ที่มา ข่าวสด
แปลกใจหรือไม่ว่า ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีชื่อเสียงและเกียรติภูมิมาอย่างยาวนาน แล้วเหตุใดในที่ประชุมกรรมการมรดกโลกจาก 21 ประเทศ
ไทยจึงเป็นเสียงส่วนน้อยในกรณีแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหาร
เป็นเพราะภาคีสมาชิกจากหลายประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส มีผลประโยชน์ร่วมกับกัมพูชาอย่างที่มีข้อสังเกตจากกระทรวงการต่างประเทศไทยอย่างนั้นหรือ
น่าสงสัย
เพราะสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ก็ใช่ว่าจะมีผลประโยชน์แต่ในกัมพูชา หากในไทยทั้ง 2 ประเทศนี้ก็มีผลประโยชน์อย่างมหาศาล
ยิ่งหากมองผ่านตัวนายกรัฐมนตรี ยิ่งมองเห็นความแตกต่าง
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเติบโตมาจากนักรบกองโจร เรียนจบมัธยมหรือไม่ยังน่าสงสัย ขณะที่นายกรัฐมนตรีไทยจบจากอีตัน สำเร็จจากออกซŒฟอร์ด พูดภาษาอังกฤษปร๋อ
แล้วเหตุใดเสียงส่วนใหญ่ในกรรมการมรดกโลกจึงเทไปทางกัมพูชา
ที่ว่าเสียงส่วนใหญ่ในกรรมการมรดกโลกเทให้กับกัมพูชามิได้นั่งเทียนเขียน หรือว่าได้รับเอกสารลับอะไรจากในที่ประชุม
หากแต่สังเกตจากท่าทีและการเคลื่อนไหวของไทย
ความจริง เสียงส่วนใหญ่ในคณะกรรมการมรดกโลกเอียงข้างกัมพูชาตั้งแต่การประชุมที่สเปนในปี 2552 มาแล้ว
เพียงแต่กัมพูชายังไม่พร้อม ไม่สามารถนำเสนอแผนบริหารจัด การได้
ในที่ประชุมปี 2553 บราซิล ทางกัมพูชามีความพร้อมมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เผชิญกับการต่อต้านจากทางไทยอย่างรุนแรงและแข็งกร้าว
รุนแรงตรงที่หากมีการพิจารณาเรื่องนี้ก็จะวอล์กเอาต์จากที่ประชุม
แข็งกร้าวตรงที่หากที่ประชุมยอมรับแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารที่เสนอโดยกัมพูชาก็อาจจะถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกไม่เพียงแต่คณะกรรมการมรดกโลกเท่านั้น
หากแม้กระทั่งภาคีสมาชิกองค์การยูเนสโกก็ไม่เป็น
ทางออกของประธานคณะกรรมการมรดกโลก ทางออกของผู้อำนวยการองค์การยูเนสโก จึงต้องประนีประนอม
ประนีประนอมให้กัมพูชายอมรับการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการออกไปเป็นปี 2554
ประนีประนอมให้ไทยและกัมพูชาไปหาทางเจรจาเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันก่อนการประชุมที่บาห์เรนในปีหน้า
นี่จึงเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง
ยากเพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชานับแต่ปี 2552 เป็นต้นมา เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติ
ไทยถอนเอกอัครราชทูตจากกรุงพนมเปญ กัมพูชาถอนเอกอัคร ราชทูตจากกรุงเทพฯ
ยิ่งกว่านั้น ความเข้าใจในเรื่องพื้นที่โดยรอบบริเวณปราสาทพระวิหารยังแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
หากต่างฝ่ายต่างยืนยันก็ยากที่จะเจรจากันได้บทสรุปร่วมอย่างแท้จริง
การซื้อเวลาอีก 1 ปีจึงเป็นการซื้อเวลาที่มองไม่เห็นหนทางออกว่าจะราบรื่นได้อย่างไร
ในเมื่อกระทรวงการต่างประเทศของไทยไม่สามารถเจรจากับกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แล้วใครจะแสดงบทบาทนี้ได้อย่างเสมอภาคและสร้างสรรค์
นี่ย่อมเป็นจุดอับตันของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา