WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, April 8, 2010

โปรดให้โอกาสสุดท้ายแก่สันติภาพ

ที่มา Thai E-News




ได้โปรดให้โอกาสแก่สันติภาพที่ยังไม่ถึงทางตัน ได้โปรดดำเนินการทุกวิถีทางที่จำเป็นดังนี้

1.ยกเลิก และหรือยุติการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะการปราบปรามสลายการชุมนุม ยกเลิกการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร เช่น ที่กำลังมีการปิดกั้นพีเพิลแชนัล วิทยุแท็กซี่ และเวบไซต์ประชาไท

2.เปิดโอกาสสุดท้ายให้แก่สันติภาพ ด้วยการเปิดเจรจารอบใหม่ ซึ่งทำได้โดยทันที ในเมื่อรัฐบาลอ้างว่าจะดำเนินการตามขั้นตอน โดยเริ่มต้นจากการเจรจาก่อน ขณะที่แกนนำและผู้จัดการการชุมนุมต้องไม่ปิดตายหนทางการเจรจา ต้องถนอมรักมวลชนให้มาก ไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียใดๆ และเปิดการเจรจาหาทางออกอย่างสันติ

3.ผู้สนับสนุนกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายต้องยุติการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าแตกหัก ซึ่งสะใจในระยะเฉพาะหน้า แต่สูญเสียในระยะยาวอย่างร้าวลึก และสมควรต้องสนับสนุนหนทางการเจรจาโดยสันติ


สถานการณ์ชุมนุมในเวลานี้ยังไม่อาจชี้ขาดแพ้-ชนะได้ โดยทั้งสองฝ่าย มีแนวโน้มจะก่อความรุนแรงได้ ยิ่งภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไทยอีนิวส์ขอแสดงจุดยืนดังต่อไปนี้

1.รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และเตรียมการปราบปรามผู้ชุมนุมอันไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ เนื่องจากผู้ชุมนุมยังเคลื่อนไหวเรียกร้องโดยสันติ แต่รัฐบาลกลับไม่ใช้ความอดกลั้นที่ได้พยายามมาด้วยดีโดยตลอด

2.ผู้สนับสนุนรัฐบาล โดยเฉพาะสื่อกระแสหลัก และสื่อที่มีจุดยืนต่อต้านทักษิณ ได้ออกมาชี้นำตลอดให้ใช้กำลังจัดการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด และแสดงท่าทีแข็งกร้าวว่าหากรัฐบาลไม่ยอมจัดการปราบปรามสลายการชุมนุม กลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้ก็อาจลงมือจัดการต่อผู้ชุมนุมเอง ในลักษณะม็อบชนม็อบ หรือลอบก่อการร้าย อันเป็นการยั่วยุและบีบคั้นกดดันให้รัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

3.ผู้นำและผู้จัดการประท้วง ยังไม่ได้แสดงความพยายามอย่างถึงที่สุดในการที่จะแสวงหาทางออกด้วยวิธีการเจรจา การประกาศว่าตายเป็นตายพร้อมพลีชีพ หรือประกาศว่าพร้อมรับมือการปราบปราม หากไม่มาปราบก็จะบุกไปจัดการต่อฝ่ายรัฐบาลนั้น เป็นการปลุกเร้าที่อาจนำไปสู่การสูญเสีย แกนนำการชุมนุมและผู้จัดการการชุมนุมยังไม่ได้แสดงออกว่าถนอมรักมวลชนอย่างที่ควรต้องทำ

4.ผู้สนับสนุนทักษิณและสนับสนุนการชุมนุม ก็เชื่อมั่นอย่างสุดจิตสุดใจเกินไปว่าการยกระดับการชุมนุม และออกนอกแนวทางสันติในบางครั้ง เช่น กรณีบุกเข้าไปในที่ทำการรัฐสภา จะสามารถกดดันให้รัฐบาลตัดสินใจยุบสภา หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สามารถปกครองบริหารประเทศได้ ซึ่งก็สุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่ปัญหาอื่นๆที่ยุ่งยากกว่า เช่น เปิดช่องให้เกิดการทำรัฐประหาร หรือการปราบปราม ม็อบชนม็อบ หรือวิถีที่ห่างไกลจากข้อเรียกร้องออกไป

