ที่มา Thai E-News
ที่มา เวบไซต์ โลกวันนี้
25 กุมภาพันธ์ 2553
ที่บ้านเมืองของเรายุ่งอยู่ทุกวันนี้ มีสาเหตุใหญ่มาจากเรื่องเดียวคือ การยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549
การยึดอำนาจครั้งนั้น มีเป้าหมายประการเดียวคือ กำจัด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เป้าหมายการยึดอำนาจจากประชาชน 64 ล้านคน เพียงเพื่อขจัดบุคคลเพียงคนเดียว ย่อมเป็นเรื่องไม่มีเหตุผล ไม่มีสาระจนกลายเป็นเรื่องเหลวไหลไปเลยทีเดียว
เพื่อให้เป้าหมายบรรลุผล หรือเพื่อขจัดการต่อต้าน คณะผู้ยึดอำนาจอ้างความเลวร้าย 4 ประการของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ
1.ทำให้ประชาชนแตกสามัคคี
2.ทำลายระบบราชการ แทรกแซงองค์กรอิสระ
3.ทุจริตคอร์รัปชัน
4.มีการกระทำอันเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
คมช. หรือคณะผู้ยึดอำนาจในขณะนั้น คิดหาเหตุแห่งการยึดอำนาจได้เพียงเท่านี้ แล้วก็ตกเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องพิสูจน์ให้ประชาชนประจักษ์ความจริง ปรากฏว่าพิสูจน์ไม่ได้สักข้อเดียว
ข้อ 1 นั้นปรากฏในเวลาต่อมาว่า คมช. ทำให้ประชาชนแตกแยกกันได้มากกว่า
ข้อ 2 ปรากฏในเวลาต่อมาว่า คมช. แทรกแซงองค์กรอิสระมากกว่า ถึงขั้นตั้งตัวบุคคลเอง กำกับเอง ออกกฎหมายให้อำนาจเอง เพื่อเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว
ข้อ 3 จนถึงวันนี้ ยังพิสูจน์ไม่ได้สักคดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณทุจริต
ข้อ 4 อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปแล้วทุกข้อหา
ทั้งที่เหตุทั้ง 4 ข้อไร้มูลความจริงอย่างนี้ คณะรัฐประหารยังไม่รู้สึกอับอาย และไม่ได้แสดงความรับผิดชอบต่อคนไทยผู้ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย
เฉพาะตัว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะรัฐประหาร นั้น ท่านยังได้ประกาศนโยบายส่วนตัวกำจัด พ.ต.ท.ทักษิณ และระบอบทักษิณ ด้วยบันได 4 ขั้น ย้ำกันอีกทีให้เห็นกันชัดๆ ว่าบันได 4 ขั้นประกอบด้วย
1. ยุบพรรคไทยรักไทย
2. แยกสลายจนกว่าจะไร้พลังเคลื่อนไหว
3. สนับสนุนพรรคการเมืองอื่นขึ้นแทนที่
4. ยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ
มาตรการบันได 4 ขั้นนี้ เป็นมาตรการนอกเหนือจากมาตรการหฤโหดก่อนหน้าการยึดอำนาจ
นั่นคือการลอบสังหาร
แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีบุญคุ้มหัวอยู่บ้าง ทำให้รอดชีวิตมาได้ เพื่อจะได้ฟันฝ่าต่อไปจากอุปสรรคบันได 4 ขั้น เรื่องของเรื่องก็ต้องประสบกับปัญหาที่เรากำลังลุ้นกัน และกำลังจะรู้ผลลัพธ์ในวันพรุ่งนี้
นั่นคือการยึดหรือไม่ยึดทรัพย์สิน
การยึดหรือไม่ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของ พ.ต.ท.ทักษิณกับคณะนั้น ได้มีการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันมาแล้วมากราย ผู้เขียนเองก็พลอยเล่นสงกรานต์กับเขาแล้วด้วย เพียงแต่ประเด็นของผู้เขียน เน้นถึงเรื่องความไม่ชอบธรรมของกระบวนการยึดทรัพย์เท่านั้น ไม่ค่อยจะได้พูดถึงรายละเอียดของคดี
แต่ช่างเถอะ เพราะเหลือเวลาอีกเพียงวันเดียว เราก็จะได้รู้กันแล้วว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯท่านจะตัดสินว่าอย่างไร พูดไปก็ไร้ประโยชน์
มาดูกันดีกว่าว่า ต่อไปประเทศนี้จะเดินไปทางไหน เพราะถึงอย่างไรโลกก็จะไม่แตกในวันพรุ่งนี้
ความเห็นของผู้เขียนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น กลายเป็นบุคคลที่ฆ่าไม่ตาย ทำร้ายไม่บาดเจ็บไปเสียแล้ว
3 ปีเศษผ่านไป คณะผู้ยึดอำนาจ มีแต่เสื่อมทรุด พ.ต.ท.ทักษิณมีแต่พวยพุ่ง รุ่งเรือง
ประชาชนคนไทยต้องการ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่าๆ กับที่สาปส่งฝ่ายอำมาตย์
ยึดทรัพย์หรือไม่ยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นที่ต้องการของมหาชน
คมช. เลยไร้ความหมาย
คตส. ก็ไร้ความหมาย
ศาลฎีกาก็มีฐานะไม่ต่างกัน
อำมาตย์ยังต้องออกทะเลไปเลย
คนไทยเขาจะเดินไปพร้อมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
เพื่อไทย
Friday, February 26, 2010
ยึดหรือไม่ยึด ..... คนไทยเขาก็จะเดินไปพร้อมกับ พตท.ทักษิณ เหมือนเดิม
โดย คุณอัคนี คคนัมพร