ที่มา ข่าวสด
ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
กล่าวกันว่า เพราะการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.สุราษฎร์ธานีของเทพเทือกนั่นเอง ที่กลายเป็นจุดแตกหักภายในพรรคประชาธิปัตย์
เท่ากับประกาศตัวพร้อมเป็นนายกฯสำรอง หากผลการตัดสินคดียุบพรรคทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถึงตัวนายกฯ
แต่การเตรียมตัวของเทพเทือก มิได้มาจากการพิจารณาภายในพรรค
กลับมาจากนอกพรรค มาจากพรรคร่วมรัฐบาล
นั่นเองจึงนำมาสู่การยื่นเงื่อนไขภายในพรรค ให้ลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ ก่อนไปเลือกตั้ง
สุดท้ายนำมาสู่การยึดอำนาจก.ตร.และอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายนายพลล็อตสอง
ทำเอาโผพล.ต.ต.ปั่นป่วนวุ่นวาย จนล่าสุดต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ขยับไปเป็นกลางเดือนแทน!
เพราะอำนาจในการจัดโผย้ายมาอยู่ที่นายกฯอภิสิทธิ์ เลยเกิดโผใหม่ขึ้นมาแทน
แต่โผที่เทพเทือกจัดเอาไว้ก็มีอยู่อีกชุด โผนายกฯ กับโผรองนายกฯ ก็เลยตีกันมั่วหมด
จากก.ตร.วันที่ 7 นายกฯ เลื่อนเป็นวันที่ 8 เพื่อจะคุมเอง
ตอนนี้เลยต้องเลื่อนอีกทีเป็นวันที่ 15 ต.ค.
การเลื่อนอีกที สะท้อนว่าเต็มไปด้วยปัญหาวุ่นวาย จนไม่อาจจัดโผให้ลงตัวได้ง่ายๆ
เพราะขัดแย้งกันเองภายในพรรค จนกระทบมาถึงการจัดองค์กรตำรวจ!
แต่ถ้าการทอดเวลาออกไป มองในแง่ดี อาจจะช่วยให้มีเวลาจัดทำให้เรียบร้อยรอบคอบมากขึ้น
เพราะถ้านายกฯ ยึดอำนาจมาจากรองนายกฯ ควรจะต้องทำให้การโยกย้ายออกมาถูกต้องเป็นธรรมอย่างชัดเจน
ไม่ใช่มีการวิ่งเต้นหนักหน่วงยิ่งกว่าโผเดิม ไม่เช่นนั้นนายกฯ เองจะต้องเสียหายยับเยินแน่!
มองแง่นี้ยิ่งน่าเป็นห่วงนายกฯมาร์ค เพราะประสบ การณ์ด้านบริหารบุคคลตำรวจย่อมอ่อนด้อย
จึงอยู่ที่ว่าจะเลือกฟังข้อปรึกษาจากใคร
คนที่รู้จักตำรวจดี มองทะลุปูมประวัติตำรวจแต่ละคนเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีเจตนาดีต่อการพัฒนาองค์กรตำรวจ
ต้องฟังจากคนแบบนี้เท่านั้น
ลงเอยอย่าได้เป็นอย่างที่ "เด็จพี่" แห่งเพื่อไทยเขาดักคอเอาไว้
ว่ากลายเป็นหนีสุเทพปะอภิสิทธิ์!?!