิ่งที่ขาดหลักฐาน รัฐบาลควรแสดงรับผิดชอบ และทำหน้าที่สอดส่องดูแล รวมทั้งจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ ไม่ใช่แก้ปัญหาโดยการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

โดยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่มีความเหมาะสมประการใดในการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ทว่า ประกาศในครั้งนี้ส่อให้เข้าใจว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีแผนใช้กำลังรุนแรงต่อผู้ชุมนุมอยู่แล้ว ด้วยการเตรียมกำลังทหาร 50,000 นาย

เราจึงขอประณามการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อปูทางสู่การใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นการกระทำที่คุกคามสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย บั่นทอนความเชื่อถือของประเทศในประชาคมโลก

สมัชชาสังคมก้าวหน้า,กลุ่มประกายไฟ, เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์เดือนพฤษภาคม



เชิญร่วมงานอ่านบทกวี

“คมหอกและกระบอกปืนไม่อาจทำให้หวั่นไหว เมื่อประชาชนมาไกลเกินจะหันหลังกลับ”


พบกับ


วัฒน์ วรรลยางกูร

กริช เหลือละมัย

ประกาย ปรัชญา (อยู่ระหว่างรอคำยืนยัน)

เดือนวาด พิมวนา (อยู่ระหว่างรอคำยืนยัน)

นายชั้น ทุนน้อย

วฒน

อาณัติ แสนโท

ปิยะชาติ จองทอง

และกวีหนุ่มสาว ฯลฯ



และวงดนตรี

ฮาเมอร์ ซาลวาลา

Homo erectus


วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2553 ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา หกโมงเย็นเป็นต้นไป
000000000

เชิญร่วมเวทีเสวนาหัวข้อ
“ ทางแพร่งการเมืองไทย ”

โดย ไชยันต์ รัชชกูล สถาบันสันติภาพฯ มหาวิทยาลัยพายัพ
ธเนศว์ เจริญเมือง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ดำเนินรายการโดย พิษณุ ไชยมงคล


วันที่ 8 เมษายน 2553 เวลา 13.00-16.00 น.
ณ ห้องประชุมกระจก
คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


จัดโดย
กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อรัฐสวัสดิการ
กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ(นกน.)
กลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 40 เชียงใหม่
สำนักกระจายอำนาจและปกครองตนเอง
ชมรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาคเหนือตอนล่าง