ที่มา ไทยรัฐ ความเห็นหลากหลายต่อกรณีการขอขึ้นทะเบียน เขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ของกัมพูชา แม้แต่ภาครัฐเองก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน นอกจากการคัดค้านบอยคอตแล้ว แนวทางการต่อสู้ที่จะทำเป็นระบบหรือขบวนการต้องยอมรับว่าสู้กัมพูชาไม่ได้ จนบัดนี้การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกมีแนวโน้มที่จะเห็นตามข้อเสนอของกัมพูชาด้วยซ้ำ หมัดเหล็ก
จุดยืนของยูเนสโกต่อกรณีนี้ มุ่งเน้นสันติภาพ มากกว่าจะทำให้เกิดข้อพิพาทหรือความขัดแย้ง มีหน้าที่ในการส่งเสริมความเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ไม่รุกล้ำอธิปไตยของประเทศใดประเทศหนึ่ง แนวทางการเจรจาถ้อยทีถ้อยอาศัยจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ก็เผอิญเป็นกรรมของประเทศไทยที่มีบุคลากรปฏิบัติงานโดยเฉพาะระดับตัดสินใจ อาทิ รมต.ที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีวิสัยทัศน์ พอที่จะเจรจาต่อรองปัญหาดังกล่าวได้ คุณกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นอกจากจะไปให้สัมภาษณ์ตำหนิยูเนสโกแล้ว ยังระบุว่าฝรั่งเศสก็เข้าข้างเขมรหวังผลประโยชน์
ข้างฝ่ายรัฐบาล คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งการเตรียมตอบโต้ ตระเตรียมกำลังทางด้านทหารไว้พร้อมจะเผชิญหน้ากับกัมพูชาอย่างเต็มที่
ว้าเหว่
อย่าว่าแต่เรื่องเขาพระวิหาร มรดกโลกในบ้านเราไม่รู้จะรักษาเอาไว้ได้หรือไม่ บางแห่งก็กำลังจะถูกถอดออกจากมรดกโลก ทำอะไรเป็นไฟไหม้ฟางไปหมด
ในที่ประชุมความมั่นคง ในที่ประชุม ครม. ผู้บริหารแสดง วิสัยทัศน์แบบนักเลงโบราณ จะชวนทะเลาะอย่างเดียว เอะอะก็ยิง เอะอะก็ทำสงคราม
คิดได้เท่านี้เองปัดโธ่
ข้อพิพาทเขาพระวิหารไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นแต่มีนานแล้วเพียง แต่ว่า ที่ผ่านมารัฐบาล ทั้งสองประเทศถ้อยทีถ้อยอาศัย ตั้งแต่เกิดวิกฤติการเมืองเมื่อปี 2549 เป็นต้นมา ข้อพิพาทถูกหยิบยกมาเสี้ยมให้เป็นประเด็นทางการเมือง
จากนั้นก็บานไม่หุบ
รัฐบาลส่ง คุณสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯไปเจรจา คณะกรรมการมรดกโลกรับฟังปัญหาอยู่ 5 นาที แล้วปล่อยให้คุณสุวิทย์ คุยกับ สก อัน รมว.ต่างประเทศกัมพูชาอยู่ เกือบชั่วโมง ได้ข้อสรุปว่า กัมพูชาไม่ยอมรับข้อเสนอของไทย แต่ไม่ปรากฏรายละเอียดว่าคุยอะไรกันบ้าง
อันที่จริงถ้าคิดจะคุยกัน ไทยกับกัมพูชา ห่างกันแค่เอื้อม คุยกันเสียให้เรียบร้อยในบรรยากาศบ้านพี่เมืองน้อง คงจะได้ อะไรมากกว่านี้ ไม่ต้องเหาะเสียเงิน 14 ล้านบาทข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลขนาดนั้น
การเป็นผู้นำไม่ได้สักแต่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นก็ได้ ไม่ใช่ ตำแหน่งปาหี่ทางการเมือง จะต้องประกอบไปด้วยวิสัยทัศน์ และภาวะผู้นำด้วย.