ในเมื่อข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นเป็นเพียงขอให้รัฐบาลยุบสภา ไม่ใช่การโค่นล้มขับไล่รัฐบาล ซึ่งแกนนำผู้ชุมนุมก็ย่อมทราบดีว่าเป็นเพียงข้อต่อสู้เรียกร้องในระดับที่ต่ำที่สุด และเป็นไปได้ที่สุดที่จะพลิกสถานการณ์มาเป็นฝ่ายชนะได้ด้วยการชี้ขาดของประชาชาติไทยในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ดังนั้นการดำเนินการชุมนุมต่อไป โดยปลุกเร้าให้มีการยอมเสียสละชีพ หรือด้วยยุทธวิธีที่เรียกกันว่า"ยกระดับชุมนุม"ก็รังแต่จะทำให้สุ่มเสี่ยงจะเพลี่ยงพล้ำทั้งขบวนได้

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลและกลไกรัฐ ทั้งตำรวจและทหารก็ต้องทราบด้วยว่า ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้นผู้ที่ก่อความรุนแรงและสร้างความสูญเสียทุกครั้งคือฝ่ายกุมอำนาจรัฐนั่นเอง ไม่ใช่ประชาชนที่ปราศจากอาวุธ

หนทางการกลับคืนสู่โต๊ะเจรจาจึงเป็นทางเลือกที่ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุม และรัฐบาลควรเดินหน้าต่อไปมากที่สุดในสถานการณ์นี้โดยไม่ชักช้า และโดยไม่ต้องกลัวเสียหน้า โดยในเมื่อฝ่ายผู้ชุมนุมเสนอไป 15 วัน ฝ่ายรัฐบาลปฏิเสธและเสนอกลับมา 9 เดือน ก็สมควรจะต้องเจรจากันในยกที่สามต่อไป ซึ่งฝ่ายผู้ชุมนุมก็ชอบที่จะผ่อนปรนข้อเสนอตามสมควร เช่น อาจพิจารณาตามข้อเสนอของกลุ่มนักวิชาการเครือข่ายสันติประชาธรรมที่กำหนดให้ยุบสภาใน 3 เดือน ให้ทุกฝ่ายยอมรับในกติกา ให้เคารพผลการเลือกตั้ง และไม่ต้องจัดทำประชามติ เป็นต้น

ทั้งนี้หากฝ่ายรัฐบาลยังคงยืนกรานที่ 9 เดือน โดยไม่ขยับลดกรอบเวลายุบสภาลงมา ความชอบธรรมในการจัดการชุมนุมแบบเอาแพ้เอาชนะก็จะมีความชอบธรรม หรือได้รับแรงสนับสนุนจากสาธารณชนมากขึ้น ขณะที่หากฝ่ายรัฐบาลยืนกรานที่ 9 เดือนก็จะเสียการสนับสนุนจากสาธารณชน เช่นกัน

เราขอเรียกร้องต่อทั้งฝ่ายรัฐบาลและผู้สนับสนุน กับฝ่ายผู้ชุมนุมและผู้สนับสนุน ได้โปรดให้โอกาสแก่สันติภาพที่ยังไม่ถึงทางตัน หลีกเลี่ยงการใช้กำลังอาวุธ ความรุนแรง การยั่วยุใดๆ รวมทั้งทุกภาคส่วนที่ปรารถนาสันติภาพได้โปรดดำเนินการทุกวิถีทางที่จำเป็นดังนี้

1.ยกเลิกประกาศฉุกเฉิน ยุติการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะการปราบปรามสลายการชุมนุม ชุมนุม ยกเลิกการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร เช่น ที่กำลังมีการปิดกั้นพีเพิลแชนัล วิทยุแท็กซี่ และเวบไซต์ประชาไท



2.เปิดโอกาสสุดท้ายให้แก่สันติภาพ ด้วยการเปิดเจรจารอบใหม่ ซึ่งทำได้โดยทันที หากรัฐบาลจะอ้างว่าจะดำเนินการตามขั้นตอน โดยเริ่มต้นจากการเจรจาก่อน ขณะที่แกนนำและผู้จัดการการชุมนุมต้องไม่ปิดตายหนทางการเจรจา ต้องถนอมรักมวลชนให้มาก ไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียใดๆ และเปิดการเจรจาหาทางออกอย่างสันติ
3.ผู้สนับสนุนกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายต้องยุติการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าแตกหัก ซึ่งสะใจในระยะเฉพาะหน้า แต่สูญเสียในระยะยาวอย่างร้าวลึก และสมควรต้องสนับสนุนหนทางการเจรจาโดยสันติ


ยกเว้นแต่กลุ่มผู้ชุมนุม และฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการทางออกที่สันติ ปิดทางสันติภาพทั้งที่ยังไม่หมดโอกาส นั่นก็เป็นเคราะห์กรรมของประเทศ และประชาชาติไทยมีราคาที่ต้องจ่ายแสนแพง

กองบรรณาธิการไทยอีนิวส์